ผมไม่เข้าใจกับความต้องการครับ เมื่อจ่ายค่าที่จอดรถ นั้นย่อมแสดงว่าได้เช่าพื้นที่จอดตรงจุดนั้นแล้ว ซึ่งผู้ให้เช่าย่อมต้องให้เช่าตามข้อตกลง หากไม่ต้องการให้เช่าต่อ ก็แจ้งให้คนจอดทราบ เพื่อขยับรถออกไปและหยุดการเรียบเก็บค่าจอดต่อสิครับ แต่ระหว่างที่จ่ายเงินไปแล้ว ย่อมต้องได้จอด และที่ตรงนั้นไม่ใช่ของส่วนรวมนะครับ พื้นที่ของส่วนรวมคือพื้นที่ๆไม่มีการเรียบเก็บเฉพาะจุด อย่างเช่นสระว่ายน้ำในคอนโด เครื่องออกกำลังกายในฟิตเนส เราจ่ายค่าบริการแต่ไม่ได้จ่ายเป็นค่าใช้เครื่องนั้นๆนะครับ
ยกตัวอย่างที่คอนโดจอดรถ ถ้าเป็นแบบไม่ได้กำหนดช่อง แต่ได้ที่จอดรถ 1 คัน เจ้าของห้องย่อมมีสิทธิ์จอดรถ 1 คัน ในช่องที่ไม่ได้กำหนดได้ครับ ไม่เกี่ยวว่าจะจอดนานหรือสั้น แต่ในช่วงเวลาเดียวกันจอดได้แค่คันเดียวเท่านั้นต่างหากที่สำคัญ
และพื้นที่สาธารณะที่กฏหมายกำหนดนั้นคือพื้นที่ที่ไม่การเรียกเก็บเงินนะครับ อย่างเช่นข้างถนน ในซอย ไม่ใช่เรียกเก็บเงินจากเจ้าตัวแต่ดันมาใช้คำว่าของส่วนรวมกับคนอื่นด้วย เพื่อจะบังคับอย่างนี้มันเป็นการปล้นนะครับ
ผมเลยไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าของอพาตเมนท์ถึงอยากให้รถขยับออกไปทั้งที่ก็ไปเรียกเก็บค่าที่จอดจากเค้าแล้ว หรือหากบอกว่ารถไม่ใช่ของคนเช่า ก็ไม่ควรไปเก็บเงินค่าที่จอดแล้วแจ้งให้นำรถออกไปก็จบครับ
อ้ออีกอย่าง ถ้าเก็บค่าที่จอดแล้วรถเค้าเสียหายหรือหายไป ทางคนเก็บเงินต้องรับผิดชอบนะครับ เพราะถือว่าเป็นการฝากสินค้ากับเราแล้ว ไม่เกี่ยวว่าจะแจ้งว่าไม่รับผิดชอบใดๆก็ตาม ทางศาลจะขอดูหลักฐานว่าเราดูแลปลอดภัยเพียงพอมั้ย หากไม่เพียงพอ ทางเราต้องรับผิดชอบจ่ายเงินทดแทนให้ครับ lotus แต่ก่อนนี่โดนบ่อยมาก
คือถ้าผมเป็นเจ้าของอพาร์ทเม้นนะพี่ เป้าหมายหลักของที่จอดรถคงไม่ใช่รายได้ค่าเช่าที่จอดนะฮะ
ผมคงมองว่าเป็นเรื่องอำนวยความสะดวก เพิ่มความน่าพักอาศัยให้ผู้เช่านะครับ ดังนั้นถ้าช่องจอดกลายเป็น
ที่เก็บรถตายไป แล้วคนพักอาศัยคนอื่นจะมีความสะดวกสบายได้อย่างไรล่ะครับ อีกอย่างคือรถที่จอดตายคาช่อง
อย่างนั้น ทั้งฝุ่น ทั้งขยะทับถม มันทั้งดูไม่สะอาดสวยงามเรียบร้อย ทั้งยังอันตรายด้วย ถ้าวันดีคืนดีลมพัดขึ้บุหรี่
เศษธูปอะไรมาติดทำให้ไฟไหม้นี่งานงอกนะครับ
ผมว่าพี่ จขกท อาจต้องแจ้งเจ้าของรถให้ขยับรถบ้าง เพื่อเหตุผลบิ๊กคลีนนิ่งหรือ ซ่อมบำรุงสถานที่ ลานจอดรถอะไร
ทำนองนี้บ้างครับ
