ผู้เขียน หัวข้อ: ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆสมาชิก จะออกรถหนึ่งคัน งบผ่อน 20 - 25k ไปยุโรปหรือญี่ปุ่นดี  (อ่าน 11902 ครั้ง)

ออฟไลน์ Koolkoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 263
รถญี่ปุ่นน่าสบายกระเป๋ากว่าครับ
แต่ถ้าอยากไปยุโรปจริง แนะนำ 320d อย่างเดียวเลยครับ ได้สมรรถนะที่อยากได้ แล้วถ้าวิ่งเยอะ 5 ปีแรก ไม่ต้องห่วงอะไรเลย เปลี่ยนยางอย่างเดียว

ออฟไลน์ หมีขับสี่

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 661
มีรถญี่ปุ่นอยู่แล้ว ก็จัดยุโรปสิครับ  ;D

ออฟไลน์ mrpich

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,197
  • เฮ้อ...อยากจะเหมาทั้งวง
บ้านผมมีทั้งยุโรปและ ญี่ปุ่น รุ่นใหม่ ทั้งคู่ ส่วนตัวเชียร์ไปญี่ปุ่นครับ
ความแตกต่างในสมรรถนะกับส่วนต่างของราคาผมว่าไม่คุ้มกันเลย นี่ไม่รวมความจุกจิกและราคาค่าซ่อมอีกนะ
แต่ถ้าอยากลองสักครั้งก็ลองได้ครับ ได้เรื่องภาพลักษณ์ ผมเองก็ลอง แต่ต่อไปคงมองรถญี่ปุ่นไว้ใช้งานปกติมากกว่าครับ
เคสนี้เป็นผม ไป cx-5 ไม่ก็รอ new forester ครับ ลอง subaru แล้ว ติดใจ
ถูกใจฮโยยอน-ปลื้มซูยอง-ชื่นชมเจสสิก้า-คิดถึงยูริ-แอบปิ๊งยูนอา-ชอบซอฮยอน-ใฝ่ฝันซันนี่-หลงไหลแทยอน-สุดรักทิฟฟานี่

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,314
ถ้ารถใหม่ ดาวน์จากยอดตัวรถ 20-25%
งบผ่อน 20-25k/เดือน
มองรถใหม่ราคาเต็มได้สูงสุด ไม่เกิน 1.5M หลังหักส่วนลดแล้ว

ดูเอาแล้วกันว่าตัวไหนอยู่ในงบ

รถซื้อมีแต่ลดกับซ่อม ต้องมองถึงค่าซ่อมและค่าจุกจิกด้วย
บางอันผู้ผลิตบอกว่ารับประกัน แต่บางครั้งก็ไม่รับประกันขึ้นมาดื้อๆ ก็มี

ประเทศไทย สคบ. ไม่ค่อยแข็งแรง
"คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง"
"Only live once, but if you do it right, Once is enough"

ออฟไลน์ chaithawat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,538
ไม่ลองไม่รู้ครับ แต่ละคนก็เงื่อนไขต่างกันไปผ่อนไหวไม่กระทบอะไร จ่ายค่าซ่อมได้ประกันได้ก็จัดไปเลยครับ อย่าคิดเยอะบางทีซื้อรถใช้สมองเยอะไม่ได้ซื้อหรอกครับไม่งั้นรถแพงๆคงขายไม่ได้แน่ถ้าเอาเรื่องออฟชั่น หน้าตา ความประหยัด วัสดุคงหนีไปอีโค่คาร์กันหมดแล้วเทียบบาทต่อบาทคุ้มกว่ากันก่ายกอง ยุโรปมันก้อขายได้ด้วยตัวมันเองหลายๆอย่างเช่น การขับขี่ ความเงียบนิ่ง ทีเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ความปลอดภัยที่ให้มามากกว่า วัสดุที่ดีกว่า   
 คนหาเช้ากินค่ำหรือเงินเดือน2-3หมื่น มีลูกหลายคนยังขับรถคันเป็นล้านได้เยอะแยะไปครับ
ส่วนตัวเชียร์ c 220d ครับยังสดใช้ได้อีกยาวด้วยความเป็น mb คุณจะรับรู้ถึงความต่างของอิมเมจและฟีดแบคที่ต่างกับรถญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีครับ 
อีกตัวประหยัดมานิด x1 1.99m ต่อรองดีๆ 0% + ความสบายใจและประหยัดค่าเมนทีแนนซ์ไปหลายตังค์อยู่
ถ้าสามารถดาวน์ได้ 40% 220d ผ่อนห้าปี ส่วน x1 ผ่อนสี่ปีสบาย

ออฟไลน์ tvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,488
น่าจะบอกงบดาวน์ด้วยนะ เพราะงบผ่อน 20-25 นี่มันเหมาะกับรถตั้งแต่ C seg ยัน Premium C seg เลยนครับ

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
25*48 ก็ ล้านสอง 25*60 ก็ ล้านห้า ไม่คิดดอกเบี้ย กับเงินดาวน์ ดูแล้วก็น่าจะซื้อได้ทั้งสองแบบ

ค่าเช็คระยะ ค่าประกัน ยุโรปจะสูงกว่าหลายเท่าตัว แนะนำว่า D seg หรือ SUV สบายตัวกระเป๋ากว่าครับ

ยกเว้นว่า need อันนี้ก็ต้องยอมเหนื่อยขึ้นอีกนิด ไม่ว่ากัน

ออฟไลน์ AgentMolder

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,415
ยุโรปผ่อน 25K มีบอลลูนแน่นอน บอลลูนเป็นล้านด้วย ดูดีๆนะครับ อย่าหลงแต่ค่างวด

ดูจากที่ post น่าจะใช้รถมานาน ใช้รถเยอะ แบบใช้งานจริง ถ้าให้แนะนำตามโจทย์ก็ไปรถญี่ปุ่นครับ จะอะไรก็แล้วแต่ท่านเลย ส่วนตัวผมเชียร์ Camry ใหม่

รถยุโรป ในงบนี้ ผ่อนตึงมือแน่นอน แถมมีค่าบำรุงอะไรอีกจิปาถะ แต่ข้อดีคือได้แบรนด์ครับ คนรอบข้าง คนทั่วไป มองท่านคนละระดับเลย ทั้งที่ผ่อนน้อยกว่า (Camry ตัวท้อป ดาวน์ 25% ผ่อน 4 ปี ยัง 27K) สังคมบ้านเรามันเป็นแบบนี้ แต่ดูจากลักษณะการใช้รถ ญี่ปุ่นตอบโจทย์กว่า

ออฟไลน์ 123ruj

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 195
    • อีเมล์
อยากสบายๆ ไม่ต้องปวดหัวมาก
รถญี่ปุ่นแบบที่ใช้อยู่เลยครับ
ส่วนจะ CRV หรือ CX5
ถามตัวเองเลยครับ
เพราะใช้อยู่ทั้ง 2 ยี่ห้อ
ผมเคยใช้ G3 ตอนนี้ใช้ CX5
้ถ้าจะเปลี่ยน ผมเอา CRV ครับ
เบนซิน หรือ ดีเซล ก็ได้ตามสะดวกครับ

ออฟไลน์ Non FoolsBoyz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกคำแนะนำมากๆ เลยครับ ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์พอสมควร

ออฟไลน์ Automotive Innovations

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,136
  • เตรียมสร้างอนาคต
    • อีเมล์
ไม่ลองไม่รู้ครับ แต่ละคนก็เงื่อนไขต่างกันไปผ่อนไหวไม่กระทบอะไร จ่ายค่าซ่อมได้ประกันได้ก็จัดไปเลยครับ อย่าคิดเยอะบางทีซื้อรถใช้สมองเยอะไม่ได้ซื้อหรอกครับไม่งั้นรถแพงๆคงขายไม่ได้แน่ถ้าเอาเรื่องออฟชั่น หน้าตา ความประหยัด วัสดุคงหนีไปอีโค่คาร์กันหมดแล้วเทียบบาทต่อบาทคุ้มกว่ากันก่ายกอง ยุโรปมันก้อขายได้ด้วยตัวมันเองหลายๆอย่างเช่น การขับขี่ ความเงียบนิ่ง ทีเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ความปลอดภัยที่ให้มามากกว่า วัสดุที่ดีกว่า   
 คนหาเช้ากินค่ำหรือเงินเดือน2-3หมื่น มีลูกหลายคนยังขับรถคันเป็นล้านได้เยอะแยะไปครับ
ส่วนตัวเชียร์ c 220d ครับยังสดใช้ได้อีกยาวด้วยความเป็น mb คุณจะรับรู้ถึงความต่างของอิมเมจและฟีดแบคที่ต่างกับรถญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีครับ 
อีกตัวประหยัดมานิด x1 1.99m ต่อรองดีๆ 0% + ความสบายใจและประหยัดค่าเมนทีแนนซ์ไปหลายตังค์อยู่
ถ้าสามารถดาวน์ได้ 40% 220d ผ่อนห้าปี ส่วน x1 ผ่อนสี่ปีสบาย
สุดท้ายก็ต้องขายรถอ่ะนะครับ ผมเห็นหลายคนแล้ว ซื้อรถแพงๆ เงินเดือนไม่พอกิน สุดท้ายก็ต้องขายรถทิ้ง ขายหลายอย่าง ถึงจะพอ

ถ้าอยากได้จริงๆ ก็ต้องรอเงินให้พร้อมกว่านี้อ่ะครับ จะได้ไม่ตึงมือ เอาเงินไปทำไรได้ตั้งหลายอย่าง ซื้อแคมรี่ตัวท้อปสักคัน สร้างครอบครัวเล็กๆไปก่อนก็ได้ครับ แล้วพร้อมค่อยขยับไม่มีใครว่า อีกอย่างเดี๋ยวนี้ผมว่า รถญี่ปุ่นเริ่มขยับเข้าใกล้รถยุโรปมากขึ้นทุกที ถ้าจะให้ต่างแบบจริงๆ ต้อง 5seriesครับ สุดจริง

แต่ท้ายสุดก็แล้วแต่ครับ ถ้าคิดว่าอยากลอง ก็ได้ครับ แต่ถ้าผมมีงบที่ตึงประมาณนี้ ผมจะใช้รถญี่ปุ่นไปก่อนครับ ซื้อแคมรี่ละอีกสองสามปี ผมก็ค่อยขยับเป็นรถยุโรป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 18, 2018, 16:54:09 โดย Baby Driver »
Toyota Camry 2.0G ACV41 2012 MC Black Interior
Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 2WD MY 2017
Ssangyong Stavic SV270  2006
Honda HR-V EL 2016
Toyota Fortuner 2.4V 2WD Big MC 2020
Haval H6 PHEV 2022
Mercedes-Benz C350e Dynamic Plug-in Hybrid 2023

ออฟไลน์ Non FoolsBoyz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
    • อีเมล์
เข้ามาขอบคุณอีกครั้งครับ ครั้งนี้ได้อ่านหลายๆ คำแนะนำแล้วมีประโยชน์มาก ส่วนตัวความรู้เรื่องรถญี่ปุ่น แต่ละยี่ห้อที่สนใจไม่ว่ารุ่นไหนก็ตาม จะไม่ค่อยมีปัญหาเพราะว่าของมันเคย

อยากได้หรือชอบ หรืออยากทดลองของใหม่ ผมเข้าไปลองมาหมด  C D segment /suv /ppv /crossover /eco ...toyota...honda...mitsubishi...nissan...mazda ที่เอ่ยมาลองมาแล้ว แต่..แต่

แต่รถยุโรปนี่สิ ไม่มีความรู้เรื่องการใช้ชีวิตกับยี่ห้อเหล่านี้ ไม่เคยลองขับ-ลองนั่ง แต่ด้วยความที่ถ้ามันมีได้โดยไม่เดือดร้อนอะไรเลยก็อยากได้ไว้สักคัน อย่างน้อยเป็นหน้าตา ในงานที่ทำของภรรยา

(รถคันที่ถามทุกท่านนี้ ภรรยาจะเป็นคนใช้ครับ) ดังนั้นหลังจากที่ถามทุกท่านแล้ว เลยเล่าให้ภรรยาฟัง...ในเหตุผลของทุกท่าน  จนได้ตัวเลือกที่ว่า เอาที่คุณภรรยาชอบละกัน คือ CX 5  กับ BMW 320D iconic

-อ้าวทำไมเลือก 320d iconic / ภรรยาบอกว่ามันไม่เวอร์มาก ราคาก็รับได้

-อ้าวทำไมเลือก CX 5 2.2XDL / ไปลองมาแล้ว CX 5 ตอบโจทย์กว่า CRV (เหตุผลส่วนตัว)

-อ้าวไม่เลือก new camry ล่ะ / บริษัทที่ภรรยาทำงาน มีให้ใช้ครับเพิ่งได้มา เป็นตัวท็อปไฮบริดโฉมใหม่

-อ้าวถามต่อ ทำไมไม่เอามาใช้ล่ะ ตอบ อยากได้รถไว้ใช้ส่วนตัวด้วย และอีกอย่างไว้ให้ลูกน้องออกไปติดต่องาน

-อ้าวแล้วมาสด้า 2 ล่ะ / ผมเอามาขับเอง ยังไงลูกผมก็นั่งได้ 10 ขวบแล้ว จริงๆ ที่ซื้อ CRV G3 มาใช้ตอนนั้น ก็เพราะลูกน่ะครับ หลายๆ ท่านที่มีลูกทราบดีว่าของใช้ของเด็กคนนึงเยอะแค่ไหน

ไปเที่ยวไหนที ก็หอบไปขนไป แทบหมดบ้าน รถเก๋งคันเล็กๆ เอาไม่อยู่ เลยต้องเป็นคั้นนี้  / แต่พอโตแล้วอีโค่คาร์มันก็นั่งได้ ก็เลยว่าจะใช้มาสด้า 2 ไปสักพักแล้วค่อยมองหารถที่เหมาะกับเรา (ผมชอบ CIVIC)

-อ้าวแล้ว CRV ที่ใช้ล่ะ / รถปัญหาไม่เยอะก็จริงแต่มันก็มีมาให้ปวดหัวเรื่อยๆ ครับ และอีกอย่าง เทคโนโลยี สมรรถนะ ความประหยัด ฯลฯ ของรถสมัยนี้มันต่างกันมากกับรถ 10 ปีที่แล้ว ราคามันก็แพงตามยุคสมัย (ใช่ไหมครับ) 

**ส่วนเรื่องข้อมูลด้านการเงินเห็นหลายท่านสงสัยว่า มีแค่นี้จะไหวหรอ ก็อยากบอกว่า จริงๆ แล้วตั้งงบผ่อนสูงสุดไว้ไม่เกิน 35K/เดือน แต่ลึกๆ แล้วภรรยาไม่อยากฟุ่มเฟือยมากเกินไปเลยไม่ได้เอามานับด้วย เงินดาวน์มีก้อนนึงประมาณ 6.5 - 700K+ (ยังไม่นิ่ง)

ภรรยาผมทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ตำแหน่ง HR.Director ควบ Procurement Director  / ผมเป็นข้าราชการ ตำแหน่ง นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ เป็นหัวหน้าฝ่าย

รายได้ต่อเดือนไม่เกิน 200K หักค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด น้ำ ไฟ โทรศัพท์ internet ประกันชีวิต 3 คน พ่อ แม่ ลูก อื่นๆ รวมประมาณ 50K/เดือน  เหลือเท่าไรก็ไม่รู้ ภรรยาผมถือเงิน

ไม่ต้องถามก็รู้ว่าภรรยาเงินเดือนประมาณเท่าไร และมากกว่าเงินเดือนผมเท่าไร  ..แต่เงินเดือนผม ผมก็ไม่ได้ถือ.. ภรรยาให้เงินผมไปทำงาน วันละ 200 รวมซื้อข้าวเย็นให้ลูกด้วย  ประมาณนี้ครับ

สุดท้าย ขอบคุณทุกท่านมากๆ ครับ ที่เสียสละเวลามาให้คำแนะนำอีกครั้ง ขอให้ทุกท่านโชคดีมีความสุข ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 18, 2018, 20:40:21 โดย Non FoolsBoyz »

ออฟไลน์ civic666

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 258
    • อีเมล์
ใช้รถเยอะขนาดนี้bmน่าจะหมดbsi ใน3ปี หลังจากนั้นค่าใช้จ่ายจะตามมาเยอะ bsi10ปีไม่ได้อะไรเลย ไปรถญี่ปุ่นเถอะครับ ค่าดูแลหลัง100000ผิดกันเยอะ ไม่งั้นผมว่าตึงเกิน

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,407
d-seg ญี่ปุ่น สบายๆ ดีกว่าครับ อย่าเอาเงินไปลงกับรถเยอะแยะเลยครับ เก็บเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า

ออฟไลน์ Automotive Innovations

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,136
  • เตรียมสร้างอนาคต
    • อีเมล์
เข้ามาขอบคุณอีกครั้งครับ ครั้งนี้ได้อ่านหลายๆ คำแนะนำแล้วมีประโยชน์มาก ส่วนตัวความรู้เรื่องรถญี่ปุ่น แต่ละยี่ห้อที่สนใจไม่ว่ารุ่นไหนก็ตาม จะไม่ค่อยมีปัญหาเพราะว่าของมันเคย

อยากได้หรือชอบ หรืออยากทดลองของใหม่ ผมเข้าไปลองมาหมด  C D segment /suv /ppv /crossover /eco ...toyota...honda...mitsubishi...nissan...mazda ที่เอ่ยมาลองมาแล้ว แต่..แต่

แต่รถยุโรปนี่สิ ไม่มีความรู้เรื่องการใช้ชีวิตกับยี่ห้อเหล่านี้ ไม่เคยลองขับ-ลองนั่ง แต่ด้วยความที่ถ้ามันมีได้โดยไม่เดือดร้อนอะไรเลยก็อยากได้ไว้สักคัน อย่างน้อยเป็นหน้าตา ในงานที่ทำของภรรยา

(รถคันที่ถามทุกท่านนี้ ภรรยาจะเป็นคนใช้ครับ) ดังนั้นหลังจากที่ถามทุกท่านแล้ว เลยเล่าให้ภรรยาฟัง...ในเหตุผลของทุกท่าน  จนได้ตัวเลือกที่ว่า เอาที่คุณภรรยาชอบละกัน คือ CX 5  กับ BMW 320D iconic

-อ้าวทำไมเลือก 320d iconic / ภรรยาบอกว่ามันไม่เวอร์มาก ราคาก็รับได้

-อ้าวทำไมเลือก CX 5 2.2XDL / ไปลองมาแล้ว CX 5 ตอบโจทย์กว่า CRV (เหตุผลส่วนตัว)

-อ้าวไม่เลือก new camry ล่ะ / บริษัทที่ภรรยาทำงาน มีให้ใช้ครับเพิ่งได้มา เป็นตัวท็อปไฮบริดโฉมใหม่

-อ้าวถามต่อ ทำไมไม่เอามาใช้ล่ะ ตอบ อยากได้รถไว้ใช้ส่วนตัวด้วย และอีกอย่างไว้ให้ลูกน้องออกไปติดต่องาน

-อ้าวแล้วมาสด้า 2 ล่ะ / ผมเอามาขับเอง ยังไงลูกผมก็นั่งได้ 10 ขวบแล้ว จริงๆ ที่ซื้อ CRV G3 มาใช้ตอนนั้น ก็เพราะลูกน่ะครับ หลายๆ ท่านที่มีลูกทราบดีว่าของใช้ของเด็กคนนึงเยอะแค่ไหน

ไปเที่ยวไหนที ก็หอบไปขนไป แทบหมดบ้าน รถเก๋งคันเล็กๆ เอาไม่อยู่ เลยต้องเป็นคั้นนี้  / แต่พอโตแล้วอีโค่คาร์มันก็นั่งได้ ก็เลยว่าจะใช้มาสด้า 2 ไปสักพักแล้วค่อยมองหารถที่เหมาะกับเรา (ผมชอบ CIVIC)

-อ้าวแล้ว CRV ที่ใช้ล่ะ / รถปัญหาไม่เยอะก็จริงแต่มันก็มีมาให้ปวดหัวเรื่อยๆ ครับ และอีกอย่าง เทคโนโลยี สมรรถนะ ความประหยัด ฯลฯ ของรถสมัยนี้มันต่างกันมากกับรถ 10 ปีที่แล้ว ราคามันก็แพงตามยุคสมัย (ใช่ไหมครับ) 

**ส่วนเรื่องข้อมูลด้านการเงินเห็นหลายท่านสงสัยว่า มีแค่นี้จะไหวหรอ ก็อยากบอกว่า จริงๆ แล้วตั้งงบผ่อนสูงสุดไว้ไม่เกิน 35K/เดือน แต่ลึกๆ แล้วภรรยาไม่อยากฟุ่มเฟือยมากเกินไปเลยไม่ได้เอามานับด้วย เงินดาวน์มีก้อนนึงประมาณ 6.5 - 700K+ (ยังไม่นิ่ง)

ภรรยาผมทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ตำแหน่ง HR.Director ควบ Procurement Director  / ผมเป็นข้าราชการ ตำแหน่ง นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ เป็นหัวหน้าฝ่าย

รายได้ต่อเดือนไม่เกิน 200K หักค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด น้ำ ไฟ โทรศัพท์ internet ประกันชีวิต 3 คน พ่อ แม่ ลูก อื่นๆ รวมประมาณ 50K/เดือน  เหลือเท่าไรก็ไม่รู้ ภรรยาผมถือเงิน

ไม่ต้องถามก็รู้ว่าภรรยาเงินเดือนประมาณเท่าไร และมากกว่าเงินเดือนผมเท่าไร  ..แต่เงินเดือนผม ผมก็ไม่ได้ถือ.. ภรรยาให้เงินผมไปทำงาน วันละ 200 รวมซื้อข้าวเย็นให้ลูกด้วย  ประมาณนี้ครับ

สุดท้าย ขอบคุณทุกท่านมากๆ ครับ ที่เสียสละเวลามาให้คำแนะนำอีกครั้ง ขอให้ทุกท่านโชคดีมีความสุข ขอบคุณครับ

ให้ตังค์ไปทำงาน 200 5555555555 งั้นตามใจภรรยาเลยครับ แต่เชียร์ CX-5 นะ คิคิ ไม่ก็ ขยับไป C220D ก็ได้ครับ
Toyota Camry 2.0G ACV41 2012 MC Black Interior
Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 2WD MY 2017
Ssangyong Stavic SV270  2006
Honda HR-V EL 2016
Toyota Fortuner 2.4V 2WD Big MC 2020
Haval H6 PHEV 2022
Mercedes-Benz C350e Dynamic Plug-in Hybrid 2023

ออฟไลน์ decptt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,572
เข้ามาขอบคุณอีกครั้งครับ ครั้งนี้ได้อ่านหลายๆ คำแนะนำแล้วมีประโยชน์มาก ส่วนตัวความรู้เรื่องรถญี่ปุ่น แต่ละยี่ห้อที่สนใจไม่ว่ารุ่นไหนก็ตาม จะไม่ค่อยมีปัญหาเพราะว่าของมันเคย

อยากได้หรือชอบ หรืออยากทดลองของใหม่ ผมเข้าไปลองมาหมด  C D segment /suv /ppv /crossover /eco ...toyota...honda...mitsubishi...nissan...mazda ที่เอ่ยมาลองมาแล้ว แต่..แต่

แต่รถยุโรปนี่สิ ไม่มีความรู้เรื่องการใช้ชีวิตกับยี่ห้อเหล่านี้ ไม่เคยลองขับ-ลองนั่ง แต่ด้วยความที่ถ้ามันมีได้โดยไม่เดือดร้อนอะไรเลยก็อยากได้ไว้สักคัน อย่างน้อยเป็นหน้าตา ในงานที่ทำของภรรยา

(รถคันที่ถามทุกท่านนี้ ภรรยาจะเป็นคนใช้ครับ) ดังนั้นหลังจากที่ถามทุกท่านแล้ว เลยเล่าให้ภรรยาฟัง...ในเหตุผลของทุกท่าน  จนได้ตัวเลือกที่ว่า เอาที่คุณภรรยาชอบละกัน คือ CX 5  กับ BMW 320D iconic

-อ้าวทำไมเลือก 320d iconic / ภรรยาบอกว่ามันไม่เวอร์มาก ราคาก็รับได้

-อ้าวทำไมเลือก CX 5 2.2XDL / ไปลองมาแล้ว CX 5 ตอบโจทย์กว่า CRV (เหตุผลส่วนตัว)

-อ้าวไม่เลือก new camry ล่ะ / บริษัทที่ภรรยาทำงาน มีให้ใช้ครับเพิ่งได้มา เป็นตัวท็อปไฮบริดโฉมใหม่

-อ้าวถามต่อ ทำไมไม่เอามาใช้ล่ะ ตอบ อยากได้รถไว้ใช้ส่วนตัวด้วย และอีกอย่างไว้ให้ลูกน้องออกไปติดต่องาน

-อ้าวแล้วมาสด้า 2 ล่ะ / ผมเอามาขับเอง ยังไงลูกผมก็นั่งได้ 10 ขวบแล้ว จริงๆ ที่ซื้อ CRV G3 มาใช้ตอนนั้น ก็เพราะลูกน่ะครับ หลายๆ ท่านที่มีลูกทราบดีว่าของใช้ของเด็กคนนึงเยอะแค่ไหน

ไปเที่ยวไหนที ก็หอบไปขนไป แทบหมดบ้าน รถเก๋งคันเล็กๆ เอาไม่อยู่ เลยต้องเป็นคั้นนี้  / แต่พอโตแล้วอีโค่คาร์มันก็นั่งได้ ก็เลยว่าจะใช้มาสด้า 2 ไปสักพักแล้วค่อยมองหารถที่เหมาะกับเรา (ผมชอบ CIVIC)

-อ้าวแล้ว CRV ที่ใช้ล่ะ / รถปัญหาไม่เยอะก็จริงแต่มันก็มีมาให้ปวดหัวเรื่อยๆ ครับ และอีกอย่าง เทคโนโลยี สมรรถนะ ความประหยัด ฯลฯ ของรถสมัยนี้มันต่างกันมากกับรถ 10 ปีที่แล้ว ราคามันก็แพงตามยุคสมัย (ใช่ไหมครับ) 

**ส่วนเรื่องข้อมูลด้านการเงินเห็นหลายท่านสงสัยว่า มีแค่นี้จะไหวหรอ ก็อยากบอกว่า จริงๆ แล้วตั้งงบผ่อนสูงสุดไว้ไม่เกิน 35K/เดือน แต่ลึกๆ แล้วภรรยาไม่อยากฟุ่มเฟือยมากเกินไปเลยไม่ได้เอามานับด้วย เงินดาวน์มีก้อนนึงประมาณ 6.5 - 700K+ (ยังไม่นิ่ง)

ภรรยาผมทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ตำแหน่ง HR.Director ควบ Procurement Director  / ผมเป็นข้าราชการ ตำแหน่ง นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ เป็นหัวหน้าฝ่าย

รายได้ต่อเดือนไม่เกิน 200K หักค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด น้ำ ไฟ โทรศัพท์ internet ประกันชีวิต 3 คน พ่อ แม่ ลูก อื่นๆ รวมประมาณ 50K/เดือน  เหลือเท่าไรก็ไม่รู้ ภรรยาผมถือเงิน

ไม่ต้องถามก็รู้ว่าภรรยาเงินเดือนประมาณเท่าไร และมากกว่าเงินเดือนผมเท่าไร  ..แต่เงินเดือนผม ผมก็ไม่ได้ถือ.. ภรรยาให้เงินผมไปทำงาน วันละ 200 รวมซื้อข้าวเย็นให้ลูกด้วย  ประมาณนี้ครับ

สุดท้าย ขอบคุณทุกท่านมากๆ ครับ ที่เสียสละเวลามาให้คำแนะนำอีกครั้ง ขอให้ทุกท่านโชคดีมีความสุข ขอบคุณครับ

เพื่อนผม เคยพูดว่า "ของมันต้องมี"
รถยุโรปเป็นรถใฝ่ฝันของหลายๆคน บางคน ซื้อตลอด บางคน แค่คันเดียว เพื่อนผม เพิ่งออก 320GT (ปล. BSI 10ปี) ราคาลดแล้วเหลือ 2.4 ครับ เพิ่งจองงานมอเตอร์โชว์ ต่างจังหวัดนะครับ
บางอย่างมันคาใจเรา ดังนั้น มันต้องลองให้รู้ เมื่อความอยากหมดไป ต่อไปเราก็ใช้เหตุผลเยอะขึ้น
ในความคิดผม ต้องมีสัก 1 คันก่อนครับ รถยุโรป ยังไงก็ต้องซื้อด้วย"อารมณ์" อาจจะใช้ตลอดไป หรือแค่ 1คันในชีวิต แต่"ต้องมี" เพื่อ"ประสบการณ์"
^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2018, 11:20:18 โดย decptt »

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
อ่านสองบันทัดสุดท้ายแล้วน้ำตาไหลไม่รู้ตัว 555 ที่คุยให้ความเห็นกันมา อาจจบด้วยวลี "เค้าจะเอาคั้นนี้......555" เอวัง