ผู้เขียน หัวข้อ: ูสรุป E85 VS Pure95 ผมเข้าใจเเบบนี้ถูกเเล้วรึยังครับ  (อ่าน 5485 ครั้ง)

ออฟไลน์ NarongritL

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 170
    • อีเมล์
จากที่ผมได้ศึกษามา mixed results มากๆครับสำหรับประสบการณ์ของเเต่ละท่าน
สรุปออกมาได้คร่าวๆ ไม่ทราบเข้าใจถูกรึยังครับ ขอเรียงเป็นข้อๆไปนะครับ ข้อไหนผิดรบกวน Correct ให้ด้วยครับ

รถบ้าน

1.) รถบ้านๆที่เป็น Flex fuel, 85 vs Pure เเต่ละคนประสบการณ์ต่างกัน บางคัน85 บางคันPure ดีกว่าเเรงกว่า เนื่องจาก ECU เเต่ละคันทำงานไม่เหมือนกัน ด้านตัวเเปรอื่นๆ เช่น องศาจุดระเบิด AFR ต่างกัน ยกตัวอย่าง หัวฉีดไม่ใหญ่พอที่จะเพิ่ม ratio น้ำมัน 85 ให้หนาพอสำหรับ AFR ได้ ก็จะเเรงน้อยลงเมื่อเติม E85 ขึ้นอยู่กับว่า ECU ตัวนั้นทำงานได้เหมาะกับน้ำมันตัวไหนมากกว่า

2.) จะเติมอะไรก็ไม่ต่างกันมาก เนื่องจาก e85 เเม้น้ำมันถูกกว่า Ecu ก็จ่ายน้ำมันมากกว่าอยู่ดี เพราะ AFR ที่น้อยกว่า Pure

รถจูน

1.) Ethanol vs pure กรัมต่อกรัม พลังงานน้อยกว่า Pure เเต่ค่า Octane สูงกว่า ทน Compression R ได้มากกว่า

2.) เหตุที่ใช้ E85 เพราะ มีพื่นที่ในการปรับเเเต่งที่มากกว่าสำหรับรถจูน, ปรับไฟ เเละ จ่ายน้ำมันได้มากกว่า ทนกว่าสำหรับรถ Compression R สูงๆ เลี่ยงการ knock

สรุป คำถาม

1.) ตัวเเปรในการจ่ายน้ำมันของหัวฉีดมาจากอากาศ จ่ายน้ำมันเท่าไหร่ ECU จะจ่ายตาม AFR ของน้ำมันที่เติม ส่วนปริมาณอากาศอิงได้จากไหนครับ?

2.) ถ้าข้อดีของ E85 คือการปรับไฟได้ เเละ จ่ายน้ำมันได้มากกว่า เเล้ว Pure เราไม่สามารถทำเเบบนั้นได้เนื่องจากอะไรครับ ถ้าพลังงานมันมากกว่า ไม่ต้องฉีดหนาขนาด E85 ก็พลัังงานเท่ากันเเล้ว อะไรเป็นตัว Limit ครับ? ค่าออกเทนรึเปล่า ถ้าใช่ เเล้วมันหักล้างกับ พลัังงานที่ต่ำลงของ 85 เเต่ octane ที่มากขึ้นของมัน ก้ยังเเพ้อยู่ดีหรอครับ

3.) ค่า Octane ไม่เกี่ยวกับ ความเเรงใดๆทั้งสิ้นเพราะ มันคือค่าการทานกำลังอัด ซึ่งไม่เกี่ยวค่าพลัังงาน

ขอบคุณ Community HLM มากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 17, 2018, 14:53:37 โดย NarongritL »

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,475
Re: ูสรุป E85 VS Pure95 ผมเข้าใจเเบบนี้ถูกเเล้วรึยังครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 17, 2018, 15:57:53 »
ที่คุณเข้าใจ  ถูกต้องแล้วครับ

ส่วนประเด็นคำถามของคุณ

1.  การคำนวณจากจ่ายน้ำมัน  จะนำค่าฟีดแบคจาก  โอ2 มาเพื่อปรับการจ่ายน้ำมันในรอบต่อไป เช่นถ้าค่าเป็นลบ  ซึ่งหนา  มันก็จะลดการจ่ายเล็กน้อย  กลับไป-มา  เช่นนี้ตลอดเวลา

2.  สมมติที่จุดหนึ่ง  ต้องการพลังงานเท่ากับ  x   เมื่อคุณจ่ายส่วนผสม 14.7/1 เข้าไปในกระบอกสูบ  เพื่อให้ได้พลังงานเท่าที่ต้องการ  แต่มันจ่ายไม่ได้เท่าที่ต้องการ  เพราะ  ถ้าเพิ่มปริมาณ เข้าไป  เกิดการจุดระเบิดก่อนที่หัวเทียนจะจุดนำ  (ที่เรียกว่า แบคไฟร์)  แต่  เอทานอล  มันสามารถอัดปริมาณเพิ่มเข้าไปได้มากกว่าเยอะมาก
คิดง่าย ๆ ก็คือ  มันใช้ปริมาณใส่เข้าไปได้มากกว่าเท่าตัวของ เพียวด้วยซ้ำไป

3.   เจ้าข้อ 3  นี่แหละ  เป็นตัวที่สำคัญที่สุดในการจัดการเพื่อให้ได้พลังงาน  ถ้า  เอทานอล มีค่าออกเทนแค่ 98-100  ผมก็คงไม่สนใจที่จะใช้มัน  ตัวนี้เป็นตัวกำหนดว่าสามารถเพิ่มความแก่ของการจุดนำของหัวเทียนได้แค่ไหน 

      ถ้าคุณใช้ เอทานอล  โดยใช้ตารางไฟของ น้ำมัน เพียว  เอทานอลก็เหมือนสากกระเบือ   ไร้ความหมาย  แถมเปลืองกว่าเพียวอีกต่างหาก 

      อย่าลืมว่าส่วนผสมค่ากลาง  เพียวคือ  14.7/1   เอทานอล 9.875/1  ลองคำนวณเป็นร้อยละซิครับ  มันต่างกันเท่าไร?   

      สำหรับผมแล้ว  ไม่ได้เน้นบู้  ผมเน้น บุ๋น  ประหยัดอย่างเดียว  ผมครอสระหว่า เอทานอล-lpg  มันก็ย้อนกลับ   ประหยัดเท่ากับการใช้ เอทานอลเพิ่มขึ้นนั่นเอง

      ดังนั้น  รถผม  saab 95  2.3เทอร์โบ  ผมใช้หัวฉีดแก๊ส  hana   red  สำหรับเครื่อง พันห้า...โดยที่ไม่บาง  เพราะผมครอสกับ อี 85  อาศัยกระดานไฟช่วย  เดินทาง 110 นี่  รถผม ใช้ค่าแก๊ส  บาทเดียว/โล (12 บาท/ลิตร)  ซึ่งบางครั้งอธิบายเป็นตัวหนังสือก็ไม่เข้าใจ  และ  การทำความเข้าใจก็ยาก  เพราะมันขัดแย้งกับความคิด  และความเชื่อ....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 17, 2018, 16:06:42 โดย sukhontha »

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,186
    • อีเมล์
Re: ูสรุป E85 VS Pure95 ผมเข้าใจเเบบนี้ถูกเเล้วรึยังครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 17, 2018, 16:40:08 »
สำหรับรถจูนโดยเฉพาะพวกมีเทอร์โบ เวลาปรับมาใช้ E85 ต้องอัพเกรทหัวฉีด ปั้มติ๊กหมดครับ อย่างรถอีโวผมใช้ 95 หัวฉีด 660cc ก็อยู่แล้ว ปั้มติ๊ก 255 ลิตร/ชม. สบายๆ เวลาวิ่งบูสท์หนักๆโดยใช้น้ำมันเบนซิน 100 ออกเทนขึ้นไปก็ไม่ต้องเปลี่ยนหัวฉีดกับปั้มติ๊กครับ ส่วน E85 หัวฉีดต้อง 1000 cc ขึ้นไป ปั้มติ๊ก 400 LPH เพราะต้องจ่ายน้ำมันหนักกว่าเมื่อเทียบกับเบนซินธรรมดา แต่ค่า anti knock หรือ ออกเทนของ E85 นั้นเทียบได้กับน้ำมันเบนซิน 100 ออกเทน + ครับ ทำให้ปรับค่า timing ต่างๆและบูสท์ได้โหดกว่าน้ำมัน 95 ออกเทนก่อนที่จะมีอาการน๊อค แต่ก็ต้องจ่ายน้ำมันมากกว่าเบนซินล้วนๆเยอะพอสมควร
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ yumenowinds

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 226
    • อีเมล์
Re: ูสรุป E85 VS Pure95 ผมเข้าใจเเบบนี้ถูกเเล้วรึยังครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 17, 2018, 19:33:04 »
ส่วนตัวใช้ HRV 1.8

ผมว่า E85 ติดเท้ามากๆ แรงกว่า E20 แบบรู้สึกได้เลย

หลังจากนั้นมา ไม่เคยกลับไปเติม E20 E10 อีกเลยถ้าไม่จำเป็น

แต่ยี่ห้ออื่นไม่รู้นะครับ สำหรับฮอนด้า แฮปปี้มากๆ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: ูสรุป E85 VS Pure95 ผมเข้าใจเเบบนี้ถูกเเล้วรึยังครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 17, 2018, 19:46:47 »
1.เอาง่ายๆนะครับ ปริมาตรอากาศไหลเข้่าอ่านจาก MAF ครับ รถจูนให้แรงขึ้น มองค่าMAPด้วย
2. การมีOctane สูงกว่าก็จะretard ignition timing ได้มากกว่าครับ ทำให้มีเวลาในการอัดอากาศมากขึ้นในรอบนั้น กำลังอัดมากก็ได้แรงมาก  ค่าพลังงานของรถไม่ติดเทอร์โบ ที่ต่างไปแค่30% หัวฉีดมักจะชดเชยได้พอครับ แต่ถ้าติดเทอร์โบ กำลังที่มากขึ้นอากาศมากขึ้นหัวฉีดเดิมๆอาจจะชดเชย30%นั้นไม่ได้ 

ข้อจำกัดของออกเทน95ถึงจะให้พลังงานต่อหน่วยมากกว่าแต่พอจะทำการ retard ig. timing มันทำไม่ได้เท่า ถึงจะฉีดน้อยหรือมากยังงัยมันก็ทนกำลังอัดไม่ไหวน็อกเสียก่อนจะสั่งจุด แต่พอเพิ่มออกเทน ก็สามารถทนกำลังอัดต่อไปได้อีกส่วนต่างพลังงานด็จ่ายชดเชยไปในStoic cycleอยู่แล้วครับ  สรุปสั้นๆว่า การretart ignition timing นั้นให้ประสิทธิภาพความร้อนต่อ1strokeมากกว่านั่นเอง

3. ออกเทนไม่เกี่นวกับความแรง ถูกครับ แต่ถ้าเครื่องยนต์รองรับ การใช้ octaneสูงแล้ว เครื่องตัวนั้นจะสามารถสร้างthermal efficiency ที่สูงกว่าครับ

อ้างอิงสองวิชานี้ครับ
Thermodynamic + Internal Combustion ครับ

ออฟไลน์ ชายโอ๊ต

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,034
Re: ูสรุป E85 VS Pure95 ผมเข้าใจเเบบนี้ถูกเเล้วรึยังครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 19, 2018, 12:35:37 »
แรกๆ ตอนผมไปหนองคาย(ไป-กลับ ประมาณ 1300 km)
ลองใช้ E85 ดู รู้สึกได้เลยว่าแรงกว่า E10 95 ครับ (cx5 2.0s)

เสียอย่างเดียวช่วงนั้นหาเติมยากครับ
"ศัตรูแห่งความก้าวหน้า คือเวลาที่เสียไป"