ผู้เขียน หัวข้อ: BYDกำไร...Teslaขาดทุน  (อ่าน 15073 ครั้ง)

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,265
BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« เมื่อ: เมษายน 29, 2019, 18:18:28 »

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,265
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 29, 2019, 18:23:49 »
ผมคิดว่า สาเหตุ น่าจะมาจาก ขนาดของบริษัท ที่ต่างกันมาก

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,330
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 29, 2019, 19:07:40 »
เห็นแล้วนึกถึงกรณี Apple กับ huawei

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,593
    • อีเมล์
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 29, 2019, 19:31:54 »
เป้าหมายบริษัทเขาต่างกันครับ
BYD เหมือนๆกับบริษัททั่วไปคือทำเพื่อกำไร เพื่อความยิ่งใหญ่ในตลาดหุ้น
แต่ tesla เขาตั้งบริษัทมาเพื่อเปลี่ยนโลกครับ กำไรเป็นเรื่องรอง ทำราคาให้ถูกที่สุดเพื่อให้รถไฟฟ้าได้รับความนิยมไว้ก่อน ซึ่งที่นอร์เวย์ อเมริกา และอีกหลายๆประเทศก็ทำสำเร็จไปแล้ว

ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าโลกนี้ไม่มีเทสล่า รถไฟฟ้าและBYD คงไม่ได้เกิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 29, 2019, 19:37:39 โดย koko86 »

ออฟไลน์ Disk™

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,153
  • High Society Sallon Gallery
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 29, 2019, 19:35:16 »
พูดถึง R&D ที่ลงทุนก็ต่างกันครับ แต่ถ้า Tesla ยังขาดทุนต่อเนื่องอย่างนี้ ถ้าวันใดเพิ่มทุนไม่ได้ อาจจะโดนซื้อโดยบริษัทรถครับ
User Review : ฟิล์มเซรามิค SolarFX (รีวิวแรกของผมครับ)
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53654.0

User Review : Remap ECU Toyota Fortuner ที่ ECU Thailand by RPT
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=71384.0

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 29, 2019, 20:09:12 »
เงินเดือนผู้บริหารสูงไป ส่วนใหญ่บริษัทใหญ่ๆมักประสบปัญหานี้

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 29, 2019, 20:30:51 »
ขนาด Model3 ขายดีเว่อๆเลยนะนี่  :-\

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 30, 2019, 00:50:02 »
บริษัทอยู่ในช่วงลงทุนสร้างโรงงานลงทุนด้าน r&d อย่างหนักหน่วง จะเอากำไรมาจกใหนหละครับ ขายรถได้มาเท่าไหร่ก็ต้องมาลงกะโรงงาน
กำลังการผลิตยังไม่พอเย back order กองเป็นภูเขาแล้วครับ
BYD เริ่มขายรถด้วยรถน้ำมันนะครับ  แล้ถึงต่อยอดมารถไไฟฟ้า

มันไม่ควรจะเอามาเทียบกันเลยต่างหาก ไปดูรถไฟฟ้าล้วนๆที่เป็นบริษัทใหม่ๆของจีนเลยครับ มีไหมที่มีกำไรกันแล้ว

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 30, 2019, 01:17:50 »
เป้าหมายบริษัทเขาต่างกันครับ
BYD เหมือนๆกับบริษัททั่วไปคือทำเพื่อกำไร เพื่อความยิ่งใหญ่ในตลาดหุ้น
แต่ tesla เขาตั้งบริษัทมาเพื่อเปลี่ยนโลกครับ กำไรเป็นเรื่องรอง ทำราคาให้ถูกที่สุดเพื่อให้รถไฟฟ้าได้รับความนิยมไว้ก่อน ซึ่งที่นอร์เวย์ อเมริกา และอีกหลายๆประเทศก็ทำสำเร็จไปแล้ว

ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าโลกนี้ไม่มีเทสล่า รถไฟฟ้าและBYD คงไม่ได้เกิด

เป้าหมายต่างกันนี่ใช่ครับ

แต่รถไฟฟ้าและ BYD ไม่ได้เกิดเพราะ Tesla แต่เกิดเพราะการตื่นตัวด้านมลภาวะและการสนับสนุนของรัฐบาลจีน

Tesla เป็นผู้ที่ทำรถยนต์ไฟฟ้าออกมาขายได้ดีเจ้าแรกๆ ก็จริงครับ มีผลกับความคิดของคนต่อรถยนต์ไฟฟ้า แต่ Impact ที่ทำให้มันเกิดได้คือนโยบายภาครัฐครับ อย่าลืมว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีก่อนยุครถไฟฟ้าบูมคือ Nissan Leaf นะครับ

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,265
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 30, 2019, 04:16:50 »
บริษัทอยู่ในช่วงลงทุนสร้างโรงงานลงทุนด้าน r&d อย่างหนักหน่วง จะเอากำไรมาจกใหนหละครับ ขายรถได้มาเท่าไหร่ก็ต้องมาลงกะโรงงาน
กำลังการผลิตยังไม่พอเย back order กองเป็นภูเขาแล้วครับ
BYD เริ่มขายรถด้วยรถน้ำมันนะครับ  แล้ถึงต่อยอดมารถไไฟฟ้า

มันไม่ควรจะเอามาเทียบกันเลยต่างหาก ไปดูรถไฟฟ้าล้วนๆที่เป็นบริษัทใหม่ๆของจีนเลยครับ มีไหมที่มีกำไรกันแล้ว
ในไตรมาส 1 ของปี 2562 ที่เพิ่งจบไปเมื่อสิ้นเดือนมี.ค. ทาง BYD หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีนนั้นขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ทั้งหมด 73,172 คัน เพิ่มขึ้น 147% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และจากยอดขายมากขนาดนี้ทำให้ BYD มีกำไรเพิ่มขึ้น 632% คิดเป็นมูลค่า 750 ล้านหยวน (ราว 3,500 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตามตัวเลข 73,172 คันนั้นเป็นแค่รถยนต์ไฟฟ้าที่ BYD จำหน่ายเท่านั้น เพราะปัจจุบันบริษัทยังขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในด้วย โดยในไตรมาส 1 ก็ขายไปทั้งสิ้น 44,406 คัน และเมื่อรวมรถยนต์ไฟฟ้า กับรถยนต์สันดาปภายในก็จะขายทั้งหมด 117,578 คัน ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้ากินสัดส่วนมากกว่า

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 30, 2019, 05:15:54 »
Tesla ผลิตมาต่อคันก็ขาดทุนแล้วครับ  ตอนนี้เลยไปหาโรงงานทำที่เซี่ยงไฮ้ อนาคตคงจะกลับมากำไรได้บ้าง
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เมษายน 30, 2019, 07:50:04 »
เป้าหมายบริษัทเขาต่างกันครับ
BYD เหมือนๆกับบริษัททั่วไปคือทำเพื่อกำไร เพื่อความยิ่งใหญ่ในตลาดหุ้น
แต่ tesla เขาตั้งบริษัทมาเพื่อเปลี่ยนโลกครับ กำไรเป็นเรื่องรอง ทำราคาให้ถูกที่สุดเพื่อให้รถไฟฟ้าได้รับความนิยมไว้ก่อน ซึ่งที่นอร์เวย์ อเมริกา และอีกหลายๆประเทศก็ทำสำเร็จไปแล้ว

ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าโลกนี้ไม่มีเทสล่า รถไฟฟ้าและBYD คงไม่ได้เกิด

+1

ออฟไลน์ 20TRF

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 535
    • อีเมล์
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: เมษายน 30, 2019, 08:33:16 »
  เหมือนบ.ที่ผมทำงานอยู่เลยครับ เน้น R&Dเป็นหลัก อันไหนที่คิดว่าไม่ใช่นวัตกรรมอนาคตก็ขายทิ้ง อันไหนที่คิดว่าเป็นอนาคตก็ลงทุน
เช่น auto pilot กับ e-mobility นี่ก็เล่นซะ business unit ติดลบไปเกือบ10ปี กว่าจะคืนทุน
  แต่ก็รู้สึกดีกว่าทำ C&D เยอะ ถึงโบนัสจะหดยาวๆแต่เห็นรถยนต์บนถนนวิ่งด้วยนวัตกรรมที่บ.คิดและผลิตส่งให้OEM ก็ฟินแล้วครับ

ออนไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: เมษายน 30, 2019, 11:00:05 »
เป้าหมายบริษัทเขาต่างกันครับ
BYD เหมือนๆกับบริษัททั่วไปคือทำเพื่อกำไร เพื่อความยิ่งใหญ่ในตลาดหุ้น
แต่ tesla เขาตั้งบริษัทมาเพื่อเปลี่ยนโลกครับ กำไรเป็นเรื่องรอง ทำราคาให้ถูกที่สุดเพื่อให้รถไฟฟ้าได้รับความนิยมไว้ก่อน ซึ่งที่นอร์เวย์ อเมริกา และอีกหลายๆประเทศก็ทำสำเร็จไปแล้ว

ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าโลกนี้ไม่มีเทสล่า รถไฟฟ้าและBYD คงไม่ได้เกิด

ผมว่าไม่น่าจะใช่ครับ

Tesla ไม่ใช่บริษัทแรกที่ผลิตรถไฟฟ้านะ และไม่ใช่บริษัทจุดประกายหรือสร้างแรงบันดาลใจให้บริษัทอื่นแต่อย่างใดเลย

เพราะในช่วงที่ Tesla มาทำรถ EV นั้น ถ้าคงไม่ลืม ยังมี Nissan Leaf ที่ขายอยู่และขายดี แต่ราคารถอาจจะไม่แพง รูปร่างหน้าตาอาจจะไม่หวือหวา และ ไม่ค่อยเป็นกระแส แค่นั้นเอง (แต่ก็ไม่ได้หมายถึง Nissan ไปเป็นแรงบันดาลใจให้ใครนะ)

แต่ถ้าการสร้างความฮือฮา และ เป็นกระแส ในโลกของรถ EV อาจจะใช่ที่เป็น Tesla
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 30, 2019, 11:05:53 โดย DiKiBoyZ »

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 687
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: เมษายน 30, 2019, 12:38:27 »
รถของรัฐอุ้ม เดินตามนโยบายลดมลพิษแบบเร่งด่วน
มีฐานการผลิตเอง รวมทั้งชิ้นส่วนเครือข่าย
ราคาไม่แพง คนจนซื้อได้ ผ่อนไหว
5g รองรับเต็มระบบ ไม่รีดกับคนซื้อรถ
คุณภาพตามราคา แพงมากกับถูกมากต่างกันเยอะ

ขนาดเย ไปลองของ ต้องยอมขายหุ้นเพื่อแลกกับไม่ต้องย้ายไปผลิตประเทศอื่น
ไม่วายกล้องเลนส์แพงเวอร์ คุณภาพก็ไม่เหนือกว่าชาวบ้าน ยังไม่ดูเงาหัวงานนี้เจ๊งแหง
เอาเรื่องโกหกมาเล่า เป็นแผ่นเสียงตกร่อง คนปักกิ่งสมัยนั้นมีเงินซื้อแฮมเบอเกอร์กี่คน

รถของเอกชนพึ่งกลุ่มทุน คิดเองบางส่วน ชิ้นส่วนง้อเขาขาย
สุดท้ายต้องให้ยักษ์ใหญ่ถือหุ้น บริหารแบบงูกินหาง
ไม่เอายี่ปั้ว ไม่ต้องส่งหน้าร้าน ขายทางเน็ต ระดมทุนแบบเงินจอง
ระบบสื่อสารกำลังพัฒนาแต่รัฐไม่สนับสนุน
ต้นทุนวัตถุดิบโดนขึ้นภาษี ขนาดฮาร์เลย์ย้ายไปก่อน
พอให้ต่างชาติถือหุ้นมาก หาว่าไม่เอาเมกัน
สุดท้ายย้ายไปจีนแดงสบายใจกว่า เงินเข้ากระเป๋าเต็มๆ

ผลไม้พิษ เพราะเอาฝ่ายจัดหา สายส่งมาคิดอะไรใหม่แทนคนเก่า
ออกแบบบางส่วน ที่เหลือจ้างเขา
อยากกินรวบคนเดียว แบบอารยธรรมโซนี่
ตอนนี้ยังลูกผีลูกคน เพราะตัวถัง ช่วงล่าง ออกแบบให้เจ๋งเองไม่ได้
ออกแบบให้ดีทนมากก็ไม่เอา ต้องอัพซอฟท์แวร์แบบรวนๆ
กะเอาแบบมือถือที่ขายตอนนี้ จนเกาหลีจีนแดงเริ่มแซง

ตัวถัง ช่วงล่าง ระบบไฟ แอร์ เกียร์ ก็หน้าเดิมๆทำเหมือนเดิม
แล้วยี่ห้อที่ทำได้ครบวงจร แค่รับจ้างทำก็งานล้นมือแล้ว
ขนาดหุ่นประกอบ ไม่ยุ่น ก็ เย คนลงคำสั่งก็ต้องไปอบรม
ระบบสั่ง เก็บ ป้อน อะไหล่ โลกนี้มียี่ห้อเดียวที่คิดใหม่ได้
พอเจอแผ่นดินไหว ซึนามิ ก็สะดุดไปเกือบปี

ออฟไลน์ iKrit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,713
  • Blue. Just BLUE.
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: เมษายน 30, 2019, 13:07:31 »
เอาเข้าจริงน่าจะ GM ที่พยายามจุดกระแสรถไฟฟ้าด้วย EV1 แต่ดันยกเลิกโครงการไปเพราะหลายสาเหตุ ทั้งทางภาครัฐ การประกอบการ ความเชื่อมั่น และการกำจัดแบต ณ ตอนนั้น
ช่วงที่ EV1 กำลังดัง ค่ายอื่น ๆ อย่าง Honda Toyota ก็ทำ EV ร่วมด้วยเหมือนกัน แต่ก็พับโครงการตาม EV1 ไปอีก :'(

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ลองหาหนังเรื่อง "Who killed the electric car" ดูนะครับ
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,453
    • อีเมล์
Re: BYDกำไร...Teslaขาดทุน
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: เมษายน 30, 2019, 21:41:21 »
ผลประกอบการทางบัญชี เป็นแค่ตัวเลขครับ
ไม่สามารถตีความได้ตรงตัวโดยคนนอก