เปลี่ยนจาก Mazda 2 เป็น Mazda 3 จะเป็นการอัพไซส์ที่คุ้มค่าไหมคะ

[pim_cute]

คิดว่าไม่คุ้มครับ eco car กับ b segment ถ้าจะเปลี่ยนไปใช้ c segment

สำหรับผมใช้ c segment มาก่อน แล้วเปลี่ยนมาใช้ b segment ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ต่างกันมากเลย สมรรถนะ คุณภาพวัสดุ เป็นผมจะเลือก b segment เพราะประหยัดมากกว่าเยอะครับ ที่โดดเด่นจริงๆ ของ c segment คิดว่าคือความสวยงามมากกว่า มันหล่อกว่า b segment มาก ถ้าจะเอาความแตกต่างแบบสัมผัสได้ ผมคิดว่า d segment คุ้มกว่าในเรื่องนั่งสบาย คุณภาพวัสดุ ความหรูหรา

จุดเด่นของแต่ละ segment ที่คิดว่าแตกต่างกันมากจริงๆ คือ eco car b segment จะเด่นเรื่องประหยัดตัง
                                                                       c segment จะเด่นเรื่องความสวย desire
                                                                       d segment จะเด่นเรื่องความสบาย หรูหรา

[TunGzl]

ผมได้อ่านทั้งจากโจทย์และความต้องการในคอมเม้น

ผมอยากให้ไปลอง Altis ดูครับ ผมเคยอคติกับแบนด์นี้เหมือนกัน

แต่พอได้ศึกษา ดูคนรอบข้างที่ใช้ มันตอบโจทย์กับผมในการนั่งโดยสาร

ซึ่งผมให้เป็นความสำคัญอันดับแรกเลย รองลงมาคือศูนย์บริการ และ Defect

ส่วนการขับขี่เป็นลำดับถัดมา

มาถึง Mazda3 ชอบมากตอนได้ขับ พอเปลี่ยนไปนั่งหลังเท่านั้นแหละ ไม่ปลื้ม

ส่วน Civic ไม่รู้มันเป็นยังไง เคยขับทัศนวิสัยสูงพอเปลี่ยนไปนั่ง Civic เหมือนต้องคอยชะเงยหน้ารถ เหมือนคนขับรถไม่เป็น

พอเปลี่ยนมานั่งหลัง รู้สึกถึงความโปร่ง สบาย แต่เบาะมันเหมือนเตี้ยไปยังไงไม่รู้ นั่งลำบากสำหรับผม (คงชินกับ Altis มา)

ลองไปพิจารณาดูนะครับ

[hwack11]

อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ

1. civic 1.8 el  ถ้าคุณไม่ได้เน้นบรรทุกของสัมภาระเยอะ ที่นั่งหลังค่อนข้างสบายกว่า  แอบนุ่มกว่า HRV (สำหรับผมนะ)
2. HR-V เน้น สัมภาระ  ขึ้น-ลง ง่าย  ทัศนวิสัยการขับขี่ดี ช่วงล่างอาจจะสู้ ซีวิคไม่ได้ เบาะนั่งหลังอาจจะแคบกว่าซีวิค (mc ผมยังไม่ได้ทดลองขับ)
3. CH-R ช่วงล่างแอบดี ถ้าจะเล่นรุ่นentry ผมว่าไป 1.8 mid or HV mid ดีกว่าครับ ส่วนข้างหลังไม่ได้แคบอย่างที่คิด อาจเปนเพราะกระจกมันสูงเลยบัง วิว ขนสัมภาระได้น้อยกว่า HR-V
4. มาสด้าผมไว้ที่สุดท้ายเพราะว่า เซอวิสอีก 10 ปี อะไหล่มาสด้า น่าจะหายากกว่า 3 รุ่นข้างบน เพราะ CH-R 1.8 เป็นเครื่องอัลติสอะไหล่น่าจะหาง่ายกว่า และ civic n HR-V ก้น่าจะหาง่ายกว่าเช่นกันครับ   การขับขี่และช่วงล่างที่ดี ผมยกให้มาสด้าครับ แต่ถ้าตามโจทย์ผมว่า civic 1.8 el

ปล.แนะนำว่าให้ คุณพ่อกับคุณแม่ของ จขท.ไปทดลองนั่งกับทดลองขับดูก่อนครับ 

คุณพ่อกับคุณแม่คงไม่ค่อยได้ขับค่ะ (ปกติขับรถใครรถมัน) แต่คงต้องหาโอกาสชวนไปลองนั่งทุกรุ่นแล้วแหละค่ะ ส่วนตัวไม่ค่อยได้ขนของนะคะ ปกติก็มีแค่คอนโดรองเท้าท้ายรถเป็นหลักค่ะ 




ครับ ลองให้ที่บ้านไปนั่งดูครับ ส่วนตัวผมแอบเชียร์ civic 1.8 and CH-R ครับผม เพราะตอนแรกผมก้จะเลือกซีวิคแต่พ่อผมบอกว่าเวลานั่งหลังแล้วแดดส่งหัว มันร้อน 5555+ หรือรอ mitsu expander ดีครับกำลังจะเข้าแล้ว 

[Skyforce]

กลับมาคอมเมนท์อีกตัวนึงคือถ้ากังวลเรื่องงบ อยากให้ไปดู ciaz เป็นอีโค่คาร์ที่มิติรถ เกือบเท่าพวกอัลติสที่เป็น c segment เลย แถมรุ่นท๊อป รองท๊อป เป็นรุ่นเดียวในกลุ่มเลยที่มีแอร์หลังให้ แถมเบาะหลังกว้างขวางด้วย

[TABO9]

civic เพื่อนสนิทผม ซื้อรุ่น RS มือ2 มาขับ ได้เดือนเดียว บ่นว่าเรื่องเบาะนั่งคนขับ เวลานั่งขับจะดูเตี้ยมาก ขับแล้วไม่ชอบ ทนใช้อยู่ไม่ถึงปี ขายขายทุนไป 1 แสน ไป CRV แทนตอนนี้ 

จะบอกว่า ยังไงลองขับดูแล้วคำนึงถึง ข้อนี้ด้วยนะครับ เห็นมีคนบ่นอยู่หลายคนเหมือนกันครับ 

น้องชายผมขับ เคยแต่นั่งหลังอยู่บ่อย MAZDA 3  ทั้งภายนอกและภายใน คันจริงดูใหญ่ ถ้า ผญ ขับเบาะหน้า น่าจะเลื่อนเบาะเข้ามาอีก ที่นั่งด้านหลังน่าจะดูกว้างยิ่งถ้านั่งหลังแค่ 2 คน ผมว่าเหลือๆ สบายเลยครับ

ยิ่งถ้าเลือกแบบ 5 ประตู พท ด้านหลัง น่าจะดูโปร่งกว่าตัว 4 ประตูนะครับ

Altis  ผมรับไม่ได้กับภายใน ที่ดูโบราณแบบสุดๆ  จอแสดงผล  เทียบไม่ติดเลยกับ MAZDA3 

[CHANOM]

คิดว่าไม่คุ้มครับ eco car กับ b segment ถ้าจะเปลี่ยนไปใช้ c segment

สำหรับผมใช้ c segment มาก่อน แล้วเปลี่ยนมาใช้ b segment ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ต่างกันมากเลย สมรรถนะ คุณภาพวัสดุ เป็นผมจะเลือก b segment เพราะประหยัดมากกว่าเยอะครับ ที่โดดเด่นจริงๆ ของ c segment คิดว่าคือความสวยงามมากกว่า มันหล่อกว่า b segment มาก ถ้าจะเอาความแตกต่างแบบสัมผัสได้ ผมคิดว่า d segment คุ้มกว่าในเรื่องนั่งสบาย คุณภาพวัสดุ ความหรูหรา

จุดเด่นของแต่ละ segment ที่คิดว่าแตกต่างกันมากจริงๆ คือ eco car b segment จะเด่นเรื่องประหยัดตัง
                                                                       c segment จะเด่นเรื่องความสวย desire
                                                                       d segment จะเด่นเรื่องความสบาย หรูหรา

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ

ที่บ้านเคยใช้ D-Segment มาแค่คันเดียวเองค่ะ (BMW 525i E34) หลังจากนั้นมาก็ใช้ C-Segment มาโดยตลอดเลย
จะให้กลับไป D-Segment เราก็กลัวว่ามันจะเทอะทะกันไปหน่อยน่ะค่ะ   

ผมได้อ่านทั้งจากโจทย์และความต้องการในคอมเม้น

ผมอยากให้ไปลอง Altis ดูครับ ผมเคยอคติกับแบนด์นี้เหมือนกัน

แต่พอได้ศึกษา ดูคนรอบข้างที่ใช้ มันตอบโจทย์กับผมในการนั่งโดยสาร

ซึ่งผมให้เป็นความสำคัญอันดับแรกเลย รองลงมาคือศูนย์บริการ และ Defect

ส่วนการขับขี่เป็นลำดับถัดมา

มาถึง Mazda3 ชอบมากตอนได้ขับ พอเปลี่ยนไปนั่งหลังเท่านั้นแหละ ไม่ปลื้ม

ส่วน Civic ไม่รู้มันเป็นยังไง เคยขับทัศนวิสัยสูงพอเปลี่ยนไปนั่ง Civic เหมือนต้องคอยชะเงยหน้ารถ เหมือนคนขับรถไม่เป็น

พอเปลี่ยนมานั่งหลัง รู้สึกถึงความโปร่ง สบาย แต่เบาะมันเหมือนเตี้ยไปยังไงไม่รู้ นั่งลำบากสำหรับผม (คงชินกับ Altis มา)

ลองไปพิจารณาดูนะครับ

ทุกวันนี้เราก็ขับรถไป ชะเงยหน้าไปโดยตลอด ถ้าให้ขับแบบนั้น คงไม่ต้องปรับตัวอะไรมากนะคะ 

ครับ ลองให้ที่บ้านไปนั่งดูครับ ส่วนตัวผมแอบเชียร์ civic 1.8 and CH-R ครับผม เพราะตอนแรกผมก้จะเลือกซีวิคแต่พ่อผมบอกว่าเวลานั่งหลังแล้วแดดส่งหัว มันร้อน 5555+ หรือรอ mitsu expander ดีครับกำลังจะเข้าแล้ว 

แถวบ้านเหมือนจะไม่มีศูนย์ Mitsubishi เลยค่ะ น่าจะต้องผ่าน เพราะเรื่องศูนย์บริการก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน 

กลับมาคอมเมนท์อีกตัวนึงคือถ้ากังวลเรื่องงบ อยากให้ไปดู ciaz เป็นอีโค่คาร์ที่มิติรถ เกือบเท่าพวกอัลติสที่เป็น c segment เลย แถมรุ่นท๊อป รองท๊อป เป็นรุ่นเดียวในกลุ่มเลยที่มีแอร์หลังให้ แถมเบาะหลังกว้างขวางด้วย

ถ้าให้เปลี่ยนเป็นรถใน Segment เดียวกัน เราคงไม่เปลี่ยนค่ะ เป็นหนี้โดยใช้เหตุ
ส่วนตัวเฉยๆกับ Suzuki ไม่ได้ไม่ชอบ แต่ถ้าให้เลือกใช้ ก็คงไม่เลือกเหมือนกันน่ะค่ะ 

civic เพื่อนสนิทผม ซื้อรุ่น RS มือ2 มาขับ ได้เดือนเดียว บ่นว่าเรื่องเบาะนั่งคนขับ เวลานั่งขับจะดูเตี้ยมาก ขับแล้วไม่ชอบ ทนใช้อยู่ไม่ถึงปี ขายขายทุนไป 1 แสน ไป CRV แทนตอนนี้ 

จะบอกว่า ยังไงลองขับดูแล้วคำนึงถึง ข้อนี้ด้วยนะครับ เห็นมีคนบ่นอยู่หลายคนเหมือนกันครับ 

น้องชายผมขับ เคยแต่นั่งหลังอยู่บ่อย MAZDA 3  ทั้งภายนอกและภายใน คันจริงดูใหญ่ ถ้า ผญ ขับเบาะหน้า น่าจะเลื่อนเบาะเข้ามาอีก ที่นั่งด้านหลังน่าจะดูกว้างยิ่งถ้านั่งหลังแค่ 2 คน ผมว่าเหลือๆ สบายเลยครับ

ยิ่งถ้าเลือกแบบ 5 ประตู พท ด้านหลัง น่าจะดูโปร่งกว่าตัว 4 ประตูนะครับ

Altis  ผมรับไม่ได้กับภายใน ที่ดูโบราณแบบสุดๆ  จอแสดงผล  เทียบไม่ติดเลยกับ MAZDA3 

ปกติเวลาเราขับรถ ตัวเราแทบจะติดพวงมาลัยเลยค่ะ (พื้นที่หลังคนขับไม่เคยเห็นปัญหา  )
สงสัยต้องหาโอกาสพากันไปลองนั่งซะแล้ว

ขอบคุณมากเลยนะคะสำหรับคำแนะนำ

[RL1234]

ไปหา camry 2.0 โฉมล่าสุด มือ 2 ปีใหม่ๆ ซัก 2017 เดี๋ยวนี้เช็คประวัติตามศูนย์บริการได้เลยแค่มีเลขทะเบียน เคยชน เคยซ่อมอะไรเห็นหมด ไมล์โกงไม่ได้แน่นอน เลือกได้ตามใจชอบ ราคาหาได้ตั้งแต่ 800K - 900K  รับรองว่าจบ ที่บ้าน happy ใช้ 10 ปี ไม่มีจุกจิกครับ

ถ้าจะเอา segment ที่เจ้าของกระทู้ว่า นั่งหลังไม่มีอันไหนสบายสำหรับผู้ใหญ่หรอกครับ Segment นั้นเค้าก็มีกลุ่มตลาดของเค้าครับ เน้นคนทำงาน หรือ ตรอบครัวเล็กๆครับ
 

[oatekung]

Cx5 หรือ forester ครับ ที่พิมมาแอบไม่ตอบโจทน์นะครับ

[akewizard]

กระทู้นี้ยาวมากครับ  ผมอ่านผ่านๆบังเอิญไปเห็นข้อความว่าเคยสนใจ subaru XV ด้วย เลยแวะมาให้คำแนะนำครับ

ตามโจทย์ที่ให้มา ผมจิ้มไปที่ Mazda 3 และ Civic เป็นหลักครับ เพราะช่วงล่างตอบโจทย์ตามที่ จขกท.ต้องการ ไม่เคลงเคลงเพราะเป็นรถเตี้ยและช่วงล่างอยู่ในเกณท์ของรถนั่งไม่แข็งเกินไป
ที่นั่งโดยสารด้านหลังก็สบายกว่าพวกรถ Crossover เพราะมันไม่ต้องทำเผื่อให้พับเบาะได้ (รถที่พับเบาะได้มักจะทำเบาะแบนๆ นั่งไม่สบายเท่าไหร่)

แต่ CH-R ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ถ้าไม่เน้นที่นั่งด้านหลังมากนัก (ด้านหลังเหมือนจะแคบ เพราะการออกแบบที่ดูทึบ อึดอัดนิดหน่อย)
ศูนย์บริการ Toyota เป็นอะไรที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยสะดวกที่จะดูแลรถตัวเองมากนัก งานบริการค่อนข้างดีและไม่แพง
ผมมีพี่สาวเคยใช้ Prius อยู่ ไลฟ์สไตล์ประมาณ working woman ขับรถไปเช้า-เย็นกลับ วันหยุดก็โยนรถเข้าร้านล้างรถ  ถึงเวลาเชคตามระยะหรือรถมีปัญหาก็เอาเข้าศูนย์แล้วนั่งดูดกาแฟรออย่างเดียว
ครั้งนึงมีเสียงแกรกๆดังหน้าคอนโซลรถ ช่างหาสาเหตุไม่เจอเลยสั่งอนุมัติเปลี่ยนแผงคอนโซลยุกชุดให้เลยโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย

ส่วนถ้ายังสนใจ Subaru XV อยู่ ลองหาตัวโฉมเก่าที่เป็นตัว MC น่าจะยังพอมีครับ ต่อรองราคาดีๆอาจจะได้ราคาเหลือ 9 แสนกลางๆก็ยังอยู่ในงบ
แต่ต้องออกตัวก่อนว่าค่าบำรุงรักษาค่อนข้างแพงกว่ารถรุ่นอื่น เพราะมันมีระบบที่ต้องคอยบำรุงมากกว่าเช่น น้ำมันเกียร์ CVT ต้องถ่ายทุก 4 หมื่นกิโล น้ำมันเฟืองหน้า+เฟืองท้ายถ่ายทุก 1 หมื่นกิโล
ทุกรอบ 4 หมื่น,8 หมื่น ค่าใช้จ่ายจะแพงหลักหมื่นเพราะเปลี่ยนหลายอย่างพร้อมกันหมด (ถ้าไม่อยากแพงให้ทะยอยเปลี่ยนไปตามรอบอื่นๆบ้าง)

ระบบขับสี่เทียบกับรถรุ่นอื่นที่เป็นขับ 2 ขับบนถนนปกติแทบไม่เห็นความแตกต่างครับ (แต่ถนนเปียก ลื่น โคลน เมือก ก็ยังเกาะถนนกว่าขับ 2 )
หลายๆคนซื้อ XV เพราะขับแล้วรู้สึกดีโดยที่ไม่ได้ให้น้ำหนักเรื่องขับ 4 ก็มีเยอะครับ แถมยังได้ใต้ท้องยกสูงมากกว่ารถรุ่นอื่นๆด้วย สามารถขับข้ามฟุตบาทได้โดยที่ใต้ท้องยังไม่ครูด
ถ้าสนใจแนะนำให้ลองเข้าไปคุยใน facebook ของกลุ่ม XV Cafe ได้ครับ หลายๆคนถึงจะไม่ได้ขับ XV แต่ก็ยังเข้าไปพูดคุยเล่นกันได้ปกติ (แต่ห้ามบอกว่ารุ่นอื่นเกาะถนนกว่า XV นะ  มีเดือด หุหุ)

[SM.]

เห็นด้วยเรื่องการผ่อนนะครับ จะได้ไม่หนักไปด้วย

ส่วนรถ คิดว่ารอ 3 ใหม่มั๊ยครับ หรือ Civic ก็ได้ครับ ถ้าไม่ได้ขนอะไรมาก นั่งได้สบายครับ

ส่วนจะนั่งสบายแค่ไหน คงต้องไปลองเองครับ สรีระคนเราไม่เหมือนกัน

[CHANOM]

ไปหา camry 2.0 โฉมล่าสุด มือ 2 ปีใหม่ๆ ซัก 2017 เดี๋ยวนี้เช็คประวัติตามศูนย์บริการได้เลยแค่มีเลขทะเบียน เคยชน เคยซ่อมอะไรเห็นหมด ไมล์โกงไม่ได้แน่นอน เลือกได้ตามใจชอบ ราคาหาได้ตั้งแต่ 800K - 900K  รับรองว่าจบ ที่บ้าน happy ใช้ 10 ปี ไม่มีจุกจิกครับ

ถ้าจะเอา segment ที่เจ้าของกระทู้ว่า นั่งหลังไม่มีอันไหนสบายสำหรับผู้ใหญ่หรอกครับ Segment นั้นเค้าก็มีกลุ่มตลาดของเค้าครับ เน้นคนทำงาน หรือ ตรอบครัวเล็กๆครับ

เราไม่มีเงินสดขนาดนั้นค่ะ ซื้อรถมือสองด้วยเงินสดเลยไม่อยู่ในตัวเลือกเลย จะให้ผ่อน ก็ทำใจกับดอกเบี้ยผ่อนรถมือสองไม่ได้ 

Cx5 หรือ forester ครับ ที่พิมมาแอบไม่ตอบโจทน์นะครับ

งบประมาณไม่ถึงค่ะ เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เกิน 1.0m เพราะถ้ามากกว่านั้น ไฟแนนนซ์เราก็ไม่น่าจะผ่านด้วยอายุงานและเงินเดือน
เราเข้าใจค่ะ ว่าคงได้ทุกอย่างภายในงบประมาณเท่านี้ไม่ได้ แต่ก็อยากได้รถที่พอตอบโจทย์เราได้ในราคาที่เราจ่ายไหวน่ะค่ะ

กระทู้นี้ยาวมากครับ  ผมอ่านผ่านๆบังเอิญไปเห็นข้อความว่าเคยสนใจ subaru XV ด้วย เลยแวะมาให้คำแนะนำครับ

ตามโจทย์ที่ให้มา ผมจิ้มไปที่ Mazda 3 และ Civic เป็นหลักครับ เพราะช่วงล่างตอบโจทย์ตามที่ จขกท.ต้องการ ไม่เคลงเคลงเพราะเป็นรถเตี้ยและช่วงล่างอยู่ในเกณท์ของรถนั่งไม่แข็งเกินไป
ที่นั่งโดยสารด้านหลังก็สบายกว่าพวกรถ Crossover เพราะมันไม่ต้องทำเผื่อให้พับเบาะได้ (รถที่พับเบาะได้มักจะทำเบาะแบนๆ นั่งไม่สบายเท่าไหร่)

แต่ CH-R ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ถ้าไม่เน้นที่นั่งด้านหลังมากนัก (ด้านหลังเหมือนจะแคบ เพราะการออกแบบที่ดูทึบ อึดอัดนิดหน่อย)
ศูนย์บริการ Toyota เป็นอะไรที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยสะดวกที่จะดูแลรถตัวเองมากนัก งานบริการค่อนข้างดีและไม่แพง
ผมมีพี่สาวเคยใช้ Prius อยู่ ไลฟ์สไตล์ประมาณ working woman ขับรถไปเช้า-เย็นกลับ วันหยุดก็โยนรถเข้าร้านล้างรถ  ถึงเวลาเชคตามระยะหรือรถมีปัญหาก็เอาเข้าศูนย์แล้วนั่งดูดกาแฟรออย่างเดียว
ครั้งนึงมีเสียงแกรกๆดังหน้าคอนโซลรถ ช่างหาสาเหตุไม่เจอเลยสั่งอนุมัติเปลี่ยนแผงคอนโซลยุกชุดให้เลยโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย

ส่วนถ้ายังสนใจ Subaru XV อยู่ ลองหาตัวโฉมเก่าที่เป็นตัว MC น่าจะยังพอมีครับ ต่อรองราคาดีๆอาจจะได้ราคาเหลือ 9 แสนกลางๆก็ยังอยู่ในงบ
แต่ต้องออกตัวก่อนว่าค่าบำรุงรักษาค่อนข้างแพงกว่ารถรุ่นอื่น เพราะมันมีระบบที่ต้องคอยบำรุงมากกว่าเช่น น้ำมันเกียร์ CVT ต้องถ่ายทุก 4 หมื่นกิโล น้ำมันเฟืองหน้า+เฟืองท้ายถ่ายทุก 1 หมื่นกิโล
ทุกรอบ 4 หมื่น,8 หมื่น ค่าใช้จ่ายจะแพงหลักหมื่นเพราะเปลี่ยนหลายอย่างพร้อมกันหมด (ถ้าไม่อยากแพงให้ทะยอยเปลี่ยนไปตามรอบอื่นๆบ้าง)

ระบบขับสี่เทียบกับรถรุ่นอื่นที่เป็นขับ 2 ขับบนถนนปกติแทบไม่เห็นความแตกต่างครับ (แต่ถนนเปียก ลื่น โคลน เมือก ก็ยังเกาะถนนกว่าขับ 2 )
หลายๆคนซื้อ XV เพราะขับแล้วรู้สึกดีโดยที่ไม่ได้ให้น้ำหนักเรื่องขับ 4 ก็มีเยอะครับ แถมยังได้ใต้ท้องยกสูงมากกว่ารถรุ่นอื่นๆด้วย สามารถขับข้ามฟุตบาทได้โดยที่ใต้ท้องยังไม่ครูด
ถ้าสนใจแนะนำให้ลองเข้าไปคุยใน facebook ของกลุ่ม XV Cafe ได้ครับ หลายๆคนถึงจะไม่ได้ขับ XV แต่ก็ยังเข้าไปพูดคุยเล่นกันได้ปกติ (แต่ห้ามบอกว่ารุ่นอื่นเกาะถนนกว่า XV นะ  มีเดือด หุหุ)

กระทู้นี้ยาวกว่าที่เราคิดจริงๆค่ะ อ่านแล้วก็ดีใจ เพราะเพื่อนสมาชิกทุกท่านมีข้อแนะนำดีๆทั้งนั้นเลย 
เราคิดว่า Subaru XV โฉมเก่านั้นหมดไปแล้วนะคะเนี่ย ได้ยินแบบนี้ อาจจะต้องลองไปขอเข้ากลุ่มซะแล้ว

ขอบคุณมากนะคะ สำหรับลายแทง

เห็นด้วยเรื่องการผ่อนนะครับ จะได้ไม่หนักไปด้วย

ส่วนรถ คิดว่ารอ 3 ใหม่มั๊ยครับ หรือ Civic ก็ได้ครับ ถ้าไม่ได้ขนอะไรมาก นั่งได้สบายครับ

ส่วนจะนั่งสบายแค่ไหน คงต้องไปลองเองครับ สรีระคนเราไม่เหมือนกัน

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ เดี๋ยวจะหาโอกาสพาคุณพ่อคุณแม่ไปลองนั่งดูค่ะ 

[aun]

ไปหา camry 2.0 โฉมล่าสุด มือ 2 ปีใหม่ๆ ซัก 2017 เดี๋ยวนี้เช็คประวัติตามศูนย์บริการได้เลยแค่มีเลขทะเบียน เคยชน เคยซ่อมอะไรเห็นหมด ไมล์โกงไม่ได้แน่นอน เลือกได้ตามใจชอบ ราคาหาได้ตั้งแต่ 800K - 900K  รับรองว่าจบ ที่บ้าน happy ใช้ 10 ปี ไม่มีจุกจิกครับ

ถ้าจะเอา segment ที่เจ้าของกระทู้ว่า นั่งหลังไม่มีอันไหนสบายสำหรับผู้ใหญ่หรอกครับ Segment นั้นเค้าก็มีกลุ่มตลาดของเค้าครับ เน้นคนทำงาน หรือ ตรอบครัวเล็กๆครับ

เราไม่มีเงินสดขนาดนั้นค่ะ ซื้อรถมือสองด้วยเงินสดเลยไม่อยู่ในตัวเลือกเลย จะให้ผ่อน ก็ทำใจกับดอกเบี้ยผ่อนรถมือสองไม่ได้ 

จากที่มีเพื่อนสมาชิกแนะนำมา สำหรับ Camry มือสองก็ไม่น่าเกินงบ 1.0m นะครับแอบเห็นด้วยกับคำแนะนำนี้ ผมว่าน่าจะตอบโจทย์ที่สุด หรือว่า 1m หมายถึงรวมดอกด้วยแล้ว สำหรับรถใหม่ใช่ไหมครับ ถ้ากลัวเรื่องดอกเบี้ย ลองหา Camry มือสองแบบขายดาวน์ผ่อนต่อไหมครับ ก็ได้ดอกเบี้ยแบบมือ 1 โดยที่ราคารถก็ยังอยู่ในงบนะครับ  ยกเว้นว่าอยากได้รถใหม่ไปเลยเพื่อความสบายใจ (ส่วนตัวผมรถมือสองสองสามปีก็ไม่น่าห่วงอะไร ถ้ารู้ประวัติยิ่งโอเค)

[Turin]

XV โฉมเก่า ลองดู subarubkk ครับ เห็นว่ายังเหลือ

[tleema]

อ่านแล้วเครียดแทนแต่สนุกดี เลือกไม่ถูกทีเดียว แต่ชื่นชมนะครับตั้งเกณฑ์เรื่องงบเป็นหลักแถมมีความเข้าใจในการเลือกของตัวเองชัดเจนดี

ขอให้สนุกกับการเลือกรถคันใหม่ นะครับ

[pim_cute]

ไปหา camry 2.0 โฉมล่าสุด มือ 2 ปีใหม่ๆ ซัก 2017 เดี๋ยวนี้เช็คประวัติตามศูนย์บริการได้เลยแค่มีเลขทะเบียน เคยชน เคยซ่อมอะไรเห็นหมด ไมล์โกงไม่ได้แน่นอน เลือกได้ตามใจชอบ ราคาหาได้ตั้งแต่ 800K - 900K  รับรองว่าจบ ที่บ้าน happy ใช้ 10 ปี ไม่มีจุกจิกครับ

ถ้าจะเอา segment ที่เจ้าของกระทู้ว่า นั่งหลังไม่มีอันไหนสบายสำหรับผู้ใหญ่หรอกครับ Segment นั้นเค้าก็มีกลุ่มตลาดของเค้าครับ เน้นคนทำงาน หรือ ตรอบครัวเล็กๆครับ

เราไม่มีเงินสดขนาดนั้นค่ะ ซื้อรถมือสองด้วยเงินสดเลยไม่อยู่ในตัวเลือกเลย จะให้ผ่อน ก็ทำใจกับดอกเบี้ยผ่อนรถมือสองไม่ได้ 

จากที่มีเพื่อนสมาชิกแนะนำมา สำหรับ Camry มือสองก็ไม่น่าเกินงบ 1.0m นะครับแอบเห็นด้วยกับคำแนะนำนี้ ผมว่าน่าจะตอบโจทย์ที่สุด หรือว่า 1m หมายถึงรวมดอกด้วยแล้ว สำหรับรถใหม่ใช่ไหมครับ ถ้ากลัวเรื่องดอกเบี้ย ลองหา Camry มือสองแบบขายดาวน์ผ่อนต่อไหมครับ ก็ได้ดอกเบี้ยแบบมือ 1 โดยที่ราคารถก็ยังอยู่ในงบนะครับ  ยกเว้นว่าอยากได้รถใหม่ไปเลยเพื่อความสบายใจ (ส่วนตัวผมรถมือสองสองสามปีก็ไม่น่าห่วงอะไร ถ้ารู้ประวัติยิ่งโอเค)

ไม่ดีแน่ครับ ซื้อรถขายดาวน์เนี่ย คุณรู้ไหมว่ารถขายดาวน์ผ่อนต่อ รถมันเป็นชื่อไฟแนนท์คนครอบครองเป็นคนขายนะครับ ต่อให้มีสัญญาซื้อขายก็ตาม คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าของ

รถเขาจะจ่ายค่างวดไปจนครบ ทางเดียวที่จะเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถมาเป็นเราครอบครองคุณก็จะต้องมีการไฟแนนท์ใหม่เพื่อไปจ่ายของเก่าทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งก็จะโดนดอกเบี้ยมือ2 อยู่ดี

ครับ มันเหมือนสัญญาปากเปล่าที่มีหนังสือไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งไม่มีกฎหมายรองรับตรงนี้เลย คนขายเป็นแค่คนครอบครองไม่ใช่เจ้าของรถที่แท้จริง เพราะยังจ่ายค่างวดไม่หมด เขาจะ

ไม่ชิ่งเหรอครับในเมื่อรถไม่อยู่กับตัวเขาแล้วแต่อยู่กับคุณ เสี่ยงมากครับ

[Turin]

ไปหา camry 2.0 โฉมล่าสุด มือ 2 ปีใหม่ๆ ซัก 2017 เดี๋ยวนี้เช็คประวัติตามศูนย์บริการได้เลยแค่มีเลขทะเบียน เคยชน เคยซ่อมอะไรเห็นหมด ไมล์โกงไม่ได้แน่นอน เลือกได้ตามใจชอบ ราคาหาได้ตั้งแต่ 800K - 900K  รับรองว่าจบ ที่บ้าน happy ใช้ 10 ปี ไม่มีจุกจิกครับ

ถ้าจะเอา segment ที่เจ้าของกระทู้ว่า นั่งหลังไม่มีอันไหนสบายสำหรับผู้ใหญ่หรอกครับ Segment นั้นเค้าก็มีกลุ่มตลาดของเค้าครับ เน้นคนทำงาน หรือ ตรอบครัวเล็กๆครับ

เราไม่มีเงินสดขนาดนั้นค่ะ ซื้อรถมือสองด้วยเงินสดเลยไม่อยู่ในตัวเลือกเลย จะให้ผ่อน ก็ทำใจกับดอกเบี้ยผ่อนรถมือสองไม่ได้ 

จากที่มีเพื่อนสมาชิกแนะนำมา สำหรับ Camry มือสองก็ไม่น่าเกินงบ 1.0m นะครับแอบเห็นด้วยกับคำแนะนำนี้ ผมว่าน่าจะตอบโจทย์ที่สุด หรือว่า 1m หมายถึงรวมดอกด้วยแล้ว สำหรับรถใหม่ใช่ไหมครับ ถ้ากลัวเรื่องดอกเบี้ย ลองหา Camry มือสองแบบขายดาวน์ผ่อนต่อไหมครับ ก็ได้ดอกเบี้ยแบบมือ 1 โดยที่ราคารถก็ยังอยู่ในงบนะครับ  ยกเว้นว่าอยากได้รถใหม่ไปเลยเพื่อความสบายใจ (ส่วนตัวผมรถมือสองสองสามปีก็ไม่น่าห่วงอะไร ถ้ารู้ประวัติยิ่งโอเค)

ไม่ดีแน่ครับ ซื้อรถขายดาวน์เนี่ย คุณรู้ไหมว่ารถขายดาวน์ผ่อนต่อ รถมันเป็นชื่อไฟแนนท์คนครอบครองเป็นคนขายนะครับ ต่อให้มีสัญญาซื้อขายก็ตาม คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าของ

รถเขาจะจ่ายค่างวดไปจนครบ ทางเดียวที่จะเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถมาเป็นเราครอบครองคุณก็จะต้องมีการไฟแนนท์ใหม่เพื่อไปจ่ายของเก่าทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งก็จะโดนดอกเบี้ยมือ2 อยู่ดี

ครับ มันเหมือนสัญญาปากเปล่าที่มีหนังสือไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งไม่มีกฎหมายรองรับตรงนี้เลย คนขายเป็นแค่คนครอบครองไม่ใช่เจ้าของรถที่แท้จริง เพราะยังจ่ายค่างวดไม่หมด เขาจะ

ไม่ชิ่งเหรอครับในเมื่อรถไม่อยู่กับตัวเขาแล้วแต่อยู่กับคุณ เสี่ยงมากครับ

ซื้อรถขายดาวน์ ทำให้ถูกมันต้องเปลี่ยนสัญญากับไฟแนนซ์ด้วยนี่ครับ ... หรือผมเข้าใจอะไรผิด???

[hwack11]

เผื่อเป็นการตัดสินใจนะค้าบ

ญาติผมมี civic Fc 1.8 ผมลองนั่งข้างหลัง โอเคกว้าง แต่เบาะคนขับเตี้ยไปนิด นุ่มนวล ชิวๆ
ผมมี CHR ฟีลลิ่งตอนเข้าโค้งเทียบกับ ซีวิค เจ้าCHR ดีกว่าครับ เบาะหลังต้องยอมรับว่า ทัศนวิสัย สู้ซีวิคไม่ได้ เแต่เบาะหลัง
โอเคอยู่ครับ ไม่ได้แคบอย่างที่คิด

ถ้า คุณ CHANOM ชอบ subaru ผมว่า CHR เนี้ยแหละ แอบคล้ายอยู่นิดๆนะครับ 55555

[+@ Krishna @+]

ถ้าให้คุ้มสำหรับ mazda 3 คือ รอโฉมใหม่เลยครับ   

[pim_cute]

ไม่ดีแน่ครับ ซื้อรถขายดาวน์เนี่ย คุณรู้ไหมว่ารถขายดาวน์ผ่อนต่อ รถมันเป็นชื่อไฟแนนท์คนครอบครองเป็นคนขายนะครับ ต่อให้มีสัญญาซื้อขายก็ตาม คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าของ

รถเขาจะจ่ายค่างวดไปจนครบ ทางเดียวที่จะเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถมาเป็นเราครอบครองคุณก็จะต้องมีการไฟแนนท์ใหม่เพื่อไปจ่ายของเก่าทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งก็จะโดนดอกเบี้ยมือ2 อยู่ดี

ครับ มันเหมือนสัญญาปากเปล่าที่มีหนังสือไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งไม่มีกฎหมายรองรับตรงนี้เลย คนขายเป็นแค่คนครอบครองไม่ใช่เจ้าของรถที่แท้จริง เพราะยังจ่ายค่างวดไม่หมด เขาจะ

ไม่ชิ่งเหรอครับในเมื่อรถไม่อยู่กับตัวเขาแล้วแต่อยู่กับคุณ เสี่ยงมากครับ

ซื้อรถขายดาวน์ ทำให้ถูกมันต้องเปลี่ยนสัญญากับไฟแนนซ์ด้วยนี่ครับ ... หรือผมเข้าใจอะไรผิด???

สัญญาเช่าซื้อเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองไม่ได้ เพราะนิติกรรมที่ทำไปเกิดขึ้นแล้วกับบุคคลหนึ่ง การจะเปลี่ยนเป็นอีกคนความเสี่ยงคนกู้ก็เปลี่ยนไป สภาวะดอกเบี้ยขณะนั้น สภาพเศรษฐกิจ
ก็เปลี่ยนแปลงไป ต้องเกิดการพิจารณาใหม่ ไม่เป็นธรรมกับไฟแนนท์แน่นอน คุณต้องกู้สัญญาใหม่ที่เป็นชื่อคุณแล้วไปจ่ายสัญญาเก่ารถถึงเป็นชื่อคุณครับ ลองถามพวกอาชีพทนายดู
เขาจะแม่นข้อกฎหมายมากกว่าผม พวกขายดาวน์ผ่อนต่อบอกเลยว่ามีแค่สัญญาซื้อขาย ไฟแนนท์เจ้าของรถไม่รู้เรื่องแน่นอนครับ เพราะในสัญญาเช่าซื้อระบุไว้ชัดเจนว่าผู้ครอบครอง
ไม่มีสิทธิ์ขายทรัพย์ซึ่งเป็นของไฟแนนท์โดยชอบด้วยกฎหมาย แล้วการซื้อขายแบบนี้มันจะถูกต้องได้อย่างไร?

แต่ถ้าขายแล้วเอาเงินไปปิดไฟแนนท์ รถก็จะถูกโอนมาที่คุณ แล้วโอนต่อไปยังคนที่ซื้อ แบบนี้ไม่ผิด แต่ขายดาวน์ผ่อนต่อรถไม่มีการโอนแต่อย่างใด สัญญาเช่าซื้อเมื่อทำไปแล้วแก้ทีหลังไม่ได้อยู่แล้ว มันผิดกฎหมาย มีแต่ต้องทำใหม่เท่านั้น ลองไปไล่ดูข่าวเก่าๆ ก็ได้ครับ คนที่ขายรถแต่ไม่ไปปิดไฟแนนท์ ถูกฟ้องข้อหายักยอกทรัพย์ทั้งนั้น ของแบบนี้หากคนที่ซื้อดาวน์ไปจ่ายค่าผ่อนอยู่มันก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะไฟแนนท์เขาไม่รู้ แต่เมื่อไรที่ไม่จ่ายไฟแนนท์จะไล่เบี้ยไปยังผู้ครอบครองตามสัญญาเช่าซื้อก่อนเลย สัญญาซื้อขายแบบนี้มันเหมือนสัญญาใจมากกว่า ว่าอีกฝ่ายจะจ่ายต่อจริงเท็จแค่ไหน

[Turin]

ไม่ดีแน่ครับ ซื้อรถขายดาวน์เนี่ย คุณรู้ไหมว่ารถขายดาวน์ผ่อนต่อ รถมันเป็นชื่อไฟแนนท์คนครอบครองเป็นคนขายนะครับ ต่อให้มีสัญญาซื้อขายก็ตาม คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าของ

รถเขาจะจ่ายค่างวดไปจนครบ ทางเดียวที่จะเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถมาเป็นเราครอบครองคุณก็จะต้องมีการไฟแนนท์ใหม่เพื่อไปจ่ายของเก่าทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งก็จะโดนดอกเบี้ยมือ2 อยู่ดี

ครับ มันเหมือนสัญญาปากเปล่าที่มีหนังสือไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งไม่มีกฎหมายรองรับตรงนี้เลย คนขายเป็นแค่คนครอบครองไม่ใช่เจ้าของรถที่แท้จริง เพราะยังจ่ายค่างวดไม่หมด เขาจะ

ไม่ชิ่งเหรอครับในเมื่อรถไม่อยู่กับตัวเขาแล้วแต่อยู่กับคุณ เสี่ยงมากครับ

ซื้อรถขายดาวน์ ทำให้ถูกมันต้องเปลี่ยนสัญญากับไฟแนนซ์ด้วยนี่ครับ ... หรือผมเข้าใจอะไรผิด???

สัญญาเช่าซื้อเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองไม่ได้ เพราะนิติกรรมที่ทำไปเกิดขึ้นแล้วกับบุคคลหนึ่ง การจะเปลี่ยนเป็นอีกคนความเสี่ยงคนกู้ก็เปลี่ยนไป สภาวะดอกเบี้ยขณะนั้น สภาพเศรษฐกิจ
ก็เปลี่ยนแปลงไป ต้องเกิดการพิจารณาใหม่ ไม่เป็นธรรมกับไฟแนนท์แน่นอน คุณต้องกู้สัญญาใหม่ที่เป็นชื่อคุณแล้วไปจ่ายสัญญาเก่ารถถึงเป็นชื่อคุณครับ ลองถามพวกอาชีพทนายดู
เขาจะแม่นข้อกฎหมายมากกว่าผม พวกขายดาวน์ผ่อนต่อบอกเลยว่ามีแค่สัญญาซื้อขาย ไฟแนนท์เจ้าของรถไม่รู้เรื่องแน่นอนครับ เพราะในสัญญาเช่าซื้อระบุไว้ชัดเจนว่าผู้ครอบครอง
ไม่มีสิทธิ์ขายทรัพย์ซึ่งเป็นของไฟแนนท์โดยชอบด้วยกฎหมาย แล้วการซื้อขายแบบนี้มันจะถูกต้องได้อย่างไร?

แต่ถ้าขายแล้วเอาเงินไปปิดไฟแนนท์ รถก็จะถูกโอนมาที่คุณ แล้วโอนต่อไปยังคนที่ซื้อ แบบนี้ไม่ผิด แต่ขายดาวน์ผ่อนต่อรถไม่มีการโอนแต่อย่างใด สัญญาเช่าซื้อเมื่อทำไปแล้วแก้ทีหลังไม่ได้อยู่แล้ว มันผิดกฎหมาย มีแต่ต้องทำใหม่เท่านั้น ลองไปไล่ดูข่าวเก่าๆ ก็ได้ครับ คนที่ขายรถแต่ไม่ไปปิดไฟแนนท์ ถูกฟ้องข้อหายักยอกทรัพย์ทั้งนั้น ของแบบนี้หากคนที่ซื้อดาวน์ไปจ่ายค่าผ่อนอยู่มันก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะไฟแนนท์เขาไม่รู้ แต่เมื่อไรที่ไม่จ่ายไฟแนนท์จะไล่เบี้ยไปยังผู้ครอบครองตามสัญญาเช่าซื้อก่อนเลย สัญญาซื้อขายแบบนี้มันเหมือนสัญญาใจมากกว่า ว่าอีกฝ่ายจะจ่ายต่อจริงเท็จแค่ไหน

ลองไปหาข้อมูลมาดู ทำได้ไม่ใช่หรือครับ

http://www.nissanleasing.co.th/support/transfer-assignment

http://www.hondaleasing.co.th/th/customer-services/services/terms-conditions/transferring-right-n.php

แต่ใช่ครับ ห้ามงุบงิบทำกันโดยไฟแนนซ์ไม่รู้ ไม่อนุมัติ

ส่วนการขายดาวน์แบบไม่เปลี่ยนสัญญา ไม่ว่าฝั่งไหนเป็นเสนอ ผมก็ว่ามีพิรุธทั้งคู่ เพราะมีความเสี่ยงกันทั้งสองทาง

[pim_cute]

ลองไปหาข้อมูลมาดู ทำได้ไม่ใช่หรือครับ

http://www.nissanleasing.co.th/support/transfer-assignment

http://www.hondaleasing.co.th/th/customer-services/services/terms-conditions/transferring-right-n.php

แต่ใช่ครับ ห้ามงุบงิบทำกันโดยไฟแนนซ์ไม่รู้ ไม่อนุมัติ

ส่วนการขายดาวน์แบบไม่เปลี่ยนสัญญา ไม่ว่าฝั่งไหนเป็นเสนอ ผมก็ว่ามีพิรุธทั้งคู่ เพราะมีความเสี่ยงกันทั้งสองทาง

ลักษณะแบบนี้มันคือสัญญาฉบับใหม่ครับ โดยคงเงื่อนไขเดิมไว้(สังเกตว่ามีการพิจารณาใหม่ อนุมัติใหม่) คนนอกจะไม่รู้เข้าใจว่าไปโอนสิทธิ์แก้ของเดิม แต่คนภายในจะรู้ เพราะสัญญาเดิมเราไปแก้ไปแตะต้องอะไรไม่ได้อยู่แล้วครับ เพียงแต่การที่ได้ดอกเบี้ยเดิมได้นั้น ผมเข้าใจว่าคนใหม่จะต้องมี credit scoring ที่สูงกว่าคนเก่ามากไฟแนนท์ถึงจะยอม จริงๆ แล้วรถมือ2 ทำแบบนี้มันไม่คุ้มเลยแต่ที่ทำได้อาจเพราะเป็นไฟแนนท์ของบริษัทรถยนต์ซึ่งไม่ใช่ core business ยกประโยชน์ให้ลูกค้า เนื่องจากรถมือ2 ความเสี่ยงสูงกว่ารถมือ1 จึงจำเป็นต้องดอกเบี้ย premium กว่า สมัยนี้ลูกเล่นเยอะจริงๆ เหมือนซื้อรถไม่ต้องดาวน์ เพราะกู้เกินกว่าราคารถ loan to value 0% เนี่ยแหละตัวดี พวก non bank ชอบทำแบบเนี้ย ไม่ดีเลย...

ถ้าสัญญาเก่าเป็นโมฆียะ สัญญาใหม่เป็นแบบนี้ก็ไม่ผิดครับ เหมือนนิติกรรมกู้เงินธรรมดา สมยอมทั้ง2ฝ่าย แต่ระวังเรื่องช่องว่างของกฎหมายด้วยนะ ผมยังยืนยันว่าเมืองไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับการซื้อขายแบบนี้