คงต้องลงเงินเยอะๆเหมือน mg audi มั้งครับ คงไทยยานแม่นิเค้าก็ไม่ได้สนใจ ตั้งแต่ไหนแต่ไร แบบขายขำๆ นำเข้ามาแบบทิ้งๆขว้างๆ ตั้งแต่ bmw จนปัจจุบัน audi ไปฟูมฟักกะอีกเจ้าแล้ว
แต่ส่วนตัวผมมองต่าง ที่บ้านเคยใช้ excel กับ sonata ปัญหาเยอะมากมาย ศูนย์บริการก็ meh รุ่นใหม่ๆ ผมเคยใช้ที่ยุโรป สเปคอาจจะไม่เหมือนกันรึเปล่ายังไง เพราะผมใช้ละรู้สึกว่าชอบโตต้ามากกว่านะ มี kia ที่มองว่าโอเคน่าใช้
อ้อ excel สมัยก่อนไม่แน่ใจใครเอาเข้ามาตอนนั้นเด็กมาก ที่ศูนย์มันอยู่ตรงปิ่นเกล้า ตอนนั้นกลับจากโรงเรียน ควันขึ้นหน้ารถ เข้าศูนย์ทันที ออกมาอยู่บนคู่ขนานลอยฟ้า ก็ขึ้นอีกวัยเด็กขมขื่นมากจิงๆกะฮุนได
ยุค 90 ผมว่าถ้าไม่ใช่รถญี่ปุ่นนี่ปัญหาเยอะทุกเจ้าเลยนะครับ
ที่ไม่ประกอบในไทย ไม่ขายเลย มันมีเหตุผลนิครับ
รถญี่ปุ่นผูกขาดตลาดในแถบนี้ไปแล้ว
ผูกขาดถึงขั้นโรงงานผลิตอะไหล่ แบบนี้ลองคิดดูสิครับ
ว่าเขาจะไปสั่งผลิตได้ไหม ถ้าผลิตมากๆ
ถ้าผลิตน้อย นำเข้าอะไหล่มาก ลูกค้า ก็จะไม่เอาอีก เพราะอะไหล่แพง
ทุกวันนี้ไปดูเลยครับ ฮุนไดที่มี stock อะไหล่ มีแต่ H1 เท่านั้น รุ่นอื่นยากครับ
ส่วนตัวผมว่า ทำตลาดแบบนี้ดีแล้วครับ...ฉลาดหลบดี ไปขายรถตู้นะ
และขอชม ฮุนไดฉลาดมากที่ให้คนญี่ปุ่นทำตลาด อย่างน้อยๆ ค่ายญี่ปุ่นยังเกรงใจคนประเทศเดียวกันเอง (บ้าง)
ดีกว่ามาทำตลาดเองมากครับ ที่ชนคือ ญี่ปุ่นกับเกาหลี
ค่ายญี่ปุ่นคงไม่ปล่อยช่องว่างให้คนเกาหลีแน่ๆ ครับ
เคยได้อ่านข่าวเมื่อนานมาแล้วว่า ฮุนไดต้องใช้เม็ดเงินถึง4พันล้านบาทเพื่อมาลงทุนสต๊อกอะไหล่ให้เจ้า h1
เพื่อให้คนใช้รถสามารถใช้ได้ถึง 10 ปี และเกิดการซื้อขายวนไปสู่รถมือ2
นี่แค่โมเดลเดียว
ตลาดบ้านเราและอื่นๆใน south east asia ส่วนใหญ่ไม่ใช้รถแบบ 5 -7ปีทิ้ง ดังนั้นการเริ่มอะไรๆมันลำบากมากๆครับ
สองทางที่ค่ายรถจะเอามาแข่งกับรถญี่ปุ่นที่มีพื้นฐานดีมากๆได้คือ
1.ตั้งราคาให้ถูก ถูกกว่า segment เดียวกันทีนึง 1- 2แสน โดยที่สต๊อกแค่อะไหล่วิ่ง
2.ลงทุนระบบสต๊อกอะไหล่ให้ได้ 10ปีต่อคัน จะในรูปแบบไหนก็ได้...
ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกพอควรครับ ผมแค่วิเคราะห์ตามที่เห็น
ใช่ครับ ส่วนตัวผมว่า ทำแบบนี้นะดีแล้วครับ ไม่เจ็บตัว ขายได้เรื่อยๆ
โรงงานประกอบนี่ มีทั้งที่มาเลย์และอินโดเลยครับ
แต่บ้านเราจะนำเข้า H1 จากอินโด (และบริษัทแม่เกาหลี)
ซึ่งคงยากแน่ๆ ที่เขาจะมาลงทุนประกอบรถในไทยครับ (เข็ด
)
