Brio และ Amaze เน้นตลาดอินเดีย ตัวถังสั้นกว่า 4 เมตร จะได้รับสิทธิเสียภาษีแบบพิเศษ
ส่วนเมืองไทยถนนหนทางดี และรถต้องแสดงฐานะทางสังคมด้วย และกฏ Eco-Phase 1 ก็ไม่ได้บอกขนาดตัวถัง แค่ผ่านอัตราสี้นเปลือง 20 กม/ลิตรเป็นใช้ได้
นิสสันเห็นจุดนี้ เลยเอามาร์ชซึ่งเป็นรถ B-Seg เอามาตีตั๋วเด็กแล้วขาย ผลคือขายดีมาก เพราะตัวใหญ่พอๆกับยาริส (ยุคนั้น) แต่ราคาถูกกว่า และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ
แต่ฮอนด้ามองว่า Ecology Car ต้องเป็นรถขนาดเล็ก ประหยัดน้ำมัน เลยเปิดตัวบรีโอ้มาสู้ แต่กลายเป็นแป้กยาว คนไม่แลเพราะตัวถังเล็ก รวมถึงการประกอบที่ห่วยแตก ถึงเครื่องและช่วงล่างจะดีขนาดไหนก็ตาม
พอยี่ห้ออื่นเห็นมาร์ชขายดี เลยเอารถใหญ่มาตีตั๋วเด็กบ้าง เอาแค่อัตราสี้นเปลืองผ่านกฎเกณฑ์ภาครัฐก็พอ ทุกวันนี้เราจึงเห็นรถใหญ่บ้านบึมแต่ใส่เครื่อง 1.2 วิ่งเต็มไปหมด
ถ้าอยากให้ Brio ขายได้ ต้องเลิกสนใจตลาดเฉพาะทาง แล้วหันมาเปิดตลาดอื่น
ทำรถให้มีตัวถังใหญ่กว่าปัจจุบัน คนไทยพร้อมอุดหนุนฮอนด้าอยู่แล้วครับ
ว่าแต่ปัจจุบันสองพี่น้องคู่นี้ รวมห้าปีผลิตขายในประเทศไม่นับส่งออก ถึงแสนคันหรือยังเถอะ
เห็นด้วยครับ
ผมก็มองเรื่องราคาและขนาดเป็นจุดด้อยของทั้งคู่เมื่อซีซั่นที่แล้ว
ดูๆไป คนไทยค่อนข้าซีเรียสกับขนาด ราคาและกำลังเครื่องยนต์นะครับ
ภาพแรกที่ผมเห็นพี่น้องคู่นี้ ผมคิดว่ามันควรขายที่ 3-3.5แสนเสียด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้น มันไม่มีอะไรไปสู้กับชาวบ้านได้เลย
สิ่งนึงที่ ยาริส 4 ประตูได้มาคือ ราคาถูกลง ผู้บริโภคได้รถที่ใหญ่ขึ้น(จริงๆก็เท่าเดิม) แต่ที่เสียไปคือ เครื่อง 1.5 ให้ซิตี้ขายโดดๆอยู่เกือบจะคนเดียวเลย
สำหรับพี่น้องคู่นี้ ผมก็ยังยืนยันความคิดเดิมครับ
ขายมันซะ 2.8แสน ไม่เกิน 3.5แสน
แค่มี อวทม.พอแล้ว หรือจะไม่มี ม. แล้วเปลี่ยนเป็น อบ.(แอร์แบ๊ค)คู่หน้้าก็ได้
ผมคิดว่าขายได้ดีกว่าแต่ก่อนเยอะครับ แต่ก็ไปไม่สุดอยู่ดี
เรื่องอัตรภาษีของแต่ละโซนมันดูปวดหัวนะครับ
ทำซีวิคกลับไปขายบ้านเกิดลำบาก
ทำโคโรล่าบ้านเกิดให้ตัวเล็กกว่า world wide
ทำรถสั้น 4 เมตรขายดีในประเทศนึง
แต่ทำรถสั้นๆมาพังอีกประเทศนึง