3 ข้อแรก โจทย์ค่อนข้างทำให้ 2 ดีเซลได้เปรียบครับ
อัตราเร่งดี ประหยัดมากจริงไม่อิงจอ handling ดีสมตัวในรถระดับขนาดนี้ พื้นที่คับแคบแต่พอใช้งานแค่ 1-2 คนตามโจทย์
จนมาเจอข้อสุดท้าย... อันนี้ Jazz คงเอาไปกินในภาพรวม
2 ถ้ารถมันไม่มีปัญหาอะไร มันก็จะดีอยู่ครับ ระวังแค่เรื่องค่าบำรุงรักษาที่แพงกว่าขาวบ้านจากราคาค่าอะไหล่บางตัวและค่าแรงหลัง 30,000 km ที่แพงเกินคุณภาพการบริการไปหงมากก็พอ
แต่ถ้ามีปัญหาเมื่อใด ไม่จบครับ ช่างไม่จบ บ. แม่ก็สั่งให้แก้ตามอาการโดยลดการเคลมชิ้นส่วนที่มีต้นทุนให้ได้มากที่สุด ตอนนี้อาการเครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้นที่เป็นโรคประจำตัว 2017 ก็เริ่มเจอบ้างแล้ว เจอ 0 เคลมดีก็ต้องเกาะให้แน่นครับ แต่ บ.แม่คงไม่ทำอะไรไปมากกว่านี้แล้วนอกจากปล่อยอัพเดตซอฟต์แวร์ ECU และโปรแกรมเผาเขม่า แล้วรอวันรถลูกค้าหมดประกันแล้วก็ไม่ต้องรับผิดชอบชิ้นส่วนไป
ถ้าคุณเป็นคนที่ได้ใช้อัตราเร่งที่ 2 ดีเซลมี "เป็นประจำ" ย้ำว่าเป็นประจำ ออก ตจว. มากพอๆ เป็นสัดส่วนกับที่ต้องใช้รถในเมือง ศึกษาด้านความรู้เครื่องยนต์กลไกไว้บ้าง รับได้กับค่าบำรุงรักษาในระยะประกันที่สูงกว่ารถระดับเดียวกันหน่อย และหลังหมดประกันคงต้องดูแลตัวเองที่มากกว่าการพึ่งพา 0 ก็จัดไปครับ 2 ดีเซล ปีนี้ออพชั่นของตัวล่างสุดดีเซลเรียกได้ว่าเทียบเท่ารองท็อปเมื่อ 2-3 ปีก่อนแล้ว จอ Touch , แอร์ออโต้ , Keyless , เบาะหลังพับแยกฝั่ง , กระจกข้างพับไฟฟ้า , ไฟหน้าและปัดน้ำฝน Auto , กล้องถอยหลัง ฯลฯ มีมาให้แล้ว ขาดแต่ดิสก์เบรกหลังแค่นั้นเลยที่จะเท่ารองท็อปเมื่อตอนนั้น
ถ้าที่กล่าวมามันค่อนข้างขัดกับสิ่วที่ จขกท. เป็นและต้องการ ไป Jazz ครับ