ผู้เขียน หัวข้อ: อยากเสนอทีมงาน ว่าถ้าใช้"เครื่องวัดระดับเสียง" มาร่วมประกอบการรีวิวจะดีไหมครับ  (อ่าน 4445 ครั้ง)

ออฟไลน์ Narak-Man

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 183
ผมเห็นกระทู้ข้างล่างมีการถามว่า รถคันไหนเก็บเสียงดีกว่ากัน ถ้าทีมงานใช้เครื่องวัดระดับเสียงเก็บสถิติตอนทดลองขับ ก็น่าจะเป็นข้อมูลที่อ้างอิงได้ทางวิชาการ ที่ช่วยให้ผู้อ่านได้รู้จักรถคันนั้นๆได้ดียิ่งขึ้นและหมดคำถามว่า "รถคันไหนเงียบกว่ากัน" ผมก็ขอเสนอไว้นะครับ เผื่อจะมีประโยชน์ครับ

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,858
ผมเองก็เคยคิดอยากเสนอเหมือนกันนะ แต่เท่าที่คิด
ปัจจัยภายนอกมันควบคุมยากครับ

เช่น เสียงจากคันอื่น หรือแม้แต่ทิศทางลม ล้วนมีผลทั้งสิ้น

อย่างหน้าหนาว ลมจะพัดจากเหนือลงใต้
หน้าร้อน ลมจะพัดจากใต้ขึ้นเหนือ

แต่ถ้าทดลองในห้องปิดตาย แล้วเปิดอุปกรณ์อะไรก็ได้ให้เกิดเสียงข้างนอกตัวรถ ในจุดเดียวกันสำหรับรถแต่ละคัน

แล้วเอาเครื่องมาวัด อันนี้ชัวร์กว่า

แต่เรื่องเสียงยางของฮอนด้าเวลากระทบเส้นถนนซึ่งดังกว่าชาวบ้านเค้า จะวัดยังไงล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,369
ถ้าจะวัดระดับเสียงในห้องโดยสารก็ต้องวัดในช่วงระดับความเร็วต่างๆครับ

เริ่มตั้งแต่รอบเดินเบา จนถึงความเร็วตามที่กำหนด คงไม่ได้ต่างกันมากมายนักครับ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2018, 11:33:03 โดย O_o" »

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,537
เท่าที่เคยลองใช้สมาร์ทโฟนวัดเสียงลม เสียงตามขอบต่างๆ มันไม่เหมือนชีวิตจริงนะสิครับ ถ้าจะทำเพิ่มก็คงไม่ยาก แต่ถ้าคาดหวังว่าจะวัดถึงความเงียบเพื่อเอามาเทียบรุ่นกันเกรงว่าผลจะเพี้ยน ตัวเลขให้ความรู้สึกว่าไม่แตกต่างกันมาก ทั้งที่ถ้าลองเปลี่ยนใช้บันทึกวิดีโอ เสียงความรู้สึกดังมาก
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,393
ถ้าฟังในรายการประจำ
คุณจิมมี่จะบอกแล้วว่า สิ่งแวดล้อมภายนอก ควบคุมไม่ได้
เสียงรถข้างๆ เสียงเครื่องจักรข้างถนน มีผลหมด

ออฟไลน์ alpha14

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,109
เคยเห็นในยูทูปแบบข้างบน เคยคิดจะเสนอทีมงานเหมือนกัน คิดว่าน่าจะมีประโยชน์บ้างน่า ถึงแม้จะไม่100% แต่ถ้าทดสอบกลางดึกแบบที่Hlm ทำก็น่าจะใกล้เคียงความจริง เพราะถนนก็เดิม รถก็ไม่มาก อย่างน้อยก็พอจะเห็นความแตกต่างระหว่างรุ่นได้พอสมควร แล้วก็บวกกับการจับความรู้สึกของทีมงานเข้าไปว่า มันดังมันเงียบยังงี้จริงเปล่า จะได้มีอะไรที่แตกต่างจากการรีวิวของเจ้าอื่นๆบ้างครับ ทำก่อนได้เปรียบเดียวจะหาว่าเลียนแบบ

ออฟไลน์ Abzolute

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
  • สวัสดีคนรักรถยนต์
เอาตรงๆ ผมว่าไร้สาระ ดังก็ดัง เบาก็เบา บางครั้งก็อยากเอาชนะกันเกินไปอ่ะ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
เท่าที่เคยลองใช้สมาร์ทโฟนวัดเสียงลม เสียงตามขอบต่างๆ มันไม่เหมือนชีวิตจริงนะสิครับ ถ้าจะทำเพิ่มก็คงไม่ยาก แต่ถ้าคาดหวังว่าจะวัดถึงความเงียบเพื่อเอามาเทียบรุ่นกันเกรงว่าผลจะเพี้ยน ตัวเลขให้ความรู้สึกว่าไม่แตกต่างกันมาก ทั้งที่ถ้าลองเปลี่ยนใช้บันทึกวิดีโอ เสียงความรู้สึกดังมาก

อย่าเอา สมาร์ทโฟนไปเทียบกับเครื่องมือวัดสิครับ
มันมั่วครับ
บางอย่างมันวัดได้ เช่น เวลา

แต่เสียง นี่ ต้องใช้ ปอก เฉพาะครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
เอาตรงๆ ผมว่าไร้สาระ ดังก็ดัง เบาก็เบา บางครั้งก็อยากเอาชนะกันเกินไปอ่ะ

ดัง ก้ ดัง เบา ก็เบา แล้ววัดด้วยอะไรละครับ

ออฟไลน์ 7777777

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 599
    • อีเมล์
เอาตรงๆ ผมว่าไร้สาระ ดังก็ดัง เบาก็เบา บางครั้งก็อยากเอาชนะกันเกินไปอ่ะ

เพราะมันตอบไม่ได้ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ หรือมีหลักฐานการวัดเสียงไงครับ คนมันถึงอยากจะเอาชนะกันด้วยแรงมโน

ส่วนตัวถ้าวัดเป็นค่าdBได้ตามช่วงความเร็วจะดีมาก เพราะมาตรฐานของคนมันไม่เท่ากัน

หลังๆผมให้เรื่องเก็บเสียงนี่เป็นต้นๆของการซื้อรถเลยครับ แก่แล้ว  ::)


ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,858
เอาตรงๆ ผมว่าไร้สาระ ดังก็ดัง เบาก็เบา บางครั้งก็อยากเอาชนะกันเกินไปอ่ะ

แสดงว่าพวกยางที่แข่งกันออกแบบมาให้เงียบๆมันก็ไร้สาระสิครับ

คนซื้อยางแบบนั้นก็ไร้สาระเช่นกันใช่ป่าว

ออฟไลน์ bingoman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,368
เห็นด้วยนะครับ  แต่คิดว่าไม่อยากให้มองว่าเป็นภาระทีมงานเกินไป

ผมจึงคิดว่าวัด dB ออกมา ซัก 2 ความเร็วคือ 60, 120  เท่านี้  ผมว่าก็พอจะเข้าใจอะไรได้มากแล้ว

วัดออกมา  จะเสียงอะไรก็ตาม  มันก็คือมลพิษทางเสียงทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะเสียงเครื่องยนต์ ยาง ลม  ถ้ามัน dB มาก  แสดงว่ามันก็เล็ดลอดเข้ามา  หรือเครื่องยนต์เสียงดัง  หรือลมปะทะเยอะ เป็นต้น

รู้แค่ว่าเสียงรบกวนมาก/น้อย  ผมว่าก็ทำให้คนหลายๆ คนเข้าใจ character ของรถมากขึ้นจริงๆ ครับ   บางคนชอบรถเงียบๆ  จะซื้อให้พ่อแม่ ตายาย เน้นสบาย เงียบ เป็นต้น

ส่วนคนทั่วๆ ไป  ก็มองรวมๆ แต่เรื่องเสียง  มันมาจากการพัฒนา การวิเคราะห์ การบุวัสดุซับเสียง  เพราะฉะนั้นผมว่าระดับเสียงมาก/น้อย  มันบ่งบอกว่ารถรุ่นนั้น ค่ายรถคิดอะไรอยู่  ลงทุน ลดต้นทุนมากน้อยแค่ไหน

มีประโยชน์และน่าสนใจ  ผมเห็นด้วยครับ

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,144
  • SNK vs Playmore
ในรีวิวส่วนใหญ่ก็จะบอกนะครับ ว่าเสียงลมดังมาก หรือไม่ดังเท่าไหร่

หรือบอกว่าคันนี้ดังกว่าคันไหน บอกไว้คร่าว ๆ แล้วนะครับ

ถ้าต้องการตัวเลขเป๊ะ ๆ จะเป็นการเพิ่มภาระคนทำรีวิวให้มากเข้าไปอีก

เค้าต้องอดหลับอดนอนนะครับ

ออฟไลน์ D Water Law

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
ปัญหาของเครื่องมือวัดระดับเสียง โดยรวัดค่าโดยใช้แค่ระดับความดังก็คือ  มันเป็นค่าเฉลี่ยของความดังเสียงในทุกย่านความถี่ที่เซ็นเซอร์ของเครื่องตรวจจับได้
เสียงที่ความถี่ 100 Hz   กับเสียงที่ความถี่ 15000 Hz  ในระดับเดซิเบลที่เท่ากันตามเครื่องมือวัด  แต่ระดับความดังตามความรับรู้ของมนุษย์มันจะรู้สึกว่าไม่เท่ากันน่ะสิครับ

ทีนี้คืออยากได้รถที่ขับขี่แล้ว เครื่องมือวัดบอกว่าสามารถลดทอนแอมปลิจูดของเสียงโดยรวมได้ดี  VS อยากได้รถที่ขับขี่แล้วมนุษย์บอกว่าเสียงรบกวนน้อยล่ะครับ

ออฟไลน์ Lammerison

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 942
    • อีเมล์
ทำจริง รายละเอียดคงจะเยอะหละครับ
1.เครื่องมือวัดทางวิทยาศาสตร์ มันต้องมีการสอบเทียบ

2.เสียง มันไม่ตรงไปตรงมา บางความถี่ มันตอบสนองต่อหูมนุษย์ไม่ เท่ากัน ก็ต้องมานั่น เลือก ปรับ อีก จะเอาอะไร ค่าไหน

3.ปัจจัยที่จะเกี่ยวข้องที่จะต้องมี เวลาทดสอบ
  - รุ่นยาง /ยี่ห้อ /ความดันลมยาง/ อุณหภูมิ
  - ความเร็ว/ เส้นทางที่วิ่ง
  - ทิศทางลมที่รถคันนั่นวิ่งทดสอบ ณ.เวลานั้นๆ

แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วครับ เวลาที่จะทำหนะ ทำได้แต่ ถ้าทำแบบนี้ ทีมงานแทบจะไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลยมั้ง

ออฟไลน์ Narak-Man

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 183
ที่ผมอยากเสนอคือวัดระดับเสียงที่มนุษย์ได้ยิน ที่ช่วงความเร็ว 80 และ 120 ก็พอครับ  และรู้สึกเกรงใจทีมงานHLMเหมือนกันครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
ทำจริง รายละเอียดคงจะเยอะหละครับ
1.เครื่องมือวัดทางวิทยาศาสตร์ มันต้องมีการสอบเทียบ

2.เสียง มันไม่ตรงไปตรงมา บางความถี่ มันตอบสนองต่อหูมนุษย์ไม่ เท่ากัน ก็ต้องมานั่น เลือก ปรับ อีก จะเอาอะไร ค่าไหน

3.ปัจจัยที่จะเกี่ยวข้องที่จะต้องมี เวลาทดสอบ
  - รุ่นยาง /ยี่ห้อ /ความดันลมยาง/ อุณหภูมิ
  - ความเร็ว/ เส้นทางที่วิ่ง
  - ทิศทางลมที่รถคันนั่นวิ่งทดสอบ ณ.เวลานั้นๆ

แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วครับ เวลาที่จะทำหนะ ทำได้แต่ ถ้าทำแบบนี้ ทีมงานแทบจะไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลยมั้ง

1.ไม่ต้องไปสอบเทียบ แต่ใช้ ตัวที่มันพออ้างอิงได้ ไม่ใช่ สมาร์ทโฟนครับ ปกติเค้าสอบเทียบมาแล้ว มีผล แนยบการขาย
2.ใช้เครื่อง วัดเสียง ย่าน ที่มนุษย์ได้ยินสิครับผม dBA นะ เครื่องวัดเสียง มีครับ ไม่ได้ ยุ่งย้ากกกก มาก
3.ปัจจัยที่จะเกี่ยวข้อง ปกติ การรีวิว ก็ไม่ได้ ซีเรีสเรื่องพวกนี้ อยู่แล้ว นี่ครับ เวลาวัด ความเร็ว ก็ไม่เห็นไป จับ น้ำหนักคนเท่าไหร่ ลมพัดทางไหนนี่

คนไม่รู้ อาจคิดว่ายุ่งยาก ครับ
มีไร ปรึกษาได้ ยินดีครับ

มันไม่ได้เหนื่อยมากหรอกครับ แค่ ลงทุนสักนิด Sound Level ราคา ถูก ปรับไป Mode dBA ย่านวัด มนุษย์ได้ยิน เป็นการพัฒนา ไปอีกรูปแบบ
ส่วนจะทำไม่ทำ ก็อยู่ที่ ทีมงาน
ผมแค่แนะนำครับ


HLM ไม่ได้ ทำการทดลองครับ แค่ รีวิว ไม่ได้ สมบูรณ์แบบก็ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2018, 15:22:08 โดย mamaman »

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
ถ้าจำกันได้ กระทู้แบบนี้เคยโพสถามไปแล้ว และก็ตอบไปแล้ว และก็คิดว่าไม่จำเป้นต้องวัดครับ

คหสต. เวปนี้ที่ผมชอบเพราะมาจากความเห็นที่ตรงไปตรงมา ไม่อวยรถจนหวานเลี่ยนเหมือนเวปอื่นๆ เรื่องการทดสอบมีมาตรฐานมั้ย ผมมองว่าไม่ได้มาตรฐาน

เพราะการวิ่งบนท้องถนนจริง เราไม่สามารถคุมตัวแปรต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องได้เลย ไม่ว่าจะเป็นลม อากาศ พื้นถนน รถที่ร่วมทาง หรือฤดูกาลก็ตาม

คิดว่าฟังจากความเห็นคนรีวิวก็พอเป็น ไกด์ไลน์ ในการพิจารณาแล้วครับ เพราะยังงัยท้ายสุด การซื้อรถมันขึ้นกับการตัดสินใจของคนที่ซื้อเป็นหลัก ไม่ใช่มาจากการรีวิว

ออฟไลน์ blade

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 229
เคยทำรีวิว เสียงของ civic fc กับ camry acv50
แต่ภาพประกอบหายหมดละ
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=50741.msg871972#msg871972
อยากให้ทางเวป ทำเหมือนกัน

ออฟไลน์ 5thAvenue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,434
  • Hi!!!!
    • อีเมล์
มีอีกวิธีนึงคือ พี่จิมมี่จะต้องลงทุนสร้างห้องเก็บเสียง

แล้วใช้วิธีวัดเสียงจากการเปิดเพลง เช่น Blur - Song 2 งิ

โดยใช้เพลงเดิม จากเครื่องเสียงตัวเดิม ระดับความดังเท่าเดิม(ซึ่งไม่รู้ว่าลำโพงจะดรอปไปตอนอายุกี่ปี)

แล้ววัดเสียงจากจุดใดจุดหนึ่งของตัวรถ

ถึงจะมาตรฐานครับ ไม่งั้นควยคุมยาก

ออฟไลน์ Magl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,558
    • อีเมล์
คือกลัวบางคนยอมรับไม่ได้ในรถที่ตัวเองใช้มากกว่า บางทีเสียงลมเข้า เสียงยางดัง เสียงภายนอกเข้าน้อย ซุ้มล้อดัง แต่ละยี่ห้อถ้าไม่ใช่รถพรีเมียม ล้วนจะมีปัญหาบ้างทั้งนั้น พอได้ฟังรีวิวก็จะได้รับทราบข้อมูลดังที่รีวิวไว้จริงๆ

ออฟไลน์ seeker

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,527
ผมว่าวัดให้ทุกคันใช้มาตรฐานเดียวกันนี้ยากมาก
แถมยางกับถนนก็มีส่วนกับเสียงมากเหลือด้วย

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์

ผมว่า พวกเราแยกประเด็นกันก่อนนะ

เค้าแค่ เสนอ ให้วัดเสียงเป็นตัวเลข เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย
ไม่ใช่ บอกให้ไป ทำการวัดให้ได้มาตราฐาน

เพราะ นี่เว็บ รีวิวรถ ไม่ใช่ ห้องทดสอบ
บางคนก็พาออกทะเลไปไกลเลย

ในคลิปที่เอามา ก็ใช้เครื่องวัดเสียงธรรมดา มีโหมด dBA หูคนฟัง เครื่องผลิตตามมาตราฐาน และผ่านการ Calibrate มาแล้ว
เค้าก็ไม่ได้ มานั่ง รายงานสภาพ
ไปกันใหญ่แล้วนะครับ

ประเด็นคือ ความเร็ว 0-100 ก็ พอเข้าใจ หน่วย วินาที
แต่ ความดังนี่ เราจะเข้าใจยังไง

ออฟไลน์ +@ Krishna @+

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,295
  • *_* รถที่ดี คือ รถที่ใช้แล้วมีความสุข ^_^

ออฟไลน์ testmaster

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 450
    • อีเมล์
มีก็ดีกว่าไม่มีแต่อย่างว่าตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้มันก็เยอะ แต่มันก็เหมือน 0-100 แล้วใช้นาฬิกา กับ ความรู้สึกอะครับ

ออฟไลน์ adiPureII

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 248
    • อีเมล์
เอาจริงๆ อยากให้อัพเกรดกล้องก่อนเลย ขอจัดการ Noise ดีๆกว่านี้หน่อย
สัก A7s2 ก็พอแล้ว

morphling14

  • บุคคลทั่วไป
มีเครื่องวัดเสียงภายนอกรถ - ภายในรถ (ตามตำแหน่งคนนั่ง)   แล้วดูผลต่างความดังภายนอก-ภายใน   แบบนี้จะได้มั้ยครับ

รถเก็บเสียงดี ผลต่างมาก
รถเก็บเสียงไม่ดี ผลต่างน้อย

อะไรทำนองนี้

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,239
มีก็ดีกว่าไม่มีแต่อย่างว่าตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้มันก็เยอะ แต่มันก็เหมือน 0-100 แล้วใช้นาฬิกา กับ ความรู้สึกอะครับ
+100000000000 เห็นด้วยมากๆครับ
ผมว่าไม่น่ายากเลย ตัวแปรสภาพแวดล้อมภายนอกก็ไม่น่าจะทำให้ค่าเพี้ยนจากเดิมมาก
นอกจากเทสตอนฝนตก รถที่เก็บเสียงดีต่อให้ภายนอกดังข้างในมันก็เงียบ รถเก็บเสียงห่วยต่อให้ไม่มีเสียงรบกวนภายนอก มันก็ดัง วัดกันที่ระดับdBไปเลย เข้าใจง่ายดี
หรือดอกจันทน์ระบุเลขไมล์และสภาพยางของรถเทสไว้ด้วยก็ได้ครับ ให้คนอ่านไปวิเคราะห์ต่อเอง