ผู้เขียน หัวข้อ: ท่านคิดว่าจะมีค่ายอื่นทำรถไฮบริดแบบนิสสันอีเพาเวอร์ออกมาขายไหมครับ  (อ่าน 4400 ครั้ง)

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,270
ส่วนตัวผมคิดว่าคงไม่มี

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,668

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,856
เท่าที่อ่านมา ก็ honda นี่แหละครับ
เกียร์5 เกียร์เดียวก็คงเหมือนพระที่ห้อยอยู่ที่คอ

ถ้าตัดเกียร์ 5 ทิ้งไปเลย ผมว่ามันก็เหมือนเป๊ะแล้วล่ะ

ส่วน chr ตัวใหม่ยังไม่ได้ไปอ่านแบบเจาะลึก
เดี๋ยวรอผู้รู้ทางฝั่งพี่โตดีกว่าครับ

ออฟไลน์ Napat14

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 351
รอรถชาตร์ไฟบ้านได้ ของค่าย ญี่ปุ่นออกก่อนดีไหมครับ ไม่เห็นแม้แต่เงา  นิกสัน leaf บอกว่า ปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า ก็รอดูอยู่นะครับ ว่าจะยังไง แต่ว่า ค่ายนิกสันนี้ มีข่าวออกมา ว่า สยามกลการ เลิกกับนิสันแล้วนิครับ
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018

ออฟไลน์ deathsheep

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,094
    • อีเมล์
I3นี่ใช่ระบบเดียวกันมั้ยอะครับ

ออฟไลน์ Gordon Freeman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,206
ผมว่ามันเหมือน Chevrolet Volt
2011 Kawasaki Ninja 650 (Sold)
2012 Ford Fiesta 1.6 Sport Ultimate (Sold)
2013 Suzuki Swift Eco GLX 1.25 (Sold)
2015 Honda Civic 1.8 (Sold)
2017 Toyota Fortuner 2.4 (Sold)
2019 Honda Jazz S MT (Sold)
2020 Nissan Almera VL 1.0T
2022 Isuzu D-Max Cab 4 1.9 AT
2023 Neta V

ออฟไลน์ mpo360

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
ข่าววงในบอกว่า ปลายปีนี้มีมาแน่ครับ 1 รุ่น

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
ตปท. หรือ ไทยครัช

ถ้าไทย รอลุ้นอันนี้ดีกว่า ecocar phase 3
ข้อกำหนดเดียวที่เห็นชัดเจนคือ CO2 80 กรัม (ของเดิม 150)
ได้ลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 8%

---------------------------------------------------

ชงสูตรใหม่อีโคคาร์ไฮบริด ค่ายรถล็อบบี้กดภาษีลง50%
ค่ายรถวิ่งล็อบบี้อุตฯ-คลังเสียบแพ็กเกจใหม่ “อีโคคาร์-ไฮบริด” อ้อนขอลดภาษีลง 50% ย้ำอย่าปิดกั้นเทคโนโลยีควรดูที่เอาต์พุตการปล่อยไอเสียและประหยัดน้ำมัน ด้านคลังรับลูก “ไมลด์ ไฮบริด” ขอเวลาศึกษาข้อดี-เสีย 2 เดือนสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมลั่นเตรียมเสนอรื้อภาษีอีกรอบป้องกลุ่มอีโคคาร์ลงทุนก่อนเสียประโยชน์

แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นหลายรายเข้ามาหารือพร้อมเสนอรายละเอียดการลงทุนแพ็กเกจอีโคคาร์ เฟส 2 แต่จะขอพ่วงแพ็กเกจไฮบริด, ปลั๊กอิน ไฮบริด และอีวีเข้าไปด้วย

ชงแพ็กเกจใหม่อีโคคาร์-ไฮบริด

ด้วยเห็นว่าเทคโนโลยีที่แต่ละค่ายมีอยู่ในปัจจุบัน สามารถผลิตรถยนต์ให้ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้เข้าตามเงื่อนไขทั้งสองแพ็กเกจ ประหยัด ปลอดภัย และรักษ์โลกโดยมีการร้องขอว่า หากสามารถผลิตได้ตรงตามข้อกำหนดกระทรวงอุตสาหกรรม สมควรได้รับสิทธิประโยชน์รวม 2 แพ็กเกจไปพร้อมกันเลย คือ อีโคคาร์ เฟส 2 ใช้น้ำมันอี 85 เสียอัตราภาษี 10% พ่วงแพ็กเกจไฮบริด ซึ่งกระทรวงการคลังคิดอัตราภาษีสรรพสามิตลดลงอีก 50%

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ทางมาสด้าก็ได้ส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุย แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดชัดเจน มาสด้าพยายามให้น้ำหนักกับการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมเพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้รถที่มีคุณภาพและราคาสมเหตุสมผล

วอนหยุดจำกัดเทคโนโลยี

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” สอบถามเรื่องนี้ไปทางบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้คำตอบจากนายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ ว่าได้เข้าไปหารือถึงรายละเอียด การผลิตรถยนต์ในอนาคตควรจะมีการสนับสนุนเทคโนโลยีให้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยมองว่ารัฐบาลไม่ควรจำกัดเทคโนโลยีในแต่ละโครงการ แต่ควรเปิดโอกาสให้ค่ายรถยนต์สามารถใช้เทคโนโลยีอะไรก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีไฮบริดนั้นในปัจจุบันมีหลายแบบหลายขั้นหลากหลายซีรีส์ สิ่งที่รัฐบาลควรโฟกัสคือผลลัพธ์ของการใช้เทคโนโลยี โดยมองที่อัตราสิ้นเปลืองและการปล่อยค่าไอเสียมากกว่า


นายธีร์กล่าวเสริมอีกว่า มาสด้ายังได้เสนอให้รัฐพิจารณาส่งเสริมผู้ที่มีการลงทุนในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มมาสด้าเทเม็ดเงินลงทุนไปกว่า 21,000 ล้านบาท สำหรับโรงงานผลิตเกียร์ เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นการลงทุนเพื่อมุ่งสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยีอย่างแท้จริง

ห่วงอีโคคาร์เสียประโยชน์

“เรามองย้อนกลับไปถึงโครงการอีโคคาร์ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการหลายรายลงทุนไปจำนวนมหาศาล มาสด้าเองก็ตัดสินใจลงทุนในอีโคคาร์ เฟส 2 เสียภาษีในอัตรา 12% ขณะที่แพ็กเกจใหม่ไฮบริดหรือปลั๊กอิน ไฮบริด มีการลงทุนและเงื่อนไขรายละเอียดต่าง ๆ ซับซ้อนน้อยกว่าอีโคคาร์ แต่ได้รับสิทธิประโยชน์ที่มากกว่าโดยเฉพาะอัตราภาษีที่ลดลงถึง 50%”

นายธีร์ยืนยันว่า การหารือที่ผ่านมาเพื่อหามาตรการสนับสนุนภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยพยายามชี้แจ้งให้เห็นถึงโอกาสกับเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่เท่าเทียมกัน โดยมาวัดผลกันที่ประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีไปสู่การนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาช่วยขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม และการสร้างฐานการผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ

เช่นเดียวกับแหล่งข่าวฝ่ายบริหารค่ายรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 กล่าวเสริมมีแนวคิดแบบเดียวกับมาสด้า คือรัฐบาลไม่ควรตั้งข้อจำกัดเรื่องเทคโนโลยี และควรปล่อยให้ค่ายรถพัฒนาเทคโนโลยีเป็นไปตามลำดับขั้นตอน

“ผมยังสนับสนุนว่าไม่ควรกำหนดกรอบของเทคโนโลยี ใครอยากจะนำเทคโนโลยีแบบไหน สตรองไฮบริดหรือไมลด์ไฮบริดมาใช้ก็ไม่แปลก ดูที่ผลลัพธ์ที่ออกโดยเฉพาะค่าอีมิสชั่น”

สอดรับกับนายครรชิต ไชยสุโพธิ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีของค่ายรถยนต์มีไม่เหมือนกัน บางค่ายสามารถทำฟูลไฮบริดได้ บางค่ายอาจจะยังเป็นแค่ไมลด์ไฮบริด ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่จะต้องเข้าไปชี้แจงให้เห็นถึงข้อเท็จจริง ประโยชน์และผลกระทบต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เองอยากให้พิจารณาและคำนึงถึงความเป็นธรรม

คลังสั่งศึกษาลดภาษีอีโคคาร์

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ผู้ประกอบการผลิตรถยนต์อีโคคาร์ค่ายหนึ่งได้เข้าพบนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เมื่อเร็ว ๆ นี้ และได้ยื่นข้อเสนอขอให้กระทรวงการคลังพิจารณามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการผลิตรถยนต์ประเภท mild hybrid (ไมลด์ไฮบริด) โดยลดอัตราภาษีลงให้ต่ำกว่าอัตราภาษีอีโคคาร์ในปัจจุบันที่เก็บอยู่ 12% ซึ่ง รมว.คลังได้สั่งให้ทางกรมสรรพสามิตรับเรื่องนี้ไปพิจารณา

อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องดังกล่าวถือว่าไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (new S-curve) โดยส่งเสริมการผลิตรถยนต์แบบ full hybrid (ฟูล ไฮบริด) เพื่อก้าวไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในอนาคตมากกว่า ซึ่งปัจจุบันมีมาตรการทางภาษีสนับสนุนไปในทางนั้นอยู่แล้ว ดังนั้น ทางกระทรวงการคลังจึงอาจจะไม่ได้เห็นชอบตามข้อเสนอที่เอกชนรายดังกล่าวเสนอเข้ามา อย่างไรก็ดี คงต้องรอผลศึกษาจากกรมสรรพสามิตที่ชัดเจนก่อน

ย้ำไมลด์ไฮบริดต่อยอดไม่ถึงอีวี

“รถยนต์แบบไมลด์ไฮบริดจะใช้ไฟฟ้าแค่ตอนสตาร์ตกับสต็อป โดยยังคงพึ่งพาการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นหลัก แต่มาตรการที่รัฐสนับสนุนอยู่เราต้องการมุ่งไปสู่รถไฟฟ้า เริ่มจากส่งเสริมฟูลไฮบริดก่อน ซึ่งมีข้อตกลงกันว่าภายใน 5 ปีจะต้องมีการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย อย่างกรณีโตโยต้าก็บอกว่าจะมาตั้งโรงงานปีหน้าแล้ว ดังนั้น หากจะมีมาตรการไปสนับสนุนไมลด์ไฮบริดอีกก็อาจทำให้ผู้ประกอบการที่จะลงทุนแบตเตอรี่เปลี่ยนใจไม่ลงทุน”

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ปัจจุบันอีโคคาร์เองได้รับการสนับสนุนอัตราภาษีที่ต่ำกว่ารถยนต์ประเภทอื่น ๆ อยู่แล้ว ดังนั้น หากจะมีมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมโดยไปลดภาษีให้อีก อาจจะกระทบกับการผลิตรถยนต์ประเภทอื่น โดยเฉพาะผู้ผลิตไมลด์ไฮบริดที่ไม่ได้ทำบนพื้นฐานอีโคคาร์ จึงต้องคำนึงว่าประเทศชาติจะได้อะไรตอบแทน

“รมว.คลังรับข้อเสนอมา แต่ก็บอกว่าถ้าเอกชนทำได้ตามเงื่อนไขที่รัฐสนับสนุนอยู่ ก็พิจารณาให้ได้ แต่ถ้าขอมากกว่านั้น ถ้าไปลดภาษีให้มากเกินไป คนอาจหันมาลงทุนไมลด์ไฮบริดกันหมด นโยบายที่จะมุ่งไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่เกิด ดังนั้น ต้องดูว่าหากไปกระทบกับนโยบายที่ส่งเสริมอยู่แล้วคงไม่ให้ หรือถ้ารัฐบาลต้องการแค่อยากช่วยค่ายรถยนต์ก็เป็นอีกเรื่อง” แหล่งข่าวกล่าว

ขุนคลังรอผลศึกษา 1-2 เดือน

“ประชาชาติธุรกิจ” สอบถามนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังกล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องรอกรมสรรพสามิตรายงานรายละเอียดมาก่อน ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานเข้ามา

ด้านนายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี กรมสรรพสามิตกล่าวว่า กรมได้รับนโยบายจาก รมว.คลังให้ศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องดังกล่าวอยู่ โดยต้องดูว่าฝ่ายนโยบายจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร ขณะที่การศึกษาของกรมสรรพสามิตก็จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่า หากมีมาตรการส่งเสริมออกไปเพิ่มเติมแล้วประเทศชาติจะได้รับประโยชน์แค่ไหน ซึ่งต้องไม่กระทบกับนโยบายหลักของรัฐบาล ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 1-2 เดือนน่าจะได้ข้อสรุปแล้วเสนอให้ รมว.คลังพิจารณา

สศอ.รับลูกเล็งให้ความเป็นธรรม

ด้าน ดร.ณัฐพล รังสิตพล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงกรณีดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีมติ ครม. และสภาพัฒน์ให้ดูแลอีโคคาร์ เนื่องจากมีรายละเอียดเยอะ ขณะที่ไฮบริดมีเงื่อนไขเพียงให้ผู้ประกอบการลงทุนต่อเนื่องแบตเตอรี่ในประเทศไทย ส่วนเงื่อนไขบีโอไออื่น ๆ ไม่ได้มีข้อกำหนดมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ

หรือจำนวนการผลิตต่างกับอีโคคาร์ที่มีกรอบการลงทุนไว้ชัดเจน ซึ่งต้องดูว่าจะสามารถช่วยเหลือหรือทำอะไรได้บ้าง อาจจะต้องไปแก้ประกาศกระทรวงการคลังอีกครั้งหนึ่งในเรื่องของอัตราภาษี

https://www.prachachat.net/motoring/news-192821


ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,270
ขอบคุณมากครับ ข้อมูลดีมากเลยครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,407
Co2 เหลือ 80 นี่บีบจริงๆ ถ้าไม่มีไฟฟ้ามาช่วย ไม่น่าทำได้เลย