กรณี นางวาสนา เวสารัชเวศย์ อายุ 48 ปี ถูกคนร้ายขี่รถจยย.สาดพริกป่นผสมน้ำใส่หน้าจนได้รับบาดเจ็บ ขณะขับรถเบนซ์ C250 สีขาว แบบสปอร์ต ทะเบียน 5 กฮ 6804 กรุงเทพมหานคร จอดตอดสัญญาณไฟจราจรอยู่บริเวณแยกศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 2 พ.ย.ที่่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจ สน.บางซื่อ กำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 15 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ร่วมกับตำรวจ สน.บางโพงพาง นำกำลังเข้าจับกุมคนร้ายได้แล้ว ทราบชื่อคือ น.ส.นิ (นามสมมติ) โดยจับกุมได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่บางโพงพาง หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ที่ย่านดังกล่าว จากนั้นจึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบสวน น.ส.นิ ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนว่าจ้างตนในราคา 10,000 บาท ให้สั่งสอนผู้เสียหาย โดยสาดพริกใส่หน้า ซึ่งผู้ว่าจ้างอ้างว่า ผู้เสียหายเป็นคนนิสัยไม่ดี และต้องการสั่งสอน ถึงได้ว่าจ้างให้ตนมาก่อเหตุ รวมทั้งยังเน้นย้ำว่าหลังก่อเหตุแล้ว ให้หยิบกระเป๋าภายในรถของผู้เสียหายมาด้วย หลังรับงานตนจึงได้ขี่รถจยย.ตามผู้เสียหายมาตั้งแต่ย่านเตาปูน กระทั่งผู้เสียหายขับรถมาจอดติดไฟแดงจึงสบโอกาสเหมาะเคาะกระจกทำทีเป็นถามทาง เมื่อผู้เสียหายเปิดกระจกจึงได้สาดพริกป่นผสมน้ำที่เตรียมมาใส่หน้า แล้วรีบขี่รถจยย.หลบหนี โดยไม่ได้ใส่ใจกับกระเป๋าที่ผู้ว่าจ้างกำชับมา เพราะคิดว่าไม่ได้สำคัญอะไร
หลังจากก่อเหตุเสร็จแล้ว จึงกลับไปหาผู้ว่าจ้างเพื่อรับเงิน แต่ผู้ว่าบอกว่าตนทำงานไม่สำเร็จเพราะไม่ได้เอากระเป๋าในรถมา จึงให้เงินมาแค่ 1,000 บาท และทราบว่าผู้ว่าจ้างไม่ได้มีปัญหากับผู้เสียหายแต่อย่างใด เพียงแต่ประสงค์ต่อทรัพย์เท่านั้น เพราะกระเป๋าที่ผู้ว่าจ้างกำชับให้หยิบมานั้น ภายในมีเงินประมาณ 8 แสนบาท และแหวนเพชรอีก 2 วง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัวผู้ว่าจ้างรายดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1829686
