ผู้เขียน หัวข้อ: ขออนุญาตถามหลายคำถามเกี่ยวกับน้ำมันเครื่องครับ  (อ่าน 6830 ครั้ง)

ออฟไลน์ HeadEgg

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
1. ตอนสตาร์ทน้ำมันเครื่องควรจะมีค่าความหนืดน้อย ๆ จะได้ไหลไปหล่อลื่นส่วนต่าง ๆ ได้ดีจริงไหมครับ

2. น้ำมันเครื่องที่มีกำมะถันต่ำ (Low SPAsh พวก MB-Approval 229.51, 229.52) ไม่ควรใช้กับเชื้อเพลิง E85 จริงไหมครับ

(เอามาจาก https://uppic.cc/d/K33R)

3. น้ำมันเครื่องที่เป็น Ester-base ไม่ควรใช้กับ E85 จริงไหมครับ
(เอามาจาก https://uppic.cc/d/K33S)

4. ถ้าใช้ E85 ตลอด ควรใช้น้ำมันเครื่องประเภทไหน หลักเลี่ยงน้ำมันเครื่องประเภทไหนครับ

5. จะทราบได้อย่างไรว่าน้ำมันเครื่องแต่ละตัว ผ่านพวกเกฑณ์ทดสอบต่าง ๆ ปีไหนครับ (อย่าง MB-Approval, ACEA ก็เห็นมี 2002-2016) ข้างกระป๋องก็ไม่ยอมบอกซะด้วย

6. น้ำมันเครื่อง EURO ใส่กับรถญี่ปุ่นได้ปกติใช่ไหมครับ

7. น้ำมันเครื่องที่ระบุว่า ใช้ได้ถึง 15,000km หรือ 9 เดือน(ขึ้นอยู่กับว่าอันไหนถึงก่อน) ถ้าถึง 9 เดือนแล้วควรเปลี่ยนจริงไหมครับ

(ผมใช้รถไม่เยอะ คำนวณแล้วถ้า 9 เดือนจะอยู่ที่ 6,335 km โดยประมาณ แอบเสียดายครับ กะจะใช้ได้ถึงซัก 7,000-8,000 :-X)

8. ความเชื่อที่ว่าควรเพิ่มเบอร์ความหนืดน้ำมันเครื่อง กับเครื่องที่วิ่งมาเยอะ ถ้ามีปัญหาน้ำมันเครื่องหาย หรือคนที่เท้าหนักชอบลากรอบสูง  ๆ เป็นความจริงไหมครับ
(ที่เคยใช้กับตัวเอง จากที่ลองเปลี่ยนจาก เบอร์ 30 เป็น 40 กับเครื่องที่วิ่งมา 350,000km (ไม่เคย overhaul) พบว่าอาหารน้ำมันเครื่องหายดีขึ้นจริง แล้วก็อืดขึ้นจริง ๆ ครับ
แต่ที่ผมสนใจจริง ๆ คือเรื่องเหมาะกับคนเท้าหนักเนี่ย (ผมค่อนข้างเท้าหนักหน่อย ๆ) ถ้ามันปกป้องได้ดีกว่าจริงก็เลยคิดว่าน่าจะดี ?)

9. จากข้อ 1 กับ 8 ถ้าจะเพิ่มความหนืดควรเพิ่มเลขตัวหน้าด้วยไหมครับ จากสเปคเดิม 5W-30 ควรเพิ่มเป็น 10W-40 ไหมครับ หรือใช้พวก 0W, 5W จะดีกว่า
(ที่ผมถามเพราะผมใช้น้ำมันเครื่องยี่ห้อปั๊มแห่งชาติเบอร์ 5W-40 แล้วเหมือนมีปัญหาวาล์วดังตอนสตาร์ทใหม่ ๆ ครับ (ตั้งวาล์วแล้ว) ยิ่งถ้าช่วงไหนไม่สตาร์ทเกินวันยิ่งชัด แต่ถ้าวิ่งเยอะ ๆ บ่อย ๆ เสียงจะเบาลง
ช่างแถวบ้านผมโทษน้ำมันเครื่องก่อนเลย บอก "เพราะยี่ห้อปั๊มแห่งชาติ..., 0W ผิดสเปคเดิม (ตอนนั้นผมลืม คิดว่าตัวเองเติม 0W) มันใสไป มันไม่เกาะอยู่กับส่วนต่าง ๆ ของเครื่อง" เอ้า... เราก็ถามกลับไปว่า "เขาว่ากันว่าใสแล้วจะได้หล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดีตอนเช้าหนิครับ" เขาก็บอก "คิดแบบนั้นมันก็ได้ แต่ตอนนี้เป็นอย่างที่เห็น" .. อืมม มันก็ make sense ของแกนะ
เอาไปให้ช่างอีกคนดูก็ว่า.. "ปกติ น้ำมันเครื่องมันอาจมาหล่อเลี้ยงชุดวาล์วด้านบนไม่ดี" พอถามว่า "หรือเพราะน้ำมันเครื่องเป็น 0W-40 ?" แกก็บอก"มันใสไป(พูดเหมือนกันอีกและ) ควรใช้ 10W-40"
แต่ผมเห็นว่าน้ำมันเครื่องดี ๆ ส่วนใหญ่ ถ้าเบอร์ 40 จะเป็น 5W หรือ 0W หมดเลยครับ ถ้า 10W-40 จะเป็นยี่ห้อแปลก ๆ หรือ Semi ทั้งนั้นเลย)


ปล. ผมอาจจะเรียบเรียง งงๆ มีตรงไหนที่ไม่ได้ตั้งเป็นคำถามก็สามารถเสริมได้เลยนะครับ
ปล.2 แอบเข็ดกับนี่ห้อปั๊มแห่งชาติอยู่เหมือนกัน หลายคนชอบบอกว่าดี แต่จากการที่ใช้มา ไม่ค่อยถูกใจเลยครับ -.- แต่จริง ๆ ก็ยังไม่ได้เทียบที่เบอร์เดียวกันกับยี่ห้อดี ๆ ยังไม่อยากโทษเท่าไหร่ (ผมพึ่งมาจับรถจริง ๆ จัง ๆ ก่อนหน้าพ่อขับครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 20, 2019, 02:44:27 โดย HeadEgg »
EK 1996 - D16Y4 AT

ออฟไลน์ #อินเดียหน้าโจร

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,403
    • Need for slow - ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน
    • อีเมล์
คห.6 ผมตัดมาส่วนหนึ่ง ที่บอกว่า
"ถ้าใช้กับเบนซินแบบที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์จะใช้ได้ 20,000 กิโลเป็นอย่างน้อย แต่ถ้าใช้แก๊สโซฮอล์ก็ไม่ควรใช้ถึง E20 เพราะมันจะเสื่อมเร็วกว่าปกติ"

เขาน่าจะหมายถึง ถ้าใช้ E20 จะเสื่อมไวใช้ได้ไม่ถึง 2 หมื่นโล (อาจจะใช้ได้ถึง 1-1.5 หมื่น ก็ได้) ซึ่งผมก็ว่ามันเพียงพอนะครับ ส่วนเรื่องทฤษฎี ต้งรอท่านผู้รู้มาตอบครับ คุณ Jae ก็เป็นกูรูน้ำมันเครื่องท่านหนึ่งครับ

หมายเหตุ: ตามกฎของเวบนี้ ไม่ให้เอาลิ้งค์ของพันทิปมาแปะนะครับ ลองอ่านกฎที่ปักหมุดดูครับ ถ้าเป็นผม ผมจะใช้วิธีตัดลอกข้อความมาแปะแทนครับ
Altis 1.6 AT 2004 (Swap 2zz-ge 6MT)
Mazda 1.3 Sky

ออฟไลน์ Dubee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,534
1. ตอบ จริง
2. ตอบ ต้องดูสเปกยี่ห้อนั้นๆว่ารองรับ E85 ไหม ส่วนใหญ่ไม่ตายตัวครับ
3. ตอบ เหมือนความเห็น 2.
4. ตอบ ก็คง้องบอว่าต้องดูสเปกยี่ห้อนั้นครับว่ามีระบุไหมว่ารองรับให้ใช้ E85 ได้
5. ตอบ ดูชีต MSDS ตามเว็ปของยี่ห้อนั้นๆ ครับ มีบอกเป็นไฟล์ PDF บางยี่ห้อก้ไม่มีบอกก็ต้องสืบค้นตามกูเกิ้ลเอา
6. ตอบ ได้ สบายครับ
7. ตอบ ส่วนใหญสเปกนี้จะเป็นสเปกที่รองรับมาตรฐาน Dexos 1 หรือ 2 ของทางฝั่ง GM (อเมริกา) ครับ ถึงเวลาแล้วเปลี่ยนเถอะครับ เรื่องรถอย่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
8. ตอบ มันก็จริงบางส่วน มโนบางส่วนครับ
9. ตอบ เลขหน้าไม่ต้องไปดูครับ บ้านเราดูเขหลังเป็นหลัก

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
ตอนนี้ผมใช้ 5W-30 229.52 ตัวนึง กับ E85 อยู่

ไมล์รถแสนกว่า ไม่มีปัญหาอะไรครับ (นอกจากสตาร์ตยาวกว่า E10 ค่อนข้างมาก - เป็นปกติของมัน)

ตอบกลมๆ อย่างนี้

1. หนืดน้อยโอกาสไหลดีกว่า แต่บางรุ่นก็อ้างว่า ทำฟิล์มเกาะโลหะไว้แล้ว หนืดมากไม่เกี่ยว (ฮา)

2. ดูแค่ SAPS ไม่พอ แต่โดยรวม ผู้ผลิตน้ำมันเครื่องส่วนใหญ่ ไม่ได้การันตีการใช้กับ E85 อยู่แล้วครับ

3. หลีกเลี่ยงได้ดีกว่า เพราะเราไม่รู้ว่าสภาพเครื่องยนต์เราอยู่แบบไหน อีกอย่าง Ester-based จริงๆ ราคาสูงเอาเรื่อง

4. ตอบเหมือนข้อ 3 ครับ

5. ถ้าไม่ระบุ ให้ถือว่าไม่มีไว้ก่อนครับ ถ้ามีระบุ ตีตราผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของคุณสมบัติไว้ก่อนได้ ทั้งนี้ หลายมาตรฐานมันก็ขี่กัน
ต้องไปดูเกณฑ์ว่า ตัวไหนผ่านอะไร หลักการของการได้รับรอง ACEA C3 แต่ละปีต่างกันอย่างไร ILSAC มีเกณฑ์ขั้นต่ำอะไร ฯลฯ

6. ใช้ได้ครับ ใช้อยู่ครับ

7. 9 เดือน 6,335 โล ถ้า ชม. การทำงานไม่เยอะ ใช้ต่อได้ครับ

8. การยัดน้ำมันเครื่องเบอร์หนาโอเวอร์ไว้ก่อนเลย โดยไม่ได้มีข้อบ่งชี้ ไม่ได้ดีกับกระเป๋าคุณ
หลายคนเอะอะยัดเบอร์ 40-50 ไว้ก่อน มันไม่เหมือนมอเตอร์ไซค์ที่รอบการทำงานสูง เบอร์ต่ำเอาไม่อยู่จริง
ผล = เปลืองทุกอย่างเริ่มตั้งแต่ค่าน้ำมันกะน้ำมันเครื่องเลย ลองถามช่างเครื่องมือเซียนๆ ครับ เขาจะอธิบายคุณได้

9. ผ่าน ปตท. ไปครับ แต่อยากบอกว่า ส่วนมาก นมค. ที่เลขหน้าน้อยๆ มีโอกาสที่จะเป็นเกรดดีกว่าเลขหน้าสูงๆ
เช่น 0W-40 หลายยี่ห้อ ส่วนใหญ่ใช้เบสออยล์หรือ Additive ดีกว่า 5W-40 (ไม่ได้ 100% แต่ก็เกือบๆ ครับ)
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ wa330

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,567
เครื่องรุ่นใหม่ๆ เลขหน้าก็สำคัญครับ ควรตามสเปค
dmax1.9 ให้ใช้5w30 เอา15w30ใส่วาลว์มีปัญหาครับ

ออฟไลน์ AyeBAng

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 64
มีเรื่องหนึ่งที่ผมทราบคือ เมืองไทยเป็นเมืองร้อน เลขหน้าของน้ำมันเครื่อง ตั้ง 10W ถึง 0W จะได้ผลไม่แตกต่างกันครับ

ยิ่งเลขตัวหน้าน้อย 0W หมายความว่า ในที่อุณหภูมิยิ่งต่ำๆ ก็ยังคงความเหลวได้ดี ส่งผลให้ ตอนสตาร์ทรถ น้ำมันเครื่องไม่หนืดจนเกินไป ความสึกหรอก็น้อยลงครับ

เมืองไทยเป็นเมืองร้อน หน้าหนาว ตอนเช้า ยังอุณภูมิมากกว่า 10 องศาเลยครับ ใช้ 0W หรือ 10W ก็ไม่ต่างกันครับ (แต่น้ำมันเครื่องที่ 0W มันแพงกว่านะ)

ส่วนของ ปตท. ทางรถแท็กซี่ใช้กันเยอะ มันก็พิสูจน์แล้วว่าน้ำมันเครื่องของเขาก็ใช้ได้ในระยะยาว ปกติบริษัทไทย จะใช้วิธีซื่อสูตรจาก เมืองนอกมา แล้วเอามาทดสอบ และพัฒนาต่อไปครับ

เมืองไทย เป็นประเทศที่ ราคาน้ำมันเครื่องแพงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลย มาร์จิ้นของผู้ผลิตสูงมาก เพราะคนไทยมีความเชื่อว่า น้ำมันเครื่องดี มีผลต่อการรักษาเครื่องมาก หรือพูดง่าย ๆ คือ ติดยี่ห้อ และไม่ยอมเปลี่ยนยี่ห้อง่าย ๆ นั่นเอง เมืองนอกไม่ใช่แบบบ้านเรา

จริง ๆ แล้ว น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หลัก คือหล่อลื่นเท่านั้น นอกนั้นในน้ำมันเครื่อง ก็มีสารเพิ่มเติมเข้าไปเช่น เพิ่มค่าความหนืด สารให้เขม่าไม่ตกตะกอน ไม่เป็นกรดมากเกินไป ต้านทานการอ็อกซิเด้น ประมาณ 8-9 คุณสมบัติ  ไม่ได้ทำหน้าที่ด้านอื่นมากมาย (ไม่เหมือนกระแสเลือดในร่างกาย ทำหน้าที่เยอะ เอามาเทียบไม่ได้) จะบอกว่า น้ำมันเครื่อง ให้ผลในการใช้งานจริง ๆ ไม่ต่างกันมากในแต่ละยี่ห้อที่เราใช้กัน หากใช้รถ 5-7 ปีแล้วขาย ก็ใช้ยี่ห้อหลัก ๆ ได้เลย แทบไม่มีผลต่อเครื่องยนต์ครับ

ว่ากันว่า น้ำมันเครื่องที่ใช้งานหนักจริง ๆ ในสภาพใช้งานจริง คือเรือประมง เพราะเป็นเครื่องดีเซลใหญ่ และเปิด 24 ชม หากน้ำมันเครื่องไม่ดีจริง ใช้ไม่ได้ครับ

ออฟไลน์ johnlee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,603
    • อีเมล์
ผมสงสัยกรณี น้ำมันเครื่อง  ที่อ้างอิง  กับน้ำมันเชื้อเพลิง(กลุ่มเบนซิน)

คือน้ำมันเครื่อง  กับเชื้อเพลิง มันไปสัมผัสกันเหรอครับ  คือต้องไปคิดว่า  เบนซินใช้แบบนึง  อี20ใช้แบบนึง

มันไปทำงานเกี่ยวข้องกันตอนไหน?

ผมเห็นน้ำมันเครื่องมีหน้าที่หล่อลื่น ตั้งแต่หลังวาล์ว แหวนลูกสูบ  ข้อเหวี่ยง  ก็แค่นั้นเอง

มันต้องสนใจเหรอครับว่า พลังงานที่ส่งมาเผาไหม้ในห้องเผาไหม้  คือเชื้อเพลิงอะไร
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t

ออฟไลน์ HeadEgg

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
คห.6 ผมตัดมาส่วนหนึ่ง ที่บอกว่า
"ถ้าใช้กับเบนซินแบบที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์จะใช้ได้ 20,000 กิโลเป็นอย่างน้อย แต่ถ้าใช้แก๊สโซฮอล์ก็ไม่ควรใช้ถึง E20 เพราะมันจะเสื่อมเร็วกว่าปกติ"

เขาน่าจะหมายถึง ถ้าใช้ E20 จะเสื่อมไวใช้ได้ไม่ถึง 2 หมื่นโล (อาจจะใช้ได้ถึง 1-1.5 หมื่น ก็ได้) ซึ่งผมก็ว่ามันเพียงพอนะครับ ส่วนเรื่องทฤษฎี ต้งรอท่านผู้รู้มาตอบครับ คุณ Jae ก็เป็นกูรูน้ำมันเครื่องท่านหนึ่งครับ

หมายเหตุ: ตามกฎของเวบนี้ ไม่ให้เอาลิ้งค์ของพันทิปมาแปะนะครับ ลองอ่านกฎที่ปักหมุดดูครับ ถ้าเป็นผม ผมจะใช้วิธีตัดลอกข้อความมาแปะแทนครับ
ผมไม่ได้อ่านกฎให้ดี แก้ไขแล้วครับ ขอบคุณที่เตือนกันครับ
พอดีผมใช้ E85 เลยกลัวเลยครับ ผมคงตีความคำพูดเกินไปเอง ห้า ๆๆๆ ถ้าเหลือซักเกือบ ๆ หมื่นโลฯคงโอเคหน่อยครับ

1. หนืดน้อยโอกาสไหลดีกว่า แต่บางรุ่นก็อ้างว่า ทำฟิล์มเกาะโลหะไว้แล้ว หนืดมากไม่เกี่ยว (ฮา)

2. ดูแค่ SAPS ไม่พอ แต่โดยรวม ผู้ผลิตน้ำมันเครื่องส่วนใหญ่ ไม่ได้การันตีการใช้กับ E85 อยู่แล้วครับ
ข้อ 1 นี่ยังไงนะครับ มันจริงไหมครับที่เขาอ้าง 5555 ต้องลองใช้งานดูผลเอาใช่ไหมครับ
ข้อ 2 พอมีคำแนะนำเพิ่มไหมครับ นอกจาก SAPS กับ Ester ที่ควรเลี่ยง นอกจากนี้ผมไม่ทราบเลยครับ

9. ตอบ เลขหน้าไม่ต้องไปดูครับ บ้านเราดูเขหลังเป็นหลัก
เครื่องรุ่นใหม่ๆ เลขหน้าก็สำคัญครับ ควรตามสเปค
dmax1.9 ให้ใช้5w30 เอา15w30ใส่วาลว์มีปัญหาครับ
มีเรื่องหนึ่งที่ผมทราบคือ เมืองไทยเป็นเมืองร้อน เลขหน้าของน้ำมันเครื่อง ตั้ง 10W ถึง 0W จะได้ผลไม่แตกต่างกันครับ

ยิ่งเลขตัวหน้าน้อย 0W หมายความว่า ในที่อุณหภูมิยิ่งต่ำๆ ก็ยังคงความเหลวได้ดี ส่งผลให้ ตอนสตาร์ทรถ น้ำมันเครื่องไม่หนืดจนเกินไป ความสึกหรอก็น้อยลงครับ

เมืองไทยเป็นเมืองร้อน หน้าหนาว ตอนเช้า ยังอุณภูมิมากกว่า 10 องศาเลยครับ ใช้ 0W หรือ 10W ก็ไม่ต่างกันครับ (แต่น้ำมันเครื่องที่ 0W มันแพงกว่านะ)

ส่วนของ ปตท. ทางรถแท็กซี่ใช้กันเยอะ มันก็พิสูจน์แล้วว่าน้ำมันเครื่องของเขาก็ใช้ได้ในระยะยาว ปกติบริษัทไทย จะใช้วิธีซื่อสูตรจาก เมืองนอกมา แล้วเอามาทดสอบ และพัฒนาต่อไปครับ

เมืองไทย เป็นประเทศที่ ราคาน้ำมันเครื่องแพงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลย มาร์จิ้นของผู้ผลิตสูงมาก เพราะคนไทยมีความเชื่อว่า น้ำมันเครื่องดี มีผลต่อการรักษาเครื่องมาก หรือพูดง่าย ๆ คือ ติดยี่ห้อ และไม่ยอมเปลี่ยนยี่ห้อง่าย ๆ นั่นเอง เมืองนอกไม่ใช่แบบบ้านเรา
เรื่องปตท.กับแท็กซี่ ... อืมก็จริงนะครับ

เรื่องเลขหน้าไม่ต้องสนใจ ผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่เลยครับ
คือผมเห็นว่าน้ำมันเครื่องยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ที่อุณหภูมิ 40°C และ 100°C ค่าความหนืดก็ต่างกันอยู่เหมือนกันครับ
ผมเลยสงสัยว่าตอนสตาร์ท อุณหภูมิ 30-40°C มันก็อาจจะต่างกันหรือเปล่านะ

*ที่ผมเจอมา:
TOTAL QUARTZ 9000 ENERGY 0W-40
http://www.lubs-products-database.total.com/gallery/ORIGINALS/visuels/35000/35219
TOTAL QUARTZ 9000 ENERGY 5W-40
http://www.lubs-products-database.total.com/gallery/ORIGINALS/visuels/23000/23403
อื่น ๆ:
https://www.facebook.com/darkcashyz/posts/1801648603208027



ผมสงสัยกรณี น้ำมันเครื่อง  ที่อ้างอิง  กับน้ำมันเชื้อเพลิง(กลุ่มเบนซิน)

คือน้ำมันเครื่อง  กับเชื้อเพลิง มันไปสัมผัสกันเหรอครับ  คือต้องไปคิดว่า  เบนซินใช้แบบนึง  อี20ใช้แบบนึง

มันไปทำงานเกี่ยวข้องกันตอนไหน?

ผมเห็นน้ำมันเครื่องมีหน้าที่หล่อลื่น ตั้งแต่หลังวาล์ว แหวนลูกสูบ  ข้อเหวี่ยง  ก็แค่นั้นเอง

มันต้องสนใจเหรอครับว่า พลังงานที่ส่งมาเผาไหม้ในห้องเผาไหม้  คือเชื้อเพลิงอะไร
สงสัยด้วยคนครับ ผมไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกเชิงลึกเท่าไหร่เลย
ถ้าแหวนลูกสูบไม่มีปัญหา กระบอกสูบไม่มีร่องเลย เชื้อเพลิงกับน้ำมันเครื่องมันจะไม่ผสมกันใช่ไหมครับ
แต่ถ้ามันสึกก็อาจมีโอกาสเจอกัน ผมเข้าใจถูกไหมครับ


ขอบคุณทุก ๆ ท่านสำหรับความเห็นและข้อชี้แนะครับ
EK 1996 - D16Y4 AT