ผู้เขียน หัวข้อ: Review - BMW 320D GT M Sport  (อ่าน 32582 ครั้ง)

ออฟไลน์ marodmoss

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
Review - BMW 320D GT M Sport
« เมื่อ: กันยายน 21, 2018, 12:40:05 »
สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน ผมเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านหลังนี้นะครับยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย
วันนี้ผมจะมารีวิวเจ้า BMW 320D GT M Sport คันนี้นะครับ โดยเด็กอายุ 23 ปี ที่ไม่รู้เรื่องรถแต่ว่าชอบรถครับผม เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่จะตัดสินใจซื้อเจ้ารถคันนี้ก่อนที่มันจะเลิกขายไปครับ 55555



มาเริ่มกันที่เบาะโดยสารคู่หน้ากันก่อนนะครับผม สำหรับเบาะโดยสารคู่หน้านั้นนั่งได้สบายในระดับนึงครับแต่ไม่ได้ถึงกับสบายมาก ทรงของเบาะก็มีการโอบรัดกระชับตัวให้อารมณ์สปอร์ตดีทีเดียวครับ



การปรับเบาะทำได้หลากหลายครับ มีเมมโมรี่ 2 ตำแหน่ง สามารถปรับให้ เดินหน้า-ถอยหลัง-สูง-ต่ำ-เงย-ก้ม ได้รวมถึงปรับปีกข้างให้กระชับตัวเพิ่มมากขึ้นได้แต่ปรับดันหลังไม่ได้นะครับ นอกจากนี้พนักพิงศรีษะยังเลือกระดับความดันได้ด้วยครับ ถ้าปรับดันสุดจะรู้สึกเหมือนผู้โดยสารตอนหลังเอาเท้าพาดขึ้นมาดันศรีษะของคุณผู้อ่านตลอดเวลา



มาต่อกันทีด้านหน้าผู้ขับขี่ครับ เป็นพวงมาลัย M Sport ซึ่งผมชอบมาก สามารถใช้งานได้สะดวกครับ และยังมีตัว Paddle shift มาให้ใช้งานกันอีกด้วย



วัสดุต่าง ๆ ภายในรถนั้นเป็นวัสดุที่ดีครับ สัมผัสต่าง ๆ ผมมองว่าใช้ได้ทีเดียวแต่ทุกอย่างจะดูแข็ง ๆ ไปสักหน่อยไม่ว่าจะเป็นที่วางแขนหรือตัวเบาะนั่งโดยสารเองก็ตาม วัสดุ Piano black ถูกนำเข้ามาใช้ตกแต่งรถคันนี้รอบคันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นวัสดุที่ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ มันดูสวยนะครับตอนซื้อมาใหม่ ๆ แต่มันเป็นรอยง่ายจนน่ารำคาญเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีวัสดุสีเงินลาย Hexagon ซึ่งผมชอบมาก มันให้สัมผัสที่ดีและดูสวยมาก ๆ เชียวล่ะ ตอนนี้ผมพึ่งใช้งานได้ไม่ถึงเดือนครับ ในเรื่องของความคงทนเลยไม่สามารถเอามาบอกเพื่อนๆใน Headlightmag ได้ครับ แต่มีเพื่อนผมคนนึงเคยพูดกับผมไว้ว่า "BMW เป็นรถที่รักสิ่งแวดล้อมมาก มันจะย่อยสลายตัวเองและละลายตัวเองเมื่อใช้งานไปได้สักระยะหนึ่ง"



ช่องเก็บของของเจ้า BMW คันนี้เหมือนจะไม่เยอะนะครับ แต่สามารถใช้งานได้ดีครับ ไม่ว่าจะเป็นช่องวางขวดน้ำข้างประตูหรือจะเป็นช่องเก็บของบริเวณที่วางแขนตรงกลางซึ่งตื้นมากแต่ก็พอใช้งานได้ นอกจากนี้ยังมีที่วางแก้วรวมถึงอุปกรณ์เขี่ยและจุดบุหรี่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการพ่นควันด้วยครับ ปู้ด ปู้ด





และนี่ครับคือช่องเก็บของที่ผมชอบที่สุด มันสุดยอดมากจริงๆครับ เป็นคุณภาพการสร้างที่ผสมผสานกันระหว่างคุณภาพการสร้างของเยอรมันและจีนแดงครับ สัมผัสแรกที่ผมเปิดมันออกในวันรับรถผมนี่ถึงกับถามตัวเองว่าตอนผลิตรถคันนี้ทาง BMW เกิดมีปัญหาทางด้านการเงินระหว่างผลิตช่องเก็บของอันนี้ให้ผมหรือปล่าว ? จนตอนนี้ 1 เดือนเต็มแล้วครับที่ซื้อรถมา ผมยังไม่รู้เลยครับว่าจะใส่อะไรดี เพราะไม่กล้าเปิดบ่อยครับ กลัวมันพัง



ทัศนวิสัยของรถคันนี้สำหรับผมทุกอย่างโอเคครับ ยกเว้นทางด้านหลังของตัวรถ ซึ่งน่าจะเป็นปกติของรถทรงนี้ครับผม



มานี่เบาะนั่งโดยสารตอนหลังกันมั่งครับ เบาะนั่งโดยสารตอนหลังนั้นกว้างมากครับ มีแอร์ให้ด้วย ผมสูง 182 ยังสามารถนั่งได้แบบสบาย ๆ เหลือ ๆ ทั้ง Head room และ Leg room ครับ แต่เบาะนั่งโดยสารแบนมากครับ มันจะปาดเว้าอะไรให้สักนิดไม่ได้เลยหรือไงและก็ค่อนข้างแข็งเลยทีเดียว สำหรับเด็ก ๆ ผมมองว่านั่งทางไกลได้สบายครับไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่สำหรับผู้ใหญ่อาจจะมีอาการเมื่อยได้ครับ ที่วางแขนทั้ง 2 ฝั่งอยู่ในตำแหน่งที่พอดีสำหรับผมครับ มีที่วางขวดน้ำบริเวณประตูทั้ง 2 ฝั่งซึ่งสามารถใช้งานได้จริง นอกจากนี้ยังสามารถวางขวดน้ำบริเวณที่วางแขนตรงกลางได้อีก 2 ขวดครับ ส่วนที่เก็บของที่สุดแสนจะตื้นและเล็กบริเวณที่วางแขนตรงกลางก็ไม่รู้จะเก็บอะไรดีครับ ลำพังแค่เก็บอากาศก็คงจะเต็มแล้ว





ที่เก็บสัมภาระทางด้านหลังของรถคันนี้หายห่วงครับ จุของได้เยอะใช้ได้เลย แถมยังสามารถพับเบาะแบบ 40-20-40 ได้อีกด้วยครับ นอกจากนี้ทางด้านนอกยังเป็น Spoiler ไฟฟ้าซึ่งสามารถกางออกเองที่ความเร็ว 110 กม./ชม. ขึ่นไปครับ หรือจะกดเปิดเองก็ได้ มีปุ่มเปิดอยู่บริเวณที่เปิดกระจกครับ







ประตูของเจ้ารถเค้านี้ก็เป็นแบบไร้กรอบทั้ง 4 บานครับ นอกจากนี้ยังมีไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารบริเวณใต้ Piano black บนประตูทั้ง 4 บานด้วยครับ สีที่สามารถปรับได้ก็มีสีส้มกับสีขาวครับ ให้อารมณ์สปอร์ตพรีเมี่ยมจริง ๆ ครับ



ปล. ไฟที่ส่องบริเวณกระจกน่าจะเป็นหลอดซีนอล แสงมันกินเข้าไปในดวงตา ถ้าจ้องนาน ๆ เดี๋ยวตาจะบอด

ปล2. เรื่องของความประหยัดน้ำมันผมไม่เก่งครับผม แต่สำหรับผมมันประหยัดใช้ได้เลยทีเดียวครับ

ล้อคู่หน้าขนาด 225/45 R19 ครับ ส่วนคู่หลัง 255/40 R19 ครับ

ในส่วนของการขับขี่นั้นผมชอบมันนะ ในความเร็วต่ำมันเก็บอาการได้ค่อนข้างดีครับ ในโหมด Comfort สามารถขับในเมืองได้แบบสบาย ๆ แต่ในส่วนของการเดินทางไกลแล้วใช้ความเร็วที่สูงมาก ๆ ผมมองว่ามันมีอาการเต้นของท้ายรถที่ดูค่อนข้างนิ่มครับ แต่ถ้าถามว่าอยู่มั้ยมันเอาอยู่ครับ แต่แนะนำให้ปรับไป Sport เลยดีกว่าครับถ้าใช้ความเร็วที่สูงมาก ๆ มันรู้สึกดีกว่ากันเยอะเลย การเข้าโค้งก็พอใช้ได้ครับ พวงมาลัยรถคันนี้น้ำหนักโอเคในทุกช่วงความเร็วครับ ควบคุมง่าย เบรคก็วางใจได้ครับผม ในส่วนของเครื่องเสียงกับการเก็บเสียงผมส่วนตัวผมผมพอใจครับ (ผมหูตึง) 555555555

สุดท้ายนี้ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านมากครับที่เข้ามาอ่านกัน หากมีข้อเสนอหรือมีอะไรติชมก็ตามสบายนะครับ  :-* :-* :-*













« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 21, 2018, 12:46:12 โดย marodmoss »
2012 - Volvo S60
2013 - Toyota Alphard
2014 - Camry Extremo
2015 - Mercedes-Benz E200 Coupe
2018 - BMW 320d GT M Sport

ออฟไลน์ NOOM22

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 280
    • อีเมล์
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 21, 2018, 13:40:42 »
ที่บ้านแฟนก็ใช้ครับ มีโอกาสได้ขับบ่อยๆ
=อัตราเร่งเหลือๆ อย่างแซงก็แซงได้ดังใจ สำหรับคนที่บอกว่าดีเซลจะไปแรงอะไร ถ้าอยากแรงกว่านี้ ไปออกฟอรารี่มาขับเถอะ สำหรับการใช้งานทั่วไป เหลือๆ เหลือมากด้วย 
=การเก็บเสียง โอเครดีครับ อาจจะมีเสียงบ้างเพราะมันไม่มีขอบประตู แต่ใช้ได้
=ความสะบายในการนั่ง เบาะจะออกแข็งๆหน่อย ไม่นิ่ม โดยเฉาพะด้านหลัง แต่ความกว้างสำหรับด้านหลัง พื้นที่วางขาเหลือๆ นั่งเยียดขาสบายเลยครับ
=การกินน้ำมัน โคตรประหยัดเลย ขนาดเยียบแบบไม่มองเข็ม เฉลี่ยกิโลบาทนิดๆ

เหมาะสำหรับครอบครัวเลยครับ ไปกัน5คนยังสบายเลย รูปทรงอาจจะไม่ถูกใจวัยรุ่น แต่การใช้งานโอเครเลย
( คิดที่จะรัก ต้องยอมเจ็บ )

ออฟไลน์ marodmoss

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 21, 2018, 15:08:17 »
ที่บ้านแฟนก็ใช้ครับ มีโอกาสได้ขับบ่อยๆ
=อัตราเร่งเหลือๆ อย่างแซงก็แซงได้ดังใจ สำหรับคนที่บอกว่าดีเซลจะไปแรงอะไร ถ้าอยากแรงกว่านี้ ไปออกฟอรารี่มาขับเถอะ สำหรับการใช้งานทั่วไป เหลือๆ เหลือมากด้วย 
=การเก็บเสียง โอเครดีครับ อาจจะมีเสียงบ้างเพราะมันไม่มีขอบประตู แต่ใช้ได้
=ความสะบายในการนั่ง เบาะจะออกแข็งๆหน่อย ไม่นิ่ม โดยเฉาพะด้านหลัง แต่ความกว้างสำหรับด้านหลัง พื้นที่วางขาเหลือๆ นั่งเยียดขาสบายเลยครับ
=การกินน้ำมัน โคตรประหยัดเลย ขนาดเยียบแบบไม่มองเข็ม เฉลี่ยกิโลบาทนิดๆ

เหมาะสำหรับครอบครัวเลยครับ ไปกัน5คนยังสบายเลย รูปทรงอาจจะไม่ถูกใจวัยรุ่น แต่การใช้งานโอเครเลย

ขอบคุณที่ช่วยเสริมนะครับ  :-*
2012 - Volvo S60
2013 - Toyota Alphard
2014 - Camry Extremo
2015 - Mercedes-Benz E200 Coupe
2018 - BMW 320d GT M Sport

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 25, 2018, 09:59:30 »
พวงมาลัย M แบบเดิมนี่ผมชอบมากเลย สวยกว่าแบบใหม่อีก

ออฟไลน์ firstime911

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 454
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 25, 2018, 10:21:42 »
อยากมาบอกว่าคุณซื้อรถ รุ่นนึงที่ดีที่สุดของ bmw เลยครับ ^^ ทน คุ้ม อึด เกาะถนน ขับดี
จุดบกพร่อง คอพวงมาลัยครับ บางทีมีเสียง แต่ถ้าไม่แคร์ก็ไม่ต้องห่วง / ฟลิม์ เนื่องจากเป็นกระจก frameless ฟิลม์ มันจะพังง่ายหน่อย
แค่อย่าลืมเปลียนน้ำมันเกียร์+ เฟืองท้าย ตอน 6-80000 โล ไม่ได้อยู่ใน BSI  ก็จะใช้ยาวๆ เลย
ผมใช้อยู่ ตอนนี้ 12x,xxx สบายดี

ออฟไลน์ marodmoss

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 25, 2018, 18:08:39 »
พวงมาลัย M แบบเดิมนี่ผมชอบมากเลย สวยกว่าแบบใหม่อีก
ถ้าเป็นของใหม่ ผมชอบพวงมาลัย MB มากกว่า BMW เยอะเลย ดูหรูสุดๆ
2012 - Volvo S60
2013 - Toyota Alphard
2014 - Camry Extremo
2015 - Mercedes-Benz E200 Coupe
2018 - BMW 320d GT M Sport

ออฟไลน์ marodmoss

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 25, 2018, 18:09:49 »
อยากมาบอกว่าคุณซื้อรถ รุ่นนึงที่ดีที่สุดของ bmw เลยครับ ^^ ทน คุ้ม อึด เกาะถนน ขับดี
จุดบกพร่อง คอพวงมาลัยครับ บางทีมีเสียง แต่ถ้าไม่แคร์ก็ไม่ต้องห่วง / ฟลิม์ เนื่องจากเป็นกระจก frameless ฟิลม์ มันจะพังง่ายหน่อย
แค่อย่าลืมเปลียนน้ำมันเกียร์+ เฟืองท้าย ตอน 6-80000 โล ไม่ได้อยู่ใน BSI  ก็จะใช้ยาวๆ เลย
ผมใช้อยู่ ตอนนี้ 12x,xxx สบายดี
ขอบคุณนะครับสำหรับคำแนะนำ  :) โดยรวมผมก็พอใจกับมันเช่นกันครับผม แต่ปัญหาคอพวงมาลัยมีเสียงส่วนตัวผมยังไม่เจอเลยครับ
2012 - Volvo S60
2013 - Toyota Alphard
2014 - Camry Extremo
2015 - Mercedes-Benz E200 Coupe
2018 - BMW 320d GT M Sport

ออฟไลน์ shipcake

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 679
    • อีเมล์
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 30, 2018, 21:02:19 »
ฝาท้ายใส่ของสะดวกสบายไหมครับ สมัยนี้รถเปิดได้กว้างมากๆเลย

ออฟไลน์ marodmoss

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2018, 15:39:56 »
ฝาท้ายใส่ของสะดวกสบายไหมครับ สมัยนี้รถเปิดได้กว้างมากๆเลย
สะดวกดีเลยครับ มีระบบเตะเปิดด้วยครับ
2012 - Volvo S60
2013 - Toyota Alphard
2014 - Camry Extremo
2015 - Mercedes-Benz E200 Coupe
2018 - BMW 320d GT M Sport

ออฟไลน์ demo2

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 784
    • อีเมล์
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2018, 20:02:32 »
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ marodmoss

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2018, 19:38:11 »
ขอบคุณครับ
ยินดีครับผม
2012 - Volvo S60
2013 - Toyota Alphard
2014 - Camry Extremo
2015 - Mercedes-Benz E200 Coupe
2018 - BMW 320d GT M Sport

ออฟไลน์ TaeZ

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2018, 10:56:20 »
ใช้มา 5X,XXX โลแล้วครับ คุ้มมาก เพราะผมใส่รถเข็นคุณแม่ไปไหนมาไหนได้สะดวกครับ

ออฟไลน์ marodmoss

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2018, 23:18:18 »
ใช้มา 5X,XXX โลแล้วครับ คุ้มมาก เพราะผมใส่รถเข็นคุณแม่ไปไหนมาไหนได้สะดวกครับ
ยินดีด้วยที่ได้รถที่ถูกใจครับ ผมก็ถูกใจกับเข้ารถคันนี้เหมือนกัน ใช้งานได้ทุกโอกาสเลย
2012 - Volvo S60
2013 - Toyota Alphard
2014 - Camry Extremo
2015 - Mercedes-Benz E200 Coupe
2018 - BMW 320d GT M Sport

ออฟไลน์ PopCorn

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 17
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2018, 03:27:29 »
ผมเพิ่งใช้รุ่นนี้มาเดือนนึงเหมือนกัน ตัว m sport

เบาะหน้า ปรับยังไงก็ไม่สบาย พนักพิงหัวดันมากไปหน่อย ถ้าเอาหลังสบาย หัวจะไม่สบาย พอปรับให้หลังสบาย หัวก็จะไม่สบาย

แล้วก็เจอ ปัญหาประตูด้านหน้าขวา มีเสียงดังอ๊อดแอ๊ด บริเวณใกล้ๆกับ กระจกมองข้าง เหมือนประกอบไม่สนิทดี

 
อยากจะสอบถามหน่อยครับว่า

รถผมพวงมาลัยช่วงความเร็วกลางๆ เวลาขับประมาณ 70-100 รู้สึกส่ายๆหวิวๆมากครับ พวงมาลัยดิ้นไปตามถนน ขับแล้วเหมือนจะเอาไม่อยู่ น่ากลัวมากครับ

ไม่ทราบว่าเจออาการนี้เหมือนกันรึป่าวครับ?

ออฟไลน์ amsa

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 105
  • เอาใจเขา ใส่ใจเรา
    • อีเมล์
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2018, 21:24:57 »
ยินดีกับรถใหม่ด้วยครับ เท่ห์จุง กับ spoiler ไฟฟ้า
ส่วนตัวผมเปิด ฝากระโปรงเมื่อ ถึงบ้าน ตลอดช่วยเรื่องการระบายความร้อน ได้ระดับหนึ่งครับ

ออฟไลน์ amsa

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 105
  • เอาใจเขา ใส่ใจเรา
    • อีเมล์
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2018, 21:29:35 »
ผมเพิ่งใช้รุ่นนี้มาเดือนนึงเหมือนกัน ตัว m sport

เบาะหน้า ปรับยังไงก็ไม่สบาย พนักพิงหัวดันมากไปหน่อย ถ้าเอาหลังสบาย หัวจะไม่สบาย พอปรับให้หลังสบาย หัวก็จะไม่สบาย

แล้วก็เจอ ปัญหาประตูด้านหน้าขวา มีเสียงดังอ๊อดแอ๊ด บริเวณใกล้ๆกับ กระจกมองข้าง เหมือนประกอบไม่สนิทดี

 
อยากจะสอบถามหน่อยครับว่า

รถผมพวงมาลัยช่วงความเร็วกลางๆ เวลาขับประมาณ 70-100 รู้สึกส่ายๆหวิวๆมากครับ พวงมาลัยดิ้นไปตามถนน ขับแล้วเหมือนจะเอาไม่อยู่ น่ากลัวมากครับ

ไม่ทราบว่าเจออาการนี้เหมือนกันรึป่าวครับ?
เจอกับ X3 เหมือนกันครับ ตอนนั้นลมยางอ่อน ลองเช็คลมยาง ก่อนนิดครับ อีกอย่าง ยางหน้ากว้าง และเตี้ย + run flat ยิ่งเจอรอยต่อถนน นี่แฉลบเลยครับ 

ออฟไลน์ marodmoss

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2018, 21:22:59 »
ผมเพิ่งใช้รุ่นนี้มาเดือนนึงเหมือนกัน ตัว m sport

เบาะหน้า ปรับยังไงก็ไม่สบาย พนักพิงหัวดันมากไปหน่อย ถ้าเอาหลังสบาย หัวจะไม่สบาย พอปรับให้หลังสบาย หัวก็จะไม่สบาย

แล้วก็เจอ ปัญหาประตูด้านหน้าขวา มีเสียงดังอ๊อดแอ๊ด บริเวณใกล้ๆกับ กระจกมองข้าง เหมือนประกอบไม่สนิทดี

 
อยากจะสอบถามหน่อยครับว่า

รถผมพวงมาลัยช่วงความเร็วกลางๆ เวลาขับประมาณ 70-100 รู้สึกส่ายๆหวิวๆมากครับ พวงมาลัยดิ้นไปตามถนน ขับแล้วเหมือนจะเอาไม่อยู่ น่ากลัวมากครับ

ไม่ทราบว่าเจออาการนี้เหมือนกันรึป่าวครับ?
ในส่วนของประตูผมไม่ได้ยินเสียงอะไรนะครับ จะมีอยู่แค่เสียงพวงมาลัยที่จะดังเวลาเปิดไฟเลี้ยวทิ้งเอาไว้ครับ มีพี่ท่านนึงก็เจอ ผมคาดว่าอาจจะเป็นปัญหาเฉพาะรุ่นนครับ ส่วนความเร็ว 70-100 ผมไม่มีปัญหานะครับ อาจจะเป็นเพราะลมยางเหมือนที่ความคิดเห็นบนกล่าวครับ
2012 - Volvo S60
2013 - Toyota Alphard
2014 - Camry Extremo
2015 - Mercedes-Benz E200 Coupe
2018 - BMW 320d GT M Sport

ออฟไลน์ Linzzzlin

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 1
Re: Review - BMW 320D GT M Sport
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: เมษายน 14, 2019, 00:29:54 »
ไม่ทราบว่าไฟใต้ piano black สีส้มขาว เปิดตรงไหนหรอคะ