ขอคำแนะนำเกจวัดต่างๆสำหรับรถ Set Turbo ครับ, Auto Meter ดีรึเปล่าครับ

[pine125]

สวัสดีครับ

อยากจะมาขอคำแนะนำสำหรับ เกจวัดต่างๆสำหรับรถ Set Turbo ครับ เน้นใช้งานจริง

ตอนแรกเล็ง Defi ไว้ แต่แพงเหลือเกิน มือสองครบๆ ยังราคา 25k-28k แถมอุปกรณ์เพียบเลย ไหนจะตัว เกจ + สาย link + กล่อง adv + remote + สายกลาง + Sensor
เยอะแยะไปหมด แพงทุกชิ้น

อีกตัวเลือกนึงคือ Auto Meter ของฝั่ง US แท้ ราคาต่อตัวอยู่ราวๆ 3500-4000 เอง ใน packages ก็จบครบชุด วัดเป็นอย่างๆไป ไม่มีกล่อง control หรือสายต่างๆมากมายให้วุ่นวายใจ
โดยส่วนตัวผมว่าสวยดีนะ คนใช้น้อยกว่า Defi ดูหนังพวก us ส่วนใหญ่ก็เห็นใช้ Auto Meter ซะเยอะ ตาม YouTube ก็เช่นกัน ส่วนตัวไม่มีปัญหากับค่าที่ต่างกัน bar > psi หรือ °C > °F

ขอถามเป็นข้อๆนะครับ

1. Auto Meter ในการใช้งานเป็นอย่างไรบ้างครับ ดีรึเปล่า เทียบเท่า Defi ได้หรือไม่ ในด้านการใช้งานจริง?
2. สำหรับใครที่ใช้อยู่ในเครื่อง เบนซิน พอจะแชร์รูปการติดตั้งใช้งานจริงบนหน้าคอนโซลรถ ให้ดูได้รึเปล่าครับ?
3. จากข้อมูลด้านบน ผมเข้าใจถูกต้องรึเปล่าครับ?
4. รถบ้าน Set Turbo อย่างนี้ ต้องมีวัดค่าอะไรบ้างครับ?
5. Auto Meter ราคาถูกกว่าเพราะลูกเล่นต่างๆน้อยกว่าใช่รึเปล่าครับ?
6. Auto Meter ขณะใช้งานตอนกลางคืน มันมีไฟส่องหน้าปัทม์รึเปล่าครับ?

ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นครับ

ถ้าจะให้ดีขอคนที่มีประสบการณ์ใช้งานพวกเกจวัด(ขอแท้)มาจริงๆนะครับ จะยี่ห้ออะไรก็ตามครับ ใช้ของปลอมมาไม่เอานะครับ

***รถ City 2013 ครับ***


ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับผม 

[DiKiBoyZ]

ขอแนะนำอีก 1 ตัวเลือก คือ แบบ OBD ครับ
แม่น ตรง และ ราคาไม่แพง แถมไม่ต้องตัดต่อสายไฟ สายน้ำมัน สายน้ำ ด้วย แค่อาจจะซื้อเกจวัด boots ตัวเดียวพอ เพราะถ้า turbo ติดเอง ไม่มีค่าออกจาก OBD

[20TRF]

ตอบคำถามจขกทใ ผมก็เล็ง A-meter อยู่เหมือนกันครับ

ขอแนะนำอีก 1 ตัวเลือก คือ แบบ OBD ครับ
แม่น ตรง และ ราคาไม่แพง แถมไม่ต้องตัดต่อสายไฟ สายน้ำมัน สายน้ำ ด้วย แค่อาจจะซื้อเกจวัด boots ตัวเดียวพอ เพราะถ้า turbo ติดเอง ไม่มีค่าออกจาก OBD

ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมครับ วัดค่าจาก OBD มันตรงความเป็นจริงเหมือนติดเซ็นเซอร์ตามจุดต่างๆไม๊ครับ เช่นพวกน้ำ ไฟ เพรชเชอร์
พอดีจะเปลี่ยนจากเกจธรรมดามาเป็นจออันเดียวครับ

[pine125]

ขอแนะนำอีก 1 ตัวเลือก คือ แบบ OBD ครับ
แม่น ตรง และ ราคาไม่แพง แถมไม่ต้องตัดต่อสายไฟ สายน้ำมัน สายน้ำ ด้วย แค่อาจจะซื้อเกจวัด boots ตัวเดียวพอ เพราะถ้า turbo ติดเอง ไม่มีค่าออกจาก OBD

สงสัยครับ แล้วรถ set turbo ต้องการเกจวัด เพื่อดูอะไรบ้าง

เพราะ OBDII เท่าที่ทราบ คือจะดึงข้อมูลจากหน้าปัทม์รถนั่นแหละ ออกมาให้ดูเพิ่มเติม ซึ่งที่ใกล้เคียงสุดคือ อุณหภูมิหม้อน้ำ ได้แค่นั้นคร่าวๆ ไม่สามารถดู Oil press, Oil temp ได้

ถ้าผมเข้าใจผิดถูกยังไง ช่วยแย้งทีครับ

credit: http://car.boxzaracing.com/knowledge/16531

[Amnaj]

obd + เกจวัดบูส ก็พอไม่รกรุงรัง

[Turin]

จำเป็นจริงๆเห็นจะเป็นวัดบูสท์นั่นแหละครับ ... ถ้าเค้นมากๆอาจจะมี af (แต่อันนี้แพงและติดตั้งให้อ่านค่าดีๆยาก) นอกนั้นใช้ ODB2 reader ง่าย ตรง ถูก ไม่รุงรังครับ

ปล. สั่ง autometer ที่ไหนครับ ผมพยายามหาแล้วไม่ค่อยเจอเจ้าที่ขายของแท้เลย
ปล2. เข้าใจว่าราคาประมาณนี้คือแบบ mechanic .. ถ้าเป็น electronic ที่แม่นยำกว่า ก็ราคาไม่หนีจาก defi เท่าไหร่

[Krongbun]

ลอง OBD2 Cag 3000-4000 หรือจะเล่นแท้ Defi ไม่รู้เท่าไหร่
แล้วก็บูสคงต้องติดเพิ่มเองถ้ารถไม่เคยมีโบมาก่อน

ค่าบางอย่างรถบางรุ่นมันมีตัวจับหมดครับ ทั้ง Oil temp Oil press
แต่เค้าไม่ทำโชว์เพราะมันไม่จำเป็นกับผู้ใช้งานทั่วไป

[Pat.C]

รถบ้านเซ็ทโบ ผมว่าหลักๆ ควรมี อุณหภูมิหม้อน้ำ วัดบูสต์ แรงดันน้ำมันเครื่อง

ส่วนอุณหภูมิ นมค. แปรผันอุณหภูมิหม้อน้ำอยู่แล้ว พอจะดูเป็นไกด์ไลน์ได้

แรงดันเบนซิน ถ้าโมเยอะ ก็ควรมี เผื่อแรงดันถอยในรองสูง ลูกจะลาโลกเอา

อุณหภูมิไอเสีย แรงดันแบตฯ เสียบ obd ดูได้ จริงๆ อุณหภูมิหม้อน้ำก็เสียบดู obd ได้เหมือนกัน

ส่วนยี่ห้อเคยซื้อ autometer ที่ไม่ใช่ไฟฟ้า ถ้าเป็นเกจ์วัดตระกูลแรงดัน จะต่อเข้ามาวนที่เกจ์วัด ไม่ใช่ระบบไฟฟ้าแบบ Defi

ผมก็เลยขายไป กลัวรั่วในรถ บันเทิงแน่นอน

[DiKiBoyZ]

ตอบคำถามจขกทใ ผมก็เล็ง A-meter อยู่เหมือนกันครับ

ขอแนะนำอีก 1 ตัวเลือก คือ แบบ OBD ครับ
แม่น ตรง และ ราคาไม่แพง แถมไม่ต้องตัดต่อสายไฟ สายน้ำมัน สายน้ำ ด้วย แค่อาจจะซื้อเกจวัด boots ตัวเดียวพอ เพราะถ้า turbo ติดเอง ไม่มีค่าออกจาก OBD

ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมครับ วัดค่าจาก OBD มันตรงความเป็นจริงเหมือนติดเซ็นเซอร์ตามจุดต่างๆไม๊ครับ เช่นพวกน้ำ ไฟ เพรชเชอร์
พอดีจะเปลี่ยนจากเกจธรรมดามาเป็นจออันเดียวครับ

วัดจาก OBD มันตรงกว่าเซนเซอร์ติดเองแน่นอน เพราะมันเป็นเซนเซอร์ของรถที่ติดมาจากโรงงาน แค่เกจแบบ OBD ดึงมาแสดงเท่านั้น มันสามารถแสดงมากกว่าหน้าปัดเรือนไมล์แสดงได้ เพราะหน้าปัดเรือนไมล์มันแสดงแค่บางอย่างหลักๆ เท่านั้น

ขอแนะนำอีก 1 ตัวเลือก คือ แบบ OBD ครับ
แม่น ตรง และ ราคาไม่แพง แถมไม่ต้องตัดต่อสายไฟ สายน้ำมัน สายน้ำ ด้วย แค่อาจจะซื้อเกจวัด boots ตัวเดียวพอ เพราะถ้า turbo ติดเอง ไม่มีค่าออกจาก OBD

สงสัยครับ แล้วรถ set turbo ต้องการเกจวัด เพื่อดูอะไรบ้าง

เพราะ OBDII เท่าที่ทราบ คือจะดึงข้อมูลจากหน้าปัทม์รถนั่นแหละ ออกมาให้ดูเพิ่มเติม ซึ่งที่ใกล้เคียงสุดคือ อุณหภูมิหม้อน้ำ ได้แค่นั้นคร่าวๆ ไม่สามารถดู Oil press, Oil temp ได้

ถ้าผมเข้าใจผิดถูกยังไง ช่วยแย้งทีครับ

credit: http://car.boxzaracing.com/knowledge/16531

รถเดิมๆ ไม่มี Turbo มันก็จะไม่มีเซนเซอร์วัด Boots ติดมาจากโรงงานไงครับ ถ้ารถ Turbo จากโรงงานมันก็มีเลย ไม่ต้องติดเพิ่มยิ่งดีไปใหญ่

แต่รถของ จขกท. ไม่ใช่รถ Turbo จึงไม่มี ก็เลยให้ติดเซนเซอร์สำหรับเกจวัด Boots พอ ที่เหลือถ้าจะติดเกจ 3 ตัว 6 ตัว ก็ไม่ต้องติดเซนซอร์เพิ่มแล้ว ก็ดึงค่าจาก OBD มาแสดงเลย มันมีเป็น Set ให้คุณเลือก Shopping ได้เลย

หรือคุณจะไม่ชอบเกจเยอะๆ ก็ใช้เกจ OBD หลักตัวเดียว และ ก็วัด Boots พอละ ไม่รก ไม่เลอะเทอะ

อันนี้คือค่า OBD ที่ผม Link กับตัวกล้องติดรถผม มันก็แสดงแทบจะครบหมดทุกค่าแล้ว

[Weetting]

1. Auto Meter ในการใช้งานเป็นอย่างไรบ้างครับ ดีรึเปล่า เทียบเท่า Defi ได้หรือไม่ ในด้านการใช้งานจริง?
     ถามใหม่ดีกว่า  Defi  ดีเท่า Auto meter รึยัง   นอกจากสวยงาม       
2. สำหรับใครที่ใช้อยู่ในเครื่อง เบนซิน พอจะแชร์รูปการติดตั้งใช้งานจริงบนหน้าคอนโซลรถ ให้ดูได้รึเปล่าครับ?
3. จากข้อมูลด้านบน ผมเข้าใจถูกต้องรึเปล่าครับ?
4. รถบ้าน Set Turbo อย่างนี้ ต้องมีวัดค่าอะไรบ้างครับ?
    วัดบูสต์,water Temp,  สำคัญจริงๆมีแค่นี้  ถ้าให้เลือกอีกตัวผมขอดูความร้อน ไอดีก่อนเข้าฝาสูบ ถ้าให้เลือกตัวที่4ตัวผมเอา Oil Temp 
5. Auto Meter ราคาถูกกว่าเพราะลูกเล่นต่างๆน้อยกว่าใช่รึเปล่าครับ?
    ใช่ครับ
6. Auto Meter ขณะใช้งานตอนกลางคืน มันมีไฟส่องหน้าปัทม์รึเปล่าครับ?
    แล้วแต่รุ่นครับ    ต้องยอมรับว่าหน้าจอไม่แพรวพราวไม่สวย  แต่ใช้งานเที่ยงตรงกว่าครับ


แนะนำ OBD ครับ  แล้วติดวัดบสต์ตัวเดียวพอ

[madboy]

วัดจาก OBD มันตรงกว่าเซนเซอร์ติดเองแน่นอน เพราะมันเป็นเซนเซอร์ของรถที่ติดมาจากโรงงาน แค่เกจแบบ OBD ดึงมาแสดงเท่านั้น มันสามารถแสดงมากกว่าหน้าปัดเรือนไมล์แสดงได้ เพราะหน้าปัดเรือนไมล์มันแสดงแค่บางอย่างหลักๆ เท่านั้น

ค่าที่วัดจาก OBD เทียบกับ พวกที่ซื้อแยกเป็นของตกแต่ง ตัวไหนวัดแม่นยำกว่าต้องไปดูที่ specification และ performance ของชิ้นนั้นๆ หรือ เอาไปวัดเทียบกับของที่แม่นยำกว่า ถึงจะตอบได้ว่าตัวไหนแม่นยำกว่ากัน

แต่ว่า !!! ค่าที่อ่านจาก OBD คือค่าที่ ECU ในรถใช้ ก็ถือได้ว่าเป็นค่ามาตรฐานของรถคันนั้นๆได้ครับ อ้างอิงได้ (แต่ไม่เกี่ยวกับความแม่นยำของอุปกรณ์) 

[mochalatte]

ผมเคยติดตั้ง gauges บนรถ evo8 น่าจะเกือบครบทุกอย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นยี่ห้อ Blitz เพราะไฟสีส้มมัน match กับหน้าปัดรถและไฟ ambient ทั้งหมด มีบางตัวใช้ Greddy, AEM, Apexและอีกบางตัว
ถ้าเป็นยุคนี้ผมคงไปแบบ OBD2ตัวเดียวและเพิ่ม...
1)boost gaugeเพราะมีไฟเตือนกระพริบฯเวลาเกือบถึง highest ที่จูนไว้
2)Oil Temp และ Water Temp ถ้ารถรุ่นที่ไม่มีมาให้
3)Turbo Timer
แค่นี้น่าจะเพียงพอ ที่เหลือตัว OBD2 จะเก็บ data login ไว้เพื่อปรับปรุงและวิเคราะห์ในการจูน
สาบานได้เวลาขับจริงไม่เคยละสายตาไปอ่าน gauges 8-9ตัวนี้เลยยกเว้น Boostที่ติดตั้งไว้ใกล้ๆข้างพวงมาลัย ยิ่งตอนขับเร็วนี่ Boost ก้อมองไม่ทัน อาศัยไฟกระพริบเตือน
เอาไว้มองตอนรถติด...เออทุกอย่างก้อปกติดี OBD2 ก้อทำได้
แต่ที่ชอบมากที่สุดคือตอนสตาร์ทเครื่อง ทุก gauges ตีไปขวาสุดแล้วกลับมายังจุดเริ่มต้นที่เซ็นเซอร์จับไว้
มันคุ้มสุดเลยครับสำหรับผม

[pine125]

ผมเคยติดตั้ง gauges บนรถ evo8 น่าจะเกือบครบทุกอย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นยี่ห้อ Blitz เพราะไฟสีส้มมัน match กับหน้าปัดรถและไฟ ambient ทั้งหมด มีบางตัวใช้ Greddy, AEM, Apexและอีกบางตัว
ถ้าเป็นยุคนี้ผมคงไปแบบ OBD2ตัวเดียวและเพิ่ม...
1)boost gaugeเพราะมีไฟเตือนกระพริบฯเวลาเกือบถึง highest ที่จูนไว้
2)Oil Temp และ Water Temp ถ้ารถรุ่นที่ไม่มีมาให้
3)Turbo Timer
แค่นี้น่าจะเพียงพอ ที่เหลือตัว OBD2 จะเก็บ data login ไว้เพื่อปรับปรุงและวิเคราะห์ในการจูน
สาบานได้เวลาขับจริงไม่เคยละสายตาไปอ่าน gauges 8-9ตัวนี้เลยยกเว้น Boostที่ติดตั้งไว้ใกล้ๆข้างพวงมาลัย ยิ่งตอนขับเร็วนี่ Boost ก้อมองไม่ทัน อาศัยไฟกระพริบเตือน
เอาไว้มองตอนรถติด...เออทุกอย่างก้อปกติดี OBD2 ก้อทำได้
แต่ที่ชอบมากที่สุดคือตอนสตาร์ทเครื่อง ทุก gauges ตีไปขวาสุดแล้วกลับมายังจุดเริ่มต้นที่เซ็นเซอร์จับไว้
มันคุ้มสุดเลยครับสำหรับผม

รบกวนถามต่อครับ แล้วปรับบูส GReddy new Profec นี่จำเป็นใช่รึเปล่าครับ?

[civic666]

ปรับบูสต์ถ้ามั่นใจว่าจะไม่ปรับสูงเกินเครื่องทนได้เวลาโดนฉีกก็ใส่ได้ครับแต่ต้องแท้เท่านั้นไม่งั้นบูสต์ไหลไส้แตก
 ถ้ามีงบติดอย่างน้อยควรมี
1.boost
2.oil press
3.oil temp
4.fuel press
ถ้ารถไม่มีเกจความร้อนก็เพิ่มwater temp
ส่วนdefiกับautometer ต่างกันที่ลูกเล่น ความสวยงามครับ ความแม่นยำค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่Dej มีให้เลือกหลายแบบกว่า ถ้าไม่ชอบกล่องรุงรังจะมีseries แบบติดเดี่ยวได้ ราคาย่อมเยากว่า ถ้าติดเดี่ยวก็จะคล้ายautometer
ส่วนautometerถ้าใช้พวกวัดpressure ทั้งหลาย ควรใช้หน้านำ้มันเพราะจะนิ่งกว่าเนื่องจากautometer ใช้แมคคานิคในเกจไม่ได้ใช้step motor แบบdefi
ไฟกลางคืนมีทั้ง2เจ้าแต่ความแพรวพราวdEfiเยอะกว่า
แต่ไม่ว่าจะเอายี่ห้อไหน ขอให้แท้ครับ ถ้าไม่แท้แล้วค่าเพี้ยนก็ไม่รู้จะใส่ทำไม รู้อีกทีก็พังไปแล้ว

[DiKiBoyZ]

วัดจาก OBD มันตรงกว่าเซนเซอร์ติดเองแน่นอน เพราะมันเป็นเซนเซอร์ของรถที่ติดมาจากโรงงาน แค่เกจแบบ OBD ดึงมาแสดงเท่านั้น มันสามารถแสดงมากกว่าหน้าปัดเรือนไมล์แสดงได้ เพราะหน้าปัดเรือนไมล์มันแสดงแค่บางอย่างหลักๆ เท่านั้น

ค่าที่วัดจาก OBD เทียบกับ พวกที่ซื้อแยกเป็นของตกแต่ง ตัวไหนวัดแม่นยำกว่าต้องไปดูที่ specification และ performance ของชิ้นนั้นๆ หรือ เอาไปวัดเทียบกับของที่แม่นยำกว่า ถึงจะตอบได้ว่าตัวไหนแม่นยำกว่ากัน

แต่ว่า !!! ค่าที่อ่านจาก OBD คือค่าที่ ECU ในรถใช้ ก็ถือได้ว่าเป็นค่ามาตรฐานของรถคันนั้นๆได้ครับ อ้างอิงได้ (แต่ไม่เกี่ยวกับความแม่นยำของอุปกรณ์) 

คุณคิดว่าบริษัทรถเขาเอาอุปรกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเซนเซอร์ที่แค่อ่านค่าเหมาะสมกับรถคันนั้น เพี้ยนหรือไม่แม่นยำหรือไม่เที่ยงตรงไม่เป็นไร เหรอครับ??

ผมว่าคุณคิดผิดแล้ว 

บริษัทรถ เขาจะนำอุปกรณ์ที่เป็นพวก เซ็นเซอร์ จาก supplier อะไรก็ไม่รู้ มาใส่ในรถ 1 คัน โดยสนใจแค่ว่ามันใช้กับรถคันนี้ได้ โดยไม่สนใจค่าที่วัดออกมาตรงจริงหรือป่าว แบบว่า +/- เป็น 10 เลย ขอแค่ถ้ารถคันนั้นใช้งานได้ก็บอกว่าโอเค ไม่สนค่าที่เพี้ยนเป็น 10 ช่างหัวมันไรงี้

แค่นี้ ผมว่าไม่ใช่ละครับ เพราะบริษัทรถ กว่าเขาจะ commit ชิ้นส่วนแต่อย่างได้ เขาต้องมี benchmark หลายตัวครับ ว่าจะได้มาแต่ชิ้นส่วน

[pine125]

ปรับบูสต์ถ้ามั่นใจว่าจะไม่ปรับสูงเกินเครื่องทนได้เวลาโดนฉีกก็ใส่ได้ครับแต่ต้องแท้เท่านั้นไม่งั้นบูสต์ไหลไส้แตก
 ถ้ามีงบติดอย่างน้อยควรมี
1.boost
2.oil press
3.oil temp
4.fuel press
ถ้ารถไม่มีเกจความร้อนก็เพิ่มwater temp
ส่วนdefiกับautometer ต่างกันที่ลูกเล่น ความสวยงามครับ ความแม่นยำค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่Dej มีให้เลือกหลายแบบกว่า ถ้าไม่ชอบกล่องรุงรังจะมีseries แบบติดเดี่ยวได้ ราคาย่อมเยากว่า ถ้าติดเดี่ยวก็จะคล้ายautometer
ส่วนautometerถ้าใช้พวกวัดpressure ทั้งหลาย ควรใช้หน้านำ้มันเพราะจะนิ่งกว่าเนื่องจากautometer ใช้แมคคานิคในเกจไม่ได้ใช้step motor แบบdefi
ไฟกลางคืนมีทั้ง2เจ้าแต่ความแพรวพราวdEfiเยอะกว่า
แต่ไม่ว่าจะเอายี่ห้อไหน ขอให้แท้ครับ ถ้าไม่แท้แล้วค่าเพี้ยนก็ไม่รู้จะใส่ทำไม รู้อีกทีก็พังไปแล้ว

สรุป ตัดสินใจสั่งซื้อ Defi Advance ZD Club Sport มาครับ ตัวเดียวมาพร้อม Sensor ครบเลย ราคาสั่งจากญี่ปุ่นค่อนข้างดีมากเลย เดี๋ยวคงซื้อดู Boost อีกอย่างก็จบเลยครับ

สงสัยต่อครับ เลือกติดอันใดอันหนึ่งได้รึเปล่าครับ ระหว่างวัดบูส กับ ปรับบูส GReddy profec ผมชักจะงงว่ามันต่างตรงไหน เห็นแค่ GReddy ปรับบูสได้แค่นั้น แต่เวลาขับก็มีเลขวัดบูสให้เห็นเหมือนกัน

[madboy]

วัดจาก OBD มันตรงกว่าเซนเซอร์ติดเองแน่นอน เพราะมันเป็นเซนเซอร์ของรถที่ติดมาจากโรงงาน แค่เกจแบบ OBD ดึงมาแสดงเท่านั้น มันสามารถแสดงมากกว่าหน้าปัดเรือนไมล์แสดงได้ เพราะหน้าปัดเรือนไมล์มันแสดงแค่บางอย่างหลักๆ เท่านั้น

ค่าที่วัดจาก OBD เทียบกับ พวกที่ซื้อแยกเป็นของตกแต่ง ตัวไหนวัดแม่นยำกว่าต้องไปดูที่ specification และ performance ของชิ้นนั้นๆ หรือ เอาไปวัดเทียบกับของที่แม่นยำกว่า ถึงจะตอบได้ว่าตัวไหนแม่นยำกว่ากัน

แต่ว่า !!! ค่าที่อ่านจาก OBD คือค่าที่ ECU ในรถใช้ ก็ถือได้ว่าเป็นค่ามาตรฐานของรถคันนั้นๆได้ครับ อ้างอิงได้ (แต่ไม่เกี่ยวกับความแม่นยำของอุปกรณ์) 

คุณคิดว่าบริษัทรถเขาเอาอุปรกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเซนเซอร์ที่แค่อ่านค่าเหมาะสมกับรถคันนั้น เพี้ยนหรือไม่แม่นยำหรือไม่เที่ยงตรงไม่เป็นไร เหรอครับ??

ผมว่าคุณคิดผิดแล้ว 

บริษัทรถ เขาจะนำอุปกรณ์ที่เป็นพวก เซ็นเซอร์ จาก supplier อะไรก็ไม่รู้ มาใส่ในรถ 1 คัน โดยสนใจแค่ว่ามันใช้กับรถคันนี้ได้ โดยไม่สนใจค่าที่วัดออกมาตรงจริงหรือป่าว แบบว่า +/- เป็น 10 เลย ขอแค่ถ้ารถคันนั้นใช้งานได้ก็บอกว่าโอเค ไม่สนค่าที่เพี้ยนเป็น 10 ช่างหัวมันไรงี้

แค่นี้ ผมว่าไม่ใช่ละครับ เพราะบริษัทรถ กว่าเขาจะ commit ชิ้นส่วนแต่อย่างได้ เขาต้องมี benchmark หลายตัวครับ ว่าจะได้มาแต่ชิ้นส่วน

แล้วท่านคิดว่า มันวัดได้แม่นยำแค่ไหนครับ +/- กี่ % 

[mochalatte]

ปรับบูสต์ถ้ามั่นใจว่าจะไม่ปรับสูงเกินเครื่องทนได้เวลาโดนฉีกก็ใส่ได้ครับแต่ต้องแท้เท่านั้นไม่งั้นบูสต์ไหลไส้แตก
 ถ้ามีงบติดอย่างน้อยควรมี
1.boost
2.oil press
3.oil temp
4.fuel press
ถ้ารถไม่มีเกจความร้อนก็เพิ่มwater temp
ส่วนdefiกับautometer ต่างกันที่ลูกเล่น ความสวยงามครับ ความแม่นยำค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่Dej มีให้เลือกหลายแบบกว่า ถ้าไม่ชอบกล่องรุงรังจะมีseries แบบติดเดี่ยวได้ ราคาย่อมเยากว่า ถ้าติดเดี่ยวก็จะคล้ายautometer
ส่วนautometerถ้าใช้พวกวัดpressure ทั้งหลาย ควรใช้หน้านำ้มันเพราะจะนิ่งกว่าเนื่องจากautometer ใช้แมคคานิคในเกจไม่ได้ใช้step motor แบบdefi
ไฟกลางคืนมีทั้ง2เจ้าแต่ความแพรวพราวdEfiเยอะกว่า
แต่ไม่ว่าจะเอายี่ห้อไหน ขอให้แท้ครับ ถ้าไม่แท้แล้วค่าเพี้ยนก็ไม่รู้จะใส่ทำไม รู้อีกทีก็พังไปแล้ว

สรุป ตัดสินใจสั่งซื้อ Defi Advance ZD Club Sport มาครับ ตัวเดียวมาพร้อม Sensor ครบเลย ราคาสั่งจากญี่ปุ่นค่อนข้างดีมากเลย เดี๋ยวคงซื้อดู Boost อีกอย่างก็จบเลยครับ

สงสัยต่อครับ เลือกติดอันใดอันหนึ่งได้รึเปล่าครับ ระหว่างวัดบูส กับ ปรับบูส GReddy profec ผมชักจะงงว่ามันต่างตรงไหน เห็นแค่ GReddy ปรับบูสได้แค่นั้น แต่เวลาขับก็มีเลขวัดบูสให้เห็นเหมือนกัน

ถ้าเป็นรถ turbo ยุคปัจจุบัน boost controller ของ Greddyอาจจะไม่จําเป็นเพราะ wastegate เป็นระบบไฟฟ้า สามารถจูนหลอกให้เปิด-ปิดตามค่าของ boostที่เพิ่มขึ้น แถม blow of valve หรือ dump valve มาช่วยปล่อยแรงดันตอนถอนคันเร่ง
ถ้ารถ จขกท มาติดโบเพิ่มทีหลังคงต้องมีทั้ง 2ตัวนี้

boost controller มีไว้เพื่อเพิ่ม psi ในขณะที่จะทําหน้าที่หลอก wastegate ว่ามันอยู่เท่าเดิม wastegate จะได้ไม่เปิดเร็วเกินไป
boost gauge มีไว้เพื่อคอยดูว่าจะไม่เกิน boost ที่ตั้งค่าไว้ มีประโยชน์มากครับ เพราะบางทีที่จูนไว้อาจมีข้อผิดพลาดจะได้นําไปแก้ไข หรือจะได้หยุดจมคันเร่งต่อถ้าเห็นว่าไม่ปกติ overboosted มากฯนี่ติดต่อยานแม่มาได้เลย แล้วเตรียมรอชุดลูกสูบใหม่ บางรุ่นมี function เรียกดูได้ว่า peak boost ที่เท่าไหร่

[pine125]

ปรับบูสต์ถ้ามั่นใจว่าจะไม่ปรับสูงเกินเครื่องทนได้เวลาโดนฉีกก็ใส่ได้ครับแต่ต้องแท้เท่านั้นไม่งั้นบูสต์ไหลไส้แตก
 ถ้ามีงบติดอย่างน้อยควรมี
1.boost
2.oil press
3.oil temp
4.fuel press
ถ้ารถไม่มีเกจความร้อนก็เพิ่มwater temp
ส่วนdefiกับautometer ต่างกันที่ลูกเล่น ความสวยงามครับ ความแม่นยำค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่Dej มีให้เลือกหลายแบบกว่า ถ้าไม่ชอบกล่องรุงรังจะมีseries แบบติดเดี่ยวได้ ราคาย่อมเยากว่า ถ้าติดเดี่ยวก็จะคล้ายautometer
ส่วนautometerถ้าใช้พวกวัดpressure ทั้งหลาย ควรใช้หน้านำ้มันเพราะจะนิ่งกว่าเนื่องจากautometer ใช้แมคคานิคในเกจไม่ได้ใช้step motor แบบdefi
ไฟกลางคืนมีทั้ง2เจ้าแต่ความแพรวพราวdEfiเยอะกว่า
แต่ไม่ว่าจะเอายี่ห้อไหน ขอให้แท้ครับ ถ้าไม่แท้แล้วค่าเพี้ยนก็ไม่รู้จะใส่ทำไม รู้อีกทีก็พังไปแล้ว

สรุป ตัดสินใจสั่งซื้อ Defi Advance ZD Club Sport มาครับ ตัวเดียวมาพร้อม Sensor ครบเลย ราคาสั่งจากญี่ปุ่นค่อนข้างดีมากเลย เดี๋ยวคงซื้อดู Boost อีกอย่างก็จบเลยครับ

สงสัยต่อครับ เลือกติดอันใดอันหนึ่งได้รึเปล่าครับ ระหว่างวัดบูส กับ ปรับบูส GReddy profec ผมชักจะงงว่ามันต่างตรงไหน เห็นแค่ GReddy ปรับบูสได้แค่นั้น แต่เวลาขับก็มีเลขวัดบูสให้เห็นเหมือนกัน

ถ้าเป็นรถ turbo ยุคปัจจุบัน boost controller ของ Greddyอาจจะไม่จําเป็นเพราะ wastegate เป็นระบบไฟฟ้า สามารถจูนหลอกให้เปิด-ปิดตามค่าของ boostที่เพิ่มขึ้น แถม blow of valve หรือ dump valve มาช่วยปล่อยแรงดันตอนถอนคันเร่ง
ถ้ารถ จขกท มาติดโบเพิ่มทีหลังคงต้องมีทั้ง 2ตัวนี้

boost controller มีไว้เพื่อเพิ่ม psi ในขณะที่จะทําหน้าที่หลอก wastegate ว่ามันอยู่เท่าเดิม wastegate จะได้ไม่เปิดเร็วเกินไป
boost gauge มีไว้เพื่อคอยดูว่าจะไม่เกิน boost ที่ตั้งค่าไว้ มีประโยชน์มากครับ เพราะบางทีที่จูนไว้อาจมีข้อผิดพลาดจะได้นําไปแก้ไข หรือจะได้หยุดจมคันเร่งต่อถ้าเห็นว่าไม่ปกติ overboosted มากฯนี่ติดต่อยานแม่มาได้เลย แล้วเตรียมรอชุดลูกสูบใหม่ บางรุ่นมี function เรียกดูได้ว่า peak boost ที่เท่าไหร่

ขอรบกวนถามต่อครับ

ตัว Defi ZD สามารถซื้อแค่ sensor สำหรับดูบูสได้รึเปล่าครับ เพื่อให้แสดงผลบน zd

ถ้าได้ ต้องซื้อ sensor อะไรครับ

พอดีผมกะว่า ติด zd ตัวเดียว ดูได้ครบๆไปเลย ไม่รกหน้ารถด้วยครับ

เป็น set Defi Advance club sport ครับ
มาครบๆ กล่อง+รีโหมด+zd+sensor temp2ตัว+sensor press1ตัว ครับ

[mochalatte]

เข้าไปอ่านมาให้แล้วครับ defi ตัวนี้ ไม่สามารถอ่านค่าหรือแสดง turbo boost ได้ครับ

[madboy]

ZD ดูบูสต์ไม่ได้ครับ