โพลล์

ทานกาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลังแล้วไปต่อ
21 (40.4%)
นอนพักที่ปั๊มให้หายง่วง  จนร่างกายรู้สึกสดชื่น
31 (59.6%)
ทนขับไปต่อเพราะกลัวไม่ทันเวลา
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 52

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อเกิดอาการง่วงเวลาเดินทางไกล  (อ่าน 8900 ครั้ง)

ออฟไลน์ Caraddictor

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
  • Depression inside
    • อีเมล์
Re: เมื่อเกิดอาการง่วงเวลาเดินทางไกล
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: เมษายน 15, 2019, 21:27:29 »
จริงๆอยากกดอีกหัวข้อ เเต่มันไม่มี คือการให้คนอื่นขับครับ เเต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคนนั่งไปด้วยสิครับ

เเต่ถ้าเอาส่วนตัวผมนะ การให้คนที่ไม่ง่วงขับให้ มันวินวินนะ อย่างเช่นสมมุติ พัทยา กลับ กรุงเทพ ทุกคนเหนื่อยกันหมด คนที่ดูจะเหนื่อยน้อยสุด ให้ขับไปครึ่งทาง เเล้วให้ที่เหลือหลับ

เมื่อคนขับคนเเรกรู้สึกล้า ก็เเวะปั๊ม เปลี่ยนคนขับครับ ผลัดกัน เเล้วคนขับคนเเรกก็ไปพัก อีกคนมาขับ วางแผนก่อนออกเดินทางก็ดีครับ ปลอดภัยที่สุด ที่สำคัญ ไม่ฝืนร่างกายครับ ไม่ไหวคือไม่ไหว

สงกรานต์นี้ ขับขี่ปลอดภัยกันนะครับทุกคน อิอิ ;D
-//2013 Camry hybrid //2017 Mu-x Minorchange 3.0 DADVD
//2008 Crv 2.4 AWD

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
Re: เมื่อเกิดอาการง่วงเวลาเดินทางไกล
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: เมษายน 15, 2019, 23:44:42 »
ผมนอนครับ

ล่าสุดไปเชียงราย (เวียงป่าเป้า) ออกจากกรุงเทพสองทุ่ม ใช้เส้นลำปาง ตัดเข้าแจ้ห่ม(เส้น 1035) วังเหนือ แล้วออกแม่ขะจาน ระยะทาง 770 กม.
ถ้าเป็นเมื่อก่อนหนุ่มยี่สิบปลายๆ คงหวดรวดเดียวมาจอดพักที่หน้าขนส่งลำปาง แล้วถึง วปป. ตั้งแต่หกโมงเช้า

แต่พออายุใกล้หลักสี่ ง่วงครับ ต้องจอดแวะพักหลายที่

เช่น

1. ปตท.เถิน เข้าห้องน้ำล้างน้ำ ทำธุระ เข้า 7-11 ซี้อกาแฟกระป๋องกับผ้าเช็ดหน้าและน้ำเปล่า 
บิดขี้เกียจแล้วไปต่อ

2. ปตท.แม่พริก เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า

3. จอดเติมน้ำมันที่ ปตท. หน้าขนส่งลำปาง เข้าห้องน้ำ ทำธุระ ล้างหน้าล้างตา

4 .เส้นแจ้ห่ม ช่วงนั้นหกโมงกว่า ไม่ไหวแล้วครับ LDW เตือนจนหน้าจอบอกให้พักได้แล้ว
เลยตัดสินใจเข้าปั้ม PT เขียว แล้วจอดนอนชั่วโมงนึง ตื่นมาก็ล้างหน้าล้างตา เข้าห้องน้ำ ค่อยไปต่อ

กว่าจะถึง วปป.ได้ ล่อไปเกือบเก้าโมงเช้า ในชีวิตไม่เคยขับรถถึงช้าขนาดนี้มาก่อน
แต่ทำไงได้ ร่างกายไม่เหมือนหนุ่มๆแล้วครับ

ออฟไลน์ AnUt^_^

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 157
Re: เมื่อเกิดอาการง่วงเวลาเดินทางไกล
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: เมษายน 16, 2019, 10:21:15 »
จอดพักละครับ ไม่ฝืน ต้องดูสภาพร่างกายเราด้วย  ถ้ามเื่อก่อนตอนวัยรุ่นสบาย อัดยาวๆได้ทั้งคืน ตอนนี้แตะเลข 4 แล้ว ได้แค่ไหนแค่นั้นครับ

ง่วงก็พักครับ ตอนขับแล้วง่วงมากๆมันทรมานครับ  พร้อมจะวูบได้ตลอดเวลา และหลีกเลี่ยงการขับช่วงเที่ยงคืน-เช้าครับ

และสำคัญสุดๆ จะไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล ถ้ารู้ว่าจะต้องเดินทางไกลหรือขับรถ   

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
Re: เมื่อเกิดอาการง่วงเวลาเดินทางไกล
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: เมษายน 16, 2019, 16:20:58 »
ต้องจอดครับ จะงีบหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องพักครับ ไม่งั้นฝืนไป อันตรายครับ

ออฟไลน์ flybigbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,564
Re: เมื่อเกิดอาการง่วงเวลาเดินทางไกล
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: เมษายน 16, 2019, 20:04:34 »
ถ้าไปคนเดียว ง่วงก็จอดรถนอนที่ปั๊มน้ำมัน

ถ้าไป2คนขึ้นไปและมีคนขับรถเป็นก็สลับกันขับ

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,191
    • อีเมล์
Re: เมื่อเกิดอาการง่วงเวลาเดินทางไกล
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: เมษายน 17, 2019, 17:39:25 »
สิ่งสำคัญ นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
ง่วงๆ จอดนอนพัก สัก 30 นาที ตื่นมา ล้างหน้า ซื้อนมกาแฟสักกล่อง หรือ ซุปไก่แบรนด์ ไปต่อได้ครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
Re: เมื่อเกิดอาการง่วงเวลาเดินทางไกล
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: เมษายน 18, 2019, 11:09:14 »
ผมขับรถกลางคืนบ่อย เดินทางออกต่างจังหวัดทุกๆ 2 อาทิตย์ ไปหาลูก ระยะยาง 550 กิโลเมตร(ไปกลับพันกว่า)

วันศุกร์เลิกงาน ก็กลับไปนอน ตั้งแต่ประมาณ 3 ทุ่ม ถึง ตี 1 - ตี 2 ก็ตื่นมา ได้นอนสัก 4-5 ชั่วโมง อาบน้ำหน่อยร่างกายกระปี้กระเป่าละ แล้วก็ออกจากกรุงเทพฯ ถึงปลายทางก็ เช้าๆ กินข้าวเช้าพอดี

การ ง่วงนอน = อยากนอนหลับ เพลีย เมื่อยล้า => ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ต้อง "นอน" ครับ

ตัวเองรู้ตัวดี คนที่หลับใน ไม่ใช่ไม่รู้ตัวว่าง่วงนะ แต่ "ฝืน!!!!" ต่างหาก

ส่วนตัวมองว่า ฝืนไป ทนไป อาจจะเสียใจภายหลัง ได้ไม่คุ้มเสีย ถึงเป้าหมายเร็วขึ้นก็จริง แต่ความเสี่ยงก็มากเช่นกัน ไม่ใช่เสี่ยงเฉพาะกับตัวเองนะ ทั้งเพื่อร่วมทาง และ คนใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย(บางทีวิ่งเข้าบ้านเรือน supermarket ก็มี ซึ่งไม่ใช่คนใช้ถนนด้วยซ้ำ) และไหนจะคนที่อยู่ข้างหลังที่ต้องรับผิดชอบและเสาหลักอีก ไม่คุ้มเสี่ยงเลย

ปล.ผมเห็นบางคนบอกว่า การขับช้าแล้วง่วง จึงต้องขับเร็ว เป็นความคิดที่ผิดมหันต์เลย ทั้งหลักการก็ไม่ใช่ละ และยังมองว่าเป็นเหตุผลที่เป็นข้ออ้างมากกว่านี้ ผมว่ามันไม่ใช่เลย