เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวาน เนื่องจากวันพฤหัสนี้เป็นวันออกรถ Tiida
เมื่อวานผมกับเพื่อนจึงไปตรวจรถละเอียดอีกทีเพื่อความมั่นใจ หลังจากรถติดฟิล์มมาได้ 1 วัน
พอไปถึงเมื่อวานเซลไม่อยู่ เลยให้เซลอีกคนมาต้อนรับแทน และช่างก็กำลังตรวจระบบไฟฟ้าของรถอยู่พอดี
สิ่งที่เห็นคือกระจกบานหน้าทั้งสองข้างถูกเปิดลง ผมก็เลยไม่ค่อยพอใจว่าเพิ่งติดฟิล์มมาแต่ 1 วันเองทำไมเอากระจกลงแล้ว เซลไม่ได้แจ้งไว้เหรอ
แล้วถ้าฟิล์มเสียหายขึ้นมาจะทำอย่างไร ได้คำตอบว่าเซลก็จะรับผิดชอบเอง ระหว่างนั้นผมก็ตรวจดูภายนอก-ภายในไปพลางๆ
จากนั้นไม่นานมีช่างคนหนึ่งเดินเข้ามาที่รถเพื่อตรวจระบบไฟ แล้วพูดว่า "เรื่องมากนัก ก็ไม่ต้องเอา" แต่หันหน้าไปทางอื่น
ผมกับเพื่นอได้ยินกันทั้ง 2 คน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเค้าหมายถึงใคร หมายถึงผมรึเปล่า เลยยังไม่อยากมีเรื่อง ก็เลยตรวจรถไปเรื่อยๆ
พอกลับมาเล่าให้ที่บ้านฟัง ที่บ้านก็ไม่พอใจ เพราะสถานการณ์แบบนั้นมันชวนให้คิดเหลือเกินว่าเค้ากำลังหมายถึงเรา
พี่ๆในนี้คิดว่าเรื่องแบบนี้ควรจะยอมๆกันไป หรือรายงานผู้จัดการดีครับ ผมเองก็เสียความรู้สึกไม่น้อยเช่นกัน
เพราะการที่เราซื้อรถเค้า นั่นหมายความว่าในอนาคตเราก็ต้องเอามาเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจเช็ค บำรุงรักษาอยู่ดี
อย่าเอาไว้ครับ ถ้าเป็นผมก็คงพูดลอยๆกลับไปเหมือนกันว่า รถกุไม่ใช่คันละ 3 บาท ห้าสิบนี่หว่า จะเรื่องมากแล้วมันหนักหัวใครวะ
ไม่งั้นถ้ามีเจ้าหน้าที่คนอื่นยืนอยู่ด้วย เดินเข้าไปหามันเลย แล้วเรียกให้หันมาคุยว่า เมื่อกี๊ที่พูดคุณหมายถึงใคร? ถ้าจะบอกพี่ หันมาคุยตรงๆกันเลยครับ แล้วบอกไปเลยว่าทำไมเราต้องเรื่องมาก ต้องเข้าใจเราด้วยว่ารถเรา เราจ่ายเงินซื้อไม่ใช่ขอฟรี ถ้ามีปัญหาขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ เป็นคุณซือรถเอง คุณจะดูมั้ย จะตรวจสอบมั้ย แล้วถ้าเห็นว่ามันทำไม่ดี ทำผิด เราก็ต้องโวยไว้เพื่อรักษาสิทธิผู้บริโภคสิ แล้วเรียกผู้จัดการศูนย์มาคุยแล้วฟีดแบ็กต่อหน้าตรงนั้นไปเลย
ผมไม่ได้ใจร้ายนะ แต่ต้องดัดสันดานไอพวกแบบนี้จริงๆ