ความเห็นส่วนตัวผมที่มีเกี่ยวกับ March
ให้ลองไปดูโฆษณาชุดพี่เคนที่ March ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น ผมว่ามันสื่อถึงลักษณะของตัวผลิตภัณฑ์ได้ดีพอสมควร หากคุณเอาโฆษณาของ Mazda 2 มาเทียบกันก็จะรู้ว่าคุณควรจะคาดหวังอะไรจากรถคันนี้ สำหรับผม มันคือรถที่นำเอาปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการคมนาคมด้วยรถยนต์ส่วนตัวมาให้คุณล้วนๆด้วยราคาที่ถูก และเพิ่มลูกเล่นในด้านสไตล์ตัวรถที่มีความโดดเด่นบนถนน เพิ่มการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่เหนือความคาดหมาย และเพิ่มอุปกรณ์ของเล่นในรุ่นท้อปซึ่ง..ว้าว..นี่แน่ใจนะว่าเป็นรถราคาประหยัด?
March คือรถที่ดูจะเหมาะกับแม่และพี่สาวของผม ทั้งสองคนนี้จะใช้รถในเมืองเป็นหลัก มีสถานที่ทำงานซึ่งหาที่จอดรถยาก และมักไปไหนมาไหนกันไม่เกิน 4 คน แถมพี่สาวผมเป็นหมอ มักต้องทำงานดึกเป็นประจำ ดังนั้นจึงต้องการยานพาหนะที่ไม่ต้องบำรุงรักษามาก ต้องไว้ใจได้ ไม่พาไปตายกลางทางให้ผมต้องไปลาก นอกเหนือไปจากนั้นเขาไม่ต้องการอะไรอีก เขาไม่รู้จักคำว่าขับสนุก, แรง, รอบกวาด, เรดไลน์, engine brake แต่รู้จักและจำป้ายจราจรทั้งหลายได้และขับรถตามที่กฏหมายกำหนด
แน่นอน ช่วงล่างสำหรับการขับแบบคนทั่วไป ย่อมต้องการความนุ่มนวลมากกว่าความเกาะถนน และพวงมาลัยก็ไม่ต้องเจ๋งมาก ขอแค่ทำหน้าที่ของมัน ให้ฉันกลับรถและถอยเข้าจอดได้ง่ายๆและเวลาฉันวิ่งบนทางด่วนอย่าให้มันโหวงมากนัก
ส่วนถ้าหันมาทางแม่ผม..ขานี้ขับรถเร็วกว่าพี่สาวผม..ผมเคยวิ่งแข่งกลับบ้านกับแม่จากที่ทำงานและลงเอยว่าแพ้ทุกครั้งไป แต่เขาไม่ใช่คนขับรถโหดร้ายทารุณแม้จะให้ความสำคัญกับช่วงล่างบ้างเช่น..อันนี้เด้งไปนะ หรือ..มันย้วยเกินไปไม่มั่นใจน่ะ..ส่วนที่สำคัญกว่านั้นคือแม่ผมต่อต้านรถขนาดใหญ่ทุกรูปแบบ และมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าไม่มีรถคันไหนบนโลกควรจะมีซี.ซี.ที่ใหญ่เกินจำเป็น และปล่อยมลภาวะยิ่งน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี
ผมเล็งเห็นได้ว่าการที่ March เลือกที่จะเดินทางของตัวเองโดยการจับความต้องการของคนซื้อรถส่วนใหญ่ และหันหลังให้กับความเห็นเชิง "นักขับ..นักซิ่ง" หรืออะไรที่มันออกจะเป็นวัยรุ่นจ๋า สิ่งที่ค่อนข้างจะดูเหมือนเป็นความคิดอนุรักษ์นิยมแบบนี้กลับกลายเป็นเรื่องดีสำหรับ March เอง เพราะมันคือรถของประชาชน..ไม่ใช่รถของนักซิ่ง
ซึ่งในทางกลับกัน..เอามาให้ผมขับ...พูดตรงๆว่านอกจากอัตราเร่งที่ทำได้ดีกว่าที่คาดไว้มาก..และอุปกรณ์ที่ดีกว่าที่คาดไว้แล้ว ที่เหลือ ไม่มีอะไรที่จะดึงมืออันเหนียวหนึบของผมออกจาก Mazda 2 Sedan หรือ Jazz ได้เลย เนื้อที่รถกว้างเกินคาดจริง แต่เบาะหลังก็ไม่ใช่ที่ที่ผมอยากนั่งอยู่นานนักเพราะมันไม่มีพนักพิงหัวที่รองรับกับศรีษะได้อย่างเหมาะสม พวงมาลัยของมันนั้นถ้าให้ผมเทียบ..Tiida นี่มีพวงมาลัยเหมือนหุ่นยนต์ ฟีลลิ่งค่อนข้างจะสังเคราะห์มากกว่าเป็นธรรมชาติ.อันนี้ผมเคยพูดไว้ แต่พอไปขับ March กลับมาเสร็จแล้วขึ้นขับ Tiida ต่อทันที ผมรู้สึกว่า Tiida กลายเป็นรถกึ่งสปอร์ตที่ทำตามสั่งทุกอย่าง มั่นคง และพวงมาลัยมีชีวิตชีวายิ่ง แค่นี้ก็ควรจะบอกได้แล้วว่าในด้านความสนุกจากการขับขี่นั้น March ให้ความสนุกได้มากพอๆกับนั่งดูโรโบ้ค้อปเล่นบทนางอิจฉา
เพราะผมเป็นคนขับรถเร็วโดยสันดาน และมักเป็นพวกที่ถามถึงอัตราเร่งก่อนอัตราการกินน้ำมันเสมอ ดังนั้นผมจึงถือว่าหลุดกลุ่มเป้าหมายสำคัญไปพอสมควร และไม่แปลกที่มันจะไม่ตอบความต้องการของผม หากมีเงิน 540,000 บาท ผมอาจจะยินดีออมเงินเพิ่มเพื่อ Mazda หรือ Honda มากกว่า
แต่ March คือรถที่ผมจะซื้อให้พี่สาว หรือซื้อให้คุณแม่ โดยที่ไม่ต้องคิดซ้ำสอง เพราะมันตอบความต้องการทุกอย่างได้ และอยู่ในงบที่น่าสนใจเสียด้วย หรือหากผมมีลูกสาวซึ่งเรียนไกลจากบ้าน ถ้าเขาไม่เอาสันดานขับรถเร็วของพ่อมาด้วย March ก็จะเป็นรถที่ผมเลือกเช่นกัน
จึงไม่น่าแปลกที่ยอดขายจะรุ่งและพุ่งแรงเช่นนี้ รีบจัดการยอดขายกันให้ไวเถอะ..เพราะ March อาจเป็นทองก้อนใหญ่ที่นิสสันรอมานานและควรจะมีมาตั้งนานแล้ว