ผู้เขียน หัวข้อ: // First Impression : ทดลองขับ Nissan Note e-Power เรี่ยวแรงไม่ใช่ปัญหา… //  (อ่าน 22091 ครั้ง)

ออฟไลน์ palma

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,128
    • อีเมล์
หลักการนี้ เท่าที่ทราบก็ไม่ได้ใหม่นะครับ ใช้กันอยู่ในหัวจักรรถไฟ ดีเซลไฟฟ้า ใช้กันมานานมากแล้วครับ  อึด ทน ถึก

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2

แต่ใน note ไม่แน่ใจเรื่องความเสถียรและทนทาน แต่ไม่น่าจะมีปัญหานะครับ
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)

ออฟไลน์ aum_nattha

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 333
น่าสนครับ เอามาใช้วิ่งในเมือง ดึงวื๊ดๆ พอหอมปากหอมคอ  ;)
MB E280 V6 3.0 AV W211 FL
MB E280 I-6 W124
LEXUS RX300 V6 (XU35)
Citroen Xantia 2.0i Exclusive
Volvo S 90 (960) 3.0L I-6
BMW E12 520 M20 Inline 6
Ford Focus 1.8Ghia
Honda Jazz GE

Bike : Honda Goldwing F6B 1,800 Boxer 6 สูบ

ออฟไลน์ bbbasty

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 152
ผมว่าบางคนกำลังหลงประเด็นนะ พี่แพน เขาเอาไปเทียบกับ Civic RS, Fiesta Ecoboost เพื่อให้ดูว่าอัตราเร่งในช่วงที่คนส่วนใหญ่ใช้งานบ่อยๆเนี่ย มันอยู่ในระดับที่เหนือกว่า B-Seg และเทียบเท่าหรือเหนือกว่า C-Seg หลายๆรุ่น ไม่ได้จะเอา Note-e ไปวิ่งแข่งกับ Civic RS หรืิอ Fiesta-Ecoboost ซะหน่อย

ปล. บาง คห ดูลักษณะการ comment ก็จะรู้เลยว่า ขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เป็นประจำ ไม่ใช่แค่ในกระทู้นี้หรอก อ่านผ่านๆมีประมาณว่า ถ้าซื้อ 1.5 turbo มาแล้วขับตามกฎหมายเสียดายรถเปล่าๆ (นึกในใจเค้าคิดว่าเค้ากำลังขับ Ferrari อยู่หรอ) ส่วนตัวก็ขับรถคุณพ่อบ่อยๆ C350e ต่างจังหวัดเต็มที่ก็ 120 ก็ประหยัดดี แบบนี้ผมควรเสียดายรถเปล่านะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 12, 2018, 11:32:58 โดย bbbasty »
04' MB W203 C180 Kom
05' Land Rover Freelander 2.0 TD4
08' MB Vito 2.2 L4
09' MB W204 C200 Kom
10' Toyota Camry HV ACV40 2.4
12' MB W212 E250 CGI
13' Toyota Prius 1.8 Top Grade
16' Proton Preve Premium 1.6 CFE
17' Mazda 2 1.5 XD Sports High Plus L
17' MB C350e AMG Dynamic

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,016
  • FF1.5SMG


การทดสอบอัตราเร่งผมว่าปัจจัยเรื่องอากาศเย็นไม่น่าจะมีผลนะครับ
เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าไม่ต้องใช้อากาศไปเผาไหม้นะ
ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนๆจากแบตเตอรรี่เลย
ดังนั้น ผมว่าอัราเร่งถ้าทำใหม่คงไม่มีผลอะไรมาก


อากาศร้อนเย็นผมคิดว่ามีผลต่อมวลอากาศและประสิทธิภาพการใช้น้ำมันและการเผาไหม้ของตัวเครื่องนะครับ  ;D
ถูกครับ อากาศเย็นมีผลต่อประสิทธิภาพเครื่องยนต์
แสดงว่าคุณยังไม่เข้าใจการทำงานของ e-power ลองไปอ่านดูการทำงานของโน็ตดีๆครับ
เครื่องมีหน้าที่ปั่นไฟอย่างเดียว แต่กำลังที่ใช้ในการขับเคลื่อนมันใช้มอเตอร์เพียวๆครับ
และการทำงานของเครื่องตัวนี้คือปั่นไฟด้วยรอบคงที่ ไม่มีผลต่อการขับเคลื่อนใดๆเลย
ดังนั้น ปัจจัยเรื่องอากาศเย็นไม่มีผลต่ออัตราเร่งของโน็ตเลย
ผมจึงคิดว่า อากาศเย็นไม่ได้ทำให้มอเตอร์หมุนเร็วขึ้น
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ VVC_77

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 94
    • อีเมล์
ปัญหาใหญ่สุดคือ top speed มันเป็นจุดอ่อนรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ขนาดไฮบริดอย่างแคมรี่ แอคคอร์ดมีเครื่องช่วยยังได้แค่ 180 กว่าๆเอง

ผมลองหาข้อมูลมาทุกที่ หา top speed เจ้านี่ไม่เคยเจอเลยในยูทูปก็หาไม่ได้ ถามเจ้าหน้าที่ในงาน expo ก็ตอบได้ประมาณ 140 ทำไมนิสสันถึงพยามปิดข้อมูลตรงนี้เหลือเกิน

ใครจะว่าแรงแค่ไหนก็ตาม หรือไปเทียบ fiesta ecoboost หรือ Civic 1.5 ก็แล้วแต่ พวกนั้นวิ่งแตะ 200 ขึ้นทั้งนั้น ถ้าคันนี้วิ่งได้แค่นี้ซื้อมาหวังแรงมันก็เอาไปวิ่งไล่ได้แค่ brio เท่านั้นแหละ คนซื้อรุ่นนี้คงหวังแรงมั่งล่ะ แต่ซื้อมาวิ่งได้ไม่ถึง 160 เป็นผมยอมไปขับ mg zs ยังดีกว่าเลย

ถนนเมืองไทย คุณจะวิ่ง แตะ 200 ได้สักกี่ กม.?
แล้วกว่าจะ ใช้เวลา ไต่ระดับความเร็วกว่าจะถึง ความเร็ว 200 กี่ นาที?

ผมว่า มันไม่ค่อย Practical สักเท่าไหร่

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
ถ้าราคามาซักไม่เกิน 750,000 ผมว่าน่าสนใจ เอาไว้ใช้ขับในเมือง
เพราะปกติทุกวันนี้ ใช้ City cng ก็ขับไม่เกิน 140 อยู่แล้ว รถเล็ก เกินกว่านี้ไม่ปลอดภัย แถบไม่มีแรงด้วยแหละ 555 ดังนั้น 150 ไม่เกิน ไม่ใช้ปัญหา

ส่วน อีกคัน เอาไว้ขับเร็ว 160 up ทุกวัน

ผมว่าเราต้องแยก การใช้งานให้ถูกต้อง เอาจริงๆ คนขับปกติๆเนี่ย ต่อให้วิ่งต่างจังหวัดก็ไม่่น่าจะเกิน 150 นะ ผมว่า

แต่ถ้าประหยัดได้แค่ 19 กม/ลิตร มันน้อยไปนะครับ แบบนี้ 2 1.3 ก็ทำได้ 
จริงๅ เครื่องที่ปั่นไฟ สัก 600 cc ก็น่าจะเพียงพอแล้วนะผมว่า  1.2 มันใหญ่ไป ต่อให้หมุนรอบต่ำๆ มันก็ยังกินน้ำมันนะ 600 cc ไดสักใกล้เคียง 40 กม/ลิตร ถึงจะแจ๋ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 12, 2018, 11:32:07 โดย mothsan »

ออฟไลน์ cipher

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
ปัญหาใหญ่สุดคือ top speed มันเป็นจุดอ่อนรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ขนาดไฮบริดอย่างแคมรี่ แอคคอร์ดมีเครื่องช่วยยังได้แค่ 180 กว่าๆเอง

ผมลองหาข้อมูลมาทุกที่ หา top speed เจ้านี่ไม่เคยเจอเลยในยูทูปก็หาไม่ได้ ถามเจ้าหน้าที่ในงาน expo ก็ตอบได้ประมาณ 140 ทำไมนิสสันถึงพยามปิดข้อมูลตรงนี้เหลือเกิน

ใครจะว่าแรงแค่ไหนก็ตาม หรือไปเทียบ fiesta ecoboost หรือ Civic 1.5 ก็แล้วแต่ พวกนั้นวิ่งแตะ 200 ขึ้นทั้งนั้น ถ้าคันนี้วิ่งได้แค่นี้ซื้อมาหวังแรงมันก็เอาไปวิ่งไล่ได้แค่ brio เท่านั้นแหละ คนซื้อรุ่นนี้คงหวังแรงมั่งล่ะ แต่ซื้อมาวิ่งได้ไม่ถึง 160 เป็นผมยอมไปขับ mg zs ยังดีกว่าเลย
วิ่งให้ผิดกฎหมายทำไมล่ะ
ช้าๆก็ได้ปลอดภัยดี


ไม่ได้สนับสนุนนให้ทำผิดกฏหมายครับ เพียงแต่คนสนใจรุ่นนี้คือต้องการอะไรกันแน่ ผมแค่คิดว่าถ้าซื้อไปมันจะไม่ตอบโจทย์ความแรงเท่านั้นเอง ถ้าต้องการปลอดภัย Yaris หรือ Ativ ก็ได้ระบบความปลอดภัยครบ หรือต้องการประหยัดน้ำมันก็ มาสด้า 2 1.3

แล้ว note e ล่ะมีอะไร ยังไงก็ต้องรอราคาขาย ทำมาเกิน 7 แสนซื้อเครื่องธรรมดาแล้วเอาเงินไปเติมน้ำมันยังคุ้มกว่าเลย ถ้ามันทำราคาได้ 5 แสนผมจะซื้อไว้ซักคัน

ผมว่ามันมีอยู่นะจุดเด่น ระบบความปลอดภัยก็ได้พอๆกับยาริส แต่อัตราเร่งที่ดีกว่า เทียบกับ 2 1.3 E-Power ก็ประหยัดอาจจะไล่ๆกันหรือน้อยกว่าหน่อย แต่ก็ได้ห้องโดยสารที่กว้างกว่ามากกกกกกก และอัตราเร่งก็อาจดีกว่าด้วย

ออฟไลน์ VVC_77

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 94
    • อีเมล์
จุดเด่น ที่ ผมคิดได้ตอนนี้
1) ประหยัด ระดับ 30 KM/L
2) อัตราเร่งดี เทียบเท่า 1.5-1.6
3) ราคาที่ จับต้องได้

ซึ่ง มันพิสูจน์ ได้ชัดเจนแล้ว
จากการ ปราบคู่แข่ง อย่าง Fit (Jazz), Yaris, ในตลาดญี่ปุ่น อย่างราบคาบ

Note e-Power -ขึ้นแท่น ยอดขายอันดับ1 ตั้งแต่เปิดตัว มาถึงปัจจุบัน

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
ผมว่ามันมีอยู่นะจุดเด่น ระบบความปลอดภัยก็ได้พอๆกับยาริส แต่อัตราเร่งที่ดีกว่า เทียบกับ 2 1.3 E-Power ก็ประหยัดอาจจะไล่ๆกันหรือน้อยกว่าหน่อย แต่ก็ได้ห้องโดยสารที่กว้างกว่ามากกกกกกก และอัตราเร่งก็อาจดีกว่าด้วย

ความปลอดภัย ยาริส ชนะแค่จำนวนถุงลมครับ

แต่ที่เหลือ เจ้าโน้ตกินเรียบ เบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ทั้ง รถ คน มอเตอร์ไซค์ / กล้องรอบคัน พร้อมตัวจับวัตถุรอบรถ / เตือนออกนอกเลน

-------------------

ลป. หลายคนบอกว่าถ้ามันถูก 5 - 6 แสน จะซี้อบ้าง อะไรบ้าง
คนที่เค้ามีเงิน เค้าไม่จำเป็นต้องพูด พอใจก็ซี้อ ไม่ต้องรอให้ราคาอย่างนู้น อย่างนี้หรอก

อย่างผมพอใจ ต้องการรถเอาไว้วิ่งในเมือง ความปลอดภัยเหนือกว่าคนอื่น ผมก็ซี้อ แล้วไง

E-Power มันเน้นเรื่องประหยัดเช้อเพลิง แต่โชคดีที่ได้อัตราเร่งแถมมาด้วย คุณต้องการอะไร อยากวิ่ง 180 กม/ชม หรือ ?????
แค่ 120 กม/ชม ก็ผิดกฏหมายแล้ว

เป้าหมายก็ชัดเจน คือ ประหยัด ใช้งานในเมือง ไม่ได้เอามาวิ่ง 160 - 170 กม/ชม มันผิดวัตถุประสงค์ของตัวรถ

ถ้าอยากขับเร็ว ผมก็จอด Note VL ไว้บ้าน แล้วเอาอัลติส 1.6 ออก หรือ ถ้าไปต่างจังหวัด ผมก็เอา G9 ออก

แล้ว Top speed ชาตินี้มีโอกาสได้ใช้กี่รอบ หรือบ้านอยู่แถว นรู์เบอร์ริงค์ ที่ต้องเค้นอัตราเร่งตลอดเวลา

รถก็แค่นี้ จะวิ่งเร็วอะไรหนักหนาครับ

--------------------------------------

ผมว่าบางคนกำลังหลงประเด็นนะ พี่แพน เขาเอาไปเทียบกับ Civic RS, Fiesta Ecoboost เพื่อให้ดูว่าอัตราเร่งในช่วงที่คนส่วนใหญ่ใช้งานบ่อยๆเนี่ย มันอยู่ในระดับที่เหนือกว่า B-Seg และเทียบเท่าหรือเหนือกว่า C-Seg หลายๆรุ่น ไม่ได้จะเอา Note-e ไปวิ่งแข่งกับ Civic RS หรืิอ Fiesta-Ecoboost ซะหน่อย

ปล. บาง คห ดูลักษณะการ comment ก็จะรู้เลยว่า ขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เป็นประจำ ไม่ใช่แค่ในกระทู้นี้หรอก อ่านผ่านๆมีประมาณว่า ถ้าซื้อ 1.5 turbo มาแล้วขับตามกฎหมายเสียดายรถเปล่าๆ (นึกในใจเค้าคิดว่าเค้ากำลังขับ Ferrari อยู่หรอ) ส่วนตัวก็ขับรถคุณพ่อบ่อยๆ C350e ต่างจังหวัดเต็มที่ก็ 120 ก็ประหยัดดี แบบนี้ผมควรเสียดายรถเปล่านะ

ผมเห็นด้วย 10000% ครับ

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
เพิ่มเติม ผมไม่ใช้ ติ่ง เจ้าโน้ต นะ เพราะรถดีผมก็ชม รถห่วยผมก็ด่าตามตรง

โน้ต มันมีดี และ ห่วยแตก ปะปนกันไป เพียงแต่ใครจะมองแบบไหน

แต่เห็นกำลังหลงประเด็น เอาอัตราเร่งไปเทียบกับ C-Seg ตัวใหญ่ ซึ่งมันเทียบกันไม่ได้

อัตราเร่ง E-Power มันเอาไว้แค่แซงตอนคับขัน ไม่ใช่เอาไว้ไล่บี้กับชาวบ้านนะครับ

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วดีงาม น่าใช้และเหมาะกับบ้านเราไม่น้อยครับ ปัญหาหลักที่ต้องกังวลแน่ๆคือราคาอย่างที่ใครๆก็กังวล และถ้ามาจริงนอกจากราคาแล้วยังต้องลุ้นอีกหลายๆเรื่องว่าจะไปได้แค่ไหน เช่น ความทนทาน ศูนย์บริการ และการแก้ปัญหา ดีเพียงพอให้คนส่วนใหญ่พอใจมั้ยนี่ล่ะครับ

ออฟไลน์ JigkoBannok

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 120
  • ชายคนจน ณ ที่ราบสูง
    • ประตูสู่อีสาน
ปัญหาใหญ่สุดคือ top speed มันเป็นจุดอ่อนรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ขนาดไฮบริดอย่างแคมรี่ แอคคอร์ดมีเครื่องช่วยยังได้แค่ 180 กว่าๆเอง

ผมลองหาข้อมูลมาทุกที่ หา top speed เจ้านี่ไม่เคยเจอเลยในยูทูปก็หาไม่ได้ ถามเจ้าหน้าที่ในงาน expo ก็ตอบได้ประมาณ 140 ทำไมนิสสันถึงพยามปิดข้อมูลตรงนี้เหลือเกิน

ใครจะว่าแรงแค่ไหนก็ตาม หรือไปเทียบ fiesta ecoboost หรือ Civic 1.5 ก็แล้วแต่ พวกนั้นวิ่งแตะ 200 ขึ้นทั้งนั้น ถ้าคันนี้วิ่งได้แค่นี้ซื้อมาหวังแรงมันก็เอาไปวิ่งไล่ได้แค่ brio เท่านั้นแหละ คนซื้อรุ่นนี้คงหวังแรงมั่งล่ะ แต่ซื้อมาวิ่งได้ไม่ถึง 160 เป็นผมยอมไปขับ mg zs ยังดีกว่าเลย
วิ่งให้ผิดกฎหมายทำไมล่ะ
ช้าๆก็ได้ปลอดภัยดี
+1 ครับ
120 ก็รอรับจดหมายไปจ่ายค่าปรับที่บ้านแล้ว
งานฟรีผมไม่ว่าง งานจ้างเชิญเลยครับ

ออฟไลน์ Nerdys

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 702
สภาพถนนและการจราทุกวันนี้ อัตราเร่งแซงสำคัญที่สุดสำหรับผมนะ
ประเทศไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนา ถนน 4 เลน มีน้อย โดยเฉพาะตามต่างจังหวัด ถนน 80% เป็น 2 เลน
ผมออกต่างจังหวัดบ่อย มีรถบรรทุก รถพ่วงเยอะ อัตรางเร่งแซงสำคัญมาก และแทบไม่มีโอกาสที่จะขับเกิน 120 ได้เลย
ผมยอมขับรถที่ Top speed แค่ 140 แต่อัตราเร่ง 80-120 ใช้เวลาแค่ 5-6 วินาที

ออฟไลน์ Wen

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 105
เกิดข้อสงสัยครับ ว่าถ้าเกิดเครื่องยนต์เป็น range extender ปั่นไฟให้ motor
ทำไมถึงไม่ลดขนาดเครื่องยนต์ลงอ่ะครับ (เช่นพวก 600 cc)
หรือมันเป็นเรื่องของต้นทุน ใช้เครื่องยนต์ตัวที่มีอยู่แล้วมาดัดแปลงแทน

ออฟไลน์ SLuang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,816
ปัญหาใหญ่สุดคือ top speed มันเป็นจุดอ่อนรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ขนาดไฮบริดอย่างแคมรี่ แอคคอร์ดมีเครื่องช่วยยังได้แค่ 180 กว่าๆเอง

ผมลองหาข้อมูลมาทุกที่ หา top speed เจ้านี่ไม่เคยเจอเลยในยูทูปก็หาไม่ได้ ถามเจ้าหน้าที่ในงาน expo ก็ตอบได้ประมาณ 140 ทำไมนิสสันถึงพยามปิดข้อมูลตรงนี้เหลือเกิน

ใครจะว่าแรงแค่ไหนก็ตาม หรือไปเทียบ fiesta ecoboost หรือ Civic 1.5 ก็แล้วแต่ พวกนั้นวิ่งแตะ 200 ขึ้นทั้งนั้น ถ้าคันนี้วิ่งได้แค่นี้ซื้อมาหวังแรงมันก็เอาไปวิ่งไล่ได้แค่ brio เท่านั้นแหละ คนซื้อรุ่นนี้คงหวังแรงมั่งล่ะ แต่ซื้อมาวิ่งได้ไม่ถึง 160 เป็นผมยอมไปขับ mg zs ยังดีกว่าเลย

ผู้คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ มองว่าความเร็วปลายไม่ใช่ปัญหาอะไรในชีวิตเลย  เพราะทั้งชีวิตจะอยู่กับความเร็วต้น ความเร็วกลาง  ทั้งนั้น อีกอย่าง ถนนบ้านเรา กับปริมาณรถ สำหรับผมขับรถมา 20 กว่าปีแล้ว สารภาพตามตรง ทดลองความเร็วที่ 180 อยู่แค่ 2 ครั้ง สั้นๆ แค่นั้นเอง และมองว่าไม่จำเป็นและไม่สุนทรีเท่าความเร็วกลางเลย   ที่สำคัญ โจทย์ของผู้สร้าง Note คันนี้คือความประหยัด  ส่วนความแรงที่ได้ เป็นผลพลอยได้ครับ  ปล.ถ้าเน้นความแรง เขาก็ทำ GT-R ออกมาสนองนีดแล้วไงครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 13, 2018, 09:00:08 โดย SLuang »

ออฟไลน์ CJ.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,946
ขอบคุณครับ ผมว่าระบบนี้น่าใช้ดีครับ ได้ความประหยัดและความแรงเพิ่มขึ้นมาหน่อย
2005 Jaguar XJ Super V8
2005 Mercedes-Benz C230 Kom. Sports Coupe
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Honda CR-V 2.4S
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Lexus IS300h Luxury
2021 Mercedes-Benz GLE 350de 4MATIC Exclusive
2021 Porsche 911 Carrera S

ออฟไลน์ imvile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 622
แต่ทำไมผมผิดหวังไม่รู้แหะ 555 ตรงอัตราสิ้นเปลือง 19Km/l ในชีวิตจริง ละเครื่องหมุนที่รอบเดินเบาเฉยๆ

คือ mz 2 ทำระดับ 25 km/l ในอัตราเร่ง 11.xx sec ในดีเซล ละค่าบำรุงรักษา (ยกเว้นกรองตัน) น่าจะถูกกว่าในระยะยาว ไม่ต้องเสียค่าทำลายแบต กับมอเตอร์ ผมว่าน่าจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่านะ

ถ้า 2 จูนระดับได้ 9 sec ละยังได้ซัก 22 km/l แจ๋วเลย (แต่แก้ปัญหา edg ตันก่อนนะ)
J32 since 2011
F30 since 2014
W205 since 2019
ACV70 since 2021

ออฟไลน์ Rock N' Rolla

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 309
ถ้าราคามาเท่าmazda2ดีเซลตอนแรกๆ บอกเลยโอกาศนิสสันจะกลับมาผงาดแน่ๆ

ออฟไลน์ tuy_pisit

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14


การทดสอบอัตราเร่งผมว่าปัจจัยเรื่องอากาศเย็นไม่น่าจะมีผลนะครับ
เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าไม่ต้องใช้อากาศไปเผาไหม้นะ
ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนๆจากแบตเตอรรี่เลย
ดังนั้น ผมว่าอัราเร่งถ้าทำใหม่คงไม่มีผลอะไรมาก


อากาศร้อนเย็นผมคิดว่ามีผลต่อมวลอากาศและประสิทธิภาพการใช้น้ำมันและการเผาไหม้ของตัวเครื่องนะครับ  ;D
ถูกครับ อากาศเย็นมีผลต่อประสิทธิภาพเครื่องยนต์
แสดงว่าคุณยังไม่เข้าใจการทำงานของ e-power ลองไปอ่านดูการทำงานของโน็ตดีๆครับ
เครื่องมีหน้าที่ปั่นไฟอย่างเดียว แต่กำลังที่ใช้ในการขับเคลื่อนมันใช้มอเตอร์เพียวๆครับ
และการทำงานของเครื่องตัวนี้คือปั่นไฟด้วยรอบคงที่ ไม่มีผลต่อการขับเคลื่อนใดๆเลย
ดังนั้น ปัจจัยเรื่องอากาศเย็นไม่มีผลต่ออัตราเร่งของโน็ตเลย
ผมจึงคิดว่า อากาศเย็นไม่ได้ทำให้มอเตอร์หมุนเร็วขึ้น

ขอแสดงความเห็นอย่างนี้ครับ อุณหภูมิมีผลต่อความเร็วมอเตอร์ เพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้ความต้านทานขดลวดเพิ่มขึ้น เมื่อความต้านทานขดลวดเพิ่มขึ้น สปีดจะตกลงครับ รวมทั้งประสิทธิภาพด้วย จะสังเกตุได้ว่ามอเตอร์ที่ใช้งานอุตสาหกรรมมักทำครีบระบายความร้อนมาในตัว housing ด้วย

ออฟไลน์ tuy_pisit

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
ไอ้เรื่องไฟเบรคเหยียบแล้วไม่ติดนี้
จะบอกว่า
Camry HV มันก็ไม่ติดเหมือนกันครับ
มันจะมี 2 จังหวะในการเบรค กดเบาๆจะเบรคโดยเบรคไฟฟ้าหน่วง ไฟไม่ติด อันตรายมากๆครับ ผมยังสยองตูดตัวเองเลย
กดอีกนิด ไฟถึงจะติด จานเบรคทำงาน

ผมว่าน่าจะเข้าใจผิดประเด็นแล้วครับ ที่ผู้เขียนเขียนถึงคือ ถอนคันเร่ง แล้วรถจะหน่วงทันที เนื่องจากมอเตอร์ ไม่ได้จ่ายไฟเข้าไป แต่ โรเตอร์หมุน จะเกินสภาวะ กลับด้าน ทำตัวเป็น ไดนาโม แทน เรียกว่า Regenerative ครับ รถจะหน่วงอย่างรวดเร็ว จะคล้ายกับเบรค แต่ไฟเบรกมันไม่ติดไงครับ เพราะเราไม่ได้แตะเบรค  จน ECU มันจับได้ว่าว่า Regenerative ถึงค่าหนึง ไฟเบรกถึงจะติดจึง นับว่าเป็นปัญหา ที่ต้องแก้ไขครับ

ออฟไลน์ Xtream@tom

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 392
เกิดข้อสงสัยครับ ว่าถ้าเกิดเครื่องยนต์เป็น range extender ปั่นไฟให้ motor
ทำไมถึงไม่ลดขนาดเครื่องยนต์ลงอ่ะครับ (เช่นพวก 600 cc)
หรือมันเป็นเรื่องของต้นทุน ใช้เครื่องยนต์ตัวที่มีอยู่แล้วมาดัดแปลงแทน
ผมว่าเป็นอย่างที่พี่แพนว่าก็ได้นะครับ คือเครื่อง1.2ลิตรเนี่ย นิสสันมีประจำอยู่แล้วในหลายๆประเทศ
ถ้าจะให้เอาเครื่องของพวกK-carซึ่งจำกัดอยู่แค่ในญี่ปุ่นออกมาขายเนี่ย ไหนจะเรื่องต้นทุนการผลิตเครื่อง การสต็อคอะไหล่อีก คงไม่คุ้มมั้งครับ

ออฟไลน์ kakashi

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 100
แค่รอบเดินเบาเฉยๆ ยังกิน 19Km/h
อยากรู้ว่าเครื่องยนต์มันทำงานบ่อยแค่ไหน
กี่นาทีครั้ง ถ้ากดยาวๆ 100กม.

ออฟไลน์ SLuang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,816
สำหรับรถไฟฟ้าผมไม่กลัวอืด

ผมกลัวมันวิ่งได้ระยะทางน้อย

และกลัวค่าตัวมันจะแพงเกินไปครับ
แสดงว่ายังไม่อ่าน หรืออ่านแล้วจับใจความไม่ได้

เจ้า Note ตอบโจทย์ที่คุณกลัวไงครับ  ตราบใดที่น้ำมันยังไม่หมดไปจากโลก หรือทุกที่ที่มีปั้มน้ำมัน รถคันนี้ก็จะสามารถใช้งานได้
เพราะ มันเอาน้ำมันไปปั่นไฟฟ้ามาขับเคลื่อนครับ แล้วดีกว่าน้ำมันล้วนตรงไหน 1. เครื่องน้ำมันทำงานรอบต่ำสม่ำเสมอ  และมีดับเครื่อง เมื่อไฟเต็ม 2. มอเตอร์ไฟฟ้าแรงบิดสูงสุดมาเต็มตั้งแต่ เริ่มหมุน เลย  มันทำให้อัตราเร่ง จาก 0-100 และ 80 -100 หรือ 120 ออกมาสวยหรูในรถระดับเดียวกันไงครับ  3. ใช้น้ำมันน้อยลง เมื่อเทียบกับรถที่ใช้น้ำมันล้วน  แต่ที่ผู้คนสนใจมากที่สุดคือ 2 และ 3

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
เรื่องอัตราสิ้นเปลืองที่หลายคนสงสัยเรื่อง 19.7 กม./ลิตร เนี่ย

ขอให้ข้อมูลก่อนว่าหน้าปัดรถยนต์ของนิสสันมันจะแสดงลักษณะ Real Time
เพราะฉะนั้น ถ้าเราดูตอนรอบเดินเบา มันอาจจะไม่ใช่ ณ การใช้งานช่วงประหยัดสุด
เขาก็แค่เอา 680 กม. (Range ที่แสดงบนหน้าปัดว่าเป็น km to Empty) มาหารด้วยความจุถังน้ำมันเฉยๆ
ไม่ได้ทดลองวิ่งเหมือนกับที่ปกติ HLM จะทดลองที่ 110 km/h ซึ่งก็ ฮ่าๆ อาจจะไม่ใช่ช่วงที่ประหยัดสุดของคันนี้
เพราะดูจากกราฟอัตราเร่งแล้ว เกิน 100 มันไม่ได้มาที่กำลังสูงสุดละ

ผมเดาว่า Note e-Power จะได้ 25-26 กม./ลิตร ที่ 90-100 หรือก็คือพอๆ กับ Prius นั่นแหละ แต่
ระบบซับซ้อนน้อยกว่า (มั้ง) หลักการวุ่นวายน้อยกว่า ไม่ได้พ่วงคู่เอามาขับบ้างไม่ขับบ้าง แค่ตัดบ้างไม่ตัดบ้าง
และแนวโน้มการเป็น e-CVT ในมอเตอร์อัตโนมัติแบบนั้น มันก็จะทนกว่า CVT สายพานด้วย...

เหลือแต่ว่าจะทะลุ 8 แสนไปไกลแค่ไหนแหละครับ ที่ผมกลัว และเชื่อว่านิสสันก็โดน BOI อยู่
ถ้าอยู่เรนจ์ไม่เกิน 7.7-7.9 นี่ ผมยังอยากได้เลย เพราะถ้าเกินนั้นผมก็มอง C-HR Hybrid แล้ว
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ tuy_pisit

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
แค่รอบเดินเบาเฉยๆ ยังกิน 19Km/h
อยากรู้ว่าเครื่องยนต์มันทำงานบ่อยแค่ไหน
กี่นาทีครั้ง ถ้ากดยาวๆ 100กม.

ตามกฏอนุรักษ์พลังงาน  การใช้เครื่องยนต์ มาปั่นไฟ แล้วใช้ไฟ ไปชาร์ทแบต จากนั้น ค่อยไปขับมอเตอร์ มอเตอร์ไปขับล้อ ทำให้เกิดความสูญเสียพลังงานสูงกว่า เอาเครื่องไปขับล้อโดยตรง แน่นอนครับ  ดังนั้น ความประหยัดไม่น่าจะเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ครับ น่าจะเป็นอัตราเร่งที่ได้จากมอเตอร์ มากกว่า ที่เป็นจุดเด่น ครับ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
เรื่องอัตราสิ้นเปลือง ถ้าดูจากรีวิวที่คนญี่ปุ่นใช้ในบ้านเขา
มันจะได้ประมาณ สิบปลาย ถึง ยี่สิบต้น ๆ กม./ลิตร

แต่... ต้องเข้าใจก่อนว่าในบ้านเขาวิ่งแบบไปเรื่อย ๆ ในเมือง วิ่ง ๆ หยุด ๆ
และรถไม่ได้ติดสาหัส และไม่มีโอกาสได้เฆี่ยนกันเร็ว ๆ บนทางด่วนแบบบ้านเรา
กับอีกอันคืออากาศส่วนใหญ่ไม่ได้ถึงขั้นต้องเปิดแอร์วิ่งนะฮะ

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
ตามกฏอนุรักษ์พลังงาน  การใช้เครื่องยนต์ มาปั่นไฟ แล้วใช้ไฟ ไปชาร์ทแบต จากนั้น ค่อยไปขับมอเตอร์ มอเตอร์ไปขับล้อ ทำให้เกิดความสูญเสียพลังงานสูงกว่า เอาเครื่องไปขับล้อโดยตรง แน่นอนครับ  ดังนั้น ความประหยัดไม่น่าจะเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ครับ น่าจะเป็นอัตราเร่งที่ได้จากมอเตอร์ มากกว่า ที่เป็นจุดเด่น ครับ

เครื่องที่ไหนๆ มันก็แทบไม่ได้ปั่นล้อโดยตรงครับ

เครื่องมันปั่นผ่าน "เกียร์" ที่หลายคนมองว่าเป็นตัวฉุด/ตัดตอนกำลังเครื่องนี่แหละ
หลายคนลืมมองจุดนี้ไปเสียสนิท พูดกันแต่ว่าอนุรักษ์พลังงานๆ ขับล้อโดยตรงๆ

โอเค มันไม่แรงเท่าเอาแบตเตอรีที่ชาร์จที่อื่นได้ หรือชาร์จตัวเองได้ มาต่อมอเตอร์แน่นอน
(แต่ก่อนเป็นไฟฟ้ามาเข้าแบต มันก็ผ่านระบบต้นกำลังอื่นๆ มานะ โรงไฟฟ้าใช้ต้มน้ำทำ Turbine อะไรบ้าง Efficiency เท่าไหร่
เราไม่นับ เพียงแต่ผู้บริโภคไม่ค่อยได้แคร์จุดนี้ เพราะคิดแต่ตัวเองจ่ายค่าไฟ ฮ่าๆ)

เพราะการที่เครื่องเผาไหม้ และเป็นเครื่องเก่าเทคโนโลยีไม่สูง ประสิทธิภาพการได้กำลังจากเชื้อเพลิงราวๆ 40%
การที่เครื่องจ่ายหรือเป็นตัวต้นกำลังให้มอเตอร์ ย่อมเสียประสิทธิภาพจากปัจจัยต่างๆ ไปบางส่วน.....

อย่างน้อยๆ ตัวมอเตอร์ก็แทบจะขับล้อโดยตรง และมอเตอร์เองก็มีจุดเด่นตรงประสิทธิภาพแรงบิดออกเต็มตั้งแต่รอบต่ำไงครับ
ดังนั้นประสิทธิภาพจากทางทฤษฎีที่เขาได้ คือ 1. มอเตอร์ได้แรงบิดรอบต่ำ 2. ได้ระยะการวิ่งพิสัยต่อเนื่องตราบใดที่ยังเติมน้ำมันได้

แล้วมันดันพอเทียบๆ กันแล้ว ก็ประหยัด "น้ำมัน" กว่าเอาเครื่องมาเติมน้ำมันวิ่งแล้วขับล้อโดยตรง (ในความคิดของคุณ) อยู่ดี ครับ
ถ้ามันทำความเร็วสูงสุดได้มากพอ แม้จะไม่มากเท่าระบบที่ใช้เครื่องขับเองจริงๆ แต่ก็มากพอสำหรับการเดินทางในการใช้งานทั่วไปแล้ว
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ wanartit

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
สำหรับคนที่ขับ Mitsubishi Attrage แล้วไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไร ผมว่า Note e-Power คงเป็นสวรรคสำหรับผมเลยล่ะครับ

หลังจากรถลงข้างทางมาล่าสุด ทุกวันนี้ขับไปทำงานแค่ 80-100เอง ::)

ออฟไลน์ golf8023

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,381
    • อีเมล์
Topspeedไม่ใช่ปัญหาของเจ้าคันนี้ครับ ต่อให้วื่งได้เต็มที่160กม/ชม. ถ้าราคาขายเป็นไปตามที่พี่แพนพูด ผมซื้อครับ
เพราะผม(และอีกหลายๆคน)ไม่สนใจว่ามันจะวิ่งได้เร็วสูงสุดเท่าไหร่ แต่สนใจไอเรื่องออกตัว0-100นี่แหละ มันคือช่วงความเร็วที่เราต้องขับทุกวัน
กลุ่มเป้าหมายของNote Eคือกลุ่มนี้ครับ ใช้งานในเมือง ไม่อืด เร่งแซงได้ทันอกทันใจ ที่สำคัญคือประหยัด และราคาขายต้องโดนด้วย คนกลุ่มนี้แทบไม่สนใจเรื่องTopspeedเลยครับ จะมีซักกี่คนซื้อรถประเภทนี้เอามาเหยียบเกิน160

ลุ้นว่าจะเอาเข้ามาขายได้ราคาเท่าไหร่

ออฟไลน์ Fireball

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 1
Top speed ประมาณ 155 เพียงพอไหม ก็ไม่รู้นะ รู้แค่ว่า ปกติเดินทาง ถ้าไม่รีบไปไหน ผมก็ไม่ค่อยขับเกิน 120 เลย กล้องเยอะจัด เปลืองน้ำมันด้วย ปกติก็ยืนอยู่แค่ 90-100 เลยไม่รู้ว่าจะเอารถที่ขับถึง 200 มาทำไม ขอแค่อัตราเร่งดี ๆ ขึ้นเขาสู้กระบะได้ ซึ่งตรงนี้ผมว่า มอเตอร์ไฟฟ้ามันตอบโจทย์ได้ดีนะ และถ้าบวกช่วงล่างเกาะถนนดี ๆ อีกแค่นี้ผมก็พอใจแล้วล่ะ 

รอให้นิสสันกล้า ๆ เอามาขายแค่นั้นแหละครับ ผมกำตังรอแล้ว