ผู้เขียน หัวข้อ: ถามคนใช้ plug-in hybrid ชาร์จไฟกับไม่ชาร์จ ประหยัดต่างกันมากไหมครับ  (อ่าน 9944 ครั้ง)

ออฟไลน์ Wangleehom

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 72
    • อีเมล์
ถามหน่อยครับ

ระหว่างชาร์จไฟ กับไม่ชาร์จ อัตราการประหยัดน้ำมัน

ต่างกันมากไหมครับ

คิดว่าส่วนใหญ่รถจอดที่ไม่สะดวกชาร์จเท่าไร ไม่ค่อยได้ชาร์จเป็นแน่

ออฟไลน์ NavaneS

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 649
    • อีเมล์
เพิ่งคุยกับฝ่ายเทคนิคบีเอ็ม ตอนไปเทส 530e
เค้าบอกว่า  ถ้ารถปลั๊กอิน แต่ไฟหมด  จะกินน้ำมันมากกว่ารถธรรมดาครับ เพราะต้องเสียน้ำมันไปปั่นไฟเข้าแบตด้วยครับ

สรุปคือ ถ้าไม่ขยันชาร์จทิ้งไว้ตอนกลางคืน เวลาเราใช้รถตอนกลางวันจะกินน้ำมันกว่าเครื่องปกติครับ
Peugeot505
BMW 318i
Honda Accord G6
Toyota Wish
Honda City
Honda Accord G9
BMW 528i M Sport
KIA Grand Carnival

ออฟไลน์ CarameLon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,387
อย่างc350e ถ้ากดโหมดchargeตลอดระยะทางที่ขับ
จะเข็มน้ำมันลงเร็วพอๆอยู่โหมดsport+ครับ
ปล. ส่วนถ้าแบตต่ำๆแล้วไม่ชาร์ตเลย ก็เข้าหลักเดิมคือรถจะบังคับสตาร์ชาร์ตแบตอยู่ดี
ปล2. ถ้าคิดว่ายุ่งยากซับซ้อนเกินต้านทานทน รถน้ำมันล้วนยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ปล3. คหสต. ผมขับจนชินแล้ว แบตซัก40% กดโหมดชาร์ตจนแบต 80%สลับกลับไปไฮบริตง่ายๆ
        เจอถนนโล่งๆ กด sport+ แล้วจะลืมความซับซ้อนยุ่งยากชีวิตที่กล่าวมาทั้งหมด  ฟิ้ววววว  8)
TOYOTA WISH SPORT 2.0>>>CRV-2.4L 4WD GEN3>>>TOYOTA Camry 2.4 2010>>>BMW 520 ตาเหยี่ยว>>>BMW X3 2011 >>>BMW 520D 2010 >>>BMW 525D ก่อน LCI >>>BMW 116i M-sport >>>BMW X1 2.0 S-drive 2016 >>>Mercedes GLA200 >>>Mercedes C Class C350e >>> BMW330e+BMWS1000R

ออฟไลน์ Fat

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 341
มีผลอยู่แล้ว แต่ประหยัดมาก-น้อย ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วย คือถ้าไม่สะดวกชาร์จตอนจอดรถ แต่ใช้รถสม่ำเสมอ มันก็สามารถชาร์จตอนวิ่งใช้งานได้ ขึ้นอยู่กับระยะทาง การใช้งานมากน้อย สภาพเส้นทางมีผลทั้งสิ้น แต่ถ้าใช้งานน้อย แล้วก็ไม่ค่อยสะดวกชาร์จไฟตอนจอด อันนี้น่าจะกินน้ำมันชัดเจนครับ

ที่คอนโดผม มีc350e อยู่คัน จอดทิ้งไว้นานมากๆเจ้าของถึงจะเอาไปใช้งานสักที นานแบบรถจอดที่เดิมไม่ขยับเลยเป็นสัปดาห์ หายไปแป๊ปเดียวก็กลับมาใหม่แล้วก็จอดทิ้งไว้อีก ที่คอนโดก็ไม่มีที่ชารจ์ไฟด้วย ยังสงสัยว่าเจ้าของเค้าได้ชาร์จไฟตอนไหน รถก็แทบไม่ได้ใช้เลย
Toyota Camry 2.2 SEG asv20 2001
Kia Carnival 2.4 CEO ll 2004
Nissan Tiida 1.8G H/B 2007 (sold)
Toyota Corolla Altis 1.6G 2011 (sold)
Toyota Camry Hybrid 2.5 2014
Toyota Chr Hybrid Mid 2019
Benz C220d AMG Dynamic 2020

ออฟไลน์ veronic

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 408
    • อีเมล์
แต่ละคันไม่เหมือนกันครับ ถ้าบอกตัวรุ่นรถที่ดูอยู่คงจะดีกว่านี้
แต่โดยรวม มันต้องกินน้ำมันขึ้นแน่นอนสิครับ ในเมื่อไม่มีไฟฟ้าให้วิ่ง

ออนไลน์ wibul10

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 189
    • อีเมล์
ถ้าจะให้ประหยัด คุณต้องชาร์จทุกวัน และขึ้นอยู่กับ ปริมาณการขับด้วยครับ

ถ้าคุณขับรถวันละ 60-100 กิโล คุณชาร์จทุกวัน คุณได้ 40 กิโลจากการชาร์จ ที่เหลือ 20-60 คุณขับน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาก็อาจจะยื่นไปเข้าศูนย์ 20,000 กิโลครับ เพราะเครื่องยนต์ทำงานแค่ ครึ่งนิดหน่อย พูดง่าย 20,000 กิโล เครื่องยนต์ทำงานแค่ประมาณ 10,000-12,000

แต่ถ้าคุณขับมากกว่านี้ มันก็จะแพงกว่านี้ครับ

ออฟไลน์ nett

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 243
รถผมชาร์จกลางคืนที่บ้านทุกวัน ขับไปทำงาน 15 กิโล ถึงที่ทำงานก็ชาร์จจนเต็ม แล้วขับกลับบ้าน

ผมเติมน้ำมันไปล่าสุดเต็มถังเมื่อ 1 มีนา ถึงวันนี้วิ่งไปแล้ว 2 พันกว่าโล และยังเหลือน้ำมันในถังอีก 10 กว่าลิตรครับ

ผมเองยังไม่เคยลองขับคันนี้ไกลๆเลย เกินระยะชาร์จปกติจะใช้ดีเซลแทน

ออฟไลน์ tsubasa

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,322
ผมเคยอยากคิดจะซื้อรถ plug in hybrid มาใช้เหมือนกัน
จองไปแล้วด้วย สุดท้ายมานึกถึงเราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมประจำวัน ถึงบ้านจอดรถชาร์ทไฟ ถึงออฟฟิศจอดรถชาร์ทไฟ มันคงลำบากตัวผมเอง เลยยอมเปลี่ยนไปเอารุ่นเครื่องธรรมดาแทนครับ

ออฟไลน์ chaithawat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,538
ถ้ากินกว่าตอนไม่ชาร์จเอามาถัวเฉลี่ยกับตอนชาร์จหรือตอนใช้ในชีวิตประจำวันก็คงไม่ได้ต่างกันเท่าไร ส่วนตัวคิดเช่นนั้นเลยไม่เลือกไฮบริด แค่แบตสองลูกก็ปวดหัวไม่ใช่เล่นแล้ว รถคันนึงเป็นล้านตังค์เติมน้ำมันเต็มที่เพิ่งจะสองพันผมว่าเล็กน้อย ถ้าไม่ต้องใช้เลยหรือใช้แค่ตอนสตาร์ทแบบรถแก๊สก็ว่าไปอย่าง
ประหยัดกว่าตอนเติมน้ำมันถังนึงต่างกันหลักสิบหลักร้อย แต่ตอนเมนทีแนนซ์ส่วนต่างที่เป็นภาระเพิ่มมาหลักหมื่นหลักแสนแบบนี้ก้ไม่ไหวนะมันไม่ตอบโจทย์สำหรับผม