ผู้เขียน หัวข้อ: 48V Mild Hybrid  (อ่าน 6718 ครั้ง)

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
48V Mild Hybrid
« เมื่อ: มีนาคม 02, 2018, 08:14:01 »
เนื่องด้วย Mercedes Benz CLS ใหม่รวมถึงคู่แข่งสัญชาติเดียวกันเช่นAudi A8 A7 และ A6 ได้เปิดตัวระบบ 48V Mild Hybrid ในรถยนต์ดังกล่าว จึงขอนำรายละเอียดของระบบดังกล่าวมาให้ดูกัน จากบทความในLink จะแบ่งแยกระบบ Hybrid เป็นหลายแบบตั้งแต่ Mild Hybrid และ Parallel Hybrid ของค่าย Honda หรือ Parallel Series Hybrid ของ Toyota หรือ Plug-In Hybrid ที่กำลังแพร่หลายในตอนนี้ หรือ Series Hybrid ใน Chevrolet Volt และ Nissan Note E-Power ที่ทางทีมงาน HLM ได้ไปทดลองกันมาแล้ว
คราวนี้ผู้ผลิตรถและอุปกรณ์ก็ได้ศึกษาระบบHybridที่ง่ายและไม่มีอุปกรณ์ซับซ้อนหรือน้ำหนักที่มากเกินไปเช่นMild Hybridแบบที่ทาง Honda ทำขึ้น แต่พบว่าถ้ามีการนำระบบไฟฟ้าที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์คือแรงดัน 48 Volt มาใช้ก็จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีกว่าระบบไฟ 12 Volt ที่ใช้กับรถยนต์นั่งในปัจจุบัน
ดังนั้นผู้ผลิตอย่าง Volvo Audi Mercedes Benz Renault และ Volkswagen จึงได้พยายามจะนำระบบ 48V Mild Hybrid มาใช้งานเพื่อช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงโดยระบบที่เพิ่มเติมก็มีขนาดเล็กและไม่ซับซ้อนเหมือนระบบอื่นๆ
https://www.ridebuster.com/scoop-hybrid-car/
https://www.fleetcarma.com/evolution-of-the-48-volt-mild-hybrid-revolution/
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
Re: 48V Mild Hybrid
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 02, 2018, 08:34:24 »
ระบบ 48V Mild Hybrid จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลักเพียง3ชิ้นคือ Li-Ion 48V Battery และ DC/DC Converter และ Electric Motor Generator
ระบบไฟ48Vจะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าดังกล่าวมีขนาดเล็กแต่ให้กำลังสูงจึงสามารถนำมาใช้ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ในระบบ Start/Stop ได้ดีกว่าระบบ 12V ในปัจจุบันทั้งในแง่ของความรวดเร็วและความราบเรียบไม่สะดุดเหมือนอย่างที่เราๆท่านๆประสบปัญหากันอยู่จนต้องคอยกดปุ่มยกเลิกระบบดังกล่าวทุกครั้งที่สตาร์ทรถ นอกเหนือจากนั้นระบบไฟ 48V ยังสามารถเอามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มอากาศด้วยElecric Compressorก่อนที่Turbo จะ Boost เป็นการลดอาการ Turbo Lag
หรือสามารถเอามาใช้กับระบบปรับช่วงล่างเหมือนกับที่BentleyและAudiนำมาใช้กับรถที่เป็นระบบ Mild Hybridที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน
ระบบMild Hybrid ยังสามารถช่วยตอนขับในความเร็วเดินทางและผ่อนคันเร่งโดยรักษาความเร็วหรือCoastingไปได้อีกหลายสิบวินาที อีกทั้งยังช่วยในการอุ่นCatalytic Converterหรืออุปกรณืที่ใช้พลังงานสูงเช่น Heater พัดลมไฟฟ้า ปั๊มน้ำ ปั๊มเกียร์ แอร์รถยนต์ แต่ไม่ได้ใช้งานกับระบบความปลอดภัย เครื่องเสียง กล่องECU และระบบขับอัตโนมัติที่ยังใช้ไฟ 12V เช่นเดิม
อุปกรณ์สำคัญก็คือตัวMotor Generatorที่ทำหน้าที่ได้ทั้งสตาร์ทเครื่องยนต์หรือปั่นไฟเข้าแบตได้ และ DC/DC Converter ที่ทำหน้าที่แปลงไฟจาก48เป็น12Vหรือ12เป็น48Vเพราะระบบไฟฟ้า12Vก็ยังมีอยู่ในรถยนต์ต่อไป


BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,537
Re: 48V Mild Hybrid
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 02, 2018, 10:13:08 »
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,270
Re: 48V Mild Hybrid
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 02, 2018, 11:00:46 »
ขอบคุณครับ  มีการคิดต่อยอดให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,012
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Re: 48V Mild Hybrid
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 02, 2018, 13:51:55 »
ขอบคุณครับ อย่างนี้ Mild Hybrid ที่อยู่ใน Jazz H/B และ Civic H/B ถ้าระบบเกิดเสียขึ้นมาก็ยังสามารถขับด้วยเครื่องยนต์ได้ตามปกติไหมครับ

และดูแล้วค่าซ่อมน่าจะไม่แพงมาก ถ้าเข้าในระบบก็น่าจะประหยัดน้ำมันได้มากเหมือนกันนะครับนี่
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
Re: 48V Mild Hybrid
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 02, 2018, 14:10:12 »
เป็นระบบที่น่าสนใจมากๆ ครับ

น่าจะเหมาะสมกับบ้านเรา ราคาน่าจะไม่แพงมาก
พวก 1.5 น่าเอามาใช้นะครับ

แต่ควรได้คอมแอร์ไฟฟ้าด้วย ไม่งั้นคงร้อนตายเลย

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
Re: 48V Mild Hybrid
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 02, 2018, 17:07:41 »
นั่นสิครับ อยากจะให้ค่ายญี่ปุ่นที่ผลิตEco Carเอามาใช้กับเครื่อง1.5หรือ1.2 Turboก็ได้ แทนที่จะใช้ระบบStart/Stopบวกเกียร์CVTในปัจจุบัน เกียร์Jatcoก็หอนเก่งแถมบ้านเราอากาศก็ร้อนทำให้ต้องมากดยกเลิกระบบIdle Stopกัน รวมถึงรถยุโรปที่ขายแบบPlug-Inผมก็ไม่ได้ถูกใจมากเท่าไหร่เพราะต้องแบกแบตหนักหลายร้อยกิโลท้ายรถไปไหนมาไหนด้วยกันทำให้เวลาแบตเหลือน้อยก็กินน้ำมันมากกว่าปกติด้วยซ้ำไป แถมยังต้องใช้ช่วงล่างถุงลมให้แพงกว่าปกติเพราะถ้าใช้สปริงเหล็กก็จะแข็งมาก ถ้าเทคโนโลยีแบตยังไม่ทำให้เล็กลงไปได้มากๆหลายเท่าผมคิดว่าMild Hybridน่าใช้กว่าครับ
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: 48V Mild Hybrid
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 02, 2018, 22:59:48 »
อ้าวแล้วงั้นทำไมฮอนด้าไม่ใช่imaกับแอคคอร์ดต่อละครับ

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
Re: 48V Mild Hybrid
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 03, 2018, 08:07:54 »
อ้าวแล้วงั้นทำไมฮอนด้าไม่ใช่imaกับแอคคอร์ดต่อละครับ
นั่นสิครับ เสียดายเหมือนกันเพราะHondaก็ริเริ่มได้ดีแล้ว เพียงแต่ถ้าเพิ่มระบบ48Vขึ้นมาอีกจะทำให้ประสิทธิภาพและการใช้งานเหมาะสมกับชีวิตประจำวันของพวกเราเลยเพราะการที่มีแบต48Vเก็บพลังงานไว้จะช่วยให้การประหยัดและการขับขี่ช่วงรถติดๆในเมืองหรือเดินทางความเร็วปานกลางดีขึ้นไปอีก
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
Re: 48V Mild Hybrid
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 03, 2018, 10:31:26 »
ต่อไปคงได้มีการพัฒนาดีขึ้นไปเรื่อยๆครับ เพราะปัญหาไฮบริดก็โดนกันไปทุกยี่ห้อ

ส่วนตัวผมคิดว่ารถ EV ยังไม่ใช่คำตอบในปัจจุบัน เพราะหลายๆคนคงไม่ชอบไปจอดรอชาตแบตกลางทางเป็นชั่วโมง ต่างจากการเติมน้ำมันที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และการไปต่างที่ต่างถิ่น การหาที่ชาตแบตก็ยังไม่สะดวกอยู่ดี

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
Re: 48V Mild Hybrid
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มีนาคม 03, 2018, 11:01:28 »
ต่อไปคงได้มีการพัฒนาดีขึ้นไปเรื่อยๆครับ เพราะปัญหาไฮบริดก็โดนกันไปทุกยี่ห้อ

ส่วนตัวผมคิดว่ารถ EV ยังไม่ใช่คำตอบในปัจจุบัน เพราะหลายๆคนคงไม่ชอบไปจอดรอชาตแบตกลางทางเป็นชั่วโมง ต่างจากการเติมน้ำมันที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และการไปต่างที่ต่างถิ่น การหาที่ชาตแบตก็ยังไม่สะดวกอยู่ดี
เห็นด้วยเลยครับ ถ้าเมื่อไหร่จุดชาร์จและระยะเวลาการชาร์จทำได้แพร่หลายและรวดเร็วEVก็จะน่าใช้แน่นอน แต่ก่อนหน้านั้นผมคิดว่าPlug-In Hybridไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการใช้งานและยังเป็นระบบที่ซับซ้อนและจุกจิกดังที่คุณJIMMYยังบอกไว้ในFirst Impressionว่าไม่ชอบในความจุกจิกของมันเลยครับ
BMW 750E M SPORT