ผู้เขียน หัวข้อ: ReMapให้แรงขึ้นประหยัดขึ้น ประหยัดขึ้นในคราเดียวได้หรอครับ?  (อ่าน 24586 ครั้ง)

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ผมนั่งๆดูMAPของรถ (รถBMW,MINI)  หลายๆรุ่น ที่เดิมๆจากโรงงาน

มันแทบจะเน้นไปทางประหยัดที่สุดในทุกโหมดแล้ว  ถ้าจะแอดวานซ์ไทม์มิ่งไปมากกว่านี้ ก็คงไม่ประหยัดเท่าไหร่ และส่อแววจะพังมากไปอีก

ไปอ่านเจอท่านนึงในเฟสที่REMAP มา บอกว่าจากรถที่ใช้อยู่ 15กม/ลิตรกลายเป็น 22กม/ลิตร  แรงขึ้นอีกทุกย่าน

ฟังดูแล้วมันขัดๆ

มันจะเป็นไปได้ไหมครับ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 10, 2017, 11:22:54 โดย 3eL JaE »

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
ถ้า 15 เป็น 22 นี่เวอร์แน่นอนครับ ถ้า 15 เป็น 16-17 ยังพอเป็นไปได้ในบางกรณี

ส่วนใหญ่ถ้าจูนเนอร์เก่งๆ หน่อย Cruising จะกินน้ำมันน้อยลงครับ ดูที่หน้าปัดได้ จะบวกขึ้นมาราวๆ 1 km/l แต่เวลาเร่งออกตัวมันก็กินเยอะกว่าเดิมเพราะเครื่องมันเร่งมาก สุดท้ายถัวๆ มันก็ประหยัดเท่าๆ เดิม

ออนไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
ส่วนตัวนะครับ ผมว่าทำได้แต่คงต้องเป็นแบบที่โรงงานทำ

แต่ถ้าเป็นการโมดิฟายเพิ่มเติมจากข้างนอก ผมว่าคงจะไม่ได้ เพียงแต่จะรู้สึกใช้น้ำมันได้คุ้มขึ้นมากกว่าจากอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นมากกว่าละครับ

M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ baddream11

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 792
รุ่นอื่นๆ ไม่รู้ แต่ Lancer ex ล่ะก็ทำได้ เพราะของเดิมมันโง่มากๆ แต่ก็ไม่ได้แรงและประหยัดเว่ออะไรขนาดนั้น :-\

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
อ่านแล้วรู้สึกถึง โช๊คนุ่มหนึบขึ้นมาทันที ฉันใดฉันนั้น

ออฟไลน์ oryor

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 653
ผมว่ามโน
เต็มที่เลยให้ไม่เกิน 1-2 โลลิตร ที่ประหยัดขึ้นนะครับ
ผมลองมาแล้วกับรถตัวเองครับ แต่ไม่ใช้เจ้าที่โม้ว่าประหยัดขึ้นหลาย %

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,183
    • อีเมล์
รถหลายรุ่น map ที่มาจากโรงงานยังจูนหนาอยู่พอสมควรนะครับรวมไปถึงช่วงรอบต่ำหรือไม่มี load ซึ่งคนจูนสามารถปรับให้บางลงได้อีก แต่คงไม่ประหยัดขึ้นขนาดนั้น ผมว่ารถสมัยใหม่อย่างมากก็ทำได้ 5%
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,390
เท่าที่เคยไปลองจูนรถ BMW 320 E92
รถยุโรป นำเข้ามาประกอบในไทย ฉะนั้นกล่อง ECU กราฟต่างๆ ถูกจูนมาจาก เมืองนอก
ไม่ได้มาวิ่งทดสอบในไทยแล้วจูน Real time แบบรถ ญี่ปุ่น

การ ReMap ก็แล้วแต่ความสามารถคนจูน
ที่เคยทำแค่เกลี่ยกราฟ น้ำมันหนาไป อากาศหนาไป ก็เกลี่ยๆ ให้มันพอดี
ฉะนั้นแล้ว ในความเร็วที่เท่ากัน รอบที่เท่ากัน ก็ใช้น้ำมันน้อยกว่า = ประหยัด

แรงม้า ทอร์ค ก็มากขึ้นล่ะ แต่ 15 ไป 22 แรงโม้เยอะไปหน่อย  ::)

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
แต่ละท่านที่มาช่วยตอบนี่ สายแรงเลย555

สรุปได้ว่าคนนั้นเขามโนแน่ๆ

หรือใครทำได้จริงๆ จาก 15km/l แรงขึ้นประหยัดขึ้นเป็น2x km/l  รบกวนเฉลยมา ไม่งั้นผมจะถือว่าว่าท่านมโน

ออฟไลน์ bluelawn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 664
รถผม 2.0T ยุโรป
ก่อนจูน ขับปกติ: 12km/l  อัดรถ: 8-9 km/l
หลังจูน: 13km/l อัดรถ: 6-8 km/l

ประมานๆ ครับผม

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,143
  • SNK vs Playmore
ถ้าต้องการประหยัด ให้หัดเหยี่ยบคันเร่งเบา ๆ ครับ

ถ้าต้องการแรง ก็ไปรีแมพครับ

เพราะถ้ารีแมพมาแล้วขับมันส์ มันจะกินน้ำมันกว่าเดิมครับ อิอิ

ออฟไลน์ Krongbun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
    • อีเมล์
 ;) ค่าจากโรงงานผมว่าเค้าทำมาเฉลี่ยๆให้วิ่งได้ทุกสภาำภูมิอากาศหรือปล่าวครับ
พอไปจูน ณ เวลานั้น อากาศตอนนั้น มันก็ประหยัดขึ้น ในสภาพแวดล้อมตอนนั้น
แต่พอไปเจอสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปค่าที่จูนไว้มันอาจจะส่งผลให้แย่ลงก็เป็นได้ครับ

ส่งสัยมานานเหมือนกัน แรงขึ้นประหยัดขึ้น มันขัดๆกันยังไงไม่รู้ แค่เอาไปตั้งค่าใหม่
แรงขึ้นอ่ะได้แน่นอน

เคยเห็นเจ้านึง Remap กระบะ จากเดิม 160 ม้า เพิ่มไปถึง 200 ม้าเลย
มันขนาดนั้นเลยหรอครับ??? แถมประหยัดขึ้นอี๊ก

ออฟไลน์ Trafalgar

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 820
ทำได้ก็ดีสิครับ ผมจะได้ไม่ต้องซื้อรถใหม่

จะได้เอารถเก่าไปทำ
- 1994 Toyota Corolla AE101 1.6 4A-FE MT
- 1995 Honda Civic EG 1.5 D15Z7 MT
- 1996 Mitsubishi Lancer Evolution IV 2.0 4G63T MT
- 2005 Toyota Hilux Vigo Cab 2.5G 2KD-FTV MT
- 2005 Toyota Fortuner 3.0V 1KD-FTV AT
- 2005 Toyota Fortuner 3.0G 1KD-FTV MT
- 2013 Honda City 1.5 L15A7 AT

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,044
... ลด safety margin ลง จ่ายน้ำมันบางลงหน่อย คงพอจะช่วยได้บ้าง แต่ไม่น่าจะขนาด 15>22 .. ถ้าทำได้จริงๆ และไม่มีผลกับการใช้งานจริง บริษัทรถสมควรไล่วิศวกรคนที่ทำ file เดิมออก  ;D

ปล. ถ้าจะทำให้ได้จริงๆ อาจต้องประมาณลด target boost ช่วงรอบไม่สูงมากและตำแหน่งคันเร่งไม่ลึก (ช่วง cruise จะได้ประหยัดสุดๆ) แล้วช่วงกดคันเร่งหนักๆค่อยเพิ่ม target boost ... ซึ่งต่อให้ทำได้ ขับจริงไม่น่าจะโอเคเท่าไหร่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 10, 2017, 12:30:05 โดย Turin »

ออฟไลน์ Olympuspen

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 426
คนที่ไปทำส่วนมากน่าจะเน้นให้แรงขึ้น เรื่องความประหยัดน่าจะเป็นผลพวงจากแรงบิด ที่มาเร็วขึ้น แรงม้าที่มากขึ้น

 เหยียบเท่าเท่าเดิมแต่รถไปได้ดีกว่าเดิม = ประหยัด

 เหยียบมากกว่าเดิมเพราะรถมันแรงขึ้น มันกว่าเดิม  =  ซด น้ำมัน (ส่วนมากเน้นเอาขับมัน ลากรอบได้สูงขึ้น สับเกียร์ได้มันขึ้น... และเครื่องกับเกียร์ก็จะอายุสั้นลง)

 ที่สำคัญราคาถูกกว่าพวงกล่อง  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ ฝีมือคนจูนครับ  ผมเองก็ว่าว่าจะลองเหมือนกัน  กำลังหาข้อมูลช่างจูนอยู่..

ออฟไลน์ jbrc

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 319
ถ้าเป็นรถเครื่องยนต์เทอร์โบ รีแมพเพิ่มแรงดันเทอร์โบ คือเพิ่มอากาศเข้าไปในกระบอกสูบให้มากขึ้น
แล้วเพิ่มการฉีดน้ำมันเข้าไปอีก เครื่องยนต์แรงขึ้น  เวลาขับใช้งานกดคันเร่งน้อยลง ย่อมประหยัดขึ้นแน่นอนครับ
แต่จุดเสี่ยง อยู่ที่  แรงดันเทอร์โบที่ปรับเพิ่ม ชิ้นส่วนเครื่องยนต์รองรับได้ขนาดไหน  ระบบระบายความร้อนระบายได้เพียงพอหรือไม่ครับ
ส่วนมากรถยุโรปทางโรงงานทำเครื่องยนต์เผื่อมาแล้ว เครื่องบางตัวจูนรถรุ่นนี้ให้แรงม้า ขนาดนี้ พอไปใส่อีกรุ่น จูนให้แรงขึ้นอีกระดับทั้งที่เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันก็มีเยอะครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
... ลด safety margin ลง จ่ายน้ำมันบางลงหน่อย คงพอจะช่วยได้บ้าง แต่ไม่น่าจะขนาด 15>22 .. ถ้าทำได้จริงๆ และไม่มีผลกับการใช้งานจริง บริษัทรถสมควรไล่วิศวกรคนที่ทำ file เดิมออก  ;D

ปล. ถ้าจะทำให้ได้จริงๆ อาจต้องประมาณลด target boost ช่วงรอบไม่สูงมากและตำแหน่งคันเร่งไม่ลึก (ช่วง cruise จะได้ประหยัดสุดๆ) แล้วช่วงกดคันเร่งหนักๆค่อยเพิ่ม target boost ... ซึ่งต่อให้ทำได้ ขับจริงไม่น่าจะโอเคเท่าไหร่

555
ผมคิดเหมือนกันตรงที่ไล่วิศวกรคนนั้นออกเลยดีกว่า แบบนั้นจริงๆ ถ้าแค่ Remapแล้วประหยัดได้เท่านั้นจริงต้องมีคนสมควรโดนไล่ออก

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
รถผม 2.0T ยุโรป
ก่อนจูน ขับปกติ: 12km/l  อัดรถ: 8-9 km/l
หลังจูน: 13km/l อัดรถ: 6-8 km/l

ประมานๆ ครับผม

อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยใช่ไหมครับที่ว่ามานี่? ไม่ใช่นอกเมืองแช่คงที่

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเป็นรถเครื่องยนต์เทอร์โบ รีแมพเพิ่มแรงดันเทอร์โบ คือเพิ่มอากาศเข้าไปในกระบอกสูบให้มากขึ้น
แล้วเพิ่มการฉีดน้ำมันเข้าไปอีก เครื่องยนต์แรงขึ้น  เวลาขับใช้งานกดคันเร่งน้อยลง ย่อมประหยัดขึ้นแน่นอนครับ
แต่จุดเสี่ยง อยู่ที่  แรงดันเทอร์โบที่ปรับเพิ่ม ชิ้นส่วนเครื่องยนต์รองรับได้ขนาดไหน  ระบบระบายความร้อนระบายได้เพียงพอหรือไม่ครับ
ส่วนมากรถยุโรปทางโรงงานทำเครื่องยนต์เผื่อมาแล้ว เครื่องบางตัวจูนรถรุ่นนี้ให้แรงม้า ขนาดนี้ พอไปใส่อีกรุ่น จูนให้แรงขึ้นอีกระดับทั้งที่เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันก็มีเยอะครับ
คนที่ไปทำส่วนมากน่าจะเน้นให้แรงขึ้น เรื่องความประหยัดน่าจะเป็นผลพวงจากแรงบิด ที่มาเร็วขึ้น แรงม้าที่มากขึ้น

 เหยียบเท่าเท่าเดิมแต่รถไปได้ดีกว่าเดิม = ประหยัด

 เหยียบมากกว่าเดิมเพราะรถมันแรงขึ้น มันกว่าเดิม  =  ซด น้ำมัน (ส่วนมากเน้นเอาขับมัน ลากรอบได้สูงขึ้น สับเกียร์ได้มันขึ้น... และเครื่องกับเกียร์ก็จะอายุสั้นลง)

 ที่สำคัญราคาถูกกว่าพวงกล่อง  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ ฝีมือคนจูนครับ  ผมเองก็ว่าว่าจะลองเหมือนกัน  กำลังหาข้อมูลช่างจูนอยู่..

ผมอ่านแล้ว งง

คือสรุปว่าจาก15กม/ลิตร ไปเป็น 22กม/ลิตรได้หรือครับ? ที่บอกประหยัดขึ้นน่ะ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
;) ค่าจากโรงงานผมว่าเค้าทำมาเฉลี่ยๆให้วิ่งได้ทุกสภาำภูมิอากาศหรือปล่าวครับ
พอไปจูน ณ เวลานั้น อากาศตอนนั้น มันก็ประหยัดขึ้น ในสภาพแวดล้อมตอนนั้น
แต่พอไปเจอสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปค่าที่จูนไว้มันอาจจะส่งผลให้แย่ลงก็เป็นได้ครับ

ส่งสัยมานานเหมือนกัน แรงขึ้นประหยัดขึ้น มันขัดๆกันยังไงไม่รู้ แค่เอาไปตั้งค่าใหม่
แรงขึ้นอ่ะได้แน่นอน

เคยเห็นเจ้านึง Remap กระบะ จากเดิม 160 ม้า เพิ่มไปถึง 200 ม้าเลย
มันขนาดนั้นเลยหรอครับ??? แถมประหยัดขึ้นอี๊ก

ค่าจากโรงงานของรถยุโรปประกอบใน ไม่เหมือนของประกอบนอกครับ เขาแบ่งSoftware และflag ในโปรแกรมมีCriteria On/off ไม่เท่ากัน

ถ้าบอกว่าให้วิ่งได้ทุกค่าอากาศตามแผ่นดินนั้นๆหรือทวีปนั้นๆก็ใช่ครับ เพราะข้ามทวีปมาก็มี softwareที่ต้องเปลี่ยนอยู่แล้ว

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,044
จริงเรื่องรถแรงขึ้น = เหยียบน้อยลง = ประหยัดขึ้น นั้นถ้าอํิบายให้รัดกุมจริงๆ ต้องบอกว่าไม่ถูกต้องทั้งหมดครับ เพราะการที่รถจะแรงขึ้นต้องจ่ายน้ำมันเพิ่ม (ยกเว้น advance ไฟ)

เหตุที่รถแรงขึ้นแล้วประหยัดขึ้นได้ เพราะ close loop / open loop ครับ ... รถไม่แรง อยากได้อัตราเร่งดี ต้องเหยียบคันเร่งลึก ระบบ เข้า open loop ซึ่งจ่ายน้ำมันหนา ... พอรถแรงขึ้น จะให้ได้อัตราเร่งเท่าเดิม จะเหยียบน้อยลง ระบบอาจจะยังอยู่ใน close loop ที่ประหยัดน้ำมันกว่า

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
คนที่ไปทำส่วนมากน่าจะเน้นให้แรงขึ้น เรื่องความประหยัดน่าจะเป็นผลพวงจากแรงบิด ที่มาเร็วขึ้น แรงม้าที่มากขึ้น

 เหยียบเท่าเท่าเดิมแต่รถไปได้ดีกว่าเดิม = ประหยัด

 เหยียบมากกว่าเดิมเพราะรถมันแรงขึ้น มันกว่าเดิม  =  ซด น้ำมัน (ส่วนมากเน้นเอาขับมัน ลากรอบได้สูงขึ้น สับเกียร์ได้มันขึ้น... และเครื่องกับเกียร์ก็จะอายุสั้นลง)

 ที่สำคัญราคาถูกกว่าพวงกล่อง  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ ฝีมือคนจูนครับ  ผมเองก็ว่าว่าจะลองเหมือนกัน  กำลังหาข้อมูลช่างจูนอยู่..

น่าจะประมาณนี้ครับ

ผมก็ใช้รีแมปอยู่แต่เน้นประหยัด.....โคลสลูปประหยัดจริง....แต่โอเพนลูปก็แดกจริงๆ

หลายๆท่านมองเฉพาะน้ำมันซึ่งไม่ใช่....แฟคเตอร์ในการจูนที่ส่งผลหลักๆมี

1.อัตราส่วนผสมของอากาศ/น้ำมัน
2.องศาไฟจุดระเบิด...(ตัวนี้สำคัญมาก)
3.แรงอัดในกระบอกสูบเรโชยิ่งสูงยิ่งประหยัด.........แต่จัดการยาก

ใน3ตัวแปรผันแบบผกผันกันอยู่

รถผม2.3tใช้lpgเป็นเชื้อเพลิงหลัก....ใช้องศาไฟจุดระเบิดของอี85....

โคลสลูป...10กม./ลิตร(แก๊ส)....โอเพ่น6กม./ลิตร

ปล.อ่านยากหน่อยมันเว้นวรรคไม่ได้ไม่รูเป็นอันหยัง.......
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 10, 2017, 15:37:22 โดย sukhontha »

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,314
รถยุโรป หรือ รถอื่นนอกเหนือจากที่ผมใช้     "ผมไม่รู้"

แต่ DMAX 2.5 หัวจรวด หลังรีแมพมา มันก็แรงขึ้น ประหยัดขึ้นจริงๆ เห็นๆ ไม่ต้องมโน

ตามไปอ่านได้
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=60971.0

แต่ของผมไม่เน้นสเตปแรงที่สุด แค่สเตปอนุบาล ขอแค่มันแก้ไขอาการอืดได้ และควันต้องไม่ดำ

อัตราการกินน้ำมัน ใน step ที่ผม remap ผมทำตามสูตร HLM คือ วิ่ง 110 กม./ชม. แอร์ auto 25C
ก่อน Remap - 12.8 กม./ลิตร
หลัง Remap - 13.4 กม./ลิตร

อัตราการกินน้ำมันที่ 110 กม./ชม. ประหยัดขึ้น 0.6 กม./ลิตร
 
อัตราเร่งแซงดีขึ้น คันเร่งเบาขึ้น ขับในเมืองง่ายขึ้น ไม่ต้องกดเยอะ ควันไม่ดำ ทุกอย่างๆ ยังเป็นไปตาม STD โรงงาน
รถกระฉับกระเฉงกว่าเดิมเยอะ รอรอบน้อยลงเยอะ แรงขึ้น แต่กลับประหยัดมากกว่าเดิม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 10, 2017, 15:22:40 โดย the kit »
"Make It Count"

ออฟไลน์ IbanezC

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
ผมว่าประหยัดขึ้นคงจะไม่อ่ะครับ แต่แรงขึ้นมันแรงอยู่แล้ว อย่างผมไปใส่ชุด JCW Tuning Kit มา Cat-Back ใหม่ทั้งเส้น+Flash ECU ได้ม้าเพิ่ม 19ตัว ขับเหมือนเดิมก็กินน้ำมันเท่าเดิมครับพี่ วิ่ง 110-120 ต่างจังหวัด Mid-Mode อัตรากินเชื้อเพลิงได้ที่ 18km/L(ผมดูจากจอรถที่มัน Real Time) ซึ่งก็เท่าๆกับตอนก่อนเอารถไปทำครับ แต่ถ้าอัดๆ+ Sport Mode ไม่ได้อัตรานี้แน่นอนครับ

ออฟไลน์ chaiya3163

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 68
รถยุโรป หรือ รถอื่นนอกเหนือจากที่ผมใช้     "ผมไม่รู้"

แต่ DMAX 2.5 หัวจรวด หลังรีแมพมา มันก็แรงขึ้น ประหยัดขึ้นจริงๆ เห็นๆ ไม่ต้องมโน

ตามไปอ่านได้
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=60971.0

แต่ของผมไม่เน้นสเตปแรงที่สุด แค่สเตปอนุบาล ขอแค่มันแก้ไขอาการอืดได้ และควันต้องไม่ดำ

อัตราการกินน้ำมัน ใน step ที่ผม remap ผมทำตามสูตร HLM คือ วิ่ง 110 กม./ชม. แอร์ auto 25C
ก่อน Remap - 12.8 กม./ลิตร
หลัง Remap - 13.4 กม./ลิตร

อัตราการกินน้ำมันที่ 110 กม./ชม. ประหยัดขึ้น 0.6 กม./ลิตร
 
อัตราเร่งแซงดีขึ้น คันเร่งเบาขึ้น ขับในเมืองง่ายขึ้น ไม่ต้องกดเยอะ ควันไม่ดำ ทุกอย่างๆ ยังเป็นไปตาม STD โรงงาน
รถกระฉับกระเฉงกว่าเดิมเยอะ รอรอบน้อยลงเยอะ แรงขึ้น แต่กลับประหยัดมากกว่าเดิม


0.6 กม  แค่ลมยางต่างกัน 2 ปอนด์ก็มีผลแล้ว

แล้วถ้าลองจับการกินน้ำมันในระยะทางสั้นๆ  กดหนักๆทีสองที 0.6 ก็หายไปแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 10, 2017, 16:54:50 โดย chaiya3163 »

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,345
    • อีเมล์
ก่อนจะคิดว่าจริงไหม ต้องถามว่า วัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจากการเติมจริงไหม ก่อนครับ  ;D ;D ;D

เพราะถ้าดูจากจอในรถ มันก็เพี้ยนทั้งนั้นแหละครับ ยิ่งพอไปรีแมพแล้ว เพี้ยนนนนนหนักเลยครับ

เอาง่ายๆ Focus diesel ใส่ดันราง ขับดีๆ จอนี่โชว์ได้ถึง 3.8 L/100km เลยครับ แต่เติมจริงได้แค่ แตะๆ20 นี่ขับแบบไม่ได้แข่งประหยัดเอาถ้วยนะครับ แค่ช้าลงหน่อย  ;D ;D ;D ;D

ออฟไลน์ bluelawn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 664
รถผม 2.0T ยุโรป
ก่อนจูน ขับปกติ: 12km/l  อัดรถ: 8-9 km/l
หลังจูน: 13km/l อัดรถ: 6-8 km/l

ประมานๆ ครับผม

อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยใช่ไหมครับที่ว่ามานี่? ไม่ใช่นอกเมืองแช่คงที่

อันนี้คงที่ ประมาน 100-130 ความเร็วปกติใช้งานครับ ได้ประมานนี้
ถ้าในเ้มืองนี้ 8-9 ไปเลยครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ประเด็นที่ผมถามคือ ประหยัดขึ้นแบบ15 ไป 20 นะครับ

เรื่องประหยัดขึ้น 1-2 km/l แล้วแรงขึ้น ผมยังไม่เคยได้พิสูจน์เองจริง ๆ เช่นกัน แต่ถ้าให้คิด มันก็พอจะเกิดขึ้นได้กับการแก้ไขให้Lean ในบางช่วงของMAP แต่ อันนี้ไม่ขอกล่าว น้นประเด็นที่ถามดีกว่า เพราะประหยัดแค่ 1-2km/lขึ้นมา ผมก็Reset Adaptation มันก็ได้มาอยู่แล้ว แต่ไม่แรงขึ้นแค่นั้นเอง 555

เน้น ๆ นะครับ 15ไปเป็น22 หรือจะเป็น 20 เลยก็ได้ ลดให้

อุ๊ย ผมไม่แน่ใจว่าเห็นคนที่ช่วยพี่ในเฟสคุยว่าเป็นไปได้มาตอบ ถ้าใช่คนเดียวกันและถ้ายังยืนยันว่าได้ 15 เป็น 22 แบบนี้ผมขอพิสูจน์จะได้ไหม


jaesz

  • บุคคลทั่วไป
รถผม 2.0T ยุโรป
ก่อนจูน ขับปกติ: 12km/l  อัดรถ: 8-9 km/l
หลังจูน: 13km/l อัดรถ: 6-8 km/l

ประมานๆ ครับผม

อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยใช่ไหมครับที่ว่ามานี่? ไม่ใช่นอกเมืองแช่คงที่

อันนี้คงที่ ประมาน 100-130 ความเร็วปกติใช้งานครับ ได้ประมานนี้
ถ้าในเ้มืองนี้ 8-9 ไปเลยครับ

อ่อ 130ผมนึกว่าขับเล่น ๆ100-110 กับTTs แล้วได้แค่นั้น

ออฟไลน์ Tomz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 927
แรงโม้ล้วนๆเลย จาก 15โล เป็น 20 เนี่ย cx3 ผมแฟรชมา ประหยัดขึ้นอย่างมากก็แค่เพิ่มมา 1ลิตร เอง มีแฟรช ปลายท่อ กลองผ้า อัตราเร่งดีขึ้นจริง แต่การประหยัดนี่ เล็กๆน้อยๆ
2001 Mitsubishi Evolution 5 
2004 Isuzu Dmax 2.5 di 
2012 Honda Jazz ( JP ) Ge   
2015 Mercedes Benz Cla250 AMG 
2016 Mazda Cx-3