ผู้เขียน หัวข้อ: รถสมัยนี้มีปัญหาเยอะมากกว่าแต่กอนมากมายขนาดไหนครับ  (อ่าน 6467 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kris.J

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 92

ผมกำลังหาข้อมูลรถใหม่อยู่ครับ และแปลกใจทำไมทุกวันนี้ข่าวรถใหม่มีปัญหามีเยอะมาก
ไม่แน่ใจว่าเพราะการมาของโซเชียลเน็ตทำให้เรื่องกระจายได้เร็ว หรือเพราะปัจจัยอื่น เช่น การลดต้นทุนของผู้ผลิต , การใช้งานผิดวิธีของผู้ใช้ , ฯลฯ

อะไรทำให้เราเจอปํญหารถใหม่บ่อยกว่าสิบปีที่แล้วกว่าเดิมมากๆกันแน่ครับ ?

ออฟไลน์ mazda2

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 12
    • อีเมล์
ส่วนใหญ่ระบบมากขึ้น โอกาสมีปัญหาจากระบบก็มากขึ้นครับ
เมื่อก่อนระบบก็น้อย  วัสดุอาจจะดีกว่าก็จริง แต่ระบบไฟต่างๆ น้อยกว่าปัจจุบันเยอะ ทั้งระบบควบคุมต่างๆ

ฉะนั้นแล้ว นอกจากลดต้นทุน ยังมีเรื่องเทคโนโลยีครับ

ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,306
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
เรื่องการลดต้นทุนก็สำคัญครับ อย่างรถอเมริกันบางค่าย ไส้ในเกียร์บางชิ้นส่วนยังเป็นของจีน

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
หลักๆก็เรื่องการลดต้นทุนของทุกค่าย แต่ที่สำคัญกว่าคือ social network ครับ

เมื่อก่อนบางรุ่นปัญหาเยอะกว่านี้อีก แต่ไม่มีsocial networkให้รวมตัวกัน แต่ก่อนPeugeot ขับ100,000โลเครื่องพังกันแล้ว เป็นกันหลายคันด้วย หรือเรโนลด์วิ่งแสนนิดหน่อยเกียร์ออโต้ก็กลับบ้านเก่าเหมือนกัน เอาจริงปัญหามันมีเยอะพอๆกับสมัยนี้แหละครับ แต่การรวมตัวกันค่อนข้างยาก ไม่มีsocial networkให้พิมพ์ระบาย ไม่มีเวปบอร์ด ไม่มีGroup Line การรวมตัวกันทุกอย่างคือใบปลิว หรือ บอกปากต่อปาก ถ้าเป็นทุกวันนี้ป่านนี้รวมตัวกันไปฟ้อง สคบ. แล้วครับ

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
สมัยก่อนรถก็มีปัญหานะครับ ส่วนใหญ่เกิดด้านเทคนิค ไม่ก็ตัวถัง เช่น
 
- Escort MK I พ่อเล่าให้ฟังว่า โช้คหน้ารั่วเก่ง ราคาแพง
- RT100 มีปัญหาเรื่องผุ มุมกระจก บังโคลน
- Mazda 626 GC 4 ประตู เข็มไมล์ชอบเสีย วิ่ง 100 แต่ไมล์ตี 180 แถมเครื่อง 2.0 FE กินน้ำมันโหดมาก
- อีคาร์ หลังคาผุ เพราะซีลกาวจากโรงงานคุณภาพต่ำ เฟืองรอบเดินเบาชอบรูด 

แต่สมัยนี้โชคดีที่ปัญหาด้านตัวถังหมดไปแล้ว หารถทีตัวถังผุยากมาก นอกจากเอาไปวิ่งในทะเลเท่านั้น

แต่ด้านเทคนิคยังคงอยู่ และด้วยวิทยาการไฟฟ้าเข้ามาเต็มคันรถ บวกกับการลดต้นทุน ก็ยิ่งทำให้ปัญหามากเข้าไปอีกครับ

ออฟไลน์ UpToGu

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 210
ลดต้นทุนส่วนนึงครับ ผมมองเรื่องเทคโนโลยีด้วย ยิ่งทำให้อุปกรณ์หรือกลไกของรถ ไม่ทนเหมือนเมื่อก่อน
อย่างลุงผมแกใช้Toyotaแปะยิ้ม ใช้มาตั้งแต่มือ1 จนขายไปเมื่อ3ปีที่แล้ว ซื้อaltis trd มาขับแทน แกพูดว่า ระบบมันซับซ้อนกว่าแปะยิ้ม ดูชิ้นส่วนอะไหล่หลายๆอย่างไม่ค่อยทนแบบเมื่อก่อนและระบบไฟฟ้ามีมากกว่าแปะยิ้มพอสมควร

        รถสมัยนี้ใช้เกิน15-20ปีได้ก็เก่งละครับ ผู้ผลิตเขาก็อยากให้รถของเขาขายได้เรื่อยๆ ก็ต้องใช้วิธีการแบบนี้ ถ้าเจ้าของกระทู้อยากใช้รถยาวๆ คงต้องเลือกรถ ที่มีระบบไฟฟ้าไม่เยอะนัก มีอะไหล่สต็อก มีข่างที่เก่งและสามารถซ่อมจบได้ อย่างที่บ้าน มีรถเก่า viosกับcamry2005 พ่อผมบอก ไม่ขาย ใช้จนกว่าจะตายกันไปข้างนึงอะครับ

       ส่วนเรื่องปัญหา ผมมองว่าเรื่องสื่อสังคมครับ อย่างที่ท่านบนกล่าวไว้  ที่บ้านผมเคยซื้อ hyundai elantraกับhyundai excel เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว มีปัญหาตลอด พัดลมหม้อน้ำ ความร้อน เครื่องฮีท ผมกับคุณแม่ แวะกินข้าวลิงกันตลอดครับ 555 สุดท้าย ใช้มา4-5 ปี ซ่อมหมดไปประมาณ 2-3แสน ซ่อมอู่ด้วยนะครับ ที่ศูนย์ช่างในเวลานั้นไม่เก่งพอ แล้วขายรถทิ้งในราคา 50000 บาท ถ้าเป็นสมัยนี้ เรื่องที่ครอบครัวผมเจอคงได้ลงข่าว แน่นอนครับ 555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 03, 2018, 14:21:17 โดย UpToGu »

ออฟไลน์ Buffy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,494
    • อีเมล์
-ลดต้นทุน
-social Network
-ระบบอิเลคโทนิคต่างๆที่เต็มไปหมด

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,668
คุณต้องดูวิธีการลงสื่อให้เป็น

รถบางคัน ปัญหาเท่า_มด แต่คนโพสโวยวายซะเหมือนรถไฟไหม้ ขึ้น Top Web ต้องห้ามเป็นเดือน
รถบางคัน ปัญหาหนัก ขับไม่ได้ แต่ไม่มีแรงโหวต อะไรแบบนี้ ไม่มีโอกาสรู้
รถบางคัน ปัญหาเกิดแทบจะทุกคัน 50% แต่คนที่ใช้แล้วไม่มีปัญหา ก็ยังจะเชียร์ ทำให้ดูรูปเกมไม่ออก

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
ผมถามกลับว่า  รถอิแต๋น+อีแต๊ก  มีปัญหาเยอะไหม? 

รุ่นใหม่  ใส่เข้าไปเยอะขึ้นเท่าไร  มันย่อมอ่อนไหวยิ่งขึ้นเท่านั้น...

ออฟไลน์ TheZero

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 594
    • อีเมล์
สมัยก่อนมันไม่มี facebook อยากบ่น  อยากร้องต้องฟ้องเอา

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
.
.
ผมว่าคิดไม่ยากเลย
ในเมื่อชิ้นส่วนมันเยอะขึ้น มันก็มีชิ้นส่วนให้เสียเยอะขึ้นแค่นั้นเองครับ ธรรมดาเลย
แต่ส่วนตัวผมใช้ CLA250 มา 4 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเสียเลยนะครับ
ก็ถือว่าใช้ดีเลย ผมโอเคมากๆ

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
ปัญหาเยอะส่วนนึงคือรถสมัยนี้วงจรอายุโมเดลสั้นมากคือราวๆ 4-5 ปีก็เปลี่ยนรุ่นใหม่แล้ว ในขณะที่รถสมัยก่อน 8-10 ปีเปลี่ยนรุ่นกันทีนึงชิ้นส่วนต่างๆออกแบบมาใช้งานในอายุสั้นลงเพราะอายุรถมันน้อยลง อีกทั้งอุปกรณ์ต่างๆก็เยอะมากขึ้นมีโอกาสมีปัญหามากขึ้นเป็นปกติเช่นกัน

.
.
ผมว่าคิดไม่ยากเลย
ในเมื่อชิ้นส่วนมันเยอะขึ้น มันก็มีชิ้นส่วนให้เสียเยอะขึ้นแค่นั้นเองครับ ธรรมดาเลย
แต่ส่วนตัวผมใช้ CLA250 มา 4 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเสียเลยนะครับ
ก็ถือว่าใช้ดีเลย ผมโอเคมากๆ
CLA เพื่อนผมโดนเปลี่ยนเกียร์2คันเลยครับ มันแล้วแต่ดวงเลยว่าใครจะเจออะไรบ้าง

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
ปัญหาเยอะส่วนนึงคือรถสมัยนี้วงจรอายุโมเดลสั้นมากคือราวๆ 4-5 ปีก็เปลี่ยนรุ่นใหม่แล้ว ในขณะที่รถสมัยก่อน 8-10 ปีเปลี่ยนรุ่นกันทีนึงชิ้นส่วนต่างๆออกแบบมาใช้งานในอายุสั้นลงเพราะอายุรถมันน้อยลง อีกทั้งอุปกรณ์ต่างๆก็เยอะมากขึ้นมีโอกาสมีปัญหามากขึ้นเป็นปกติเช่นกัน

.
.
ผมว่าคิดไม่ยากเลย
ในเมื่อชิ้นส่วนมันเยอะขึ้น มันก็มีชิ้นส่วนให้เสียเยอะขึ้นแค่นั้นเองครับ ธรรมดาเลย
แต่ส่วนตัวผมใช้ CLA250 มา 4 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเสียเลยนะครับ
ก็ถือว่าใช้ดีเลย ผมโอเคมากๆ
CLA เพื่อนผมโดนเปลี่ยนเกียร์2คันเลยครับ มันแล้วแต่ดวงเลยว่าใครจะเจออะไรบ้าง

เกียร์เป็นอะไรครับ ชักเสียวๆ ประกันหมดแล้วด้วย

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
ญี่ปุ่นสมัยก่อน เค้าจะทำสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งใหม่ๆออกมาเสมอ
แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด

เครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่นขาดความน่าใช้ไปเยอะ ผมมองว่ารถยนต์ก็เหมือนกัน แต่เราไม่มีตัวเลือกมากนักเลยต้องอยู่กับยี่ห้อเดิมๆ

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
ปัญหาเยอะส่วนนึงคือรถสมัยนี้วงจรอายุโมเดลสั้นมากคือราวๆ 4-5 ปีก็เปลี่ยนรุ่นใหม่แล้ว ในขณะที่รถสมัยก่อน 8-10 ปีเปลี่ยนรุ่นกันทีนึงชิ้นส่วนต่างๆออกแบบมาใช้งานในอายุสั้นลงเพราะอายุรถมันน้อยลง อีกทั้งอุปกรณ์ต่างๆก็เยอะมากขึ้นมีโอกาสมีปัญหามากขึ้นเป็นปกติเช่นกัน

.
.
ผมว่าคิดไม่ยากเลย
ในเมื่อชิ้นส่วนมันเยอะขึ้น มันก็มีชิ้นส่วนให้เสียเยอะขึ้นแค่นั้นเองครับ ธรรมดาเลย
แต่ส่วนตัวผมใช้ CLA250 มา 4 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเสียเลยนะครับ
ก็ถือว่าใช้ดีเลย ผมโอเคมากๆ
CLA เพื่อนผมโดนเปลี่ยนเกียร์2คันเลยครับ มันแล้วแต่ดวงเลยว่าใครจะเจออะไรบ้าง

เกียร์เป็นอะไรครับ ชักเสียวๆ ประกันหมดแล้วด้วย
ถ้าจำไม่ผิดเป็นโรคชักกระตุกคล้ายๆ Fiesta น่ะครับ เอาไปเคลมศูนย์บอกยังขับได้อยู่ใช้ไปก่อนเดี๋ยวถึงคิวแล้วจะแจ้งมีรถมาเคลมเกียร์เยอะครับ เป็นทั้ง CLA,GLA เลย

TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่าอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้คนมองว่ารถสมัยก่อนมันจุกจิกน้อยกว่า ส่วนหนึ่งเพราะว่ารถที่มันจุกจิกถูกแยกส่วนเอาอะไหล่มาใส่คันที่ไม่จุกจิกแล้วครับ ต้องไม่ลืมว่า รถหลายๆรุ่น เหลือจำนวนสมาชิกจากที่ผลิตทั้งหมดไม่ถึง 10% และส่วนมากถ้ามันเหลือรอดมาได้ ก็เพราะคันนั้นมันไม่มีปัญหา ทำให้เจ้าของยอมบำรุงต่อ ไม่ใช่ขายทิ้งให้เจ้าของใหม่รับกรรมไป มันต้องมีเจ้าของใหม่ซักคนที่ทนไม่ได้ ทิ้งมันไปเองนั่นแหละ

ถามว่ารถสมัยก่อนมีปัญหาไหม มีครับ และมีเยอะไม่ต่างจากสมัยนี้หรอก รถอย่าง W124 ตอนออกใหม่ ช่างมองกันว่าจุกจิกกว่า W123 เยอะ เป็นรถห่วยมาก พอมาสมัยนี้กลับถูกมองว่าเป็นที่สุดแห่งความทนทานแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะว่าผลิตกันเกือบ 10 ปี ปัญหาต่างๆมันก็ได้รับการแก้ไข และอีกส่วนหนึ่งคือรถสภาพไม่ดี มีปัญหาเยอะ ส่วนมากถูกแยกอะไหล่มาให้กับคันที่เหลือๆอยู่หมดแล้วครับ มุมมองของคนก็เลยเปลี่ยนไป

แต่ถ้าถามว่ารถ 20 ปี ก่อน ปัญหาน้อยไหม ผมว่าไม่นะ คุณภาพการผลิตรถยนต์มันดีขึ้นทุกๆวันด้วยซ้ำ

แต่แน่นอนไม่ใช่ทุกยี่ห้อที่จะคงรักษามาตรฐานการผลิตเอาไว้ได้ มันมีบางยี่ห้อนั่นแหละครับ ที่ตัดสินใจลดต้นทุนเพื่อที่จะดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อมากขึ้น จำกันได้ไหมครับ มียุคหนึ่งสมัยหนึ่ง Mercedes Benz เอารถขนาดเท่า Corolla มาขาย แล้วราคาแพงกว่าตั้ง 3 เท่า แต่คนก็ยังซื้อเพราะว่ามันเป็นที่สุดของความทนทาน วิ่งได้ 3-4 แสนกิโลเมตรได้โดยที่สภาพยังคงเนียนกริ๊บ? ในปัจจุบัน Benz ที่ขนาดเท่ากับ Civic ราคาแพงกว่าแค่ 2 เท่า จนคนหันไปสนใจที่จะซื้อกันมากขึ้น

หลายๆท่านก็ตั้งคำถามว่า ถ้าในเมื่อส่วนต่างราคามันเหลือน้อยเท่านี้ เลื่อนขึ้นไปเอารถยุโรปเลยดีกว่าไหม? โดยแท้จริงแล้ว อย่าลืมว่า ส่วนต่างราคาที่ลดน้อยลง มันไม่ได้ได้มาฟรีๆนะครับ แล้วอย่าลืมด้วยว่า ในบ้านเกิดของมันจริงๆ รถหลายๆรุ่น ส่วนต่างราคากับรถญี่ปุ่น น้อยกว่าในไทยมาก และมันก็มีเหตุผลด้วยที่คนจำนวนมากยังซื้อรถญี่ปุ่นแทนที่จะไปเลือกรถยุโรปรุ่นล่างสุด

สมมติ CLA200 อ๊อปชั่นโล้น ไม่มีอะไรเลย ขายคันละ 3 ล้าน แต่ว่าระบบไฟอยู่ไปได้ 25 หรือ 30 ปี โดยไม่มีปัญหาเลย จะมีใครซื้อไหมครับ? หลายคนน่าจะอยากได้นะ เพราะมันจะเป็นสิ่งที่ 190E เคยเป็นเมื่อ 30 ปี ที่แล้วเลย แต่ผมกลับคิดว่าคนทั่วไปเขาไม่สนใจหรอก

เพราะว่าสิ่งที่สำคัญมากกว่าในสมัยนี้ มันคือ Perceived Quality ไม่ใช่คุณภาพของตัวรถที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อความทนทานจริงๆ รถ Mercedes Benz เจอการทำ Brand Dilution มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี แล้ว และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้แก้ไขอะไรให้มันดีขึ้นเท่าไหร่เลย

ความทนทานมันสำคัญไหมละครับ ถ้าคนที่ซื้อ BMW ส่วนมาก พอหมด BSI แล้วก็ขายเลย?

ตราบใดที่คนยังสนใจมองการลดต้นทุนอยู่แต่เฉพาะที่คุณภาพที่จับต้องได้ พวกคุณภาพของพลาสติกบุนิ่มๆข้างใน หรือว่าอ็อปชั่นระบบไฟฟ้าที่ให้มาเยอะๆโดยที่ราคาไม่ได้เพิ่มขึ้น ผมว่าเราคงไม่มีรถอย่าง 190E หรือ W124 ให้เลือกใช้กันแล้วละครับ รถพวกนี้มันเป็น exception not the rule ในยุคของมันด้วยซ้ำ แล้วบริษัทที่ผลิตมันขึ้นมาก็ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว

ถ้าอยากได้รถไม่จุกจิกก็ไปซื้อ Toyota ครับ ข้างในแหยะๆ แต่เครื่องพี่ทำมาให้ซ่อมง่าย ดูแลง่าย ไม่พังง่ายๆ ผมว่าก็เป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ดีนะ

ถ้าคุณอยากได้คุณภาพ คุณก็ต้องยอมจ่ายนั่นแหละครับ ของทุกอย่างมีราคาของมันในโลกของทุนนิยม

ก็รอดูกันไปอีก 20 ปี ละกันครับ รถบางรุ่นก็จะเหลืออยู่มาก ในขณะที่บางรุ่นก็จะเหลืออยู่น้อยครับ มันเป็นเรื่องปกติ

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,195
    • อีเมล์
สมัยก่อน ก็จุกจิกนะ แต่ จะสื่อได้ก็คือ เขียนจดหมายไปลงหนังสือรถ หรือ หนักๆก็ฟ้องร้อง ซึ่งก็จะรู้กันไม่กี่คน ในวงๆหนึ่งเท่านั้น

Volvo 960 2.4 เจอทั้งแหวนหัก ตั้งแต่ป้ายแดง ต้องลากกลับ ตามด้วยเกียร์พัง 2 รอบ ภายใน 1 แสนกม. แล้วก็ระบบไฟจุกจิก นั่นนี่ อีก ช่วงล่างก็ไม่ทน

Peugeot 405GR นี่ก็ ขับไป สะอึกไป ยนตรกิจบอก คาร์บิวพัง ต้องเปลี่ยนคาร์บิว 3 หมื่นกว่าบาท เมื่อตอนปี 89 !!! ตามด้วย แอร์เป็นน้ำแข็ง เสียงก๊อกแก๊ก ไฟเตือน STOP โชว์โดยไร้สาเหตุ

Lancer E-car 1.5GLXi กระจกไฟฟ้าพัง กดลงแล้วไม่ขึ้นอีกเลย ช่วงล่างหลังดังวิ่งเข้าออกศูนย์อยู่หลายรอบ มอเตอร์เดินเบาพัง รถเบาดับ

ถ้าเทียบกับพวกข้างบน ผมกลับมองว่า เจ้า 4 - 5 คัน ที่ผ่านมือผมมาในยุค 10 ปีหลังมานี้ ทนกว่ารถเก่าๆที่เคยใช้มาเยอะมาก ไม่จุกจิก ไม่งอแง ซ่อมจบ ครับ

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
ยิ่งรถมีระบบอีเล็กทรอนิคมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งจุกจิกมากขึ้นเท่านั้นครับ
สมัยก่อนมีแต่แมคคานิคอย่างเดียว กลไกก็ไม่ได้ออกแบบให้ซับซ้อน
รถมีปัญหาก็อาศัยสังเกตอาการเอา ไฟเตือนมีเฉพาะที่จำเป็น พวกความร้อนขึ้น ไฟขาด น้ำมันเครื่องขาด ฯลฯ
แต่เดี๋ยวนี้ ดูหน้าปัดรถสิครับ สัญลักษณ์เตือนเต็มไปหมด เอะอะก็เตือนละ เพื่อให้ง่ายต่อการซ่อมแซม แต่ก็นะยิ่งมีหลายระบบ ก็ยิ่งต้องซ่อมมากขึ้น

แต่ยังไงเทคโนโลยีพวกนี้ มันก็มาพร้อมกับความปลอดภัยที่มากขึ้น ยังไงก็คงหลีกไม่พ้นหรอกครับ

บ.รถยนต์เดี๋ยวนี้ก็ออกแบบรถให้ไม่ทนมากเท่าสมัยก่อน เน้นอัดเทคโนโลยีเข้าไป สมัยนี้รถยนต์ใช้ให้เกินระยะเวลารับประกันก็พอแล้ว สังเกตสิครับ ถ้ารถเกิน 5 ปี หรือ แสนโลปุ๊บ จะต้องมีอะไรพังบ้าง 5555

ออฟไลน์ Krongbun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
    • อีเมล์
ญี่ปุ่นสมัยก่อน เค้าจะทำสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งใหม่ๆออกมาเสมอ
แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด

เครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่นขาดความน่าใช้ไปเยอะ ผมมองว่ารถยนต์ก็เหมือนกัน แต่เราไม่มีตัวเลือกมากนักเลยต้องอยู่กับยี่ห้อเดิมๆ

ใช้ทนเหมือนเมื่อก่อน บริษัทก็ล้มละลายสิครับ จะไปขายใครต่อได้  ::)
รถยนต์ก็เหมือนกัน ให้มันเริ่มพังตอนหลัง 3 ปี (หมดประกัน) ก็ขายอะไหล่ต่อไป
หลัง 5 ปี พังกระจาย คนเบื่อก็ออกคันใหม่ ขายคันใหม่ได้อีก แจ่มเลย ช่วง all new ด้วยยิ่งยั่วใหญ่ 8)

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
คิดมาก  แง่ร้ายไปป่ะพี่

กว่าบริษัทรถจะสร้างชื่อเสียง สร้างความน่าเชื่อถือมา มันยากแค่ไหน
ใครเขาจะเจตนาทำของไม่ดีออกมาขายให้มันเสียชื่อกันล่ะ

พี่ว่าบริษัทพวกนี้จะทำของที่เสียง่าย ๆ ออกมาเพื่อขายอะไหล่ยังงั้นเหรอ?
เอาง่าย ๆ เลยนะ ถ้ารถคันที่พี่ใช้อยู่เนี่ย ไม่ทน เดี๋ยวเสื่อม เดี๋ยวเสีย เดี๋ยวหัก
เวลาที่พี่จะซื้อคันใหม่ พี่จะยังซื้อยี่ห้อเดิมอีกรึเปล่าล่ะ     ใช่มะ

เรื่องปัญหาก็เหมือนกัน ผมว่าเราอยู่ในโลกปัจจุบัน รับรู้ได้ยินได้ฟังปัญหาของรถปัจจุบัน
ก็เลยคิดไปว่า รุ่นเก่า ๆ มันไม่ค่อยมีปัญหามากกว่า

ผมว่าคนส่วนใหญ่จะมองว่า ของใหม่มันไม่ทน มันบอบบาง สู้พวกรุ่นเก่า ๆ ไม่ได้

อย่างวันก่อน ผมล้างรถอัลติสหน้าหมูปี 2002 ของคนในบ้านอยู่ ก็มีตาลุงแถว ๆ บ้านบอกว่า
รถเก่า ๆ แบบนี้ดีนะ ทนทานดี ไม่เกเร ไม่จุกจิก แข็งแรงดีด้วย

แต่พี่ๆ ผมก็บอกว่า ตอนปี 2002 ที่ถอยป้ายแดงมา คนส่วนใหญ่ก็บอกว่า เครื่อง VVT-i ไม่ดีหรอก
ปัญหาเยอะ มันทนสู้ 4A-FE แบบ 3 ห่วงไม่ได้หรอก

แต่ตอนที่เขาถอย 3 ห่วง ปี 92 คนส่วนใหญ่ก็บอกอีกว่า หัวฉีด EFI ไม่ทนหรอก ปัญหาเยอะ
สู้แบบคาร์บู อย่าง 4A-F ในโดเรม่อน AE92 ไม่ได้

แต่อีก ตอนที่ AE92 ออกใหม่ ๆ ชาวบ้านก็บอกว่า เครื่อง 16 วาล์ว ไม่ดีหรอก ปัญหาเยอะ
ตั้งวาล์วกันทีเซ็งเลย สู้พวก 8 วาล์วเดิมๆ ไม่ได้

ผมว่ามันเป็นที่คนแหละฮะ  เพราะฉะนั้น เดี๋ยวตอนที่เราคุยกันในปี 2030 ก็จะบอกว่ารถสมัยนั้น
ปัญหาเยอะ สู้รถสมัยปี 2017-2018 ไม่ได้หรอก  วนลูปกันไปฮะ

ออฟไลน์ AboveGod

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,039
มีปัญหามากครับ อยากได้เกียร์ธรรมดาไม่มีขาย เอ้าคนละประเด็น 555555

ออฟไลน์ liveshow

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,751
  • รถไม่แรงแต่แซงยาก
ถึงจะมีปัญหาแต่ก็วิเคราะห์ ง่ายกกว่ามะก่อนเยอะแล้วละครับ มีเครื่องมือช่วย ใช้ไปใช้มา เดียวมันต้องพังแน่ๆแหละ
ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
หลักๆน่ามาจากระบบที่มากมายกว่าสมัยก่อนเยอะ รวมทั้งการสื่อสาร ช่องทางการระบายปัญหาของเจ้าของรถ