ผู้เขียน หัวข้อ: พี่ๆ ซื้อรถกันราคาเป็นกี่เปอเซนต์ของสินทรัพย์ทั้งหมดที่มีครับ  (อ่าน 8592 ครั้ง)

ออฟไลน์ exsrisaman

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
พอดีจะซื้อรถใหม่ แต่เทียบราคารถที่จะซื้อแล้ว เป็นสัดส่วนที่สูงเหมือนกันเมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์ทั้งหมดที่มี (บ้าน+เงินฝาก+เงินลงทุน)

ปัจจุบันขับ c-segment เแต่ตอนนี้มีลูก 1 คน อายุ 2 ขวบ ที่จริงขับ C-segment ต่อไปก็ได้ แต่ถ้าเปลี่ยนรถใหม่ จะไปมองพวก SUV คิดราคารถใหม่ต่อสินทรัพย์ทั้งหมด คิดเป็นประมาณ 15% เลยรู้สึกว่าเปลืองเหมือนกัน

เลยอยากสอบถามเพื่อนๆ พี่ๆ ว่าพี่ใช้รถราคาเป็นกี่เปอร์เซนต์ของสินทรัพย์กันครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ BigCat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,178
    • อีเมล์
ทำไมถึงอยากเปลี่ยนครับ ถ้าคิดว่าเปลือง?

ผมว่า บางอย่างก็เอามาเทียบกับ "ทรัพย์สิน หรือการลงทุนไม่ได้"

เช่น ถ้าตาม จขกทว่า มีลูก ชาย 1 คน "แล้วอยากขยับรถ แต่คิดว่าอาจจะเปลืองไป"

บางทีสิ่งที่เราจ่ายไป แล้วเราได้คืนมา อาจมากกว่าตัวเงินนะครับ

เช่นเรื่องความปลอดภัย "ของคนที่รัก ที่ไม่สามารถแปลงเป็นมูลค่าได้"

ก็เหมือนหลายๆครอบครัว ที่ทำไมซื้อรถแพงมาก แข็งแรง ระบบความปลอดภัยแน่น เพราะบางอย่างมันได้ใช้ตอนฉุกเฉินนั่นแหละครับ

ส่วนผม  ถ้าสด ก็จะประมาณ 10 % ของทรัพทย์สิน
ถ้าผ่อน ก็ดูcash flow ครับ ไม่ให้ตึงมือมากไป ให้ดอกเบี้ยที่เกิด น้อยกว่า กำไรการลงทุนครับ

ขอให้ได้รถตามที่ชอบครับ ::)

 
Audi TT MK 3FL
BMW z4 e85
GLA 250 FL 2017
Nissan Teana L33 2014
Slk 200 R172 2014
Camry 2.4 2009
Civic dimension MT 1.7
Civic 3 doors รถคันแรก

ออฟไลน์ bodin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 997
ไม่ถึง5%ครับ

รถถือเป็นของเสื่อมราคาของฟุ่มเฟือยไม่นับเป็น ทรัพย์สิน

เวลาผมเก็บตังจะแยกของฟุ่มเฟือยไว้อีกกอง เก็บเงิน 10บาท ฟุ่มเฟือย บาทนึง

ไม่นำเงินอนาคตมาใช้

ออฟไลน์ exsrisaman

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
ทำไมถึงอยากเปลี่ยนครับ ถ้าคิดว่าเปลือง?

ผมว่า บางอย่างก็เอามาเทียบกับ "ทรัพย์สิน หรือการลงทุนไม่ได้"

เช่น ถ้าตาม จขกทว่า มีลูก ชาย 1 คน "แล้วอยากขยับรถ แต่คิดว่าอาจจะเปลืองไป"

บางทีสิ่งที่เราจ่ายไป แล้วเราได้คืนมา อาจมากกว่าตัวเงินนะครับ

เช่นเรื่องความปลอดภัย "ของคนที่รัก ที่ไม่สามารถแปลงเป็นมูลค่าได้"

ก็เหมือนหลายๆครอบครัว ที่ทำไมซื้อรถแพงมาก แข็งแรง ระบบความปลอดภัยแน่น เพราะบางอย่างมันได้ใช้ตอนฉุกเฉินนั่นแหละครับ

ส่วนผม  ถ้าสด ก็จะประมาณ 10 % ของทรัพทย์สิน
ถ้าผ่อน ก็ดูcash flow ครับ ไม่ให้ตึงมือมากไป ให้ดอกเบี้ยที่เกิด น้อยกว่า กำไรการลงทุนครับ

ขอให้ได้รถตามที่ชอบครับ ::)

ขอบคุณมากครับพี่ PANUMAS

ปัจจุบันใช้ LANCER EX มันยังดีอยู่เลยครับ ตั้งแต่ใช้มาไม่มีปัญหาอะไรที่เกี่ยวกับการขับเลย เช่น เครื่องยนต์, เบรก, เกียร์ มีแค่บำรุงรักษาตามปกติ กับเสียพวกจุกจิกจำพวก sensor อะไรแนวนี้ครับ

แต่เห็นว่ารถ 7 ปีแล้ว เลยคิดว่าปีหน้าอาจจะเปลี่ยนรถครับ ไหนๆ จะเปลี่ยนแล้ว ก็เลยมองว่าถ้าเป็น SUV อาจจะเก็บของได้สะดวกขึ้น ปัจจุบัน ลูกนั่ง car seat + พี่เลี้ยง ข้างหลัง ข้างหน้าผม+ภรรยา ครับ ถ้าเป็น SUV พวกของจุกจิกของลูกเก็บไว้ข้างหลังได้ครับ (ที่วางแผนไว้คือจะให้ลูกนั่ง car seat จนอายุ 12 ครับ)

เลยคิดว่าราคา 5% ที่เพิ่มขึ้นของสัดส่วนสินทรัพย์ จะคุ้มไหม เพราะที่จริงๆ คันต่อไปก็ซื้อ c-segment แนวเดิมได้ครับ เพราะโดยมากก็นั่ง 4 คนครับ

ขอบคุณพี่อีกครั้งครับ

ออฟไลน์ exsrisaman

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
ไม่ถึง5%ครับ

รถถือเป็นของเสื่อมราคาของฟุ่มเฟือยไม่นับเป็น ทรัพย์สิน

เวลาผมเก็บตังจะแยกของฟุ่มเฟือยไว้อีกกอง เก็บเงิน 10บาท ฟุ่มเฟือย บาทนึง

ไม่นำเงินอนาคตมาใช้

5% ของผมนี่ผมยังซื้อ Ecocar ไม่ได้เลยครับ T T แต่เห็นด้วยเลยครับว่าควรเป็นสัดส่วนที่ไม่เยอะต่อ total asset ครับ ขอบคุณมากครับ

ออฟไลน์ gorilla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,462
ไม่ถึง 5%  ครับ

ออฟไลน์ Krongbun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
    • อีเมล์
ตอนผมซื้อรถ คิดเป็น 40% ของเงินเดือนเลยครับ  ::)
จำเป็นต้องซื้อ เพื่อพาแฟนไปหาพ่อทุกอาทิตย์ ขนของไปทุกครั้ง

ออฟไลน์ YZA

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 669
ตอนซื้อรถครั้งแรกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว  ก็ 25% ของทรัพย์สินครับ
ตอนนี้ที่เล็งๆไว้ก็ 10%ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 05, 2017, 09:26:09 โดย YZA »

ออฟไลน์ CJ.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,946
5% ถือว่ากำลังดีนะครับ
(ถ้าจำเป็นต้องใช้รถจริงๆอาจจะไม่เกิน 10% แล้วแต่วิธีคิดของแต่ละคนนะครับ?)

อย่างที่คห.บนๆบอก เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แล้วหลังจากนั้นก็มีค่าใช้จ่ายตามมาอีกด้วยครับ
2005 Jaguar XJ Super V8
2005 Mercedes-Benz C230 Kom. Sports Coupe
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Honda CR-V 2.4S
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Lexus IS300h Luxury
2021 Mercedes-Benz GLE 350de 4MATIC Exclusive
2021 Porsche 911 Carrera S

ออฟไลน์ mewzabahl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,622
ส่วนตัวผมคำนวนราคารถตัวเองและของคนที่บ้าน กับทรัพย์สินที่ถือครองอยู่รถมีมูลค่าประมาณ 25%-30% ครับ

ออฟไลน์ james99

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 108
    • อีเมล์
ถ้าคุณเปลี่ยนรถเพราะความจำเป็นและเลือกรถตามการใช้งานจริง นั่นถือว่าคุ้มค่าที่จะจ่าย
แต่ถ้าเปลี่ยนรถเพราะความอยากและเลือกรถที่เกินความจำเป็นเมื่อไหร่ นั่นคือฟุ่มเฟือย
ตามความคิดผม ถ้าจำเป็นและพอจ่ายได้ไม่เดือดร้อนตลอดระยะเวลาผ่อนก็จัดเถอะครับ 555 8)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ผม 20% ของสินทรัพย์ทั้งหมดครับ
ชีวิตผมอยู่บนรถเป็นหลัก เดินทาง 100 กิโลเมตรทุกวัน
ดังนั้นผมเลยเลือกที่จะถมเงินให้กับรถพอสมควร

แต่ผมซื้อสดนะครับ ใช้รถเป็น 10 ปี
ดังนั้น ระหว่างทาง ผมสะสมสินทรัพย์พวกหุ้น ประกันได้อีกมากพอสมควร
เลยไม่ค่อยกังวลครับ

อีกอย่างคือผมค่อนข้างมองราคาขายต่อเป็นหลัก ซื้อพวกกระบะ PPV
ราคามันไม่หล่นแรง เวลาซื้อคันใหม่ก็เติมเงินอีกไม่มาก

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,478
แต่ละคนไม่เท่ากันครับ..

  ผม    ถ้ารวมทรัพย์สินที่เป็นอสังหาด้วย น่าจะ เปอร์เซนต์เดียว ถ้าไม่รวม  ราว ๆ 10/100 

ปล.  ผมยังใช้รถมือสองอยู่ครับ...

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ตอนหนุ่ม ๆ ใช้เงินแทบทั้งหมด ไม่มีเงินเก็บ อยากได้บ้าน ซื้อบ้าน อยากได้รถ ซื้อรถ มีก็ซื้อ ๆ ไป ไม่เป็นหนี้พอแล้ว

พอเริ่มโตอีกนิด รายได้ไม่ถึงสามเท่าของค่าเสื่อมรถไม่ซื้อ  เอาเงินมาเก็บมาลงทุน ไม่เสียดอกรอเก็บซื้อเงินสด

ถ้าแก่อีกหน่อย คงมีเท่าไหร่ก็ใช้ จะตายเมื่อไหร่ไม่รู้ คิดแค่ว่า อย่าเป็นหนี้ อย่าสรางภาระให้คนอื่นที่อยู่ข้างหลัง เอาให้เหลือreserve ไว้ใช้หากต้องแก่งั๊ก ถ้าตายก่อนก็ไม่เป็นไร

ออฟไลน์ kenny523

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 801
ของผมตัดบ้านออกครับเพราะไม่ทำเงิน ส่วนรถถ้าจำเป็นขาดไม่ได้ เช่น สมัยก่อนที่ไม่มีรถใช้ทำงานก็ไม่สน%จะเกิน100ด้วยซ้ำ แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นของฟุ่มเฟือยเพราะไม่ได้ใช้รถทำงานหาเงินแล้วเป็นสนองกิเลสล้านๆก็จะคิด%ไม่เกิน 10% ครับ   
 ปล.เดี๋ยวนี้มี Reverse Mortgage สำหรับบ้านแล้วอาจจะรวมเป็นสินทรัพย์ที่ทำเงินได้นะครับ ยิ่งไม่มีลูกนี่สบายเลย

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,225
    • อีเมล์
เกิน 100% เพราะว่าผ่อนครับ และคนส่วนมากก็ผ่อนรถ ซื้อรถเกินทรัพย์สิน เงินทุน ที่มีอยู่ ครับ

ออฟไลน์ sakchai99

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 16
เกิน 100% ครับ  เพราะผ่อนอยู่(ฮ่าๆ)   ทำงาน 50 เดือนถึงซื้อ อีโค่คาร์ได้

ออฟไลน์ stm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 400
ขึันอยู่กับช่วงอายุครับ ตอนโสดเหิ่งเริ่มทำงาน ไม่มีทรัพย์สิน ผมผ่อนรถ 50 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน ทำให้รู้รสชาดของชีวิตหนี้ครับ 555
ปัจจุบันมีครอบครัว มีลูก วัยกลางคน ต้องวางแผนเกษียน จะใช้เงินซื้อรถไม่เกิน 20 % ของกระแสเงินสด ไม่รวมบ้าน ที่ดิน ครับ

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
ผมตัดบ้านออก ก็ราวๆ 30% ครับของสินทรัพย์ครับ ผ่อน 5 ปี ราวๆ 20% ของเงินเดือนครับ
อาจดูเกินตัวไปหน่อย แต่ผมถือว่าซื้อไว้ขนของลูกกับเพิ่มความปลอดภัยให้กับครอบครัวครับ

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,593
    • อีเมล์
จขกท  มีแนวคิดแบบนี้นี่ดีสุดๆเลยครับ
มีการวางแผนการเงิน และมีวินัยการเงินดี อย่างน้อยตอนแก่คงไม่ลำบาก
ผมคงตอบแทน  จขกท ไม่ได้ว่ากี่%ดี เพราะเงินมันถึงอยู่แล้ว แต่มันมีเรื่องของอารมณ์  ความอยากเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

แต่ถ้า lancerมันยังดีอยู่คิดว่าลากใช้ไปก่อนไม่น่าเสียหลาย เพราะขายตอนนี้กับขายอีก1-2ปี ราคาไม่น่าจะต่างกันมาก พูดง่ายๆคือค่าเสื่อมมันน้อยกว่ารถใหม่ และแทบไม่มีค่าซ่อมมากวนใจ รวมถึงดูท่าทางยังไม่ได้อยากได้มาก ลูกยังเล็ก เดี๋ยวเข้าเรียนแล้วมีรายจ่ายตามมาอีกบาน หรือถ้าอยู่ไปดันติดลูกมาอีกคนนี่รายจ่ายน่าจะตามมาอีกดังนั้น ใช้คันเดิมน่าจะตอบโจทย์

   ส่วนผม ใช้แต่รถมือสองเพราะ ประหยัด ได้รถในฝัน โดยไม่เสียเงินก้อน  ไม่อยากเสียค่าเสื่อมเยอะ ไม่ต้องกู้แบงค์ ไม่เสียดอก และมีรถพอเปลี่ยนให้ใช้ได้เวลาเสีย

 แต่ถ้า จขกท จะเอาคันใหม่ คงเลือกคันที่เราพอใจโดยใช้เงินน้อยสุด10-15%ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 05, 2017, 12:44:21 โดย koko86 »

ออฟไลน์ HappyCar

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 342
ไม่เกิน 10-15% ของสินทรัพย์ทั้งหมด(ไม่รวมบ้าน)ครับ

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
มันอยู่ที่ตัวเรารู้ดีว่าพร้อมแค่ไหนครับ
เมื่อก่อน150%ของสมบัติที่มีผมก็เคยผ่อนมาแล้ว คือมูลค่ารถแพงกว่าสวนยางแปลงแรกที่ซื้อไว้ บ้านก็ยังไม่มี
ก็ยังรอดมาได้นะครับ ถ้ารายรับเรามากพอ
แต่ปัจจุบัน ซื้อแค่ 8%ครับ เพราะเริ่มมีอายุ ไม่รู้จะเหนื่อยเพื่อรถไปทำไม ไม่อยากทำงานเหนื่อยๆอีกแล้ว แต่ก็ยังหยุดไม่ได้
สุดท้าย ถ้าจะสบายๆก็คือ 5%ลงไปแหละครับ เหมาะกับผมที่สุด ยิ่งน้อย%ยิ่งสบายครับ ข่มใจไม่ให้ซื้อทุกวันเหมือนกันครับ เวลาอยากได้ก็สะกดตัวเองไว้ว่ารถมันไม่ช่วยอะไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 05, 2017, 15:05:47 โดย Activehybrid »

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,270
คันแรกเกิน100คันสุดท้าย3ครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,427
ไม่เคยคิดซะที  :P :P :P :P

ออฟไลน์ tatum0022

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 760
    • อีเมล์
อยู่ทีคน ครับว่าใช้รถเพื่ออะไร ของผม รถที่ว่าเป็นสิ่งที่เอาไว้ทำมาหากินด้วย รถกระบะก็มีไว้ส่งของ รถเก๋งก็เอาไว้ไปคุยกับลูกค้า เก็บบิล ฯลฯ ของของผมรถเลยเป็นทรัพย์สินถึง 30% ของทั้งหมดครับ
E220d AMG 17' BBS RI-D
C200 AMG Carlsson add on 12'
Fortuner 2.8 E4 16'
Camry Hybrid 10'
Jazz JP 12'
vios 13'
Preruner 08'
Austin Mini Mark1 1962

ออฟไลน์ Yeahyeahs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 856
คันล่าสุดนี่ก็ ประมาณ 3% ครับ

แต่ถ้าเทียบกับแค่เงินสดก็เยอะกว่านั้นมากครับ

ออฟไลน์ tew

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 547
ปี 2005  ซื้อรถด้วยความจำเป็นเพราะแม่ป่วย ไม่ต้องคิดว่ากี่เปอร์เซ็นต์ มากกว่าทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมด เงินเก็บยังไม่พอเงินดาวน์ ต้องกู้เพิ่ม  เงินผ่อนงวดเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน แต่ก็คุ้ม สามารถรักษาชีวิตแม่ไว้ได้ ปี2015 ซื้อคันที่2 คันนี้ซื้อเพราะอยากได้จริงๆ ก็ราว 5% ของทรัพย์สิน  คันต่อไปคงปี 2025  ก็ตั้งไว้ไม่ให้เกิน5% และต้องเป็นรถEV 

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,997
นาๆจิตตังครับ
บ้านผมตอนซื้อ 1.5 ล.
รถผม 6 แสน
ถ้าผมเอาคันถูกกว่านี้ก็ต้อง Eco car ซึ่งมันไม่ตอบโจทย์การใช้งานผมเลย
และผมก็ไม่ได้ใช้จ่ายเกินตัว บ้านผมอีก 7 เดือนก็หมดแล้ว รถผมหมดไปกลางปีนี้ เงินสดใบ บช. มี 6แสน ที่ดินของพ่อแม่เค้ายังไม่ยกให้ไม่นับ หนี้ก้อนใหญ่ไม่มี มีผ่อนของเล็กๆน้อย 0% เพราะจ่ายสดก็จ่ายเท่ากัน

ออฟไลน์ ptgiant

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
ถ้าเปรียบเทียบในเรื่องทรัพย์สิน..รถยนต์เปนทรัพย์สินที่มูลค่าลดลงเรื่อยๆตามปีแต่จะเปนตัวบอกทางสังคมมากกว่า..เหนว่ารถที่ใช้อยู่ก้อยังดีไม่มีปัญหาอะไรแค่ใช้มา7ปีแล้ว..อนึ่งเรียกว่ามันตกรุ่นแต่ถ้าคุณใช้มันถึง10ปีได้โดยมีเงินเก็บเพิ่มอีก3ปี แล้วลูกโตขึ้นถึงคราวที่ต้องเปลี่ยนจิงๆอันนั้นก้อว่าไปอย่างแต่หากว่าจะเปลี่ยนด้วยเหตุผลส่วนตัวแล้วคิดความคุ้มค่าเม็ดเงินมากเกินไป ผมว่ารอเมื่อพร้อมกว่านี้ดีกว่ารึมีความต้องการมากกว่านี้จิงๆ...อย่างของผมถ้าให้คิดรถที่ซื้อมาใช้ปัจจุบัน (SUV) คิดเปนเปอร์เซ็นต์ของทรัพย์สินผมตีแค่5เปอร์เซ็นต์ แต่เปอร์เซ็นต์ความจำเปนต้องมีอาจจะ70-80เปอร์เซ็นต์ เพราะมีครอบครัวกับลูกเล็กอีก2คน เปนเพียงคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
ตอนปี 2013 ซื้อรถยุโรปคันแรก คิดเป็น 50% ของเงินสดที่มี /คิดเป็น 3% ของทรัพย์สินที่มี
ตอนนี้รถเกือบ 5 ปี                 คิดเป็น 15% ของเงินสดที่มี/คิดเป็น 2% ของทรัพย์สินที่มี