ผู้เขียน หัวข้อ: จากอดีตในยุคสวีเดนมอเตอร์ คุณคิดอย่างไรกับรถ Volvo ในยุคปัจจุบัน ครับ  (อ่าน 6685 ครั้ง)

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
ผมเคยจำได้ว่า Volvo ในสมัยก่อน ประมาณยุค 80-90 ขายดีมากๆ

ตอนนั้นคนทำตลาด คือ สวีเดนมอเตอร์

ยอดขาย 8 พันถึงหลักหมื่นต่อปี

มาตอนนี้ล่าสุด ปี 59-60 ยอดขายประมาณ 900-1100 คัน ภายใต้การทำตลาดของ Volvo ไทย

ผมอยากทราบว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ Volvo ยอดขายหด (ตกต่ำ) ได้ขนาดนี้ครับ
(อีกนิดนึงก็จะเท่าๆ กับ Lexus ซึ่งเป็นรถนำเข้า มีศูนย์บริการเพียง 3 ที่)

ทั้งที่ BMW Benz ก็ยังขายได้ปีละหลักหมื่นคันเหมือนเดิม

อยากให้ทุกท่านที่เกิดทัน เป็นวัยรุ่น วันหนุ่ม ในยุค 80-90 เล่าเรื่อง Volvo ในสมัยนั้นให้ฟังครับ ว่า ต่างจากยุคนี้มากไหม
ศูนย์บริการของ Volvo แนวโน้มจะปิดตัวลดจำนวนลงไปเท่ากับ Kia หรือ Lexus หรือไม่ครับ หรืออาจจะออกจากตลาดบ้านเราไปเลย หรือไม่ครับ

ออฟไลน์ OXYGEN2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,492
    • เครื่องปั่น
    • อีเมล์
คนรุ่นใหม่ไม่มองว่าเป็นรถหรูครับ
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,537
ปัจจุบันถ้าให้กล่าวถึงยี่ห้อนี้ ส่วนตัวมองเรื่องเดียวคือ ศูนย์บริการ มีน้อยกว่าเพื่อนๆ เยอะแต่ควบคุมมาตรฐานการบริการไม่ได้นี่เกินจะบรรยายต่อละครับ เพราะตัวรถในปัจจุบันมันดีเกินเพื่อนๆ ด้วยซ้ำ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ Koong

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 993

เรื่องราวมันคงเป็นแบบนี้
คนขายก็รอให้ยอดขายเยอะๆ ก่อนมั้ง   จึงจะคิดเพิ่มศูนย์บริการ

ส่วนคนจะซื้อก็รอให้ มีศูนย์บริการเยอะๆ ก่อนจึงจะกล้าซื้อ

เหตุการณ์มันจึงเป็นอย่างทุกวันนี้    ยอดก็ไม่ขยับ ศูนย์ก็ไม่เพิ่ม
ไม่ใช่แค่ Volvo  ยี่ห้อเดียวนะที่เป็นแบบนี้ หลายๆยี่ห้อเลยหละที่รถดี แต่ขายไม่ได้

ยกเว้น MG    ที่กล้าขยายศูนย์บริการล่วงหน้าไปก่อนยอดขาย สร้างความมั่นใจให้คนที่คิดจะผซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้น




ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,187
    • อีเมล์
ยุค 940, 960 หรือ 850 นี่ผมว่ามันดูเป็นรถหรูเทียบเบนซ์กับบีเอ็มยุคเดียวกันได้เลย แต่พอหลังจากนั้นอิมเมจเหมือนจะดร็อปไปเยอะครับ มาเริ่มดีขึ้นก็หลังๆนี่เอง
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,468
    • อีเมล์
ผมว่าความตกต่ำในวันนี้มาจาก
1. ชื่อเสียงของ volvo  ในตอนนั้น คนที่ทันสมัยนั้นผมว่าขยาดกับผลงาน
2. ยุคนี้คู่แข่งแข็งแกร่งกว่าตอนนั้น ทำมาเล่นๆไม่รอดครับ ต้องจริงจังทั้ง product ราคา service มากกว่านี้

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,733
สมัย 850 940 960 เหมือนจะมีชื่อเสียเรื่องความจุกจิก ราคาอะไหล่ เกียร์เปราะ เกียร์เดิม น่อยนักจะวิ่งได้เดินแสนโล ทำให้คนที่เคยใช้ไม่อยากใช้ต่อ ดีไซน์เหลี่ยมๆที่ดูแก่ ช่วงล่างนิ่ม(จนย้วย) เทียบกับ e34/w124 
พอเปลี่ยนเป็น s70 v70 s90 ที่ดูเหมือน minor changes ลูกค้าเลยหายไปเยอะ

ความเห็นส่วนตัว
พอปรับเป็นขับล้อหน้า ราคาถูกลง เลยทำให้ดูไม่หรูหราเท่า bm/mb
ปัจจุบันแอบเชียร์ audi คิดว่าถ้ามีศูณย์เยอะเท่า volvo ยอดขายน่าจะแซงได้

ออฟไลน์ voyager

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 505
บริการหลังการขายมันห่วยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
 คนบ่นกันเยอะ แล้วมักจะขายทิ้งไปเบนซ์
สมัยก่อนอิมเมจ สู้เบนซ์ บีเอ็มไม่ได้ เหมือนรถคนละระดับ
แต่เพราะราคามันถูกกว่ายุโรปและความเชื่อด้านความปลอดภัย ความแข็งของโครงสร้างทำให้ขายดีในบางรุ่น

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
    • อีเมล์
ผมไม่ทันช่วงก่อนหน้าครับ

แต่ถ้าจะมอง Volvo สมัยนี้ ผมมองว่ามันไม่ใช่แบรนด์หรูอะไร แต่คนซื้อชอบความแตกต่าง
ทั้ง ๆ ทีตัวเองมีกำลังพอจะซื้อแบรนด์อย่าง Mercedes หรือ BMW ได้
จะมีซักกี่คน ที่คิดจะซื้อรถใหม่แล้วเดินเข้าโชว์รูม Volvo ครับ ผมว่า 1:10000 ได้

แล้วถ้าผมเห็น Volvo รุ่นใหม่ ๆ ซักคัน คนที่ขับ ผมเดาว่า
1 น่าจะเป็นหมอ
2 ที่บ้านมี Volvo มาก่อน มีความผูกพันกับแบรนด์ในด้านที่ดี
3. รวย ไม่สน จะซื้อ

คงยากที่จะซื้อ Volvo เพราะ ขับขี่ดี ภาพลักษณ์ดี
แต่ผมคิดว่า สิ่งที่ Volvo ให้ต่อราคาที่จ่ายไป ในแง่วัสดุ อุปกรณ์ ถือว่าคุ้มค่า

ส่วนเรื่องศูนย์ ยังไม่เคยสัมผัสว่าระยะหลังหมดประกันจะเป็นยังไง
แต่ก็ไม่อยากให้ Volvo หายไปจากไทย
อย่างน้อยก็มีตัวเลือกให้คนที่อยากแตกต่างครับ

TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
วางเจดิจบๆ


ท่ดๆวางขวางไม่ได้

ออฟไลน์ ttcl

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 739
ยี่สิบกว่าปีก่อนเคยใช้ 740GLE ต่อด้วย 940GL ครับ
เป็นอย่างที่คุณรถสีเขียวบอก สมัยนั้นรถยุโรปทั่วไปที่ขายได้เยอะๆที่คนไทยมองว่าอิมเมจดี ก็ เบนซ์ บีเอ็ม วอลโว่ (วอลโว่ อิมเมจเป็นรองเบนซ์ บีเอ็ม แต่ก็ยังติด 1 ใน3 ยี่ห้อ)
เปอโยต์ ซีตรอง ก็พอมีบ้าง เช่น 405 ก็ขับกันบ้าง แต่อิมเมจก็ยังไม่เท่า 3 ยี่ห้อข้างต้น
audi 80 , audi 100 ก็มีไม่มาก

740GLE , 940GL ราคาตอนนั้นประมาณ 1.3-1.4 ล้านบาท
e34 520iA 24V 1,880,000 บาท (จำได้เพราะใช้รุ่นนี้ด้วย), e35 525iA ประมาณ 2.2 ล้านบาท
w124 E220 ประมาณ 2.2 ล้านบาท

ขอเปรียบเทียบเฉพาะที่เคยใช้ครับ
การขับขี่ 740GLE กับ 940GL เป็นรอง e34 520iA 24V ชัดเจน
(E ที่ต่อท้าย GL นี่คือ หัวฉีด)
940GL สำหรับผมนี่คือ ทั้งอืด ทั้งกินน้ำมัน (เครื่อง 2.3 ลิตร 4 สูบ) แรงม้าน่าจะประมาณ 130 แรงม้า เหยียบมิดคันเร่งยังไม่พุ่ง ไม่มีดึงซักช่วงไม่ว่าจะรอบเท่าไหร่ 555

e34 520iA 6 สูบ 24V 150 แรงม้า การทรงตัวดีกว่า ความเร็วสูงนิ่งกว่า รอบต้นๆไม่แรงอะไร ออกตัวจากไฟแดงอืดเลยล่ะ (ม้าแค่ 150) แต่พอรอบเกินซัก 3,000 เริ่มมีแรงดึง (แม้ไม่ดึงมากมายเท่ารถสมัยนี้ แต่ก็ดีกว่า 940GL ชัดเจน) กับเสียงเครื่อง 6 สูบเรียง นุ่มเพราะดีเวลากดคันเร่ง

ข้อดีของ volvo ยุคนั่นคือ 740 940 พื้นที่นั่งหลังกว้างกว่า e34 ชัดเจนเช่นกัน ยุคนั้นจึงเห็นโรงแรมเหมาซื้อไปเป็นรถโรงแรมหลายคัน แท็กซี่สนามบินดอนเมืองด้วย ถ้าขับเส้นวิภาวดีเจอแท็กซี่สนามบิน ขับกันเร็วๆทั้งนั้น 940, w124 e220 สีขาว

ใครที่มีคนขับรถ ซื้อ 740 940 แล้วนั่งหลังด็เหมาะ เบาะกว้าง ไม่คับแคบแบบ e34
สโลแกนของวอลโว่ยุคนั้นก็ ทุกชีวิตปลอดภัยในวอลโว่ , volvo where safety comes first
หลังจากนั้นก็ผมไม่ได้ใช้ volvo อีก ราคาอะไหล่ volvo ก็แพงตั้งแต่ตอนนั้นเลยครับ

ยุคต่อจากนั้นน่าจะเป็นการตกลงของ volvo ในตลาดโลกด้วยรึเปล่าครับ ไม่เฉพาะในไทย เพราะพอเกือบต้นๆปี 2000 volvo ก็กลายเป็นของ ford
และช่วงนั้น volvo เปลี่ยนจากขับหลังเป็นขับหน้าด้วย

ช่วงยุค 90's w124 , e34 , 740 940 ในไทย ยอดขาย volvo ยังพอตามๆ benz bmw ได้
(ยุคนั้นวอลโว่ในไทยเน้นรถ size ขนาดนี้)

แต่พอ gen ถัดมา คือ w210 , e39 , s80 ในไทย วอลโว่เริ่มถูก benz bmw ทิ้งห่างทั้งด้านอิมเมจและยอดขาย
e39 นี่รถดีมากๆในยุคนั้น หลายสื่อ หลายสำนัก ลงความเห็นกันว่าเป็นรถที่ดีที่สุดในคลาส
ส่วน เบนซ์ ก็เป็นที่นิยมของคนไทยอยู่แล้ว ออก w210 ตากลม มา ก็เป็นที่นิยมเช่นเคย
ส่วน volvo พอเป็น s80 ก็เป็นช่วงที่เปลี่ยนมาขับหน้า
ช่วงนี้ที่ e39 w210 s80 เปิดตัวในไทย ไทยกำลังโดนพิษเศรษฐกิจ ต้มยำกุ้ง ด้วย
พอฟื้นขึ้นมา ส่วนใหญ่ก็รู้สึกจะซื้อกันแต่ benz bmw ซะแล้ว

ยุค 2000-2010 ในไทย วอลโว่รุ่นเดียวที่ผมมองว่าภาพลักษณ์ยังพอๆกับ benz bmw คือ xc90 (รุ่นแรกของ xc90 ที่ลากยาวเป็นสิบกว่าปีนี่ล่ะครับ)

หลังๆ เคยหันมามอง volvo อีกครั้งตอนรุ่น s60 t4f เพราะเห็นใส่ระบบความปลอดภัยมามากกว่ารถอื่นๆในคลาส แต่พอไปหาข้อมูลในคลับ VGT เลยชะลอไว้ก่อน  :)

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,230
    • อีเมล์
ยุค 80 - 90

อิมเมจ ของ volvo ยังเทียบเคียง Benz / Bmw ได้ครับ อาจจะไม่เท่า แต่ไม่ได้ทิ้งขาดแบบปัจจุบัน

ที่บ้านเคยใช้ 760GLE ตัวเอน แล้วก็มาเป็น 940GL จบด้วย 960 2.4 24V ตาตี่

2 คันแรก ไม่จุกจิกอะไร ชอบที่เบาะตัวโต นั่งสบายกว่ารถคู่แข่งเยอะ เลือก volvo เพราะตอนนั้นครอบครัวผม 6 คน ต้องการเบาะหลังกว้างๆครับ ศูนย์บริการ ตอน 2 คันแรก ไม่ได้เลวร้ายอะไร ค่าดูแลยังรับได้

พอมาคันที่สาม คันนี้จุกจิก สารพัดเรื่อง ทั้งเครื่อง ทั้งเกียร์ อะไหล่แพงมาก วิ่งไม่ออก กินน้ำมันมาก เลยเป็น volvo คันสุดท้ายของที่บ้านครับ

ออฟไลน์ aekoy

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 351
พ่อตาผมใช้ 850 sedan ตอนนี้แกให้น้องแฟนใช้อยู่ ของผมเคยใช้ 850 van ทั้งสองคันไม่จุกจิกเลยอะไหล่ก็เปลี่ยนตามอายุการใช้งาน ตัว sedan ใช้น้อยตอนนี้ประมาณ 200,000 กม. ตัว Van ผมใช้ไป 400,000 เครื่องเดิมเกียร์เดิมไม่เห็นมันจะเป็นอะไรเลย ส่วนใหญ่ที่พังกันเพราะไม่เปลี่ยนอะไหล่ตามอายุการใช้งานส่วนใหญ่ที่บอกว่าเกียร์เปราะเพราะว่าน้ำรั่วจากหม้อน้ำเข้าไปในเกียร์ ผมเปลี่ยนหม้อน้ำทุก 100,000 กม ก็ไม่เคยมีปัญหา ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ V60 แทน ศูนย์บริการเจอไม่ดีบ้างแต่ไม่ได้สนใจอะไรมากที่ใช้เพราะเรื่องระบบความปลอดภัยที่ยี่ห้ออื่นไม่มีมาให้ส่วนเรื่องการขับขี่คงสู้รถขับหลังไม่ได้แต่ก็เพียงพอกับการใช้งานของผม ที่สำคัญพ่อตาบอกนั่งสบายกว่า E350e อีก ตอนนี้ในกรุงเทพจะเปิดศูนย์เพิ่มอีก 2 แห่งที่แจ้งวัฒนะ และพระราม 5 สมัยก่อนพ่อตาผมให้ช่างมา service ที่บ้านเลยวันอาทิตย์เป็นวันที่ศูนย์ปิดบริการช่างเลยออกมารับงานข้างนอก
Volvo 850 T-5R
SAAB 9000 Aero
BMW E30 M10 coupe M/T 1987
Volvo V60
Toyota AE111

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 687
ถือเป็นรถตลาดหรูยี่ห้อเดียว ที่ลากขายตัวถังละ 10-12ปี อย่างเป็นทางการ
ยี่ห้ออื่นต้องเปลี่ยนกระดองเล็กน้อย แล้วลากขายกันแต่เรียก all new ทุกห้าปี เจ็ดปี
ขนาดเศสยังต้องเปลี่ยนกระดอง จนจำหน้าไม่ได้ เพราะเจอยุ่น ขายดีกว่า ขับดีขึ้นเรื่อยๆมาจี้ตูด จนต้องไปซบจีนแดง

ดาวอังคาร สมัยขับหลัง ฟอร์ดยังไม่คุมการผลิตเต็มที่นัก รถจึงทนทาน ออกแบบเผื่อซ่อมไม่เน้นเปลี่ยนลูกเดียว
คุณภาพเหล็กดีสุด ในบรรดาเหล็กรีดเย็นในบ้านเรา ตัวถังหนัก เทอะทะ ซด
ช่วงล่างย้วย แต่เกาะ แบบรถเมกัน เบาะโซฟา หลายคนชอบ และอันดับไม่ห่างจาก สามแฉก ใบพัดนัก

สมัยขับหน้า ฟอร์ดคุมการผลิตเต็มตัว ลดต้นทุน จนรถจุกจิก พลาสติกแตกง่าย แบบตาเหลือก
ตัวแทนในไทย ไม่พัฒนา แบบยนตะกละ อู่นอกมีน้อย คนเล่นเข็ด หนีไปค่ายอื่น

สามห่วงออกacv30 เอาตาเหลือกมารื้อย้อนรอย ขายถูกกว่า คนมาออกเยอะมาก
สมัยนั้นดีเซลรางร่วม ยังอคติ ซ่อมดูแลไม่เป็นกัน รถเบนซิน ทนแค่เครื่องบางรุ่น แต่ปัญหาน้อยกว่าดาวอังคาร
เป็นช่วงคนใช้รถยุโรป จำใจเล่น e39 จุกจิก ไม่รื้อทำไม่จบ ตาเฉียงแพงทุกชิ้น เบิกห้างลมจับ นั่งหลังแคบกว่าเดิม

กว่าจีนแดงจะมาเป็นเจ้าของ สถานการณ์ย่อบแยบเต็มที คนยังเข็ดไม่หาย กลัวซ่อมบาน อะไหล่ตัวถังภายในหายาก
แม้รถดีขึ้นมาก เพราะได้อะไหล่ เทคโนยุ่นมาแทน แต่ศูนย์ที่ชำนาญ น้อยลงมาก บ.แม่ยังให้ฝรั่งคุม
ก็คุมแบบสมัยฟอร์ด แล้วจะไปเหลืออะไร ให้ยุ่น หลี จีนแดง มาคุมดีกว่า รถใส่ของมาเท่าสามแฉก ใบพัด
แต่ความเชื่อมั่น ไม่ต่างจากนิสสันตอนนี้มากนัก หน้าเก่าไม่ได้ซ่อมดีมาก หน้าใหม่ต้องพิสูจน์หลายวัน

ร้านอะไหล่มีน้อย ฮั้วกันขายแพง แต่เจ้าตลาดแข่งกัน ราคาจับต้องได้ มีให้เลือกหลายยี่ห้อ

รถดีมากขายไม่แพง แต่เพิ่มเงิน ลดเงินไปเล่นเจ้าตลาด สบายใจกว่า ไม่ต้องเสี่ยงเป็นหนูลองยา กับนโยบายไม่แน่นอน
หรือให้ช่างมือใหม่หัดซ่อม อู่นอกไม่มีใครอยากลงทุน เพราะรถน้อย ของเก่าพลอยน้อยไปด้วย

แต่สภาพยังดีกว่า หน้าห่วงมาก รายนั้นโดนทิ้งมา แต่แก้ทางถูก อู่นอกไม่กล้ากร่างมาก เพราะรายใหม่คือมือเก๋าในแวดวง
ไม่ฟันลูกค้าเก่า ไม่ตีหัวลูกค้าใหม่ มีศูนย์เดียวแต่ซ่อมจบ อะไหล่ใหม่ไม่แพง คุ้มกว่าซื้อของเก่าค้างปี
รับรถจากทุกห้าง ไม่ตั้งแง่ อิจฉาแบบนี้ คนเลยกล้าออกป้ายแดงเยอะ เมื่อบ.ไม่ทิ้งลูกค้า ลูกค้าก็ไม่ทิ้งบ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2018, 11:24:20 โดย bahamu »

ออฟไลน์ Ty ESC

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,786
แยกออกมา ได้สองมิติ

หนึ่งคือ มิติ ของ บริษัทแม่เอง และตัวสินค้า กับ มิติที่สองปัญหาตัวแทนจำหน่ายไทย

ช่วงยุค 90 ทุกค่ายยังมีข้อจำกัดของตัวเอง กับมีจุดเด่นจุดด้อยกันทั้งนั้น
จนกระทั้ง บริษัทแม่มีปัญหา ไปควบรวมกับ Ford กลายเป็นพังๆๆๆ พังเพราะสินค้าพังเพราะนโยบาย พังเพราะความสัมพันตัวแทน ผลกระทบมาที่ลูกค้าโดยตรง
จนถึงวันนี้ วอลโว่ ก็ยังไม่ฟื้น เพราะโจทย์เก่ามีมากกว่าลูกค้าใหม่เยอะครับ ทำชั่วไปคนด่ายี่สิบปี คิดเอาว่าลูกค้าเก่า ยิ่งมากยิ่งมีคนเกลียดมากแล้วมันยุค90ที่ เศรษฐกิจไทยรุ่วเรือง คนซื้อเพียบ ลูกค้าเก่าเหล่านั้นยังคงมีภาพเดิมที่จงแช่ง จงเกลียดสิ่งที่เคยเจอมา ยังคงคอยตามด่า เพราะคนเราเจ็บแล้วจำ พอมาถึงตอนนี้ตัวเลือกมีมากขึ้น ที่ไม่เคยมีแผลเก่าทั้ง lexus ที่เกรยนำเข้ามาทำราคาทางเลือกน่าสนใจ แบรนดอื่นๆนโยบายการตลาดเข้มแข็ง ทั้ง Benz ที่ภาพลักแข็งมาเล่นราคา BMW ที่เคยสูสีก็ทำตลาดจริงจังแก้เรื่องค่าซ่อมบำรุงและราคาขายต่อด้วย BSI มีผ่อนแบบต่างๆ เค้ามีแต่พัฒนา แต่วอลโว่ยังย่ำแก้อยู่แค่ภาพลักความเชื่อกับมาตรฐานตัวแทน


ผลงานปัจจุบัน บ แม่เข้มแข็งขึ้น โปรดักออกมาดีขึ้นน่าสนใจมากขึ้นมาก หลายๆคนมองเหลียวหลังกับรูปทรง กับการตบแต่งสินค้าดูดีขึ้นมาก
แต่ก็ยังมีประเด็น เรื่องคุณภาพการผลิตประกอบ ที่ยังมี(จริงๆมีทุกค่าย) แต่มาซ้ำเติมที่นโยบายความรับผิดชอบของตัวแทน(คือ บ แม่มาทำเองแล้วนะ) ที่ยังห่วย
ท่าที ความรับผิดชอบที่ยังแย่อยู่ อันนี้จากคนใกล้ตัว ซึ่งมีน้อยมากแล้วที่ยอมซื้อ วอลโว่แต่ก็หวยออก สองเคส ติดๆกันเปลี่ยนคันไปทั้งคู่ เซ็งๆทั้งคู่และก็คงเสียฐานลูกค้าอนาคตไปอีก เช่นกัน ยังไม่รวมที่ซื้อมาใช้แล้วก็เฉยๆงั้นๆ ไม่ได้ดีเด่นอะไรอย่างที่คิด แล้วจะไปเจอราคาขายที่ตก ราคาค่าซ่อมตอนหมดวารันตีที่แพงโหดแบบไม่มีเหตผล มันก็จะเป็นฐานลูกค้าที่จะแบนสินค้าอันนี้ไปอีกก็คงรู้ซึ้งว่า ทำไม วอลโว่ถึงขายได้น้อย เพราะมันมีเหตผลของมันเอง ลูกค้าเก่าไม่เอาแล้วแถมด่าลูกค้าใหม่ก็ไม่กล้าพอมีใหม่ก็กลายเป็ฯทำเสียชื่อ วงจรนี้วนไปเป็นสิบปี

ผมว่า ออดี้ มีอนาคตกว่าในประเทศไทย ตัวสินค้า ปัญหาเก่าคนเจอไม่เยอะมาก และ ตัวแทนดูตั้งใจกว่าครับ

ออฟไลน์ JAY26

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 48
สมัยผมเด็กๆ คุณแม่เคยซื้อรถมือสองมาใช้สองคัน คือ รุ่น 850GLT กับ 940SE

เท่าที่จำได้ทั้งสองคันเป็นรถที่ค่อนข้างจุกจิกมากครับ

850GLT ไม่ค่อยได้นั่งเท่าไหร่ผมเลยไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากนัก ซื้อมาได้ไม่นานคุณแม่ก็ขายไป เหลือเก็บไว้แต่เจ้า 940SE คันเดียว

940SE ที่แม่ผมใช้มักจะมีปัญหาสตาร์ทไม่ติดบ่อยๆ เนื่องจากว่าไดร์สตาร์ทไม่ทำงาน วิธีแก้ในตอนนั้นก็คือต้องเอากระป๋องโลหะไปเคาะตรงแถวๆไดร์สตาร์ทแล้วรีบไปสตาร์ทรถ จากนั้นแม่ก็ใช้คันนี้แหละไปรับไปส่งผมที่โรงเรียนทุกวัน

มีอยู่วันนึงโดนแม่ใช้ให้ไปเคาะจนปวดแขน รถก็สตาร์ทไม่ติดซะที ฝนก็ตกหนักอีก สุดท้ายต้องโบกตุ๊กๆไปโรงเรียน เผอิญวันนั้นมีสอบซะด้วยเกือบเข้าสอบไม่ทัน 555555

ปัญหาที่พบเพิ่มอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่อง แอร์รถ ครับ ปรับเท่าไหร่ๆมันก็ไม่เย็นซะที

ข้อดีของ 940SE ที่ผมสัมผัสได้ในตอนนั้น คือ ข้างในกว้างขวาง นั่งสบาย และเงียบมาก ตอนนั่งแทบไม่ไม่ได้ยินเสียงจากภายนอกเลย เป็นรถที่ช่วงล่างดีมาก เวลาเหยียบลูกระนาดหรือตัวหนอนแทบไม่มีอาการสะเทือนเลยแม้แต่น้อย (นี่ขนาดรถอายุ10กว่านะเนี่ย)

ข้อดีอีกข้อนึงคือ ความปลอดภัย อันนี้แม่ผมเจอมากับตัวเลย ตอนนั้นมีรถคันนึงขับมาชนหลังรถแม่ผม แล้วรถแม่ผมก็เด้งไปชนรถฮอนด้า(ไม่แน่ใจว่ารุ่นอะไร) (สรุปแล้วชนกันทั้งสิ้น3คัน) ปรากฏว่ารถแม่ผมแทบไม่เป็นอะไรเลย มีแค่รอยกันชนหน้าแตกนิดเดียวและก็สีถลอกเท่านั้น ส่วนกันชนข้างหลังมีแค่รอยสีถลอกอย่างเดียว ไม่มีแม้แต่รอยบุบ แต่รถคู่กรณีสองคันนี่ คันนึงกันชนหน้าบุบ อีกคันนึงกันชนหลังนี่บุบแบบกันชนนี่ร่วงลงมากับพื้น (คู่กรณีกับประกันยังอึ้งเลยครับ)

สมกับสโลแกนที่ว่า "ทุกชีวิตปลอดภัยในวอลโว่" จริงๆ

เคยถามแม่ว่า รถเก่าแล้วซื้อมาทำไม แม่เค้าตอบกลับมาว่าเค้าชอบและรู้สึกถูกชะตาด้วย เวลาขับไม่ค่อยเจอรถใหญ่เบียด ขับไปไหนคนเค้าก็ให้ทาง หลีกทางให้ (ฮาๆๆๆ) :) :)

แต่ด้วยภาระค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาที่มากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้แม่ตัดสินใจขายเจ้า 940SE ออกไปครับ

แต่จะว่าไปแล้ว.....เจ้ารถสองคันนี้ก็ทำให้ผมได้ทราบถึงฟีลลิ่งของรถยุโรปเหมือนกัน ว่ามันเป็นยังไง มันดีแค่ไหน เพราะตั้งแต่เกิดมา รถยุโรปที่เคยได้นั่งในชีวิตก็มีแต่เจ้าสองคันนี้ กับ BMW 520d F10 ของเจ้านายพ่อ เท่านั้นเองครับ :D

ออฟไลน์ Ty ESC

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,786
อ่อ

มีอีกมิติ คือ ความสัมพัน ทางการค้ากับตัวแทนจำหน่าย
อันนี้ ถือว่าสอบตกอย่างแรง คือสินค้ารถยนต์ตอนนี้ไม่ใช่สินค้าขาขึ้นอยู่แล้ว
จะเห็นได้ว่า คนที่ขายรถยนต์จะมีธุรกิจหลักธุรกิจอื่นๆ(บางที่ก็สีเทาๆ) การจะหาคนมาลงทุนเป็นร้อยๆล้าน เพื่อธุรกิจมาร์จิ้นต่ำ วุ่นวายแถม บ แม่ สร้างแต่ปัญหาทั้งจากตัวสินค้ากับการสร้างนโยบายการค้า มันก็คือการทำลายสาย Distribution ของตัวเองไป

คนทำธุรกิจเค้าก็เลือก ลงทุนในสิ่งที่ตอบแทนได้ดีกว่า หรืออย่างน้อยก็สบายใจในการทำธุรกิจ ดีกว่ามาเสียเงินลงทุนกับสินค้ากับภาพลักษณ์ที่มีปัญหา แถมมีท่าทีการทำธุรกิจ ที่ไม่รักษาน้ำใจ

ของแบบนี้ ก็มองได้ถึง อนาคตของสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องมีปฎิสัมพันระหว่างลูกค้ากับตัวแทนเยอะเพราะมีการให้บริการต่อเนื่องอย่างรถยนต์ ครับ

ออฟไลน์ bungy

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 304
    • อีเมล์
ปัจจุบันถ้าให้กล่าวถึงยี่ห้อนี้ ส่วนตัวมองเรื่องเดียวคือ ศูนย์บริการ มีน้อยกว่าเพื่อนๆ เยอะแต่ควบคุมมาตรฐานการบริการไม่ได้นี่เกินจะบรรยายต่อละครับ เพราะตัวรถในปัจจุบันมันดีเกินเพื่อนๆ ด้วยซ้ำ



บริการไม่ดีหรือครับ เห็นช่วงนีงกลับมาบูมอีกครับ s60 ที่ประกอบมาเลย์

หลังจากหมดประกันราคาแพงหรือครับ

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,380
    • อีเมล์
ใช้ V40 2013 ครับ 170000 km
เมื่อก่อนไม่มองครับ ผมมองว่า มันออกแบบ ได้เชย จัง
พอ V40 ออก โห สวย จริงๆ สวยต้งแต่ C30 แล้ว
ตอนซื้อรถ ตั้งงบไว้ 2 ล้าน ไปลองหมด ในระดับ 2 ล้าน อีนี่ ชอบสุด

บริการหลังการขาย รับได้ รับผิดชอบดี พอดีรถไม่มี Defect ด้วย ถ้าเป็น พวก S/V60 ตอนเครื่อง Ford แล้วเกิดไปเจอ หัวฉีดรั่ว คงเซ็งเป็ด
 
เหตุผลที่ มันขายได้น้อย คงเป็นเรื่อง คนกลัวเรื่องซ่อมนี่แหละ ผมว่า จากประสพการตรง รถอะไร ก็ซ่อมทั้งนั้น Com Air V40 ลูกละ 22000 เอง แพงกว่า พี่โตนิสสเดียว ลองเป็น เบนซ์ หรือ BM สิ เลย 5 หมื่นแน่ๆ

พอฟังเค้าเล่าๆ กันมา ว่ามันแพง มันจุกจิก ลูกค้าใหม่ ก็ไม่มี ลูกค้าเก่า ที่ไปเจอจุกจิก ก็ บ๊ายบาย



ออฟไลน์ Depart

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 124
ใช้ V40 2013 ครับ 170000 km
เมื่อก่อนไม่มองครับ ผมมองว่า มันออกแบบ ได้เชย จัง
พอ V40 ออก โห สวย จริงๆ สวยต้งแต่ C30 แล้ว
ตอนซื้อรถ ตั้งงบไว้ 2 ล้าน ไปลองหมด ในระดับ 2 ล้าน อีนี่ ชอบสุด

บริการหลังการขาย รับได้ รับผิดชอบดี พอดีรถไม่มี Defect ด้วย ถ้าเป็น พวก S/V60 ตอนเครื่อง Ford แล้วเกิดไปเจอ หัวฉีดรั่ว คงเซ็งเป็ด
 
เหตุผลที่ มันขายได้น้อย คงเป็นเรื่อง คนกลัวเรื่องซ่อมนี่แหละ ผมว่า จากประสพการตรง รถอะไร ก็ซ่อมทั้งนั้น Com Air V40 ลูกละ 22000 เอง แพงกว่า พี่โตนิสสเดียว ลองเป็น เบนซ์ หรือ BM สิ เลย 5 หมื่นแน่ๆ

พอฟังเค้าเล่าๆ กันมา ว่ามันแพง มันจุกจิก ลูกค้าใหม่ ก็ไม่มี ลูกค้าเก่า ที่ไปเจอจุกจิก ก็ บ๊ายบาย

โห  ราคาอะไหล่  ถูกกว่าที่ผมคิดแฮะ  ผมอยากลองเล่นนะครับยี่ห้อนี้  แต่กลัวเรื่องราคาอะไหล่  การรออะไหล่  และบริการหลังการขาย  แค่นี้แหละครับ  ผมไม่กลัวเลยเรื่องราคาขายต่อ

พอจะมีราคาอะไหล่ตัวอื่น  ที่พอจะรู้ราคาอีกมั้ยครับ  เมื่อเทียบกับเบนซ์ และ บีเอ็ม

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
จำได้ว่าสมัยแรกๆที่คุณพ่อซื้อรุ่น244GL สมัยนั้นVolvoมีชื่อเสียงเรื่องความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถยุโรปอื่นๆครับ แต่ต่อมายี่ห้ออื่นก็ทำได้ดีและออกแบบได้สวยงามต่างกับVolvoที่ยังยึดรูปแบบเหลี่ยมๆที่กลายเป็นโบราณไป ตอนหลังยิ่งแล้วใหญ่ที่มาทำรถขับหน้าก็ยิ่งถอยหลังลงคลองไป หลังๆนี่ยิ่งหนักไปใหญ่เพราะรถมือสองไม่ได้รับความนิยมเพราะชิ้นส่วนอะไหล่ราคาแพงระดับเดียวกับเจ้าตลาด ตอนนี้ยังคลำเป้าไม่เจอเพราะผู้แทนจำหน่ายเป็นต่างชาติที่ไม่ได้ลงมาดูแลปัญหาและเข้าใจความต้องการของลูกค้าชาวไทย
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ oatekung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
    • อีเมล์
ตอน 940 960 ชื่อเสียงไม่ค่อยดี ส่วนเบนส์แกร่งมาตั้งแต่ w124 ส่วน bmw ก็ได้ชื่อว่าเป็น ultimate drivingมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ถึงปัจจุบันเครื่องจะแรงสู้เบนส์ไม่ค่อยได้ สุดท้ายวอลโวเลยโดนเทคับ

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,333
 8) 8) 8).....อยากเห็น Volvo รุ่งเรืองเหมือนที่ผ่านๆมา ไหงมันรุ่งริ่งรุงรัง ไม่โตซะที sedan full size หายไปเลย  คุยกันเรื่องรถ Volvo คนจะนึกถึงภาพรถทีโอ่อ่า นักธุรกิจจะขับเองหรือให้คนขับ ให้นั่งก็เท่ทั้ง 2 แบบ แต่ปัจจุบัน ขับ Volvo เหมือนขับรถแท็กซี่ รถญี่ปุ่นงั้นละ รถญี่ปุ่นบางรุ่นโก้กว่าเยอะเลย แฟนเก่า Volvo ผิดหวังมาก ไม่รู้คน วอลโว่คิดอะไรกันอยู่ ! :-X

ออฟไลน์ BN`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,075
คนที่ซื้อ Volvo ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรกครับ

แต่ยุคปัจจุบันคนคำนึงถึงสมรรถนะ และ ภาพลักษณ์เป็นหลัก