ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องข่าว Mazda คดีพลิก จริงหรือเปล่าครับ  (อ่าน 12414 ครั้ง)

ออนไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,537
Re: เรื่องข่าว Mazda คดีพลิก จริงหรือเปล่าครับ
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: มกราคม 10, 2018, 08:00:02 »
อืม อ่านความเห็นมาหลายท่าน ดูเหมือนจะพูดแนวทางเดียวกันว่า ช่างศูนย์ Mazda แนะนำว่าควรวิ่งระดับ 140+ km/h ถึงจะเกิดการเผาเขม่า

อันนี้คือช่างศูนย์หรือในบอร์ดคลับวิเคราะห์กันมาเอง เพราะระบบของรถยุโรปแค่วิ่งสัก 100-110 km/h แต่เหยียบคันเร่งลงไปมากกว่าปกติวิ่งเกิน 2,000+ rpm หน่อย ระบบเผาเขม่าก็ทำงานแล้วนะครับ ไม่ต้องเค้นไป 140+ km/h อะไรขนาดนั้น
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
Re: เรื่องข่าว Mazda คดีพลิก จริงหรือเปล่าครับ
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มกราคม 10, 2018, 09:26:59 »
วิ่งเผาเขม่า 160 ป๊าด ความเร็วระดับนั้นพลาดนิดเดียวนี่หมายถึงชีวิตเลยนะเนี่ย
ความเข้าใจผม วิ่งด้วยความเร็วไม่น่าเกิน 100 ก็น่าจะทำงานได้แล้วนะครับ
ดูๆแล้ว น่าเป็นห่วงคนใช้ตัวดีเซลแฮะ หวังว่ามาสด้าจะมีคำตอบเรื่องปัญหาน้ำดันไวๆ ครับ

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
Re: เรื่องข่าว Mazda คดีพลิก จริงหรือเปล่าครับ
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: มกราคม 10, 2018, 16:19:25 »
ลืมตอบไปเรื่องเผาเขม่า จริงๆมันไม่เกี่ยวกับความเร็ว แต่เกี่ยวกับรอบเครื่อง แค่วิ่งให้รอบมันค่อนข้างจัดก็พอ แต่ที่ช่างบอกความเร็วประมาณ 160 คงหมายความว่าวิ่งให้รอบถึงที่เกียร์ d คือความเร็วประมาณ 160 ความจริงถ้าอยากให้ช้ากว่านั้นใช้เกียร์ m แล้ววิ่งลากรอบเอาก็ได้ ทำง่ายกว่าด้วย

ออฟไลน์ bobbyroll

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 62
Re: เรื่องข่าว Mazda คดีพลิก จริงหรือเปล่าครับ
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มกราคม 10, 2018, 23:46:26 »
จากใจผู้ใช้ มาสด้า CX-5 Diesel ตัวจริงนะครับที่เครื่องยนต์มีปัญหาน้ำดันมาแล้วและเปลี่ยนเครื่องยนต์มาแล้วขอเล่าประสพการณ์และความรู้สึกให้ทุกท่านได้ทราบนะครับ รถผมเริ่มมีปัญหาน้ำดันที่ประมาณ 90,000 กิโลเมตร น้ำในหม้อน้ำแห้งแต่หม้อพักน้ำๆล้นและเมื่อติดเครื่องยนต์มีฟองอากาศออกที่ถังพักน้ำและถ้าเปิดฝาหม้อน้ำดูก็จะมีฟองอากาศออกที่ฝาหม้อน้ำตลอดเวลา(นี่คืออาการที่เขาเรียกกันว่าน้ำดันครับ) เอารถเข้าศูนย์แก้ไขอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์กว่าช่างแจ้งรถเสร็จแล้วไปรับรถมาใช้รีบไปซื้อ ODB มาติดทันทีกลัวเครื่องจะ Overheat ไปอีกโดยไม่รู้ตัว (การซ่อมครั้งนี้ช่างไม่ได้เปลี่ยนเครื่องยนต์ให้ครับไม่ทราบว่าทำอะไรให้บ้างช่างก็ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดสอบถามก็ไม่ค่อยจะได้ความกระจ่างสักเท่าไหร่ครับ) หลังจากติด ODB ก็พบว่าบางช่วงการใช้งานความร้อนน้ำหล่อเย็นสูงมาก 103-105 องศา C ช่วงที่ทำงานปกติจะอยู่ที่ประมาณ 80 กว่า - 95 องศา C ใช้งานมาจน 120,000 กิโลเมตร อาการเก่าก็กลับมาอีกเอารถเข้าศูนย์อีกครั้งๆนี้แจ้งช่างช่วยจัดการให้จบด้วย(ช่วงนี้ปัญหาน้ำดันเริ่มมีสูงขึ้นมีรถเข้าศูนย์เพราะปัญหานี้มากขึ้นข่าวก็เริ่มดัง) ใช้เวลาในการรอเปลี่ยนเครื่องยนต์ 2 เดือนกว่าครับเลยต้องหาซื้อรถมือสองมาใช้งานเพิ่มอีกคัน(จริงๆก็อยากได้รถ 2 ประตูไว้ใช้งานด้วยเลยถือโอกาสบอกคนที่บ้านว่าจะไม่มีรถใช้งานอีกนาน) หลังจากรถเสร็จคราวนี้เปลี่ยนเครื่องยนต์ Shot box ไม่รวมส่วนประกอบภายนอก มีเพิ่ม Turbo อีกหนึ่งตัว รถออกมามีอาการแถมมาคือลูกปืนล้อเสียงหอนดังมาก ถามช่างราคาลูกปืนล้อหน้าข้างละเท่าไหร่ ช่างแจ้ง 14,000 บาทต่อข้าง ผมตัดสินใจไม่เปลี่ยนเอามาเปลี่ยนข้างนอกวิ่งหาอะหลั่ย มีอะหลั่ยเทียบ 3000 บาทครับไม่ได้ใช้รถเลยเนื่องจากรอเอาเข้าอู่เครมประกันเรื่องสีรถครับคุณภรรยาเอาไปชนของที่มีคนทำตกบนทางด่วนช่วงกลับจากชลบุรี เสียเวลาไปอีกเกือบเดือนรับรถกลับวันที่ 23 ธันวา ออกเดินทางขึ้นเชียงรายเย็นวันที่ 24 ธันวา วิ่งถึงลำปางประมาณตีหนึ่งกว่าๆตัดสินใจขับต่อไปแวะหาปั๊มที่พะเยานอนพัก(เป็นการตัดสินใจที่แย่มากครับครั้งนี้) ช่วงจากลำปางมาพะเยาเป็นทางเขาปรากฏว่าไม่ค่อยมีรถวิ่งเลยนานๆจะเจอรถวิ่งสวนสักคันเจอสิบล้อหรือรถพ่วงบนเขาจะอาศัยเกาะตูดไปก็ความเร็วต่างกันมากเหลือเกินไม่ไหวพอดีเจอรถปิ๊กอัพเจ้าถี่นตามมาเลยปล่อยแซงแล้วอาศัยเกาะตูดไปช่วงนั้นมองหน้าปัทม์อ้าวซวยละไฟอะไรกระพริบอยู่ ไฟ DPF ครับตัดสินใจไม่จอดแน่นอนขับตามปิ๊กอัพดูครามร้อนอย่างเดียวเลยบนเขาด้วยบางช่วงความร้อนขึ้นถึง 105 องศา C ยังไงก็ไม่จอดแน่นอนครับพังเป็นพังแล้ว ถึงพะเยาโดยปลอดภัยวันรุ่งขึ้นเอาเข้าศูนย์เชียงรายเลยครับพร้อมแจ้งทางศูนย์กรุงเทพที่เปลี่ยนเครื่องให้ทราบ หลังจากศูนย์เชียงรายจัดการเผาเขม่าให้ลบไฟ DPF ให้ช่างบอกว่าให้วิ่งเร็วๆหน่อยจะเป็นการไล่เขม่าไปด้วยผมถามว่าต้องใช้ความเร็วเท่าไหร่ในการไล่เขม่าผมบอกว่าวิ่งมาก็ไม่ต่ำกว่า 120 อยู่แล้วช่างบอกประมาณ 160 ตายละกูกว่าจะกลับ กทม จะโดนใบสั่งกี่ใบเพราะไล่เขม่าว๊ะเนี่ยหรือจะต้องมีอุบัติเหตุเพราะต้องวิ่งไล่เขม่า รับรถมาวิ่งเที่ยวเชียงราย แม่สาย แม่สลอง เดินทางจากเชียงรายเข้าเชียงใหม่ วันที่ 27 ธันวา ฝนตกทั้งวันทำความเร็วไม่ได้มากถึงจุดเผาเขม่าแน่นอน 100-120 ก็บุญแล้วบนเขาฝนก็ตก ก่อนเข้าเมืองเชียงใหม่ไฟ DPF ก็กลับมาอีกครั้งติดกระพริบตัดสินใจไปต่อไม่สนใจละไม่เอาเข้าศูนย์ที่เชียงใหม่แล้ววิ่งเที่ยวเชียงใหม่และเดินทางกลับวันที่ 29 ถึง กทม โดยปลอดภัย(ลุ้นไปตลอดทางจะถึงบ้านไหมเนี่ย) เป็นไงครับถ้าท่านเป็นเจ้าของรถมาสด้า CX-5 เดินทางไปเที่ยวแล้วเจอเหตุการณ์อย่างนี้ท่านจะมีความสุขกับการไปเที่ยวที่ต้องลุ้นตลอดเวลาอย่างนี้ไหมครับ เปลี่ยนเครื่องยนต์แล้ว เขาขยายเวลารับประกันเป็น 6 ปีหรือ 180,000 กิโลเมตรแล้วแต่อะไรถึงก่อน ผมเปลี่ยนเครื่องที่ 120,000 อีก 60000 กิโล หมดประกัน หมดก่อน 6 ปีแน่นอน แล้วหลังจากนั้นละครับ? มาสด้าไม่เคยออกมาชี้แจงรายละเอียดเลยว่าสาเหตุที่น้ำดันเกิดจากอะไร เครื่องยนต์ใหม่ที่เปลี่ยนให้ได้แก้ไขสาเหตุน้ำดันแล้วหรือยัง สมมุติถ้าไม่ได้แก้ไขรถผมคงจะน้ำดันอีกทีที่ประมาณ 210,000 - 220,000  กิโลเมตรแล้วผมจะทำอย่างไรผมจะหาความมั่นใจอะไรได้บ้างว่าหลังจาก 180,000 กิโลเมตรมันจะไม่มีปัญหาถ้ามันมีปัญหาผมต้องเสียเงิน 2-3 แสนบาทครับค่าเปลี่ยนเครื่องยนต์ หรือถ้ามาสด้าได้แก้ไขปัญหานี้กับเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนให้ใหม่แล้วก็ออกมาชี้แจงหน่อยครับลูกค้าจะได้มั่นใจที่จะใช้รถคุณต่อไป หรือเราจะซื้อรถมาแล้วใช้แค่ 200,000 กิโล มาสด้าช่วยออกมาชี้แจงให้ลูกค้าทราบบ้างเถอะครับลูกค้าควรจะทำอย่างไรหลังจากหมดประกันแล้วหากเกิดปัญหาน้ำดันขึ้นมาอีกครับ คุณเล่นเงียบอย่างเดียวแล้วไล่เปลี่ยนเครื่องแล้วปล่อยให้หมดประกันไปจบหน้าที่ของคุณแล้วคุณคิดจะทำอย่างนั้นใช่ไหมครับ ส่วนลูกค้าก็รอลุ้นไปว่ามันจะดันอีกหรือเปล่าถ้าดันก็เตรียมไว้ได้เลยครับ 2-3 แสนบาทครับ แล้วอย่านี้ใครจะซื้อรถมือสองครับ ตอนนี้ราคามือสองก็เหลือ 7-8แสนเองครับ ผมเป็นสมาชิกอยู่ในทั้ง 2 เพจของ Facebook มาสด้าครับและผมก็เป็นสมาชิกอยู่ใน Headlight Mag รุ่นแรกๆนะครับ ทราบถึงกฏระเบียบของ Headlight Mag ดีผมมาเล่าประสพการณ์ให้ฟังนะครับหากเห็นว่าสิ่งที่ผมเขียนไม่ถูกต้องลบออกได้เลยนะครับไม่ได้ต้องการสร้างปัญหาให้ Headlight Mag คุณ จิมมี่ คุณ แพน และคณะผู้จัดทำครับ ขอบคุณครับ

เครียดแทน...ให้ขับเร็วเพื่อไล่เขม่า...ได้ไปวัดก่อนพอดี...

ออฟไลน์ coolcarrera

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 518
Re: เรื่องข่าว Mazda คดีพลิก จริงหรือเปล่าครับ
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มกราคม 11, 2018, 17:12:28 »
อย่าให้เครื่องจักรคุมเราครับ
มันต้องลากรอบสูงเพื่อเผาเขม่าสะสมใน dpf อันนี้จริง
แต่ก็มีวิธีคืออย่าไปลากรอบในเกียร์ D แต่ให้ตบลงเกียร์ต่ำแทน จะ 3 หรือ 4 ก็แล้วแต่ แต่ต้องอยู่ในความเร็วที่เราปลอดภัย

รอบ 3000 ที่เกียร์ 4 โหลดอาจจะไม่เท่ารอบ 3000 ที่เกียร์ 6 แต่การเผาเขม่าเกิดขึ้นได้

ลองดูต่างประเทศที่กฎหมาย speed limit แรงๆก็ได้ ไม่มีใครไปเสี่ยงซัด 160 เผาเขม่าแน่ๆ เผลอๆจะเจอคุกเอาครับ
E3, D15 Carb, 2E
F22B VTEC, J30A VTEC
1TR, 1NZ
D4CB
1GD, R18