ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมบริษัทรถหลายบริษัทชอบเปลี่ยนเครื่องใหม่พร้อมตัวถังรถ  (อ่าน 5765 ครั้ง)

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
แทนที่จะเอาเครื่องเดิมไปพัฒนาให้มันดีๆไม่มีปัญหา
ไหนว่าต้นทุนวิจัยเครื่องมันแพง เอาข้อด้อยมาแก้ไม่ง่ายกว่าเหรอ
เครื่องใหม่ปัญหาใหม่ แก้ไม่จบ ออกใหม่อีก ขายอยู่ไม่ถึงห้าปี เปลี่ยนอีกละ

ดูอย่างยักษ์ใหญ่ ๆ เบนซ์ บีเอ็ม โตโยต้า ฮอนด่าสิครับ เขาเอาบล็อกเดิมๆมาพัฒนา ใส่ในบอดี้ใหม่ใช้กัน่วมสิบปียี่สิบปีก็มี

บริหารกันยังงัยครับเนี่ย หรือเป็นเทคนิกเทพๆ ในการทำรถที่ทำให้ผู้บริโภคตื่นตาตื่นใจกันครับ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 22, 2017, 10:55:46 โดย 3eL JaE »

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
การพัฒนาเครื่องใหม่คงเพราะเครื่องเก่ามันพัฒนาไม่ได้แล้วน่ะสิครับ
ในความรู้สึกที่ผมเจอ ผมว่าบริษัทรถชอบพัฒนาเครื่องเก่ามากกว่า

อีกประเด็นคือจุดยึดเครื่องยนต์บางรุ่นบาง platform คงเปลี่ยนเยอะ และถ่วงน้ำหนักลงบนตัวถังเปลี่ยนไป
แต่ผมว่าที่พัฒนาใหม่เนี่ย น้อยรุ่นนะ จะบอกว่าชอบทำ คงจะไม่ใช่

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,232
    • อีเมล์
เครื่องบางตัว ปัญหามันเยอะ พัฒนาต่อ ก็ดูจะใช้เงินลงทุนสูง สู้พัฒนาใหม่ดีกว่า

อย่าง R20 ของ HONDA สั่นมันทุกคัน ทุกบอดี้ พอมา CRV ถอดทิ้งเลย ง่ายดี แต่ K24 ยุคพระเจ้าเหา แต่พัฒนาต่อได้ เครื่องไม่มีปัญหา ก็ลากมายาวๆ

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
ผมว่า บางทีต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ เพราะสมรรถนะมันไปสู้กับยี่ห้ออื่นเขาไม่ได้แล้วครับ
เครื่องบางบล็อคสามารถปรับแต่งรีดพละกำลัง รวมถึงปรับแต่งเรื่องความประหยัดได้ดี เช่น พวกเครื่องของโตโยต้า ฮอนด้า พวกนี้ไม่แปลกที่จะลากขายกันยาวครับ
บางยี่ห้อ เครื่องยนต์ปรับแต่งไม่ได้มาก ก็ต้องพัฒนาบล็อคใหม่ขึ้นมา เพื่อให้ตามเจ้าอื่นๆทันครับ

ออฟไลน์ BigCat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,178
    • อีเมล์
บล็อคที่ไปต่อไม่ได้ หรือไปได้แล้วไม่คุ้ม เค้าคงต้องหยุด แล้วเล่นของใหม่มั้งครับ
ส่วนเรื่องทุนวิจัยเครื่องใหม่หรือต่ยอดอันเดิม  ผมว่าเค้าคงมีทีมสำหรับเรื่องนี้เป็นอย่างดี ที่จะคิดบวกลบต้นทุนหนะครับ บางทีก็ปัง บางทีก็แป๊ก  8)
Audi TT MK 3FL
BMW z4 e85
GLA 250 FL 2017
Nissan Teana L33 2014
Slk 200 R172 2014
Camry 2.4 2009
Civic dimension MT 1.7
Civic 3 doors รถคันแรก

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,379
ได้เครื่องยนต์ใหม่มาให้ใช้อยู่เสมอก็ดีแล้วครับ

จะให้ลากขายปรับปรุงเครื่องตัวเดิมลากยาว คงโดนบ่นกันยาว

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,393
1. จุดศูนย์ถ่วง และความสมดุลของตัวถังรถ
2. ค่ามลพิษ
3. อัตราความประหยัดเชื้อเพลิง
4. การตลาด


ออฟไลน์ Krongbun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
    • อีเมล์
พื้นฐานมันก็มาจากปัญหาเครื่องเก่าแหละครับ
เอาที่ไม่ดีออก เอาตัวใหม่ใส่เพิ่มเข้าไป
ตั้งชื่อใหม่ ก็เป็นเครื่องใหม่แล้วครับ
ส่วนไอ้ที่เป็นปัญหาก็คือชิ้นส่วนตัวใหม่นั่นแหละ

โดยที่จริงก็พื้นฐานตัวเดิมแหละ เอามาต่อยอด ไม่ได้ฉีกแนวจากเดิมไรมากมาย
เครื่องยนต์ทุกวันนี้ทุกอย่างยังเหมือน ลูกสูบดูดอัดระเบิดคาย แค่นั้นเองครับ ;)


ออฟไลน์ rtong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,175
    • อีเมล์
ส่วนมากเปลี่ยนจริงๆเหรอครับ?

ถ้าเปลี่ยนชื่อทางการตลาดเฉยๆ  อันนี้เห็นบ่อยๆ
ปัจจุบันที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเพราะภาครัฐบังคับ โดยเฉพาะในประเทศที่เข้มงวดเรื่องมลพิษ  หรือเปลี่ยนเพราะได้เปรียบเรื่องอัตราภาษีที่สามารถทำราคาขายสู่คู่แข่งได้

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
ผมก็อยากให้เปลี่ยนนะครับ เพราะจะได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย อย่างเบนซิน ก็ต้อง รองรับ E85 อะไรพวกนี้ได้
ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็ชอบนะครับ  ไม่งั้นก็เหมือนหลายท่านๆ ว่า ลากขายกันยาวประมาณนั้น
บางครั้งเขาอาจจะไม่ได้พัฒนาใหม่ทั้งหมด อาจจะเอาตัวเก่านั่นแหละมาต่อยอดปรับปรุงเยอะหน่อย
แล้วก็ใส่รหัสใหม่เข้าไป 

ออฟไลน์ veronic

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 408
    • อีเมล์
ไม่ต้องกังวลครับ บริษัทรถแม้แต่ 1 บาทลดได้ เค้าก็เอาครับ
ถ้าเค้าเปลี่ยนเครื่องใหม่ก็เพราะมันคุ้มกว่าค่าพัฒนาต่อเท่านั้นเอง
การทำเครื่องใหม่มันไม่ได้มีหลักการเดียวนะครับ
มีทั้งซื้อเทคเข้ามา มีทั้งการแชร์เทค มีทั้งการพัฒนาติดนิดหน่อยแล้วตั้งชื่อใหม่เพื่อการตลาดเท่านั้นเอง อย่าเข้าใจผิดว่าเครื่องใหม่คือใหม่หมดนะครับ
แต่ถ้าจะหวังราคารถถูกๆตาม คงยากครับ เพราะประเทศเราสิ่งที่แพงที่สุดคือภาษี >:(

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
ผมคิดแบบ จขกท คับ

ชอบรถที่เครื่องยนต์ และเกียร์ เป็นสหกรณ์ใช้กันยาวๆ ทนๆ

อะไหล่ไม่แพงและหลากหลาย

ดีมากๆ คับ

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
บางเจ้าก็เปลื่ยน แต่บางเจ้าก็ลากยาวจนถึงปัจจุบัน
เช่น Volkswagen เครื่อง 1.4 - 2.0 มาจากยุค 1970 แต่ปรับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย ทุกวันนี้ก็ใช้ได้ดี

ฮอนด้า L15 ก็ใช้มาตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปัจจุบัน
แม้กระทั่งเจ้า Mitsu Expander ก็เอาเครื่อง 4G91 ใส่ Mivec แล้วกลับหัวโดยเอาท่อไอดีวางหน้า ไอเสียอยู่หลัง ก็เอามาขายได้

บางครั้งถ้าเครื่องเดิมพัฒนาให้แรงขึ้นและมลภาวะลดลงได้ จะเปลื่ยนใหม่ให้เปลืองงบทำไมครับ

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,950
    • อีเมล์
ไม่ชอบ เทคโนโลยีใหม่ๆกันหรอ ..... แบบเครื่องแรงกว่าเดิม ตอบสนองดีกว่าเดิม และประหยัดน้ำมันขึ้นด้วย อะไรงี้ ....

ชอบเครื่อง L15 ที่ลากใช้กันมา 10ปีเนี่ยหรอ
หรือ 1NZ จอมอมตะ

เค้าไปฉีดตรง แถมประหยัดกัน เหยียบๆ 20 ก.ม./ลิตรกันหมดแล้ว ....

ถ้าของเดิม มันทนมันดี อย่าง iphone 4 ... ทำไมเค้าไม่เอา  iphone4 มาใส่บอดีใหม่ แล้วลากขายไปยัน iphone 8 เลยอะ

ออฟไลน์ khin7710

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 83
ใช่แนวทางเดียวกับมังกรทองรึเปล่า พัฒนาเครื่อง 2500 จนไร้ที่ติ


นึกภาพรถใหม่วันนี้ เครื่อง 2500 90 แรงม้า แรงบิด 150-170 ได้มั้ง ราคา 8-9 แสน พัฒนาจนปัญหาเป็น 0 (ตามความเห็นที่ต้องการพัฒนาให้มันดีไม่มีปัญหา)
จะซื้อกันจริงๆหรือ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
สมัยก่อนผมก็ชอบนะครับ แต่ยุคนี้เริ่มเสียวๆ เครื่องใหม่กริ๊บมาเนี่ย ถ้าใช้ไป ไม่เจออะไรก็ดีไปครับ แต่ถ้าเจอขึ้นมา อาจจะยาว ช่างแก้ไม่ได้บ้าง บ.รถ ต้องกลับไปหาทางแก้ใหม่บ้าง แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว