ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อ "ครัชจม" ต้องมีสติ  (อ่าน 16305 ครั้ง)

ออฟไลน์ MA_Nas1990

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
    • อีเมล์
เมื่อ "ครัชจม" ต้องมีสติ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2017, 17:08:23 »
มีเหตุการณ์ที่เจอกับตัวเองจะมาเล่าให้ฟังครับ
วันศุกร์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสขับกระบะคันเก่งมาทำงาน ซึ่งรถคันนี้อายุอานามก็ปาเข้าปีที่ 10 แล้ว (18x,xxx โล) อาการครัชจมเกิดขึ้นเมื่อเย็นวันพฤหัส ตอนแรกผมไม่รู้มันคืออะไร รู้แค่ว่าเวลาเหยียบครัชแล้วรู้สึกว่าครัชเด้งขึ้นช้าแต่รถยังเร่งไปข้างหน้าได้ปกติ ก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดแค่ว่าไว้วันเสาร์ค่อยเช็คดูอีกที
เหตุการณ์ที่เกือบจะซวย เกิดขึ้นเย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน บนถนนวิภาวดีฯ การจราจรอันหนาแน่น จังหวะที่กำลังออกตัวด้วยเกียร์ 1 กดคันเร่งพุ่งออกไปเต็มที่ เมื่อรถคันหน้าเริ่มหยุด ผมก็ต้องเปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์ว่าง แต่ปรากฏว่ารถวิ่งแต่ครัชไม่ยอมดีดกลับ ดีที่ยังมีสติ เหยียบเบรคเต็มที่พร้อมกับกดไฟฉุกเฉิน เพื่อให้รถหยุดและดับ ซึ่งเกือบจะชนคันหน้า พอรถดับก็เปลี่ยนเกียร์ว่างแล้วเอาเท้างัดที่เหยียบครัชขึ้น และสตาร์ท พอเข้าเกียร์เสร็จก็รีบเอาเท้างัดที่เหยียบครัชขึ้นมา แล้วพยายามรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าเอาไว้เพื่อความปลอดภัย ซึ่งทำแบบนี้ตลอดทางจนถึงบ้าน พอวันรุ่งขึ้นก็ได้ให้ช่างตรวจสอบก็พบว่า แม่ปั้มครัชบนเสื่อมสมรรถภาพไปแล้ว ผมก็เลยจับเปลี่ยนทั้งบนทั้งล่างเลย เพื่อความสบายใจ แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะครับ เผื่อใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ ต้องมีสตินะครับ.


jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: เมื่อ "ครัชจม" ต้องมีสติ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2017, 17:43:52 »
รถทั่วไป สามารถดึงเกียร์มาเกียร์ว่างได้โดยไม่ต้องเหยียบคลัทช์

ลองทำดูสิครับ หากไม่ถูกดัดแปลงมามันทำได้อยู่

ออฟไลน์ toonze

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,967
    • อีเมล์
Re: เมื่อ "ครัชจม" ต้องมีสติ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2017, 20:46:32 »
มันดึงลงว่างได้เลยนะครับ

ออฟไลน์ Nott1959

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 480
Re: เมื่อ "ครัชจม" ต้องมีสติ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2017, 21:56:15 »
ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสบการณ์ครับ

ของผมก็มีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกันครับคือ''เบรคจม''
รถกะบะอายุ20ปีขับอยู่ปกติวิ่งตามๆกันรถเริ่มฉลอตัวผมกดเบรค ความคิดวูบแรกเห้ยยยเบรคหายไปไหน
ใจหล่นไปที่ปลายเท้าเลยครับฮาๆๆๆ
แต่ยังดีที่ผมถอนเท้าออกจากแป้นเบรคแล้วย้ำเข้าไปใหม่ก็จะมีแรงเบรคเพิ่มมากขึ้น
ที่ผมเจอคือถ้ากดเบรคลงไปเลยจะไม่มีแรงเบรค ต้องย้ำ2ครั้งถึงจะมีแรง
แต่ก็มีบางจังหวะ ย้ำ3ครั้งก็ยังไม่ตอบสนอง ต้องกดเต็มที่เหมือนเอากำลังขาเราไปดันลูกสูบแทนน้ำมันไฮดรอลิกอย่างนั้นเลยครับฮ่าๆๆๆ ดีว่าเว้นระยะห่างเยอะ มีลุ้นตลอด
 
ทีแรกผมกะว่าจะเปิดประตูแล้วเอาเท้าลงไปยันกับถนนก็กลัวจะชลอความเร็วไม่ทันฮ่า ฮ่า

รุ่งขึ้นรื้อกระบอกแม่ปั้มเบรคออกมาดูพบว่าภายในกระบอกเป็นตามดหลายจุด เอานิ้วลูบภายในกระบอกพบว่า
รู้สึกได้ถึงความไม่เสมอกันของผิวกระบอก
แต่สาเหตุที่ทำให้แรงเบรคหายคือลูกยางดันน้ำมันภายในกระบอกฉีกขาด  :-X :-X :-X

จัดการเปลี่ยนกระบอกเบรคใหม่
ที่แปลกใจคือหลังจากเปลี่ยนพบว่ายังมีอาการจมอยู่(ระยะเบรคยังลึกแต่แรงเบรคไม่หาย) ใช้รถไปประมาณ1อาทิตย์ระยะแป้นเบรคก็กลับมาตื้นเป็นปกติ :( :( :(
V8 V10 V12 ONLY!!!!

ออฟไลน์ MA_Nas1990

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
    • อีเมล์
Re: เมื่อ "ครัชจม" ต้องมีสติ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2017, 08:15:47 »
รถทั่วไป สามารถดึงเกียร์มาเกียร์ว่างได้โดยไม่ต้องเหยียบคลัทช์

ลองทำดูสิครับ หากไม่ถูกดัดแปลงมามันทำได้อยู่

ขอบคุณมากครับ ตอนนั้นผมพยายามดึงจากเกียร์ 1 ลงมาว่าง แต่ดึงลงไม่ได้ แข็งมาก ไม่แน่ใจว่ารถผมปกติรึป่าว

ออฟไลน์ MA_Nas1990

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
    • อีเมล์
Re: เมื่อ "ครัชจม" ต้องมีสติ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2017, 08:20:01 »
ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสบการณ์ครับ

ของผมก็มีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกันครับคือ''เบรคจม''
รถกะบะอายุ20ปีขับอยู่ปกติวิ่งตามๆกันรถเริ่มฉลอตัวผมกดเบรค ความคิดวูบแรกเห้ยยยเบรคหายไปไหน
ใจหล่นไปที่ปลายเท้าเลยครับฮาๆๆๆ
แต่ยังดีที่ผมถอนเท้าออกจากแป้นเบรคแล้วย้ำเข้าไปใหม่ก็จะมีแรงเบรคเพิ่มมากขึ้น
ที่ผมเจอคือถ้ากดเบรคลงไปเลยจะไม่มีแรงเบรค ต้องย้ำ2ครั้งถึงจะมีแรง
แต่ก็มีบางจังหวะ ย้ำ3ครั้งก็ยังไม่ตอบสนอง ต้องกดเต็มที่เหมือนเอากำลังขาเราไปดันลูกสูบแทนน้ำมันไฮดรอลิกอย่างนั้นเลยครับฮ่าๆๆๆ ดีว่าเว้นระยะห่างเยอะ มีลุ้นตลอด
 
ทีแรกผมกะว่าจะเปิดประตูแล้วเอาเท้าลงไปยันกับถนนก็กลัวจะชลอความเร็วไม่ทันฮ่า ฮ่า

รุ่งขึ้นรื้อกระบอกแม่ปั้มเบรคออกมาดูพบว่าภายในกระบอกเป็นตามดหลายจุด เอานิ้วลูบภายในกระบอกพบว่า
รู้สึกได้ถึงความไม่เสมอกันของผิวกระบอก
แต่สาเหตุที่ทำให้แรงเบรคหายคือลูกยางดันน้ำมันภายในกระบอกฉีกขาด  :-X :-X :-X

จัดการเปลี่ยนกระบอกเบรคใหม่
ที่แปลกใจคือหลังจากเปลี่ยนพบว่ายังมีอาการจมอยู่(ระยะเบรคยังลึกแต่แรงเบรคไม่หาย) ใช้รถไปประมาณ1อาทิตย์ระยะแป้นเบรคก็กลับมาตื้นเป็นปกติ :( :( :(

น่ากลัวไม่แพ้กันเลยครับ
แต่ของท่านนิ่ "ทีแรกผมกะว่าจะเปิดประตูแล้วเอาเท้าลงไปยันกับถนนก็กลัวจะชลอความเร็วไม่ทันฮ่า ฮ่า" ฮาเลยนะครับ 555

ออฟไลน์ Max_Nut

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 166
Re: เมื่อ "ครัชจม" ต้องมีสติ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2017, 12:36:20 »
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ใช้ MT เหมือนกัน
คงต้องคอยก้มดู อุปกรณ์พวกนี้ ให้มากขึ้น

ออฟไลน์ rut191

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,212
Re: เมื่อ "ครัชจม" ต้องมีสติ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2017, 12:37:15 »
ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสบการณ์ครับ

ของผมก็มีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกันครับคือ''เบรคจม''
รถกะบะอายุ20ปีขับอยู่ปกติวิ่งตามๆกันรถเริ่มฉลอตัวผมกดเบรค ความคิดวูบแรกเห้ยยยเบรคหายไปไหน
ใจหล่นไปที่ปลายเท้าเลยครับฮาๆๆๆ
แต่ยังดีที่ผมถอนเท้าออกจากแป้นเบรคแล้วย้ำเข้าไปใหม่ก็จะมีแรงเบรคเพิ่มมากขึ้น
ที่ผมเจอคือถ้ากดเบรคลงไปเลยจะไม่มีแรงเบรค ต้องย้ำ2ครั้งถึงจะมีแรง
แต่ก็มีบางจังหวะ ย้ำ3ครั้งก็ยังไม่ตอบสนอง ต้องกดเต็มที่เหมือนเอากำลังขาเราไปดันลูกสูบแทนน้ำมันไฮดรอลิกอย่างนั้นเลยครับฮ่าๆๆๆ ดีว่าเว้นระยะห่างเยอะ มีลุ้นตลอด
 
ทีแรกผมกะว่าจะเปิดประตูแล้วเอาเท้าลงไปยันกับถนนก็กลัวจะชลอความเร็วไม่ทันฮ่า ฮ่า

รุ่งขึ้นรื้อกระบอกแม่ปั้มเบรคออกมาดูพบว่าภายในกระบอกเป็นตามดหลายจุด เอานิ้วลูบภายในกระบอกพบว่า
รู้สึกได้ถึงความไม่เสมอกันของผิวกระบอก
แต่สาเหตุที่ทำให้แรงเบรคหายคือลูกยางดันน้ำมันภายในกระบอกฉีกขาด  :-X :-X :-X

จัดการเปลี่ยนกระบอกเบรคใหม่
ที่แปลกใจคือหลังจากเปลี่ยนพบว่ายังมีอาการจมอยู่(ระยะเบรคยังลึกแต่แรงเบรคไม่หาย) ใช้รถไปประมาณ1อาทิตย์ระยะแป้นเบรคก็กลับมาตื้นเป็นปกติ :( :( :(
เคยเบรคจมครั้งนึงเหมือนกันครับ ดีว่าขับอยู่แค่40
ดีว่าย้ำไปอีกที เบรคค่อยไปจับเกือบชนคันหน้าแล้ว ดีว่าเว้นระยะห่างไว้เยอะ กับใช้เกียร์ต่ำช่วย(รถกระบะเกียร์mt) เบรคมือด้วย555 หลอนไปเลย