ผู้เขียน หัวข้อ: // กระทู้แสดงความคิดเห็น First Impression : ทดลองขับ Mazda CX-5 2.0 & 2.2D //  (อ่าน 19186 ครั้ง)

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
Re: // กระทู้แสดงความคิดเห็น First Impression: Mazda CX-5 2.0&2.2D//
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2017, 09:00:00 »
ช่วยเทียบดีเซลตัวขับ 2 กับขับ awd realtime ให้โด้ยครัช
การเกาะถนนต่างกันแค่ไหน  :)

ขนาดผมซัดเร็วชนิดขับเองยังเกือบจะอ้วก

ผมพบว่ามันแทบไม่ต่างกันเลยครับ เว้นแต่ตอนหักโค้งแล้วตบคันเเร่งแรงๆเท่านั้นที่ตัวขับสี่จิกพื้นแล้วไปได้ไวกว่ากันนิดเดียว ไม่ตั้งใจสังเกตก็ไม่รู้สึก และถ้าจังหวะที่รถมีแรงเหวี่ยงข้าง คุณไม่ได้กดคันเร่ง ก็ไม่รู้สึกครับ แต่ที่ต่างกันแล้วรู้สึกมากกว่าคือนั่งเบาะหลัง ตัวขับสองช่วงล่างตึงตังกว่าครับ นิดๆ

โอ้ ขอบคุณพี่แพนมากครัช บางทีก็ยังงงๆกับขับ 4 เฉพาะกิจของแต่ละค่ายเหมือนกัน ว่าจุดขายที่แท้ทรูอยู่ตรงความเร็วหรืออาการไหน..

ถ้าคาดหวังในเรื่องการเกาะถนนเฉยๆนี่ขับ 2 มีแทรคชั่นก็คงคุ้มกว่า  :)

ช่วยเทียบดีเซลตัวขับ 2 กับขับ awd realtime ให้โด้ยครัช
การเกาะถนนต่างกันแค่ไหน  :)

จากที่ผมอ่านบทความตปทมานะครับเรื่อง AWD จริงๆแล้ว AWD ไม่ได้ช่วยในเรื่องการเกาะถนนขนาดนั้นนะครับ แต่มันจะไปมีส่วนหลักๆตอนช่วงออกตัว แต่อย่างว่าครับ แต่ละแบรนด์จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน อ้อแล้วถ้าจำไม่ผิดมันจะไปช่วยในเรื่องของพวกตกหล่ม หรือ ล้อฟรี ลุยโคลนลุยทางที่ไม่ปกติอะครับ
ผมละแน่วแน่เลยว่ายังไงก็เอาดีเซลขับสองแน่นอนเพราะนิสัยการขับรถของผมเอง สาดโค้งบ่อยพอควร แต่ก็สาดแบบรู้ลิมิตรถตัวเอง(ทุกวันนี้ขับเก๋งก็สาดประจำครับ) และที่สำคัญคือเสียของครับ ถ้าซื้อขับสี่มาใช้แล้วไม่ได้ใช้ผมเลยเอาขับสองด้วยประการที่ว่า กระฉับกระเฉงไว้ก่อน ประหยัดไว้ก่อน เรื่อง traction นี่ไปแบบรู้ลิมิต

*คหสต* รถขับสองถ้าถนนลาดยางไม่ลุยลูกรัง ฝนตกไม่ตกมันก็ไปได้ทุกที่แล้วอะครับ 70% บนท้องถนนทุกวันนี้ก็เต็มไปด้วยรถขับสอง แต่ใจอยากได้ออฟชั่นขับสี่มากครับ แต่ต้องจำใจยอมรับครับ

ขอบคุณครัช เข้าใจเพิ่มขึ้นมาเลย
คงต้องรอดูว่าจะมีใครกล้าเอา cx5 ตัวนี้ไปลุยภูชี้ดาวรึเปล่า ..   ;D

ยินดีกับว่าที่รถใหม่ล่วงหน้าครัช  :)
ผมคิดว่าค่าย Mazda คงคิดคล้ายๆกับ BMW ที่ไม่ต้องการจะเปลี่ยนบุคลิกจากรถขับ2เป็นขับ4เหมือนพวก Subaru และ Audi ครับ จึงได้พัฒนานำเอาระบบไฟฟ้าและอีเล็คทรอนิคส์มาเพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะเฉพาะในกรณีที่ต้องการเท่านั้นเพราะการทำเป็นระบบขับ4ตลอดเวลาจะทำให้ต้นทุนและค่าบำรุงรักษาสูงรวมทั้งอัตราเร่งและความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจะแย่ลงจากการสูญเสียกำลังในระบบเกียร์Center Diffไป ถ้าดูจากรีวิวต่างประเทศ CX5 ใหม่ก็ได้รับคำชมในเรื่องโปรแกรมและความไวในการตอบสนองนะครับ Audi เองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้จึงได้มีการพัฒนาระบบ Ultra Quattro ขึ้นมาใช้กับรถที่ต้องการประหยัดเชื้อเพลิงเหมือนกันครับ
BMW 750E M SPORT