ผู้เขียน หัวข้อ: สอบถามเรื่องน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์ สามห่วง  (อ่าน 16028 ครั้ง)

ออฟไลน์ apanthong

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
ผมใช้ สามห่วง Lx limited 1.6 ครับ ออโต้ (พึ่งซื้อต่อคนอื่นมาครับ) เลข 190000 ปัจจุบันใช้ hx8 5w - 40 สังเคราะห์แท้
- ผมมองน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10w - 40 ไว้ 2 ตัวครับ คือ Maxlife กับ shell high mileage
อยากทราบว่า 2 ตัวนี้ เรื่องการปกป้องเครื่องยนต์ ตัวไหนดีกว่ากันครับ
แล้วถ้าเป็นสังเคราะห์ 100% การปกป้องจะดีกว่า 2 ตัวนี้ไหม ถ้าไม่นับความลื่นครับ

- น้ำมันเกียร์ออโต้ dexron2 ใช้ยี่ห้อไหนดีครับ ผมเห็นตัว maxlife เขาว่าเหมาะกับเกียร์เก่า คนที่อยากถนอมเกียร์ ตัวนี้จะดีไหมครับ
แล้วอายุน้ำมันเกียร์ส่วนใหญ่เปลี่ยนกันตอนไหนครับ

ขอบคุณครับสำหรับคำตอบ และคำแนะนำ (มือใหม่พึ่งได้รถ พึ่งเริ่มศึกษาครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 01, 2018, 17:43:43 โดย apanthong »

ออฟไลน์ focus2012

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 815
ผมใช้ สามห่วง Lx limited 1.6 ครับ ออโต้ (พึ่งซื้อต่อคนอื่นมาครับ)
- ผมมองน้ำมันเครื่องกึ่งสั่งเคราะห์ 10w - 40 ไว้ 2 ตัวครับ คือ Maxlife กับ shell high mileage
อยากทราบว่า 2 ตัวนี้ เรื่องการปกป้องเครื่องยนต์ ตัวไหนดีกว่ากันครับ
แล้วถ้าเป็นสังเคราะห์ 100% การปกป้องจะดีกว่า 2 ตัวนี้ไหม ถ้าไม่นับความลื่นครับ

- น้ำมันเกียร์ออโต้ dexron2 ใช้ยี่ห้อไหนดีครับ ผมเห็นตัว maxlife เขาว่าเหมาะกับเกียร์เก่า คนที่อยากถนอมเกียร์ ตัวนี้จะดีไหมครับ
แล้วอายุน้ำมันเกียร์ส่วนใหญ่เปลี่ยนกันตอนไหนครับ

ขอบคุณครับสำหรับคำตอบ และคำแนะนำ (มือใหม่พึ่งได้รถ พึ่งเริ่มศึกษาครับ)

1. น้ำมันเครื่องผมเลือก Shell

2. น้ำมันเกียร์ Dexron 2 ผมว่ามันหาซื้อยากแล้ว สำหรับผมใช้ Tran มันถูกดีครับ กระปุกนึง 4 หรือ 5 ลิตรนี่แหละไม่ถึง 500 บาทครับ

ออฟไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,591
 สังเคราะห์ ดีกว่า กึ่งอยู่แล้ว

 น้ำมันเกียร์ หาให้ตรง spec. ถ้ามีคู่มือ ดูตามระยะ.

 ถ้าไม่มี ก็ 20000 - 30000 โล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 01, 2018, 16:42:34 โดย kez »

ออฟไลน์ berm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 520
น้ำมันเกียร์ dexron 2 ซื้อของโตโยต้าก็ได้ครับ ลิตรนึง 100 กว่าบาท

ส่วนน้ำมันเครื่องผมว่าได้ทั้งคู่ครับ ไม่แตกต่างกันมาก

ออนไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
Dexron 2 ของ Mobil มีครับ

เคยเปลี่ยนสามห่วงแต่เป็นตัว GXI Auto เมื่อสิบกว่าปีก่อนครับ

แต่รถเก่าผมว่ามันจะหายากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ

เพราะรถรุ่นนี้หลายๆ คัน จอดซากก็เยอะแล้ว

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
1. ในกลุ่มนี้ Shell Helix HM ปกป้องดีที่สุดและปกป้องซีลด้วย ถ้าอยากให้ดีกว่านี้ HM Diesel ขนาด 6ลิตร เบอร์ 50อีกต่างหาก ได้ API SN เหมือนกันครับ ใช้กับเบนซินสบายเลย VI stableเกิน 100ชั่วโมงแน่ๆ

2. Mobil220 ATF dexron II, Shell Spirax 3 PTT automat ใช้ได้หมด จะใช้ DIIiได้อยู่แล้วครับไม่ต้อง 2ก็ได้

ออฟไลน์ SLuang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,816
การเลือกสังเคราะห์ ไม่สังเคราะห์ ผมว่ารถคุณ ช่วงที่อยู่กับเจ้าของเดิม มันน่าจะผ่านอะไรมากแล้ว ดังนั้นเลือกใช้ตามกำลังกระเป๋าและความชอบได้เลยครับ ไม่ต้องกังวล
ส่วนที่ต้องกังวล คือความหนืดของน้ำมันเครื่อง  ถ้าสภาพเครื่องไม่ค่อยปกติ  การเลือกใช้เบอร์ที่หนืดขึ้น ก็อาจจะได้แรงอัดเพิ่มขึ้นนิดหน่อย น้ำมันเครื่องไม่หายเร็วเท่าเบอร์ที่หนืดน้อยกว่า  รถรุ่นนี้ ไมล์เท่านี้ ความเป็นไปได้น้อยมากๆ   การเล่นรถมือสอง ไม่ต้องสนใจไมล์แล้วครับ มันเป็นสิ่งแรกที่เชื่อถือได้น้อยที่สุด  ยกเว้นว่ามันจะมี Service book แสดงประวัติมาครบถ้วน    ให้มองแค่สภาพรวมๆ  ไม่ชนหนักถึงโครงสร้าง ไม่ซ่อมหนักตัวถัง ก็ถือเป็นเรื่องดีมากแล้ว

น้ำมันเกียร์ก็เช่นเดียวกัน ขอแค่เป็นเบอร์ที่ใช้ได้ และหมั่นเปลี่ยนถ่ายตามระยะ ก็เพียงพอแล้วครับ

ออฟไลน์ apanthong

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านมากครับ สำหรับคำแนะนำดีๆ และข้อมูลดีๆครับ

ออฟไลน์ final

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 582
    • อีเมล์
ผมเคยใช้ไฮทอร์คเครื่อง 4afe เกียร์ออโต้ครับ น่าจะเครื่องเกียร์รุ่นเดียวกับเจ้าของกระทู้
น้ำมันเครื่องใช้กึ่งสังเคราะห์ 10w40 ของบางจาก (ถูกดี ราวๆสี่ร้อยกว่าบาท)
น้ำมันเกียร์ใช้ Dexron III ของปตท ถ้าจำไม่ผิด (เจ้าของร้านแนะนำว่าดีกว่า Dexron II)

ใช้ได้ยันขายรถอ่ะครับ รถรุ่นนี้ไม่ต้องกลัวพัง อึดมากๆครับ

ออฟไลน์ Push in Boost

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 193
    • อีเมล์
การเลือกสังเคราะห์ ไม่สังเคราะห์ ผมว่ารถคุณ ช่วงที่อยู่กับเจ้าของเดิม มันน่าจะผ่านอะไรมากแล้ว ดังนั้นเลือกใช้ตามกำลังกระเป๋าและความชอบได้เลยครับ ไม่ต้องกังวล
ส่วนที่ต้องกังวล คือความหนืดของน้ำมันเครื่อง  ถ้าสภาพเครื่องไม่ค่อยปกติ  การเลือกใช้เบอร์ที่หนืดขึ้น ก็อาจจะได้แรงอัดเพิ่มขึ้นนิดหน่อย น้ำมันเครื่องไม่หายเร็วเท่าเบอร์ที่หนืดน้อยกว่า  รถรุ่นนี้ ไมล์เท่านี้ ความเป็นไปได้น้อยมากๆ   การเล่นรถมือสอง ไม่ต้องสนใจไมล์แล้วครับ มันเป็นสิ่งแรกที่เชื่อถือได้น้อยที่สุด  ยกเว้นว่ามันจะมี Service book แสดงประวัติมาครบถ้วน    ให้มองแค่สภาพรวมๆ  ไม่ชนหนักถึงโครงสร้าง ไม่ซ่อมหนักตัวถัง ก็ถือเป็นเรื่องดีมากแล้ว

น้ำมันเกียร์ก็เช่นเดียวกัน ขอแค่เป็นเบอร์ที่ใช้ได้ และหมั่นเปลี่ยนถ่ายตามระยะ ก็เพียงพอแล้วครับ

+1


ออฟไลน์ Trafalgar

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 821
1. ในกลุ่มนี้ Shell Helix HM ปกป้องดีที่สุดและปกป้องซีลด้วย ถ้าอยากให้ดีกว่านี้ HM Diesel ขนาด 6ลิตร เบอร์ 50อีกต่างหาก ได้ API SN เหมือนกันครับ ใช้กับเบนซินสบายเลย VI stableเกิน 100ชั่วโมงแน่ๆ

2. Mobil220 ATF dexron II, Shell Spirax 3 PTT automat ใช้ได้หมด จะใช้ DIIiได้อยู่แล้วครับไม่ต้อง 2ก็ได้

ขอบคุณครับ
- 1994 Toyota Corolla AE101 1.6 4A-FE MT
- 1995 Honda Civic EG 1.5 D15Z7 MT
- 1996 Mitsubishi Lancer Evolution IV 2.0 4G63T MT
- 2005 Toyota Hilux Vigo Cab 2.5G 2KD-FTV MT
- 2005 Toyota Fortuner 3.0V 1KD-FTV AT
- 2005 Toyota Fortuner 3.0G 1KD-FTV MT
- 2013 Honda City 1.5 L15A7 AT

ออฟไลน์ palma

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,128
    • อีเมล์
ผมเคยใช้ไฮทอร์คเครื่อง 4afe เกียร์ออโต้ครับ น่าจะเครื่องเกียร์รุ่นเดียวกับเจ้าของกระทู้
น้ำมันเครื่องใช้กึ่งสังเคราะห์ 10w40 ของบางจาก (ถูกดี ราวๆสี่ร้อยกว่าบาท)
น้ำมันเกียร์ใช้ Dexron III ของปตท ถ้าจำไม่ผิด (เจ้าของร้านแนะนำว่าดีกว่า Dexron II)

ใช้ได้ยันขายรถอ่ะครับ รถรุ่นนี้ไม่ต้องกลัวพัง อึดมากๆครับ

1+

ผมยังขับอยู่ ใช้ตั้งแต่ป้ายแดง 23 ปี เครื่องเดิม แต่เป็น MT

เฉพาะน้ำมันเครื่อง ใช้แต่ PTT กึ่งสังเคราะห์ เปลี่ยนทุก 5 -7 พันกม.

ตอนนี้ 270,000 กม. ดม LPG ตั้งแต่ 115,000 กม. (สรุป วิ่ง LPG มา 155,000 กม.)

ตัวเครื่อง เปลี่ยนแค่ คอยล์ สายพานไทม์มิ่ง อะไหล่ตามระยะเท่านั้น

ผมว่า 4A-FE ทนมาก แค่ใช้ นมค.ตามมาตรฐาน ไม่ปลอม ยี่ห้ออะไรก็ได้ เปลี่ยนตามระยะ เท่านั้นพอครับ ตอนนี้ยังไม่กิน นมค.เลย

เป็นรถที่ขายแล้วไม่คุ้ม เก็บไว้ขับเล่น จ่ายตลาด ให้ลูก หลาน หัดขับ ดม LPG ต่อไป คุ้มที่สุดครับ 555

แต่วิ่ง cruise ไกลๆ ไม่คุ้มแล้ว กินจุกว่า 2.5 CVT อีก ครับ
4AFE-MT เลี้ยงให้ดีสุดชีวิต ระยะ 100 กม. ได้ดีสุดแค่ 12-13 กม./ลิตร
2.5 CVT ขับเหมือนๆกันได้ 17-19 กม./ลิตร สบายๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 06, 2018, 15:27:21 โดย palma »
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)

ออฟไลน์ apanthong

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
ผมเคยใช้ไฮทอร์คเครื่อง 4afe เกียร์ออโต้ครับ น่าจะเครื่องเกียร์รุ่นเดียวกับเจ้าของกระทู้
น้ำมันเครื่องใช้กึ่งสังเคราะห์ 10w40 ของบางจาก (ถูกดี ราวๆสี่ร้อยกว่าบาท)
น้ำมันเกียร์ใช้ Dexron III ของปตท ถ้าจำไม่ผิด (เจ้าของร้านแนะนำว่าดีกว่า Dexron II)

ใช้ได้ยันขายรถอ่ะครับ รถรุ่นนี้ไม่ต้องกลัวพัง อึดมากๆครับ

1+

ผมยังขับอยู่ ใช้ตั้งแต่ป้ายแดง 23 ปี เครื่องเดิม แต่เป็น MT

เฉพาะน้ำมันเครื่อง ใช้แต่ PTT กึ่งสังเคราะห์ เปลี่ยนทุก 5 -7 พันกม.

ตอนนี้ 270,000 กม. ดม LPG ตั้งแต่ 115,000 กม. (สรุป วิ่ง LPG มา 155,000 กม.)

ตัวเครื่อง เปลี่ยนแค่ คอยล์ สายพานไทม์มิ่ง อะไหล่ตามระยะเท่านั้น

ผมว่า 4A-FE ทนมาก แค่ใช้ นมค.ตามมาตรฐาน ไม่ปลอม ยี่ห้ออะไรก็ได้ เปลี่ยนตามระยะ เท่านั้นพอครับ ตอนนี้ยังไม่กิน นมค.เลย

เป็นรถที่ขายแล้วไม่คุ้ม เก็บไว้ขับเล่น จ่ายตลาด ให้ลูก หลาน หัดขับ ดม LPG ต่อไป คุ้มที่สุดครับ 555

แต่วิ่ง cruise ไกลๆ ไม่คุ้มแล้ว กินจุกว่า 2.5 CVT อีก ครับ
4AFE-MT เลี้ยงให้ดีสุดชีวิต ระยะ 100 กม. ได้ดีสุดแค่ 12-13 กม./ลิตร
2.5 CVT ขับเหมือนๆกันได้ 17-19 กม./ลิตร สบายๆ

ส่วนใหญ่ผมก็วิ่งได้ 12 - 13 โล/ลิตรครับ
แต่น่าแปลกมากครับประมาณเดือนที่แล้ว ผมขับไปพิจิตร 300 กว่าโล ผมทำได้ประมาณ 17 โลลิตร
วัดจากเติมเต็มถังก่อนไป (ถัง 50 ลิตร) กดตัววัดกิโลเป็น 0 (ผมจะกดทุกครั้งที่เติมน้ำมัน)
ขากลับผมกลัวน้ำมันไม่พอ เลยไปเต็มเพิ่ม ปรากฎว่า เติมไม่กี่ลิตรเต็มถัง คำนวณแล้วตก 16.9 โล/ลิตร
ความเร็วที่ใช้ 80 - 120 ไม่เกินนี้ พักรถ 2 - 3 รอบ ถนนเส้นตากฟ้ารถบรรทุกเยอะ เลนเดียวสวนกัน kick down แซงทั้งไปทั้งกลับ หลายรอบมาก
ผมยังงงอยู่เลยว่ามันเป็นไปได้ยังไง 555+ รถออโต้ด้วยครับ จากนั้นมาขับในเมือง ก็ 12 - 13 โล/ลิตร เหมือนเดิม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 07, 2018, 09:19:52 โดย apanthong »