ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน  (อ่าน 17664 ครั้ง)

RockmanJilly005

  • บุคคลทั่วไป
ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 10:37:30 »
เห็นหลายยูสในนี้เคยบอกไว้ว่าคุณภาพD-maxตัวปัจจุบันมันแย่ทั้งการขับขี่และQCตัวรถ  แต่กลับไม่มีค่อยข่าวปัญหายี่ห้อIsuzuออกมาโครมๆแบบยี่ห้อFordที่หลายคนยี้ออกมา 

ไม่ทราบว่าเรื่องตรงนี้ของD-maxมันเกิดอะไรขึ้นบ้างเพราะทางญาติฝั่งคุณพ่อก็ใช้แต่รถยี่ห้อเจ้าตลาดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 14, 2018, 19:00:49 โดย RockmanJilly005 »

ออฟไลน์ Gordon Freeman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,206
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 10:50:26 »
เคยใช้ทั้ง Ford ทั้ง Isuzu

ทำให้รู้ว่าการจัดการปัญหามันต่างกันมากครับ

D-Max ตัวเก่ามันจะมีปัญหาเร่งไม่ขึ้นเพราะวาล์ว SCV ซึ่งศูนย์แก้ปัญหาโดยการส่งจดหมายไปหาลูกค้าให้มาเปลี่ยนของใหม่ที่แก้ไขแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังไม่เกิดปัญหาด้วยซ้ำ

ส่วนฟอร์ด ขยายการรับประกัน ใครเสียถึงจะเปลี่ยนอันที่แก้ไขแล้วให้ ใครยังไม่พังก็ใช้อันที่มีปัญหานั่นให้พังก่อน
2011 Kawasaki Ninja 650 (Sold)
2012 Ford Fiesta 1.6 Sport Ultimate (Sold)
2013 Suzuki Swift Eco GLX 1.25 (Sold)
2015 Honda Civic 1.8 (Sold)
2017 Toyota Fortuner 2.4 (Sold)
2019 Honda Jazz S MT (Sold)
2020 Nissan Almera VL 1.0T
2022 Isuzu D-Max Cab 4 1.9 AT
2023 Neta V

ออฟไลน์ Songchan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 96
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 11:21:51 »
     สมัยรุ่นที่มีปัญหาเรื่อง SCV ก็มีข้อมูลว่าเป็นกัน เป็นหลายค่าย
ของผมไม่เคยพบปัญหา และไม่ได้หนังสือแจ้ง  แต่ผมขับรถเข้าศูนย์เลย แล้วบอกว่า "มาเปลี่ยน SCV ครับ "
ศูนย์พูดกับผมสั้นๆ "ได้ครับ เชิญเข้าไปนั่งพักรอสักครู่"  ไม่ถามว่ารถผมมีปัญหาอะไรยังงัยหรือไม่ เปลี่ยนให้เลย ไม่เสียสักบาทครับ
     อีกครั้งก็มีหนังสือแจ้งชิ้นส่วนอื่น แจ้งว่าทาง Isu พบชิ้นส่วนอาจมีปัญหา แจ้งให้เข้าไปเปลี่ยนฟรีครับ
เท่าที่ใช้มา ผมว่าศูนย์เขาดูแลดี อะหลั่ยไม่แพง ไม่แจ้งเปลี่ยนอะหลั่ยเกินจริงเวลาเข้าศูนย์  ผมใช้รถมา 10 ปี แม้หมดประกัน ผมก็เข้าศูนย์ตลอด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 14, 2018, 11:24:28 โดย Songchan »

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,991
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 11:26:46 »
ปัญหาน่ะมีครับ แต่แก้ไขได้จบแทบจะภายในครั้งเดียวที่เข้าศูนย์ ไม่เรื้อรัง
ก็เลยไม่มีคนโวยครับ

ที่ผมเคยเจอคือกระจังหน้าเอียงตั้งแต่ออกรถ แต่ไม่ได้สังเกตุ มาเห็นตอนล้างรถครั้งแรก
และก็โดนถามสารพัดว่าไปชนอะไรมาไหม แล้วก็โบ้ยไปทางโรงงานประกอบ เหมือนจะให้ไปโวยกับโรงงานเองหรือไงไม่ทราบ
เซลที่ขายรถให้ก็ช่วยตามจนอ่อนใจ แต่ก็ไม่ได้มีผลกับการขับขี่และความปลอดภัย แค่กลัวว่าตอนขายคนซ์้อจะมองว่าเราไปชนหนักมาแล้วแก้ไขได้แค่นี้

แต่สุดท้ายก็ขายไปละครับ จากนั้นเวลาออกรถทีผมนี่ตรวจงานประกอบภายนอกรอบคันเลยครับ  ;D ;D ;D ;D
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ Shiro

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 311
    • อีเมล์
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 11:33:31 »
ถ้ารุ่นปัจจุบัน Dmax 1.9 ผมใช้มาแล้ว 6 เดือน ปกติดีทุกอย่างรุ่นนี้ถ้าดูตามคลับ
ก็มีปัญหาให้เจอเหมือนกันครับ แต่ส่วนใหญ่เคลมแล้วจบปัญหาในครั้งเดียว

ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,306
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 11:50:39 »
ในเว็บนี้ก็เพียงคนกลุ่มนึงครับ ส่วนมากก็เป็นคนเมือง ฉะนั้นทัศนคติ เงื่อนไขการซื้อ เงื่อนไขการใช้ที่มีต่อรถแต่ละคันจึงมีข้อจำกัดในตัวเอง  ควรถือเป็นมุมมองอีกมุมนึงจะดีกว่าครับ ถ้ากระแสในเว็ปนี้แย่ก็ไม่ได้หมายความว่ารถคันนั้นไม่มีดีเลย แย่สำหรับการใช้งานในแบบของเราแต่อาจจะดีสำหรับคนอื่นก็ได้

:: เรื่อง QC เท่าที่จับๆคลำๆผมคิดว่ามันดีกว่าไทรตันนะ เช่น รอยต่อชิ้นส่วนพวกกันชนหน้า ฝากระโปรงหน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 14, 2018, 11:58:14 โดย SETTHASART »

ออฟไลน์ tnp_super

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,927
    • อีเมล์
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 12:19:06 »
ผมก็ใช้ D-Max ตัวก่อนปัจจุบัน ก็เปลี่ยน scv เองเสียเงินสองพันกว่า(ไม่เห็นมีหนังสือแจ้งให้เปลี่ยน) ไม่ได้เปลี่ยนฟรีเหมือนหลายๆคัน มอเตอร์ อีจีอาร์ก็เปลี่ยนเองมาแล้ว 3 ตัวรวมหมื่นห้ากว่าๆ ส่วนคุณภาพรถน่ะเหรอ ก็งั้นๆ ไม่ดีไม่แย่ แต่ดีที่ประหยัดน้ำมัน ถ้าให้ซื้อกระบะคันต่อไปคงไม่ใช่อีสุแล้ว
  ส่วนรถสำนักงานคันปัจจุบันเป็นแค๊บตัวเตี้ยเครื่อง 1.9 รู้สึกว่าไม่ต่างจากรถตัวเองเท่าไหร่ เครื่องมีเสียงหอนวี้ดๆ ให้รำคาญตลอด(แต่ชินแล้ว) ตอนเข้าเกียร์ถอยแล้วปล่อยคลัชท์ก็มีเสียงดังครืกๆ ตลอดไม่รู้เป็นเพราะอะไร

ออฟไลน์ Amnaj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 511
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 12:50:26 »
ผมใช้ทั้ง ตัวที่แล้ว และตัวปัจจุบัน รถมันไม่ซับซ้อน หลายๆส่วนทำเองเปลี่ยนเองได้ไม่ต้องพึ่งช่าง หากใช้งานปรกติ ไม่มีอะไรเสียเลยภานใน 5 ปี ส่วนผมไปซนเค้นมันปั้มตอมมอลแรวเลยเสียปีที่6

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,390
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 13:27:33 »
ต้องทำความเข้าใจก่อนนะคับ
คนซื้อกะบะเจ้าตลาดส่วนใหญ่ใช้เชิงพาณิช ขนของ ใช้บรรทุกเบา
การบำรุงรักษาต่ำ ใช้ระยะยาว บรรทุกได้ ขับได้ ไม่ดับ แค่นั้น
สำหรับคนที่มีปัญหาจุ๊กจิ๊ก ส่วนใหญ่เป็นคนใช้รถกะบะเพื่อการโดยสาร
ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยของคนซื้อกะบะ ส่วนใหญ่

ศูนย์แก้ปัญหาได้จบ และรวดเร็ว ปัญหานั้นมันเลยไม่ค่อยเป็นข่าว


ออฟไลน์ chanphoto

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 350
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 13:33:01 »
all new d-max ผมใช้ Lot แรก ยังไม่เจอปัญหาอะไรนะ นอกจากแหนบ อ๊อดแอ๊ดๆ 555++

ส่วนที่เจอปัญหาเท่าที่เจอ น้ำเข้าไฟเบรกดวงที่3 แก้ไข หายขาด

กับอีกกรณีนึงที่ตะเข็บตัวถังฉีกขาด กรณีนั้นถ้าจำไม่มีผิดจบที่ได้คันใหม่

ออฟไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 14:51:37 »
ตอบ จขกท

อย่างที่หลายๆท่านบอกครับ มันมีปัญหาแต่ก็สามารถแก้จบได้ครับ ส่วนที่ว่าไม่ค่อยมีใครออกมาบ่นอะไรแบบร้ายแรงนั้น
คือผมจะอธิบายอย่างนี้ครับ D max เป็นรถตลาดที่ขายในกลุ่มลูกค้าที่กว้างมากกกกกกทั่วประเทศ กลุ่มลูกค้ามีทุกสายงานอาชีพ
มีทั้งวัยรุ่น คุณลุง คุณป้า น้า อา คุณปู่ คุณตา หรือคนขับรถส่งของตามบริษัท ทั้ง กทม และ ชนบท อีกเพียบ (โดยเฉพาะคนชนบท
จะใช้ D max เยอะเป็นพิเศษ) ก็ใช้กันทั้งนั้น ก็เพราะอย่างนั้นกว่า 80% ของลูกค้า D max นั้น พูดง่ายๆว่าโดยส่วนมาก"ไม่ใช่"กลุ่มคน
ที่มีความรู้ทางวิศวกรรมยานยนต์ หรือ เทคนิคยานยนต์ หรือ ศาสตร์ทางด้านการขับขี่มากนัก (ย้ำอีกทีครับ ว่าโดยส่วนมาก ไม่ใช่ทุกคนของลูกค้า D max) แล้วเผลอๆก็ไม่ได้เล่นเน็ต ไม่ได้เล่นเว็บนี้ ไม่ได้ติดตามข่าวสารยานยนต์เท่าไหร่ด้วย...
ก็ลองนึกสภาพบางคน มีหลายคนผมเคยเห็นเค้าขับรถ โช๊คบางตัวเสีย หรือลมยางบางล้ออ่อนไปมากๆ เค้าก็ยังขับไปอย่างนั้นโดยที่ไม่รู้ว่ารถเค้า
มีชิ้นส่วนบกพร่องอยู่ ถ้าไม่บอกเค้าก็ไม่รู้ คนใช้รถประเภทนี้ก็มีเยอะน่ะครับ แล้วคิดดูครับขนาดนั้นเค้ายังไม่รู้สึก แล้วกับเรื่องช่วงล่างดีแม็กที่ด้อยกว่าชาวบ้านอะไรยังไงบ้าง ก็ยิ่งแล้วใหญ่เลยทีนี้ เรื่องแบบนี้เค้าไม่รู้หรอกครับ รถขับไปไหนมาไหนได้เป็นพอ ลุงป้าน้าอา พ่อค้าแม่ค้าชาวสวนชาวไร่
อยู่ ตจว ขับหวานเย็นกันอยู่ 80-90-100 ไม่ก็คลานๆอยู่ในถนนลูกรัง ส่วนมากก็แค่นั้นครับ....กลุ่มลูกค้าส่วนมากของรถแบบนี้
ก็จะประมาณนี้แหละครับ (ย้ำ...โดยส่วนมากรวมทั่วประเทศ) แถมดีแม็กยังเป็นรถคันแรกของหลายๆคนด้วย แน่นอนครับ
ก็มันรถคันแรก เค้าคงไม่มีอะไรให้เคยเปรียบเทียบ คิดว่าอะไรที่เป็นแบบในดีแม็กมันก็เป็นปกติของรถ ไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดีอย่างไร...


ส่วนข้อเสียที่ผมเจอกับ D max คือบางข้อมันก็เป็นข้อเสียแบบแค่หน้ารำคาญเฉยๆครับ บางอย่างก็ไม่ได้มีผลกับการใช้งานเท่าไหร่ครับ
แต่บางอย่างก็มี แต่ถึงมี มันก็ขับได้ใช้งานได้ ขึ้นเหนือล่องใต้ได้หมดแหละครับ แค่มันด้อยกว่าชาวบ้านเค้าเท่านั้นครับบางอย่าง...
คือจะมีดังนี้ครับ (อ่อ ของผมเป็นตัว Day light 2014 เกียร์ MT นะครับ รุ่นหลังๆอาจมีการปรับปรุงบางอย่างแล้วก็ได้นะครับ
อันนี้ผมก็ไม่ทราบ)

1. เสียงเปิด-ปิดประตู มันฟังดูรู้สึกก๋องแก๋งเหมือนรถกระป๋องคุณภาพต่ำไงงั้นเลยครับ เทียบกับนาวาร่าที่จะเป็นปิดเสียง"ครึบ"เหมือนรถเก๋งชั้นดี

2. ช่วงที่เอารถมาใหม่ๆวิ่งเกิน 140 มีเสียงดัง"วื๊ดดดด"สนั่นห้องโดยสาร ผมตกใจจนต้องยกคันเร่ง เอาไปเข้า 0 เค้าบอกว่ายางขอบประตูไม่ดี
พอลมมันวิ่งมาเข้าขอบประตูมันเลยดังครับ เค้าเลยจัดการเปลี่ยนให้ผม ก็หายครับ (แต่แหม รถผมบางคันเก่าเกือบ 30ปี ยางประตูเปื่อยๆ
วิ่ง 200ยังไม่มีอะไรดังแบบนี้เลยนะ 555+)

3. ตอนยังป้ายแดงอยู่ อยู่ๆดีประตูแค๊ปเปิดไม่ได้ซ่ะงั้น เอาไปกลับไปเข้า 0 ก็แก้หายครับ (ตรงนี้คงเป็นบางคันอะน่ะครับ)

4. ตัวเกียร์ธรรมดาห่วยที่สุดในท้องตลาด ทั้งช่วงยาว และขัดๆมือ ไม่นิ่มนวล แม้จะจะใช้พ้นระยะรันอินไปแล้ว ก็ยังขัดๆมือตลอด
จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ลื่น คงเป็นเพราะการออกแบบที่ไม่ดีมาตั้งแต่แรกแหละครับ แก้ไม่ได้....อ่อ ส่วนนึงคงเป็นเพราะผมเป็นคน
เปลี่ยนเกียร์เร็วด้วยแหละครับ ถ้าเกียร์ไม่ดี มันก็จะรู้สึกง่ายครับ ถ้าเป็นชาวบ้านขับเปลี่ยนแบบ Granny shifting (เปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลงที
ใช้เวลา 1.5-2วิ. ต่อครั้ง) ก็อาจไม่รู้สึกมากครับ แต่ผมขับเกียร์ MT มาตั้งรถสมัยก่อน ตั้งแต่เครื่องเบนซินคาร์บู แฟมิเลีย หรือเครื่องดีเซลปั๊มจานจ่าย บิ๊กเอ็ม ไมตี้เอ็กซ์ สตราด้า ฟรอนเทียร์ ไทรทัน นาวาร่า ฯลฯ กับเก๋งอีกหลายๆรุ่นในอดีตจนปัจจุบันที่เป็นเกียร์ MT ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยครับว่า เกียร์ MT 5 สปีด ของอีซูซุปัจจุบันนี่แหละครับ ห่วยสุดเท่าที่ผมเคยเจอแล้วครับ เกียร์รถรุ่นโบราณยังดีกว่า ส่วนเกียร์ 6สปีดของตัว 1.9 ผมยังไม่เคยขับน่ะครับ เลยยังไม่ขอนั่งเทียน สำหรับตัว 6 สปีดของอีซูซุ

5. คลัตช์ทำงานไม่นุ่มนวล รู้สึกตึงตังตลอด แม้จะทำ Rev match ดีแล้วก็ตาม (ผมขับรถเกียร์ MT จะทำ Rev match ตลอด)
แล้วรู้สึกเหมือนเกียร์ของมันครับ ผมรู้สึกว่าคลัตช์มันห่วยสุดเท่าที่ผมเคยเจอเลยครับ อันนี้ผมอธิบายไม่ได้เหมือนกันครับว่า
สาเหตุมาจากอะไร อาจจะเกี่ยวกับเกียร์ด้วยก็ได้ หรือไม่ก็อีซูซุใช้ฟลายวีลน้ำหนักมากเกินไปหน่อย เวลาตัดต่อกำลังเลยไม่นิ่มนวล
ก็มีส่วน แต่ผมก็ไม่แน่ใจครับ ไม่แน่ใจว่าสาเหตุจริงๆแล้วมาจากอะไร แต่มันเกี่ยวกับการออกแบบชุดคลัตช์และเกียร์ของอีซูซุนี่แหละครับ

6. กำลังเครื่องขับแล้วอัตราเร่งรู้สึกอืดกว่าความเป็นจริง เช่นของผม 136 แรงม้า แต่ขึ้นไปขับรู้เหมือนมันมีแค่ 120-125 ม้าอะครับ
ส่วนนึง เท่าที่ผมจับอาการได้คือคันเร่งตอบสนองช้า ไม่เป็นธรรมชาติอย่างนาวาร่า และเทอร์โบตัวเล็ก เล็กกว่านาวาร่าชัดเจน
แต....ดันติดบูสท์ช้ากว่า = =" เอ้อ ตลก.....แต่ช่วงความเร็วปลายไหลดีครับ ไม่มีปัญหา แต่ที่ว่าคือช่วงอัตราเร่งต้นๆครับ
อืดมาก แต่ตอนนี้โมกล่องไปเรียบร้อยละครับ อิๆ

7. ช่วงล่างเดิมๆนั้นนิ่ม แต่ดันขับแล้วไม่นิ่ม โหวงเหวง ดิ้น กระด้าง ไม่เกี่ยวกับลมยางแน่นอน เพราะผมตรวจลมกับสภาพยางตลอดครับ
(สรุปคือโดยรวมคือห่วยแหละครับ) ทั้งความเร็วต่ำและความเร็วสูง แต่ถ้าขับทางเรียบก็โอเคครับ แต่พอเจอถนนที่ไม่เรียบหน่อย (ซึ่งส่วนมาก
ก็จะเจอไม่ค่อยเรียบมากกว่าเรียบ) หรือโดดคอสะพานนี่หยวบยาบแล้วลงมามีอาการดิ้นๆ ไม่ได้เรื่องเลยครับ อาการเหมือนช่วงล่างเก็บอาการไม่อยู่
รถจะมีอาการ"ขยิกๆๆๆ"ตลอดแบบรู้สึกได้ ขับคลานเข้าซอยแถวบ้าน ที่ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มันไม่นิ่มนวลเลย ทั้งดิ้นและกระด้างๆ ทั้งๆที่โช๊คมันนิ่มน่ะ
ครับ แปลกมั๊ย เฮ้อๆ เปรียบเทียบกับนาวาร่า นาวาร่าโช๊คเดิมๆจะแข็งกว่า แต่ขับแล้วนุ่มนวลกว่า สบายกว่า นิ่งกว่าแบบเยอะเลยครับ คือมันอธิบายเป็นคำพูดลำบากครับ ถ้าคนขับรถบ่อยหลายๆรุ่น หรือนักรีวิว จะเข้าใจครับ ว่าความรู้สึกที่ผมพูดคืออะไร....ถ้าสมมติว่าปวดฉี่อยู่แล้วขับ D max นี่บอกเลยว่าทรมานครับ กระเพาะปัสวะอาจแตกได้ 555+ แต่ผมเอาไปเปลี่ยนโช๊คใส่กันโคลง โหลดลงต่ำหน่อย หมดไป 14,000 ก็ดีขึ้นครับ โดนคอสะพานดีขึ้น
ไม่หยวบยาบแล้ว แต่อาการช่วงล่างเก็บอาการถนนไม่ค่อยอยู่"ขยิกๆ"ไม่นิ่ง หรือดิ้น ยังอยู่เหมือนเดิมครับ ขนาดโมฯช่วงล่างมาแล้ว
ยังสู้นาวาร่าเดิมๆไม่ได้ T_T มันคงเป็นมาจากการออกแบบตั้งแต่แรกแล้วแหละครับ คงแก้ไม่หาย ถ้าเปรียบช่วงล่างอีซูซุกับก๊วยเตี๋ยว
ก็คือก๊วยเตี๋ยวชามนี้คนทำมันทำไม่อร่อยมาตั้งแต่แรกแล้ว แล้วการที่ผมไปเปลี่ยนโช๊คโมฯช่วงล่าง ก็เหมือนการเอาผักชีไปโรยหน้า+ใส่เครื่องปรุงช่วย
มันก็ช่วยได้ระดับนึง แต่มันก็คงยังไม่อร่อยอยู่ดี....


สรุปความรู้สึกส่วนตัวผม ผมรู้สึกว่าผมจ่ายตังซื้อเจ้าตลาดในราคาที่เท่ากัน(เหมือนจะแพงกว่าหน่อยๆด้วย)แต่ผมกลับได้ของที่คุณภาพต่ำกว่านะะครับ


กลับมาตอบคำถามเดิมของ จขกท ว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีคนบ่นข้อเสียของมันมากมายใหญ่โต ก็เพราะตามที่ผมบอกเรื่องกลุ่มลูกค้า D max
ไว้ข้างต้นนั่นแหละครับ สรุปก็คือบางคนเค้าไม่รู้ หรือไม่ก็ใช้รถไม่ถึงจุดที่รับรู้ข้อเสียได้ชัดเจน ส่วนคนที่รู้จริงๆและบนก็จะเป็นส่วนน้อยกว่า
แถมในส่วนน้อยที่ว่านั้น บางคนไม่ได้เล่นเน็ตอีก....เพราะฉะนั้นลูกค้าที่ใช้ D max คนที่ใช้แบบรู้ถึงข้อเสียจริงๆแล้วเล่นเน็ตเล่นเว็บด้วย
มันเลยมี % ที่น้อยมากๆครับ ก็เหมือนมดที่ตะโกนอยู่นั่นแหละครับ ไม่ค่อยมีใครสนใจหรือได้ยินเท่าไหร่ครับ...
 

แต่เดี๋ยวจะหาว่าๆแต่ D max ว่ามีข้อเสียนะครับ ไม่ใช่ครับ เค้าก็มีข้อดีครับ คือความประหยัด ประหยัดจริงครับ
แล้วก็ค่าบำรุงรักษาเวลาเข้า 0 นี่ถูกมากครับ ดีต่อใจ อย่างของนาวาร่านี่ เข้า 0 ที ราคา 1.5เท่าของดีแม็กได้เลยครับขั้นต่ำนะ
แล้วราคาขายต่อดีกว่าชาวบ้านครับ (ก็เจ้าตลาดนิ) คือเอามาใช้ไม่คิดไรก็ใช้ได้แหละครับ ขึ้นเหนือล่องใต้ได้หมด อย่างที่บอก
แค่คุณภาพรถ กับคุณภาพการขับขี่ โดยรวมมันห่วยกว่าชาวบ้านเขาที่ยอดขายต่ำกว่าเท่านั้นเองครับ ก็เลือกเอา จะเอาแบบไหนนะครับ.


ปล. ทีนี้ จขกท พอเข้าใจยังครับ ว่าทำไมข้อเสียมันเยอะ แต่ไม่ค่อยมีคนมาบ่นมาอะไรใหญ่โต
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 14, 2018, 14:54:11 โดย Peet Sayumpoo »

RockmanJilly005

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 15:15:26 »
ตอบ จขกท

อย่างที่หลายๆท่านบอกครับ มันมีปัญหาแต่ก็สามารถแก้จบได้ครับ ส่วนที่ว่าไม่ค่อยมีใครออกมาบ่นอะไรแบบร้ายแรงนั้น
คือผมจะอธิบายอย่างนี้ครับ D max เป็นรถตลาดที่ขายในกลุ่มลูกค้าที่กว้างมากกกกกกทั่วประเทศ กลุ่มลูกค้ามีทุกสายงานอาชีพ
มีทั้งวัยรุ่น คุณลุง คุณป้า น้า อา คุณปู่ คุณตา หรือคนขับรถส่งของตามบริษัท ทั้ง กทม และ ชนบท อีกเพียบ (โดยเฉพาะคนชนบท
จะใช้ D max เยอะเป็นพิเศษ) ก็ใช้กันทั้งนั้น ก็เพราะอย่างนั้นกว่า 80% ของลูกค้า D max นั้น พูดง่ายๆว่าโดยส่วนมาก"ไม่ใช่"กลุ่มคน
ที่มีความรู้ทางวิศวกรรมยานยนต์ หรือ เทคนิคยานยนต์ หรือ ศาสตร์ทางด้านการขับขี่มากนัก (ย้ำอีกทีครับ ว่าโดยส่วนมาก ไม่ใช่ทุกคนของลูกค้า D max) แล้วเผลอๆก็ไม่ได้เล่นเน็ต ไม่ได้เล่นเว็บนี้ ไม่ได้ติดตามข่าวสารยานยนต์เท่าไหร่ด้วย...
ก็ลองนึกสภาพบางคน มีหลายคนผมเคยเห็นเค้าขับรถ โช๊คบางตัวเสีย หรือลมยางบางล้ออ่อนไปมากๆ เค้าก็ยังขับไปอย่างนั้นโดยที่ไม่รู้ว่ารถเค้ามีชิ้นส่วนบกพร่องอยู่ ถ้าไม่บอกเค้าก็ไม่รู้ คนใช้รถประเภทนี้ก็มีเยอะน่ะครับ แล้วคิดดูครับขนาดนั้นเค้ายังไม่รู้สึก แล้วกับเรื่องช่วงล่างดีแม็กที่ด้อยกว่าชาวบ้านอะไรยังไงบ้าง ก็ยิ่งแล้วใหญ่เลยทีนี้ เรื่องแบบนี้เค้าไม่รู้หรอกครับ รถขับไปไหนมาไหนได้เป็นพอ ลุงป้าน้าอา พ่อค้าแม่ค้าชาวสวนชาวไร่อยู่ ตจว ขับหวานเย็นกันอยู่ 80-90-100 ไม่ก็คลานๆอยู่ในถนนลูกรัง ส่วนมากก็แค่นั้นครับ....กลุ่มลูกค้าส่วนมากของรถแบบนี้
ก็จะประมาณนี้แหละครับ (ย้ำ...โดยส่วนมากรวมทั่วประเทศ) แถมดีแม็กยังเป็นรถคันแรกของหลายๆคนด้วย แน่นอนครับ
ก็มันรถคันแรก เค้าคงไม่มีอะไรให้เคยเปรียบเทียบ คิดว่าอะไรที่เป็นแบบในดีแม็กมันก็เป็นปกติของรถ ไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดีอย่างไร...


ส่วนข้อเสียที่ผมเจอกับ D max คือบางข้อมันก็เป็นข้อเสียแบบแค่หน้ารำคาญเฉยๆครับ บางอย่างก็ไม่ได้มีผลกับการใช้งานเท่าไหร่ครับ
แต่บางอย่างก็มี แต่ถึงมี มันก็ขับได้ใช้งานได้ ขึ้นเหนือล่องใต้ได้หมดแหละครับ แค่มันด้อยกว่าชาวบ้านเค้าเท่านั้นครับบางอย่าง...
คือจะมีดังนี้ครับ (อ่อ ของผมเป็นตัว Day light 2014 เกียร์ MT นะครับ รุ่นหลังๆอาจมีการปรับปรุงบางอย่างแล้วก็ได้นะครับ
อันนี้ผมก็ไม่ทราบ)

1. เสียงเปิด-ปิดประตู มันฟังดูรู้สึกก๋องแก๋งเหมือนรถกระป๋องคุณภาพต่ำไงงั้นเลยครับ เทียบกับนาวาร่าที่จะเป็นปิดเสียง"ครึบ"เหมือนรถเก๋งชั้นดี

2. ช่วงที่เอารถมาใหม่ๆวิ่งเกิน 140 มีเสียงดัง"วื๊ดดดด"สนั่นห้องโดยสาร ผมตกใจจนต้องยกคันเร่ง เอาไปเข้า 0 เค้าบอกว่ายางขอบประตูไม่ดี
พอลมมันวิ่งมาเข้าขอบประตูมันเลยดังครับ เค้าเลยจัดการเปลี่ยนให้ผม ก็หายครับ (แต่แหม รถผมบางคันเก่าเกือบ 30ปี ยางประตูเปื่อยๆ
วิ่ง 200ยังไม่มีอะไรดังแบบนี้เลยนะ 555+)

3. ตอนยังป้ายแดงอยู่ อยู่ๆดีประตูแค๊ปเปิดไม่ได้ซ่ะงั้น เอาไปกลับไปเข้า 0 ก็แก้หายครับ (ตรงนี้คงเป็นบางคันอะน่ะครับ)

4. ตัวเกียร์ธรรมดาห่วยที่สุดในท้องตลาด ทั้งช่วงยาว และขัดๆมือ ไม่นิ่มนวล แม้จะจะใช้พ้นระยะรันอินไปแล้ว ก็ยังขัดๆมือตลอด
จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ลื่น คงเป็นเพราะการออกแบบที่ไม่ดีมาตั้งแต่แรกแหละครับ แก้ไม่ได้....อ่อ ส่วนนึงคงเป็นเพราะผมเป็นคน
เปลี่ยนเกียร์เร็วด้วยแหละครับ ถ้าเกียร์ไม่ดี มันก็จะรู้สึกง่ายครับ ถ้าเป็นชาวบ้านขับเปลี่ยนแบบ Granny shifting (เปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลงที
ใช้เวลา 1.5-2วิ. ต่อครั้ง) ก็อาจไม่รู้สึกมากครับ แต่ผมขับเกียร์ MT มาตั้งรถสมัยก่อน ตั้งแต่เครื่องเบนซินคาร์บู แฟมิเลีย หรือเครื่องดีเซลปั๊มจานจ่าย บิ๊กเอ็ม ไมตี้เอ็กซ์ สตราด้า ฟรอนเทียร์ ไทรทัน นาวาร่า ฯลฯ กับเก๋งอีกหลายๆรุ่นในอดีตจนปัจจุบันที่เป็นเกียร์ MT ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยครับว่า เกียร์ MT 5 สปีด ของอีซูซุปัจจุบันนี่แหละครับ ห่วยสุดเท่าที่ผมเคยเจอแล้วครับ เกียร์รถรุ่นโบราณยังดีกว่า ส่วนเกียร์ 6สปีดของตัว 1.9 ผมยังไม่เคยขับน่ะครับ เลยยังไม่ขอนั่งเทียน สำหรับตัว 6 สปีดของอีซูซุ

5. คลัตช์ทำงานไม่นุ่มนวล รู้สึกตึงตังตลอด แม้จะทำ Rev match ดีแล้วก็ตาม (ผมขับรถเกียร์ MT จะทำ Rev match ตลอด)
แล้วรู้สึกเหมือนเกียร์ของมันครับ ผมรู้สึกว่าคลัตช์มันห่วยสุดเท่าที่ผมเคยเจอเลยครับ อันนี้ผมอธิบายไม่ได้เหมือนกันครับว่า
สาเหตุมาจากอะไร อาจจะเกี่ยวกับเกียร์ด้วยก็ได้ หรือไม่ก็อีซูซุใช้ฟลายวีลน้ำหนักมากเกินไปหน่อย เวลาตัดต่อกำลังเลยไม่นิ่มนวล
ก็มีส่วน แต่ผมก็ไม่แน่ใจครับ ไม่แน่ใจว่าสาเหตุจริงๆแล้วมาจากอะไร แต่มันเกี่ยวกับการออกแบบชุดคลัตช์และเกียร์ของอีซูซุนี่แหละครับ

6. กำลังเครื่องขับแล้วอัตราเร่งรู้สึกอืดกว่าความเป็นจริง เช่นของผม 136 แรงม้า แต่ขึ้นไปขับรู้เหมือนมันมีแค่ 120-125 ม้าอะครับ
ส่วนนึง เท่าที่ผมจับอาการได้คือคันเร่งตอบสนองช้า ไม่เป็นธรรมชาติอย่างนาวาร่า และเทอร์โบตัวเล็ก เล็กกว่านาวาร่าชัดเจน
แต....ดันติดบูสท์ช้ากว่า = =" เอ้อ ตลก.....แต่ช่วงความเร็วปลายไหลดีครับ ไม่มีปัญหา แต่ที่ว่าคือช่วงอัตราเร่งต้นๆครับ
อืดมาก แต่ตอนนี้โมกล่องไปเรียบร้อยละครับ อิๆ

7. ช่วงล่างเดิมๆนั้นนิ่ม แต่ดันขับแล้วไม่นิ่ม โหวงเหวง ดิ้น กระด้าง ไม่เกี่ยวกับลมยางแน่นอน เพราะผมตรวจลมกับสภาพยางตลอดครับ
(สรุปคือโดยรวมคือห่วยแหละครับ) ทั้งความเร็วต่ำและความเร็วสูง แต่ถ้าขับทางเรียบก็โอเคครับ แต่พอเจอถนนที่ไม่เรียบหน่อย (ซึ่งส่วนมาก
ก็จะเจอไม่ค่อยเรียบมากกว่าเรียบ) หรือโดดคอสะพานนี่หยวบยาบแล้วลงมามีอาการดิ้นๆ ไม่ได้เรื่องเลยครับ อาการเหมือนช่วงล่างเก็บอาการไม่อยู่
รถจะมีอาการ"ขยิกๆๆๆ"ตลอดแบบรู้สึกได้ ขับคลานเข้าซอยแถวบ้าน ที่ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มันไม่นิ่มนวลเลย ทั้งดิ้นและกระด้างๆ ทั้งๆที่โช๊คมันนิ่มน่ะ
ครับ แปลกมั๊ย เฮ้อๆ เปรียบเทียบกับนาวาร่า นาวาร่าโช๊คเดิมๆจะแข็งกว่า แต่ขับแล้วนุ่มนวลกว่า สบายกว่า นิ่งกว่าแบบเยอะเลยครับ คือมันอธิบายเป็นคำพูดลำบากครับ ถ้าคนขับรถบ่อยหลายๆรุ่น หรือนักรีวิว จะเข้าใจครับ ว่าความรู้สึกที่ผมพูดคืออะไร....ถ้าสมมติว่าปวดฉี่อยู่แล้วขับ D max นี่บอกเลยว่าทรมานครับ กระเพาะปัสวะอาจแตกได้ 555+ แต่ผมเอาไปเปลี่ยนโช๊คใส่กันโคลง โหลดลงต่ำหน่อย หมดไป 14,000 ก็ดีขึ้นครับ โดนคอสะพานดีขึ้น
ไม่หยวบยาบแล้ว แต่อาการช่วงล่างเก็บอาการถนนไม่ค่อยอยู่"ขยิกๆ"ไม่นิ่ง หรือดิ้น ยังอยู่เหมือนเดิมครับ ขนาดโมฯช่วงล่างมาแล้ว
ยังสู้นาวาร่าเดิมๆไม่ได้ T_T มันคงเป็นมาจากการออกแบบตั้งแต่แรกแล้วแหละครับ คงแก้ไม่หาย ถ้าเปรียบช่วงล่างอีซูซุกับก๊วยเตี๋ยว
ก็คือก๊วยเตี๋ยวชามนี้คนทำมันทำไม่อร่อยมาตั้งแต่แรกแล้ว แล้วการที่ผมไปเปลี่ยนโช๊คโมฯช่วงล่าง ก็เหมือนการเอาผักชีไปโรยหน้า+ใส่เครื่องปรุงช่วย
มันก็ช่วยได้ระดับนึง แต่มันก็คงยังไม่อร่อยอยู่ดี....


สรุปความรู้สึกส่วนตัวผม ผมรู้สึกว่าผมจ่ายตังซื้อเจ้าตลาดในราคาที่เท่ากัน(เหมือนจะแพงกว่าหน่อยๆด้วย)แต่ผมกลับได้ของที่คุณภาพต่ำกว่านะะครับ


กลับมาตอบคำถามเดิมของ จขกท ว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีคนบ่นข้อเสียของมันมากมายใหญ่โต ก็เพราะตามที่ผมบอกเรื่องกลุ่มลูกค้า D max
ไว้ข้างต้นนั่นแหละครับ สรุปก็คือบางคนเค้าไม่รู้ หรือไม่ก็ใช้รถไม่ถึงจุดที่รับรู้ข้อเสียได้ชัดเจน ส่วนคนที่รู้จริงๆและบนก็จะเป็นส่วนน้อยกว่า
แถมในส่วนน้อยที่ว่านั้น บางคนไม่ได้เล่นเน็ตอีก....เพราะฉะนั้นลูกค้าที่ใช้ D max คนที่ใช้แบบรู้ถึงข้อเสียจริงๆแล้วเล่นเน็ตเล่นเว็บด้วย
มันเลยมี % ที่น้อยมากๆครับ ก็เหมือนมดที่ตะโกนอยู่นั่นแหละครับ ไม่ค่อยมีใครสนใจหรือได้ยินเท่าไหร่ครับ...
 

แต่เดี๋ยวจะหาว่าๆแต่ D max ว่ามีข้อเสียนะครับ ไม่ใช่ครับ เค้าก็มีข้อดีครับ คือความประหยัด ประหยัดจริงครับ
แล้วก็ค่าบำรุงรักษาเวลาเข้า 0 นี่ถูกมากครับ ดีต่อใจ อย่างของนาวาร่านี่ เข้า 0 ที ราคา 1.5เท่าของดีแม็กได้เลยครับขั้นต่ำนะ
แล้วราคาขายต่อดีกว่าชาวบ้านครับ (ก็เจ้าตลาดนิ) คือเอามาใช้ไม่คิดไรก็ใช้ได้แหละครับ ขึ้นเหนือล่องใต้ได้หมด อย่างที่บอก
แค่คุณภาพรถ กับคุณภาพการขับขี่ โดยรวมมันห่วยกว่าชาวบ้านเขาที่ยอดขายต่ำกว่าเท่านั้นเองครับ ก็เลือกเอา จะเอาแบบไหนนะครับ.


ปล. ทีนี้ จขกท พอเข้าใจยังครับ ว่าทำไมข้อเสียมันเยอะ แต่ไม่ค่อยมีคนมาบ่นมาอะไรใหญ่โต

ขอบคุณมากมายครับพี่พีท  8)

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
    • อีเมล์
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 15:36:04 »
ตามที่คุณ peet กล่าวมา ผมเจอหมดทุกข้อเลยครับ เห็นด้วยโดยเฉพาะเรื่องเกียร์ธรรมดา

เพิ่มอีกสองข้อครับ ข้อแรก ผมเคยเข้าเคลมโช๊คแตกที่ 2,000 กิโลครับ แต่เคลมมาจนถึงทุกวันนี้ 130,000 ก็ยังโอเค

ข้อสอง โช๊คไม่สมดุลกับรถครับ ขนาดโช๊คดีๆ ตอนรถใหม่กริ๊บๆ เวลากดด้วยมือรถยังเด้งเห็นด้วยตาเปล่า 2-3 ครั้ง

ซึ่งรถปกติควรจะเด้งรอบเดียว มีผลมากกับอาการสะบัดตอนเข้าโค้งครับ แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังใช้โช๊คศูนย์อยู่นะ ตอนลอง ลองให้รู้ ไม่ได้ขับแบบนั้นทุกวัน เจอโค้งก็หยอด

แต่ข้อดีก็คือศูนย์บริการนั่นล่ะครับ และประหยัดน้ำมันมาก

ปล. ผม 4Dr HiLander 3.0 Z-Prestige MT 2013 รุ่นก่อน Daylight ครับ

เลือกเพราะเป็นเกียร์ธรรมดาที่ออปชั่นเยอะที่สุดในตลาดที่หาได้ในตอนนั้น และราคาไม่โดดเกินไป

ไม่เสียใจที่ซื้อครับ ในวันที่เลือกจนถึงวันนี้ ผมยินดีขับรถเกียร์ธรรมดาที่ห่วยๆ มากกว่ารถเทพที่เป็นเกียร์ออโต้ ยกเว้นเกียร์ออโต้แบบคลัทช์คู่

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 17:28:39 »
เคยได้ยินปัญหาเสียงใบไม้หน้าเครื่องไหมครับ(เจ้าของบอกว่า เฟืองหน้าเครื่องที่มีรอกสายพานทั้งชุดนั้นเลย)
รถพี่ที่ทำงานเคยเคลมมาแล้ว ตอนรถใช้มา 1 ปีกว่า (ปัจจุบันรถอายุ 3 ปีกว่า)
ช่างแจ้งถ้าจ่ายเองหลังหมดประกัน ประมาณ 3 หมื่นกว่า
ถ้าคนไม่สนใจ ไม่ใส่ใจจริงๆ จะไม่ได้ยินเสียง แต่จะไม่เคลมให้ถ้าไม่แจ้งประมาณนั้นครับ
เขาบอกว่าน่าจะเป็นเกือบทุกคัน และเปลี่ยนแล้วก็มีโอกาสเป็นเหมือนเดิม
แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อการขับขี่ แต่จะมีเสียง เหมือนใบไม้กระทบกับอะไรสักอย่าง
ช่างก็เหมือนจะกระซิบพี่เขาด้วยว่า อย่าไปพูดต่อนะจะเคลมให้ฟรี(เขาสนิทกันกับผู้จัดการในศูนย์)
จะบอกว่า อีซูซุจัดการปัญหาค่อนข้างดี คือเก็บเงียบ และถ้ามีปัญหาจริง จะไม่ปล่อยให้ลาม ไม่ต้องฟ้องหรอก ไม่ต้องรอ

และอีกคันของภรรยาพี่คนเดียวกัน ซื้อหลังจากอีกคัน 2 ปี  ซื้อมาได้เจ็ดวัน เกียร์เข้าไม่ได้
เปลี่ยนเกียร์ยกชุด สำนักงานใหญ่มาเอาเกียร์ไปวิจัยเลยว่าทำไมถึงมีอาการเสียแบบนี้ได้
(กรณีที่สองนี้ อาจจะเพราะอาถรรพ์  คือ คนขาย บอกว่า อย่าออกรถวันพุธ แต่แฟนพี่เขายืนยันว่า วันพุธโดยไม่ฟัง ) อาทิตย์เดียวเห็นผล ไม่รู้จะเกี่ยวกันหรือเปล่านะครับ

ผมยังไม่มีอูซูซุสักคัน แต่คนใกล้ชิดสนิทกัน เล่าให้ฟังครับ แต่ก็มีแผนมองๆ ตัว 1.9 ไว้เหมือนกันครับ

ออฟไลน์ Nioka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,038
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 19:59:10 »
ผมขอแย้ง คุณ peet เรื่อง ลูกค้าทั่วไปหลากหลายไม่บ่นครับ เพราะไม่เล่นnet อันนี่น่าจะใช้ข้อมูลเก่าเกิน 5ปีมาแล้ว

บอกเลยว่าเดี๋ยวนี้ ทุกพื้นที่เขาสื่อสารออนไลน์กันหมดแล้วครับ จะบอกว่าไม่บ่นเพราะไม่เล่นnet ก็คงไม่ใช่^^

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพอจะบอกได้ว่าทำไมถึงบ่นแต่เสียงไม่ดัง เพราะส่วนมากปัญหาเขาแก้จบครับ แก้มั่วไม่จบมีมั้ยตอบเลยว่ามีครับ

เยอะด้วยช่างศูนยไม่ได้เก่งไปทุกเรื่องบางเรืองก็เดาไปเรื่อย แต่เหตุใดเรื่องพวกนี้ไม่เด่นไม่ดัง เพราะส่วนมากมันเป็นปัญหายิบย่อย

ภาษาบ้านผมเรียก ปัญหาจิ๋มมด เขาเอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่า ปัญหาเล็กๆน้อยๆมองข้ามไป น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีกว่าเรื่อง คนทั่วไปไม่เล่นnet

ส่วนทำไมคนเมืองปัญหาเยอะและบ่นดัง เพราะกลุ่มคนเหลานี้ส่วนมากมนุษย์เงินเดือน รายรับค่อนข้างฟิก การที่ลงทุนซื้อของมาใช้แล้วเสีย

มันให้ความรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบอีกทั้งระยะเวลาว่างที่เอาไปศึกษาหรือร้องเรียนกลับมีมากกว่า มันเลยดูจะบ่นเสียงดังกว่าลูกค้า ตจว

ออฟไลน์ korkongzz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 407
    • อีเมล์
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 21:27:42 »
ที่เจออาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่หลวงนัก แต่ก็มีผลต่อความปลอดภัยคือไฟเบรคดวงที่สามที่หลอดขาด บางคันดับหมดทุกดวงเลยไฟเบรคดวงที่สาม

ออฟไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 21:31:23 »
ผมขอแย้ง คุณ peet เรื่อง ลูกค้าทั่วไปหลากหลายไม่บ่นครับ เพราะไม่เล่นnet อันนี่น่าจะใช้ข้อมูลเก่าเกิน 5ปีมาแล้ว

บอกเลยว่าเดี๋ยวนี้ ทุกพื้นที่เขาสื่อสารออนไลน์กันหมดแล้วครับ จะบอกว่าไม่บ่นเพราะไม่เล่นnet ก็คงไม่ใช่^^

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพอจะบอกได้ว่าทำไมถึงบ่นแต่เสียงไม่ดัง เพราะส่วนมากปัญหาเขาแก้จบครับ แก้มั่วไม่จบมีมั้ยตอบเลยว่ามีครับ

เยอะด้วยช่างศูนยไม่ได้เก่งไปทุกเรื่องบางเรืองก็เดาไปเรื่อย แต่เหตุใดเรื่องพวกนี้ไม่เด่นไม่ดัง เพราะส่วนมากมันเป็นปัญหายิบย่อย

ภาษาบ้านผมเรียก ปัญหาจิ๋มมด เขาเอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่า ปัญหาเล็กๆน้อยๆมองข้ามไป น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีกว่าเรื่อง คนทั่วไปไม่เล่นnet

ส่วนทำไมคนเมืองปัญหาเยอะและบ่นดัง เพราะกลุ่มคนเหลานี้ส่วนมากมนุษย์เงินเดือน รายรับค่อนข้างฟิก การที่ลงทุนซื้อของมาใช้แล้วเสีย

มันให้ความรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบอีกทั้งระยะเวลาว่างที่เอาไปศึกษาหรือร้องเรียนกลับมีมากกว่า มันเลยดูจะบ่นเสียงดังกว่าลูกค้า ตจว

ครับผม ขอบคุณมากครับ ที่มาช่วยแสดงความเห็น ถ้าเรื่องกลุ่มลูกค้าาผมตอบไม่ถูกไปบ้าง ก็ต้องขออภัยด้วยครับผม


ส่วนเรื่องปัญหาบางอย่างทางด้าน QC ที่ต้องมาแก้ของ D max ผมย้ำอีกทีว่าตรงนี้ผมไม่ได้บ่นอะไรไม่สนใจอะไรมากมายครับ
เพราะมันก็แก้จบ ผมก็ไม่ได้เสียตังเพราะอยู่ในประกัน จะเห็นว่าข้อ 2-3 ผมพิมพ์นิดเดียวเอง แทบไม่ได้บ่น เพราะผมเข้าใจว่า
สินค้าผลิตชิ้นใหญ่ๆยังไงมันก็มีการหลุด QC ได้บ้าง ไม่แปลกครับ ผมเข้าใจ เค้าแก้ให้ได้ผมก็แฮ็ปปี้ครับ แต่....
แต่ สิ่งที่บ่นหลักๆที่ผมไม่ชอบที่สุดของ D max และอยากให้อีซูซุปรับปรุงก็คือคุณภาพการขับขี่ครับ มันมีอะไรบ้าง ก็ตามข้อที่ผมพิมพ์ยาวๆ
เม้นที่แล้วนั่นแหละครับก็คือ การตอบสนองเครื่องยนต์+เกียร์+คลัตช์+ช่วงล่าง ทั้ง 4 ส่วนนี้ของ D max เป็นอะไรที่ค่อนข้างแย่ (โดยเฉพาะช่วงล่าง)
เมื่อเทียบกับคู่แข่งพวกยี่ห้อที่ยอดขายน้อยกว่าเกินครึ่ง ส่วนที่โอเคใช้ได้แล้ว ก็คือพวงมาลัยครับ แม่นยำดี แล้วก็เบรกครับ ดีใช้ได้เลย
สำหรับเบรกกับพวงมาลัย อีซูซุไม่ต้องปรับปรุงแล้ว ถ้าจะปรับปรุงก็อยากให้ปรับปรุง 4จุดข้างบนนั่นแหละครับ
คือเวลาที่ผมขับ D max แล้วผมรู้สึกว่ามันเป็นรถที่ราคาถูกกว่าคุณภาพต่ำกว่าอีกคันนึงที่ไม่ใช่เจ้าตลาดที่ผมมีนะครับ
ทั้งที่จ่ายตังซื้อมาพอๆกันนะครับ ผมเลยรู้สึกเหมือนโดนอีซูซุเอาเปรียบ (ถ้าขายถูกกว่าสักแสนสองแสนผมจะไม่บ่นสักคำ  ;D )
จริงๆอีซูซุก็เป็นงี้มาอย่างน้อยน่าจะ 20ปีแล้วนะครับ จะว่าไป ::) :-\ ::) ;D แต่ด้วยลูกค้าของรถกระบะอีซูซุ
ส่วนมากเป็นกลุ่ม....(จะพูดเหมือนเม้นที่แล้วนะครับ ขี้เกียจพิมพ์ซ้ำ รบกวนกลับไปอ่านเอาใหม่น่ะครับ 555)
เค้าไม่ได้สนใจตรงจุดนี้เท่าไหร่ บางคนตาม ตจว (บางคนนะครับ) ขับแบบหวานเย็น เหยียบไม่เกินครึ่งคันเร่ง
ปุเล้งปุเล้ง 80-90 Granny shifting วิ่งคลานๆบนลูกรังบ้างไรบ้าง...Rev match คืออะไร ไม่รู้จัก ทำเพื่ออะไร ไม่รู้ ขับๆยัดไปนั่นแหละ
ไปได้เป็นพอ.....คือกลุ่มคนแนวนี้เค้าไม่รู้ถึงข้อเสียเรื่องการขับขี่ที่ผมบอกแน่นอนครับ รับประกัน ฟันธง แล้วกลุ่มลูกค้าแบบนี้ก็มีเยอะด้วยนะครับ
อีซูซุคงรู้ดีถึงกลุ่มลูกค้าตัวเองอยู่แล้ว แล้วก็รู้ด้วยว่าในประเทศไทย ยังไงเค้าก็ขายได้ เลยไม่ค่อยได้แก้อะไร
ไม่เคยปรับปรุงคุณภาพการขับขี่ให้ดีเท่าคู่แข่ง ตามหลังเค้าตลอด....แต่มันจะเป็นการดีมากครับ หากจะปรับปรุงให้ดีขึ้นในอนาคต

สรุป ที่ผมบ่นหลักๆไม่ใช่เรื่อง QC ครับ ผมโอเคตรงจุดนี้ แต่ที่ไม่โอเคแล้วบ่นคือเรื่องคุณภาพการขับขี่ของ D max ครับ


ปล. สำหรับในประเทศไทย ISUZU นี่ถ้าเทียบกับรถยุโรปพรีเมี่ยม ก็เหมือน BENZ ครับ ถึงทำมามีอะไรห่วยกว่าคู่แข่งยังไง
ก็ขายดีเป็นที่ 1 เสมอครับ เมื่อเทียบกับคู่แข่งคลาสเดียวกัน ทำให้รู้เลยครับว่าค่านิยมในอดีตกับตราสินค้านั้นๆในประเทศนี้นั้น
มีผลมากๆครับ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 14, 2018, 21:37:06 โดย Peet Sayumpoo »

ออฟไลน์ shikimaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
    • อีเมล์
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มีนาคม 14, 2018, 22:16:28 »
ตอบ จขกท

อย่างที่หลายๆท่านบอกครับ มันมีปัญหาแต่ก็สามารถแก้จบได้ครับ ส่วนที่ว่าไม่ค่อยมีใครออกมาบ่นอะไรแบบร้ายแรงนั้น
คือผมจะอธิบายอย่างนี้ครับ D max เป็นรถตลาดที่ขายในกลุ่มลูกค้าที่กว้างมากกกกกกทั่วประเทศ กลุ่มลูกค้ามีทุกสายงานอาชีพ
มีทั้งวัยรุ่น คุณลุง คุณป้า น้า อา คุณปู่ คุณตา หรือคนขับรถส่งของตามบริษัท ทั้ง กทม และ ชนบท อีกเพียบ (โดยเฉพาะคนชนบท
จะใช้ D max เยอะเป็นพิเศษ) ก็ใช้กันทั้งนั้น ก็เพราะอย่างนั้นกว่า 80% ของลูกค้า D max นั้น พูดง่ายๆว่าโดยส่วนมาก"ไม่ใช่"กลุ่มคน
ที่มีความรู้ทางวิศวกรรมยานยนต์ หรือ เทคนิคยานยนต์ หรือ ศาสตร์ทางด้านการขับขี่มากนัก (ย้ำอีกทีครับ ว่าโดยส่วนมาก ไม่ใช่ทุกคนของลูกค้า D max) แล้วเผลอๆก็ไม่ได้เล่นเน็ต ไม่ได้เล่นเว็บนี้ ไม่ได้ติดตามข่าวสารยานยนต์เท่าไหร่ด้วย...
ก็ลองนึกสภาพบางคน มีหลายคนผมเคยเห็นเค้าขับรถ โช๊คบางตัวเสีย หรือลมยางบางล้ออ่อนไปมากๆ เค้าก็ยังขับไปอย่างนั้นโดยที่ไม่รู้ว่ารถเค้า
มีชิ้นส่วนบกพร่องอยู่ ถ้าไม่บอกเค้าก็ไม่รู้ คนใช้รถประเภทนี้ก็มีเยอะน่ะครับ แล้วคิดดูครับขนาดนั้นเค้ายังไม่รู้สึก แล้วกับเรื่องช่วงล่างดีแม็กที่ด้อยกว่าชาวบ้านอะไรยังไงบ้าง ก็ยิ่งแล้วใหญ่เลยทีนี้ เรื่องแบบนี้เค้าไม่รู้หรอกครับ รถขับไปไหนมาไหนได้เป็นพอ ลุงป้าน้าอา พ่อค้าแม่ค้าชาวสวนชาวไร่
อยู่ ตจว ขับหวานเย็นกันอยู่ 80-90-100 ไม่ก็คลานๆอยู่ในถนนลูกรัง ส่วนมากก็แค่นั้นครับ....กลุ่มลูกค้าส่วนมากของรถแบบนี้
ก็จะประมาณนี้แหละครับ (ย้ำ...โดยส่วนมากรวมทั่วประเทศ) แถมดีแม็กยังเป็นรถคันแรกของหลายๆคนด้วย แน่นอนครับ
ก็มันรถคันแรก เค้าคงไม่มีอะไรให้เคยเปรียบเทียบ คิดว่าอะไรที่เป็นแบบในดีแม็กมันก็เป็นปกติของรถ ไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดีอย่างไร...


ส่วนข้อเสียที่ผมเจอกับ D max คือบางข้อมันก็เป็นข้อเสียแบบแค่หน้ารำคาญเฉยๆครับ บางอย่างก็ไม่ได้มีผลกับการใช้งานเท่าไหร่ครับ
แต่บางอย่างก็มี แต่ถึงมี มันก็ขับได้ใช้งานได้ ขึ้นเหนือล่องใต้ได้หมดแหละครับ แค่มันด้อยกว่าชาวบ้านเค้าเท่านั้นครับบางอย่าง...
คือจะมีดังนี้ครับ (อ่อ ของผมเป็นตัว Day light 2014 เกียร์ MT นะครับ รุ่นหลังๆอาจมีการปรับปรุงบางอย่างแล้วก็ได้นะครับ
อันนี้ผมก็ไม่ทราบ)

1. เสียงเปิด-ปิดประตู มันฟังดูรู้สึกก๋องแก๋งเหมือนรถกระป๋องคุณภาพต่ำไงงั้นเลยครับ เทียบกับนาวาร่าที่จะเป็นปิดเสียง"ครึบ"เหมือนรถเก๋งชั้นดี

2. ช่วงที่เอารถมาใหม่ๆวิ่งเกิน 140 มีเสียงดัง"วื๊ดดดด"สนั่นห้องโดยสาร ผมตกใจจนต้องยกคันเร่ง เอาไปเข้า 0 เค้าบอกว่ายางขอบประตูไม่ดี
พอลมมันวิ่งมาเข้าขอบประตูมันเลยดังครับ เค้าเลยจัดการเปลี่ยนให้ผม ก็หายครับ (แต่แหม รถผมบางคันเก่าเกือบ 30ปี ยางประตูเปื่อยๆ
วิ่ง 200ยังไม่มีอะไรดังแบบนี้เลยนะ 555+)

3. ตอนยังป้ายแดงอยู่ อยู่ๆดีประตูแค๊ปเปิดไม่ได้ซ่ะงั้น เอาไปกลับไปเข้า 0 ก็แก้หายครับ (ตรงนี้คงเป็นบางคันอะน่ะครับ)

4. ตัวเกียร์ธรรมดาห่วยที่สุดในท้องตลาด ทั้งช่วงยาว และขัดๆมือ ไม่นิ่มนวล แม้จะจะใช้พ้นระยะรันอินไปแล้ว ก็ยังขัดๆมือตลอด
จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ลื่น คงเป็นเพราะการออกแบบที่ไม่ดีมาตั้งแต่แรกแหละครับ แก้ไม่ได้....อ่อ ส่วนนึงคงเป็นเพราะผมเป็นคน
เปลี่ยนเกียร์เร็วด้วยแหละครับ ถ้าเกียร์ไม่ดี มันก็จะรู้สึกง่ายครับ ถ้าเป็นชาวบ้านขับเปลี่ยนแบบ Granny shifting (เปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลงที
ใช้เวลา 1.5-2วิ. ต่อครั้ง) ก็อาจไม่รู้สึกมากครับ แต่ผมขับเกียร์ MT มาตั้งรถสมัยก่อน ตั้งแต่เครื่องเบนซินคาร์บู แฟมิเลีย หรือเครื่องดีเซลปั๊มจานจ่าย บิ๊กเอ็ม ไมตี้เอ็กซ์ สตราด้า ฟรอนเทียร์ ไทรทัน นาวาร่า ฯลฯ กับเก๋งอีกหลายๆรุ่นในอดีตจนปัจจุบันที่เป็นเกียร์ MT ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยครับว่า เกียร์ MT 5 สปีด ของอีซูซุปัจจุบันนี่แหละครับ ห่วยสุดเท่าที่ผมเคยเจอแล้วครับ เกียร์รถรุ่นโบราณยังดีกว่า ส่วนเกียร์ 6สปีดของตัว 1.9 ผมยังไม่เคยขับน่ะครับ เลยยังไม่ขอนั่งเทียน สำหรับตัว 6 สปีดของอีซูซุ

5. คลัตช์ทำงานไม่นุ่มนวล รู้สึกตึงตังตลอด แม้จะทำ Rev match ดีแล้วก็ตาม (ผมขับรถเกียร์ MT จะทำ Rev match ตลอด)
แล้วรู้สึกเหมือนเกียร์ของมันครับ ผมรู้สึกว่าคลัตช์มันห่วยสุดเท่าที่ผมเคยเจอเลยครับ อันนี้ผมอธิบายไม่ได้เหมือนกันครับว่า
สาเหตุมาจากอะไร อาจจะเกี่ยวกับเกียร์ด้วยก็ได้ หรือไม่ก็อีซูซุใช้ฟลายวีลน้ำหนักมากเกินไปหน่อย เวลาตัดต่อกำลังเลยไม่นิ่มนวล
ก็มีส่วน แต่ผมก็ไม่แน่ใจครับ ไม่แน่ใจว่าสาเหตุจริงๆแล้วมาจากอะไร แต่มันเกี่ยวกับการออกแบบชุดคลัตช์และเกียร์ของอีซูซุนี่แหละครับ

6. กำลังเครื่องขับแล้วอัตราเร่งรู้สึกอืดกว่าความเป็นจริง เช่นของผม 136 แรงม้า แต่ขึ้นไปขับรู้เหมือนมันมีแค่ 120-125 ม้าอะครับ
ส่วนนึง เท่าที่ผมจับอาการได้คือคันเร่งตอบสนองช้า ไม่เป็นธรรมชาติอย่างนาวาร่า และเทอร์โบตัวเล็ก เล็กกว่านาวาร่าชัดเจน
แต....ดันติดบูสท์ช้ากว่า = =" เอ้อ ตลก.....แต่ช่วงความเร็วปลายไหลดีครับ ไม่มีปัญหา แต่ที่ว่าคือช่วงอัตราเร่งต้นๆครับ
อืดมาก แต่ตอนนี้โมกล่องไปเรียบร้อยละครับ อิๆ

7. ช่วงล่างเดิมๆนั้นนิ่ม แต่ดันขับแล้วไม่นิ่ม โหวงเหวง ดิ้น กระด้าง ไม่เกี่ยวกับลมยางแน่นอน เพราะผมตรวจลมกับสภาพยางตลอดครับ
(สรุปคือโดยรวมคือห่วยแหละครับ) ทั้งความเร็วต่ำและความเร็วสูง แต่ถ้าขับทางเรียบก็โอเคครับ แต่พอเจอถนนที่ไม่เรียบหน่อย (ซึ่งส่วนมาก
ก็จะเจอไม่ค่อยเรียบมากกว่าเรียบ) หรือโดดคอสะพานนี่หยวบยาบแล้วลงมามีอาการดิ้นๆ ไม่ได้เรื่องเลยครับ อาการเหมือนช่วงล่างเก็บอาการไม่อยู่
รถจะมีอาการ"ขยิกๆๆๆ"ตลอดแบบรู้สึกได้ ขับคลานเข้าซอยแถวบ้าน ที่ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มันไม่นิ่มนวลเลย ทั้งดิ้นและกระด้างๆ ทั้งๆที่โช๊คมันนิ่มน่ะ
ครับ แปลกมั๊ย เฮ้อๆ เปรียบเทียบกับนาวาร่า นาวาร่าโช๊คเดิมๆจะแข็งกว่า แต่ขับแล้วนุ่มนวลกว่า สบายกว่า นิ่งกว่าแบบเยอะเลยครับ คือมันอธิบายเป็นคำพูดลำบากครับ ถ้าคนขับรถบ่อยหลายๆรุ่น หรือนักรีวิว จะเข้าใจครับ ว่าความรู้สึกที่ผมพูดคืออะไร....ถ้าสมมติว่าปวดฉี่อยู่แล้วขับ D max นี่บอกเลยว่าทรมานครับ กระเพาะปัสวะอาจแตกได้ 555+ แต่ผมเอาไปเปลี่ยนโช๊คใส่กันโคลง โหลดลงต่ำหน่อย หมดไป 14,000 ก็ดีขึ้นครับ โดนคอสะพานดีขึ้น
ไม่หยวบยาบแล้ว แต่อาการช่วงล่างเก็บอาการถนนไม่ค่อยอยู่"ขยิกๆ"ไม่นิ่ง หรือดิ้น ยังอยู่เหมือนเดิมครับ ขนาดโมฯช่วงล่างมาแล้ว
ยังสู้นาวาร่าเดิมๆไม่ได้ T_T มันคงเป็นมาจากการออกแบบตั้งแต่แรกแล้วแหละครับ คงแก้ไม่หาย ถ้าเปรียบช่วงล่างอีซูซุกับก๊วยเตี๋ยว
ก็คือก๊วยเตี๋ยวชามนี้คนทำมันทำไม่อร่อยมาตั้งแต่แรกแล้ว แล้วการที่ผมไปเปลี่ยนโช๊คโมฯช่วงล่าง ก็เหมือนการเอาผักชีไปโรยหน้า+ใส่เครื่องปรุงช่วย
มันก็ช่วยได้ระดับนึง แต่มันก็คงยังไม่อร่อยอยู่ดี....


สรุปความรู้สึกส่วนตัวผม ผมรู้สึกว่าผมจ่ายตังซื้อเจ้าตลาดในราคาที่เท่ากัน(เหมือนจะแพงกว่าหน่อยๆด้วย)แต่ผมกลับได้ของที่คุณภาพต่ำกว่านะะครับ


กลับมาตอบคำถามเดิมของ จขกท ว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีคนบ่นข้อเสียของมันมากมายใหญ่โต ก็เพราะตามที่ผมบอกเรื่องกลุ่มลูกค้า D max
ไว้ข้างต้นนั่นแหละครับ สรุปก็คือบางคนเค้าไม่รู้ หรือไม่ก็ใช้รถไม่ถึงจุดที่รับรู้ข้อเสียได้ชัดเจน ส่วนคนที่รู้จริงๆและบนก็จะเป็นส่วนน้อยกว่า
แถมในส่วนน้อยที่ว่านั้น บางคนไม่ได้เล่นเน็ตอีก....เพราะฉะนั้นลูกค้าที่ใช้ D max คนที่ใช้แบบรู้ถึงข้อเสียจริงๆแล้วเล่นเน็ตเล่นเว็บด้วย
มันเลยมี % ที่น้อยมากๆครับ ก็เหมือนมดที่ตะโกนอยู่นั่นแหละครับ ไม่ค่อยมีใครสนใจหรือได้ยินเท่าไหร่ครับ...
 

แต่เดี๋ยวจะหาว่าๆแต่ D max ว่ามีข้อเสียนะครับ ไม่ใช่ครับ เค้าก็มีข้อดีครับ คือความประหยัด ประหยัดจริงครับ
แล้วก็ค่าบำรุงรักษาเวลาเข้า 0 นี่ถูกมากครับ ดีต่อใจ อย่างของนาวาร่านี่ เข้า 0 ที ราคา 1.5เท่าของดีแม็กได้เลยครับขั้นต่ำนะ
แล้วราคาขายต่อดีกว่าชาวบ้านครับ (ก็เจ้าตลาดนิ) คือเอามาใช้ไม่คิดไรก็ใช้ได้แหละครับ ขึ้นเหนือล่องใต้ได้หมด อย่างที่บอก
แค่คุณภาพรถ กับคุณภาพการขับขี่ โดยรวมมันห่วยกว่าชาวบ้านเขาที่ยอดขายต่ำกว่าเท่านั้นเองครับ ก็เลือกเอา จะเอาแบบไหนนะครับ.


ปล. ทีนี้ จขกท พอเข้าใจยังครับ ว่าทำไมข้อเสียมันเยอะ แต่ไม่ค่อยมีคนมาบ่นมาอะไรใหญ่โต


+1 เลยยืนยันตามนี้ ผมยังชอบการเข้าเกียร์ของ bigm ฝาแดงมากกว่าอีกทั้งที่เก่าๆแล้วนั่นแหละ  izuzu เกียร์เข้ายากจริงๆ แล้วปล่อยคลัชเกินนิดเดียวนี่กระชากเลย ส่วนช่วงล้่างไปทำมาแล้วครับถึงจะพอดีขึ้น แต่ดีมากมั้ยก็เฉยๆ เทียบกับนาวาร่าไปนิ่งๆกว่าเยอะ

ส่วนเกียร์ออโต้นี่เรียกโง่ยังไงได้เซทมาโคตรแปลก ขับ80 ก็รอบวูบๆเสียงหอนเหมือนรอบเครื่องต่ำไป เวลาเร่งก็ชอบลากเกียร์ให้อีก เกียร์ 1-2 ทดมาจัดมาก แต่ปลายนี่ไหลดี ข้อสำคัญสำคัญผมคิดว่าต้อง remap กล่องถึงจะดึงประสิทธิภาพเครื่องมันออกมาได้ดีนะ เดิมๆนี่อืดแปลกๆ คันเร่งก็แปลกๆ

ออฟไลน์ nottii77

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 181
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มีนาคม 15, 2018, 10:05:19 »
ผมใช้ all new 2.5z เกียร์ออโต้ 5สปีด ตัวแรกที่ออกจำหน่าย

อาการที่ผมเจอและน่าเบื่อสำหรับคันนี้คือ

1.ช่วงล่าง ยวบ แต่กระด้าง
     - ยวบ เวลาโยก เปลี่ยนเลน แซง
     - กระด้าง ที่ความเร็วต่ำ เหินคอสะพาน ตกหลุม
*จัดโช๊คใหม่ 4ต้น +กันโคลง

2.เบรค แย่ เวลาเบรคด้านหลังเหมือนจับน้อยกว่า ทำให้รถเหมือนหน้าทิ่ม แบบไม่ไปแล้วแต่หลังพยายามดันให้ไป
     - ยิ่งเวลาขับเร็วๆแล้วต้องเบรคนี่เหนื่อยมากครับ

*แก้โดยเปลี่ยนเกียร์ช่วยลดความเร็ว

3.ยางที่ติดรถขอบ 17" แข็งเกินไป ทำให้รถกระด้าง และไม่ค่อยเกาะถนน

*แก้โดยเปลี่ยนเป็นขอบ 18" ใส่ยางดีๆ

4.คันเร่งหน่วง ไม่ทันใจ

*ใส่คันเร่งไฟฟ้า

ล่าสุดลองขับ ranger 3.2WT โฉม ปัจจุบันของเพื่อน รถเดิมๆสลับกันขับและนั่ง 3คน  ความเห็นตรงกันว่า
d-max ขับมันส์และง่ายกว่า แต่พวงมาลัยหนักกว่า
ranger นั่งสบาย นิ่มนวลกว่า เครื่องแรงกว่า เบรคพอๆกัน

*ถ้ารถเดิมๆจากโรงงานทั้งคู่ ranger ชนะขาดลอยครับ


และที่ผมชอบที่สุดคือ อะไหล่หาง่าย ที่วางแก้วตรงช่องแอร์ ช่องเก็บของเยอะ ไม่เจอปัญหาจุกจิก และเวลาปล่อยไม่เจ็บตัวมาก


ออฟไลน์ rut191

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,212
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มีนาคม 15, 2018, 12:41:49 »
ใช้ตัวปี2012อยู่ครับ ปัญหาใหญ่ไม่มีแต่เคยปัญหากับศูนย์ ตอน 8หมื่นโล
 ช่างศูนย์ตั้งวาล์ว กลับมารถเร่งไม่ขึ้นทั้งๆที่ก่อนมสไม่เป็นอะไร เลยมาเข้าศูนย์อีกทีบอกว่าตัวคุมบูสvgsเสีย7-8พันนี้แหละ ผมเลยบอกไม่มีตังเอาไว้ก่อน ปรากฏว่าตอนประกอบกลับมาอาการหายเฉยเลย เลยไปเข้าศูนย์อีกที่ให้เชคเขาบอกว่า น่าจะต่อวัคคั่มผิด
เลยโทรไปแจ้งตรีเพชร ว่าเป็นเรื่องเป็นแบบนี้ และมีอีกนิดนึงช่างศูนย์แรกบอกผมมีอะไหล่ตัวนี้เอามั้ย4พันพี่อย่าบอกใครนะ ก็เลยแจ้งตรีเพชรไปเพราะคิดว่าช่างคนนั้นน่าจะรู้ว่าต่อผิดแทนที่จะแก้ดันบอกอะไหล่รถเราเสีย คงกลัวเสียหน้ามั้ง เลยเลิกเข้าที่นั้นอีกเลย

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,191
    • อีเมล์
Re: ปัญหาD-maxรุ่นปัจจุบัน
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มีนาคม 18, 2018, 12:59:47 »
ทางIsuzu เวลารถลูกค้ามีปัญหาอะไร แก้ไขทันท่วงที แก้ไขจบ ไม่รอช้าให้เกิดปัญหาลุกลามตามที่หลัง
พบปัญหาว่า ตัวอุปกรณ์ตัวนี้มีปัญหาอยู่ ส่งจดหมายไปยังลูกค้าครับ
เช่น
เคส เคลมปั้มสุญญากาศ Dmax - MU-7 ตัวปี05 ถึง ปี11 รถลูกค้าหมดประกันไปกันหมดแล้ว ตรีเพชรสั่งเปลี่ยน
มีล๊อตรหัสตรงกับหมายเลขตัวรถที่มีปัญหา รถผมก็โดนจดหมายล๊อตรหัสตรงกับหมายเลขตัวรถ ไปจัดการเรียบร้อย เครมฟรี
ตัว All New Dmax มีปัญหา แหนบเอียง น้ำเข้าไฟหน้า น้ำเข้าไฟเบรคดวงที่3
ล่าสุด Dmax 1.9 มีปัญหาเรื่องแคมชาร์ฟ ทางตรีเพชร สั่งเปลี่ยนแคมชาร์ฟ ตามล๊อตรหัสตรงกับหมายเลขตัวรถที่มีปัญหา เครมฟรี
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์