ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้ารถ EV เจอสภาวะอากาศร้อน รวมถึงความร้อนจาก Quick Charge แบตจะเสื่อมไวหรือเปล่า  (อ่าน 5969 ครั้ง)

ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,340
เห็นช่วงนี้ดูคนตื่นตาตื่นใจกับ Tesla มาก  ผมเลยมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแบตเตอรี่  จริงๆผมสงสัยมานานละ

ผมเห็นในข้อแนะนำของเทสล่าเหมือนกันว่า   ควรจะใช้เมื่อตอนจำเป็น   แต่ควรชาร์จไฟบ้านเป็นหลัก  ส่วนนึงเพราะอาจจะทำให้ Cycle ของแบตเตอรี่ มันลดลงหรือเปล่า ?

Nissan says fast-charging the LEAF once per day (close to the charge rate of the Supercharger) won't degrade the battery, but they don't recommend more than that. I believe Tesla has said that charging via the HPWC doesn't impact the battery longevity -- for the Superchargers, there have been conflicting reports

แล้วในประเทศอากาศร้อน   อุณหภูมิจะมีผลแค่ไหนต่อการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่รถยนต์ Hybrid  หรือบรรดารถ EV (อย่างเช่นการจอดตากแดดในบ้านเรา)   แบตเตอรี่มี โอกาสเสื่อมสภาพไวกว่าปกติแค่ไหนยังไง

อย่างแบตเตอรี่  Li Ion โดยทั่วไปก็มี Life Cycle อยู่  จากเดิมความจุเยอะๆ พอใช้นานๆ ก้จะค่อยๆเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ การใช้รถที่สภาพอากาศเมืองร้อน อาจจะมีโอกาสทำให้แบตเสื่อมไวกว่าปกติหรือเปล่า?

ถ้าใช้แบตห้าปีเปลี่ยนทิ้งแบบมือถือ โน๊ตบุ๊ค ราคาพัน สามสี่พัน ก็ว่าไปอย่าง  แต่ถ้า ใช้ได้ ห้าหกปีแบตเสื่อม  เปลี่ยนทีหลักแสนหรือครึ่งล้าน  แล้วประกอบกับราคารถที่ตกไปตามอายุ สมมติว่าใช้ไปได้ห้าปี   ผมเลยไม่แน่ใจว่ามันจะคุ้มค่า  ประหยัดค่าใช้จ่ายจริงๆ  หรือซื้อมาใช้แล้วทิ้งแบบสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ?

จริงๆผมก็สงสัย
สมมติ leaf ราคาใหม่ 1.5 ล้าน ผ่านไปหกปี ราคาขายเหลือ 6-8 แสน  แต่ราคาแบตลูกใหม่  มันจะคุ้มค่าที่จะใช้รถต่อหรือเปล่า 

เห็นการใช้รถเมืองนอก  ส่วนมากก็ใช้กันไม่นานก้ทิ้งไปอยู่ตาม Junk แต่ในไทยมาเป็นรถมือสอง  ผมว่าราคาขายต่อน่าจะไม่สวย  ถ้ามีเรื่อง battery cycle อีก ( จริงๆ ราคาขายต่อรถ Hybrid ตอนนี้ก็ร่วงมากๆอยู่แล้ว)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 12, 2017, 09:21:47 โดย Butterzai »

ออฟไลน์ coolcarrera

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 518
แบตเตอรี่ (เคมี) กับความร้อนไม่เคยถูกกันอยู่แล้วครับ เสื่อมมั้ยก็คงเสื่อมแน่นอน แต่ไม่ใช่ 4-5 ปีแบบแบตเกรดที่ใช้ในอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์แน่ๆ

จะว่าไป macbook อายุแค่ 10 เดือนแบตเสื่อมไปราวๆ 4% แล้ว  :'(
E3, D15 Carb, 2E
F22B VTEC, J30A VTEC
1TR, 1NZ
D4CB
1GD, R18

ออฟไลน์ TrentXWB

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 831
  • เมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ
อาจจะนอกประเด็นไป

แต่เรื่องการใช้รถไฟฟ้า ผมมองว่าปกติไม่น่าซื้อแบบซื้อขาด ควรเป็นเช่าใช้ระยะยาวมากกว่า อาจจะ 3 - 5 ปี แล้วก็ครบสัญญา เช่าคันใหม่ แบบนี้ผู้เช่า ไม่ต้องวิตกเรื่องแบตหรือการเสื่อมสภาพใดๆ

มีหน้าที่ใช้อย่างเดียว ถึงเวลาก็เอาไปคืน รับรถใหม่มาใช้ และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการกำจัดรถและแบตที่มีพิษและมีราคาแพงด้วยเมื่อรถหมดสภาพ


รถไฟฟ้าแบบแบตเสียบปลั๊ก ผมว่ามันตอบโจทย์ในแง่ความสะอาดและดวก แต่มันไม่ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานแบบคนไทยที่รถคันนึงใช้กันเป็น 7 ปี ขึ้นไป

ระยะยาวค่าซ่อมบำรุงอาจแซงความคุ้มทุนในด้านเชื้อเพลิงได้ง่ายๆ

***********

ความร้อน อากาศร้อนจัดๆ มีผลกับแบตแน่ๆ ครับ ส่วนพวกเทคโนโลยีการอัดประจุอย่างไวก็ทำให้เกิดการเสื่อมที่มากกว่าการชาร์จไฟปกติครับ

เพียงแต่มันจะไม่เสียหายอย่างเห็นได้ชัด คือเสื่อม แต่เสื่อมมากขึ้นอีกนิด และถ้าเข้าใจไม่ผิด พวกเทคโนโลยีชาร์ตเร็วควรชาร์จในช่วง 20 - 80 เปอร์เซนต์นะครับ จะเป็นช่วงที่ใช้ cycle แบตได้คุ้มสุด

ผิดถูกขออภัยล่วงหน้าครับ  ::)

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
ส่วนใหญ่ก็มีประกันแบต 8-10 ปีกันนะ เค้าก็พัฒนาให้มันทนได้ทุกสภาพอากาศ

http://www.greencarreports.com/news/1110149_tesla-model-s-battery-life-what-the-data-show-so-far
The data appears to show that capacity remains between 90 and 95 percent, on average, even at 150,000 km (93,000 miles).
There are individual data points scattered on both sides of that line, of course.
But, overall, the data offer some basis for confidence that a Tesla Model S will lose—on average—less than 15 percent of its battery capacity over the average 150,000-mile (250,000-km) life of a vehicle.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 12, 2017, 11:44:00 โดย Jacob »

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
ถ้ารับประกัน 8-10 หรือมากกกว่า ก็คงไม่ต้องห่วงแล้วครับ
แต่ว่า การรับประกันที่ว่านั้น เขาเปลี่ยนให้หรือแค่ลดราคาหักส่วนต่างจากอายุแบตเก่าที่ใช้ไปครับ

ออฟไลน์ mrcna

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 77
    • อีเมล์
จากการหาข้อมูล Heat vs Li-on (lithium-ion)

เจอในเว็บนี้ : http://batteryuniversity.com/learn/article/how_to_prolong_lithium_based_batteries
และเว็บนี้ : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4526891

จากการแปลแบบงูๆปลาๆของผม ได้ความว่า
1. แบต li-on จะเสื่อมจากความร้อน และการชาร์ทเต็มทิ้งไว้ มากกว่าการชาร์ทบ่อยๆ (cycle) ซะอีก
2. Voltage ที่เอาไว้ชาร์ท ถ้าใช้ Volt สูง (Fast charge) จะส่งผลให้ อายุ (cycle) สั้นลง
3. แบต li-on ปกติจะทำการชาร์ทได้ที่ 5 to 45 °C ซึ่งถ้าเกิน 45 °C จะส่งผลให้ ปริมาณสูงสุดที่ชาร์ทได้ลดลง (Ah)

หากแปลผิดขออภัยและรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,910
    • อีเมล์
อาจจะนอกประเด็นไป

แต่เรื่องการใช้รถไฟฟ้า ผมมองว่าปกติไม่น่าซื้อแบบซื้อขาด ควรเป็นเช่าใช้ระยะยาวมากกว่า อาจจะ 3 - 5 ปี แล้วก็ครบสัญญา เช่าคันใหม่ แบบนี้ผู้เช่า ไม่ต้องวิตกเรื่องแบตหรือการเสื่อมสภาพใดๆ

มีหน้าที่ใช้อย่างเดียว ถึงเวลาก็เอาไปคืน รับรถใหม่มาใช้ และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการกำจัดรถและแบตที่มีพิษและมีราคาแพงด้วยเมื่อรถหมดสภาพ


รถไฟฟ้าแบบแบตเสียบปลั๊ก ผมว่ามันตอบโจทย์ในแง่ความสะอาดและดวก แต่มันไม่ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานแบบคนไทยที่รถคันนึงใช้กันเป็น 7 ปี ขึ้นไป

ระยะยาวค่าซ่อมบำรุงอาจแซงความคุ้มทุนในด้านเชื้อเพลิงได้ง่ายๆ

***********

ความร้อน อากาศร้อนจัดๆ มีผลกับแบตแน่ๆ ครับ ส่วนพวกเทคโนโลยีการอัดประจุอย่างไวก็ทำให้เกิดการเสื่อมที่มากกว่าการชาร์จไฟปกติครับ

เพียงแต่มันจะไม่เสียหายอย่างเห็นได้ชัด คือเสื่อม แต่เสื่อมมากขึ้นอีกนิด และถ้าเข้าใจไม่ผิด พวกเทคโนโลยีชาร์ตเร็วควรชาร์จในช่วง 20 - 80 เปอร์เซนต์นะครับ จะเป็นช่วงที่ใช้ cycle แบตได้คุ้มสุด

ผิดถูกขออภัยล่วงหน้าครับ  ::)
Priusโฉมแรกไงครับ  โตโยต้าเอาเข้ามาทำตลาดในไทยแบบleasingพอครบอายุก็เก็บกลับไปโดยโตดูแลตลอดอายุการใช้งาน   ที่ทำแบบนั้นเพราะช่วงแรกคนยังไม่ยอมรับจึงต้องยอมเพื่อให้มีรถมาวิ่งทดลองจริงบนถนน

แต่ลองนึกถึงพฤติกรรมการใช้รถคนไทยคือใช้ยาวแถมบางทีมีส่งต่อเป็นสมบัติให้ลูกหลานดังนั้นการซื้อในลักษณะนี้จึงดูแพงกว่าซื้อขาดแถมไม่มีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอีกต่างหาก  ส่วนมากจะเป็นรูปบริษัทที่มักชอบoptionลักษณะนี้เนื่องจากความแน่นอนเรื่องค่าใช้จ่าย

ออฟไลน์ gobank01

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 317

ที่สิงคโปร์อากาศร้อนชื้อ ร้อนกว่าบ้านเรา เค้าใช้กันปกตินะครับ

ผมว่าเรื่องอากาศไม่น่ามีปัญหา

ปัญหาบ้านเราน่าจะ กฏหมาย + ภาษี นี้แหละครับ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,044
อาจจะนอกประเด็นไป

แต่เรื่องการใช้รถไฟฟ้า ผมมองว่าปกติไม่น่าซื้อแบบซื้อขาด ควรเป็นเช่าใช้ระยะยาวมากกว่า อาจจะ 3 - 5 ปี แล้วก็ครบสัญญา เช่าคันใหม่ แบบนี้ผู้เช่า ไม่ต้องวิตกเรื่องแบตหรือการเสื่อมสภาพใดๆ

มีหน้าที่ใช้อย่างเดียว ถึงเวลาก็เอาไปคืน รับรถใหม่มาใช้ และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการกำจัดรถและแบตที่มีพิษและมีราคาแพงด้วยเมื่อรถหมดสภาพ


รถไฟฟ้าแบบแบตเสียบปลั๊ก ผมว่ามันตอบโจทย์ในแง่ความสะอาดและดวก แต่มันไม่ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานแบบคนไทยที่รถคันนึงใช้กันเป็น 7 ปี ขึ้นไป

ระยะยาวค่าซ่อมบำรุงอาจแซงความคุ้มทุนในด้านเชื้อเพลิงได้ง่ายๆ

***********

ความร้อน อากาศร้อนจัดๆ มีผลกับแบตแน่ๆ ครับ ส่วนพวกเทคโนโลยีการอัดประจุอย่างไวก็ทำให้เกิดการเสื่อมที่มากกว่าการชาร์จไฟปกติครับ

เพียงแต่มันจะไม่เสียหายอย่างเห็นได้ชัด คือเสื่อม แต่เสื่อมมากขึ้นอีกนิด และถ้าเข้าใจไม่ผิด พวกเทคโนโลยีชาร์ตเร็วควรชาร์จในช่วง 20 - 80 เปอร์เซนต์นะครับ จะเป็นช่วงที่ใช้ cycle แบตได้คุ้มสุด

ผิดถูกขออภัยล่วงหน้าครับ  ::)
Model คล้ายๆกันนี้ทางอิสราเอลมีคิดครับ จะเป็นว่าซื้อรถไม่รวมแบต แล้วแบตค่อยไป "เช่า" ที่สถานีเป็นครั้งๆไป โดยพัฒนาให้สามารถถอด-ใส่ได้ง่ายๆ (5 นาที เสร็จ) ... วิธีนี้ก็จะแก้ปัญหาเรื่องชาร์จและแบตหมดได้ดี แต่ต้องจัดการเรื่อง stock กับ logistic ของตังแบตที่จะเก็บไว้ตามสถานี

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณมากครับที่ถามคำถามนี้มา ได้ความรู้เยอะเลยครับ  :D

ผมรู้แค่อุณหภูมิที่สูงไปหรือต่ำไปมีผลกับประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ไฟฟ้าครับ แต่ไม่รู้ว่าเยอะแค่ไหน ส่วนแบตก็ขออ่านจากท่านอื่นที่หาข้อมูลมาด้วยคนครับ  :D

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 13, 2017, 09:05:33 โดย Jacob »