E39 เป็นรถที่ดีในตำนานครับ
ได้รางวัล world best executive car of the world ในยุคนั้นเลย
ขับดี เสียงเพราะ ช่วงล่างเยี่ยม แรงพอตัว
แต่จากประสบการณ์ของผม มันซ่อมไม่จบ ปีนึงเสียค่าซ่อม หลักแสน พอแก้ตรงนี้ ก็ไปเสียตรงโน้น วนๆไป
สุดท้ายไฟรั่ว รื้อทั้งคันก็แก้ปัญหาไม่ได้ เลยจำใจขายทั้งๆที่รักมันมากๆครับ
ส่วนw124 เทียบกันไม่ได้แน่ๆเรื่องสมรรถนะ แต่ดูจากจำนวนรถยนต์บนถนนแล้ว มีมากกว่า e39 เสียอีก แสดงว่า รถม้นซ่อมจบ ทน ถึก ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
ที่ จขกท เอาข้ามรุ่นมาเทียบกัน เดาว่าคงราคาใกล้เคียงกัน เพราะ e39 ราคาตกมากกว่าอยู่แล้ว เข้าใจว่าถ้าได้มาสภาพไม่เนี๊ยบเป๊ะจริงๆ คงต้องซ่อมวนๆไป
ลองเอาข้อมูลไปพิจารณาดูครับ
อ่านคำตอบของคุณ Koko86 มาพักนึง โดยเฉพาะคำตอบเกี่ยวกับการเลือกรถ ด้วยความที่ผมชอบรถที่ขับดี(และงบน้อย) เลยชอบมองมือสองมากกว่า เลยแค่ "รับฟัง" แต่ยังไม่ถึงกับ "เห็นด้วย" ... ได้มาอ่านความเห็นนี้แล้วฉุกคิดได้ว่าคุณ Koko86 ต้องมีนิสัยอย่างนึงที่ผมเริ่มๆจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ คือเรื่องชอบรถเนี๊ยบและรำคาญเก็บงาน ...
ของพวกนี้เป็นโรคติดต่อครับ ผมเองยังคิดอยากจะทำโรงรถ หรือห้องเก็บของที่วางอะไหล่รถสวยๆแบบคุณturinเลย
ผมเคยเจ็บมาเยอะจริงๆกับe39 โดนอู่หลอกฟันเรื่องปั๊มติ๊กด้วย 30,000กว่าบาท เจ็บ...แต่ไม่จบ ช้ำครับ
ผมก็ชอบอ่านคอมเม้นท์ คุณ koko86 , คุณ Turin และอีกบางท่านในบอร์ดนี้ คอมเม้นท์คุณภาพ และมีวุฒิภาวะดีครับ เผอิญเล่นบอร์ดรถมานาน เคยเห็นเว็บอื่นที่สงสัยเด็กไม่มีมารยาทเยอะไปหน่อย 55 ไม่ได้มีรถรุ่นนั้นก็โม้ว่ามี พอผิดก็มักถอดล็อคอินใช้ร่างอวตารมาเถียงต่อ ในบอร์ดนี้ก็พอเห็นอยู่บ้าง แต่น้อยกว่าที่อื่น
ตอนนี้เรื่องรถเลยคุยเฉพาะบอร์ดนี้บอร์ดเดียว และไปคุยเฉพาะในกลุ่มคนที่รู้จักกันในชีวิตจริง
เห็นราคาปั๊มติ๊ก e39 คุณ koko86 เลยไปค้นดูที่เคยบันทึกค่าซ่อม e39 คันที่เคยใช้ว่ามีเปลี่ยนบ้างรึเปล่า ปรากฎว่ามีเปลี่ยนเหมือนกัน 9,000 บาท จำไม่ได้แล้วว่าของประเภทไหนเพราะ 9 ปีมาแล้ว ขายไปนานแล้วคันนี้ ของผมตอนใช้ e39 มีอู่ประจำ ผมอยู่แถวถนนนราธิวาสแต่วิ่งไปเข้าอู่นอกแถวศรีนครินทร์ ซ่อมจบทุกอาการ เลยใช้บริการเรื่อยมา (ผมเรียก พี่สิทธิ เสียดายว่าแกเสียไปไม่นานมานี้) ราคาอะไหล่ต่างๆที่ซ่อมที่เห็นในรูปข้างล่าง เป็นราคาเมื่อปี 2010
พวกรถเก่านี่แล้วแต่คันว่าได้มาสภาพไหน และแล้วแต่อู่จริงๆครับว่าซ่อมจบรึเปล่า