ผู้เขียน หัวข้อ: อุทาหรณ์ของคนที่ชอบขับรถเร็ว  (อ่าน 16063 ครั้ง)

ออฟไลน์ AgentMolder

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
Re: อุทาหรณ์ของคนที่ชอบขับรถเร็ว
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2019, 13:46:18 »
เคส CLS250 ล่าสุดที่มันชนวินาศสันตะโร ก็เพราะขับเร็วแล้วมุดไม่ทัน จะโทษใครดี รถ เหล้า(ตรวจไม่พบ) ขับเร็ว หรือแก้วน้ำ?

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
Re: อุทาหรณ์ของคนที่ชอบขับรถเร็ว
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2019, 14:20:33 »
แชร์ประสบการณ์จากคนเฉียดตายนะครับ..


ขอบอก3คำ. อย่า. ขับ. เร็ว



ไม่ต้องอ้างอะไรมากมาย. ขับช้าๆ. มีลดความเสี่ยงได้เยอะมาก
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
Re: อุทาหรณ์ของคนที่ชอบขับรถเร็ว
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2019, 14:40:34 »
ข่าวจากคุณ bodin ค่อนข้างชัดเจนว่าความเร็วมีความเกี่ยวข้องกับกับอุบัติเหตุ แต่อยากให้ช่วยกันวิเคราะห์กันสักนิดว่าเหตุเพราะอะไรครับ ตามข่าวคือ ขับรถด้วยความเร็ว และอุบัติเหตุมากสุดเกิดขึ้นในทางตรง ผมแค่นึกภาพไม่ออกว่า ทำไมขับรถเร็วในทางตรงแล้วถึงเกิดอุบัติเหตุกันได้ และเกิดขึ้นเยอะที่สุดด้วยครับ เพราะการหลุดโค้ง หรือมีรถคันอื่นมาตัดหน้าก็ถูกแยกหัวข้อไปแล้ว ที่เหลือที่ผมคิดออกก็คือ การหลับในแค่นั้นรึเปล่า แต่ขับไวๆก็ไม่น่าจะหลับในได้เพราะร่างกายตื่นตัวตลอดเวลา ยังไงรบกวนท่านอื่นช่วยวิเคราะห์ด้วยครับ


ง่ายมากเลยครับ ก็เพราะบนถนนที่ขับเร็วนั้น มันมีคนกลับรถในที่ห้ามกลับ
มีมอไซค์ขี่ข้ามถนน มีรถขับช้าแช่ขวา มีคนออกจากซอยชิดขวาเลย
มีคนคุยโทรศัพท์ไปขับรถไป เวลาขับมาเร็วก็แก้ไม่ทัน
แต่เวลาบอกสาเหตุเค้าไม่บอกหรอกครับ ว่าขับมาเร็วแล้วเจอมอไซค์ชั่วๆ
เค้าก็สรุปเอาว่าขับเร็ว ผมไปขับรถที่เยอรมัน / อังกฤษ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ยังรู้สึกปลอดภัยกว่าขับ 110 ที่เมืองไทยเลย

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
Re: อุทาหรณ์ของคนที่ชอบขับรถเร็ว
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2019, 17:32:13 »
คนที่ขับเร็ว เขาก็จะบอกว่า ก็ขับเร็วมาตั้งนาน ไม่เห็นเป็นไรเลย เขามีความสามารถมาพอ

แต่อยากบอกว่า ความสามารถ กับ ผิดกฏหมาย ต่อให้มีเป็นนักขับรถแข่งอาชีพ ความเร็วเกินกฏหมายกำหนด คือ ผิด นะ

ส่วนกฏหมายจะให้ขับไม่เกิน 80, 90, 100, 110, 120 ก็ว่าตามนั้นครับ

หลักใหญ่ใจความ คือ คนขาดวินัย ทำผิดกฏหมาย แล้วมองเป็นเรื่องธรรมดา ขาดจิตสำนัก ใครอื่นทำผิดเรื่องใหญ่ แต่ตัวเองทำผิดแล้วเฉยๆ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ควรจะแก้ไขโดยการสร้างจิตสำนึกที่ถูกต้อง มากกว่า จะการไล่จับครับ เพราะจับไปจ่ายเงินจบ จิตสำนึกไม่เปลี่ยน คนกลุ่มนี้ก็ยังขับรถแบบนี้ไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ vee.p

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 69
Re: อุทาหรณ์ของคนที่ชอบขับรถเร็ว
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2019, 09:22:48 »
จะขับความเร็วเท่าไหร่ให้ปลอดภัยขึ้นอยู่กับตัวผู้ขับว่าไม่ประมาทและตื่นตัวต่อการจราจรรอบตัวอยู่ตลอดเวลาดีที่สุดครับ
ส่นตัวขับทางไกลแล้วใช้ความเร็ว 80-100 นี่ไม่ไหวครับ รู้สึกง่วงน่าเบื่อแล้วทำให้ความระมัดระวังลดลงเยอะเลย เกือบเๆกิดอุบัตเหตุในช่วงความเร็วนี้บ่อยครั้งมากๆ เลยขยับมาใช้ช่วงความเร็ว 100-120 ก็จะรู้สึกทะมัดทะแมงตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
 
เห็นด้วยเลยครับ ขับต่ำกว่า 100 ง่วงมาก ยิ่งรถใหม่ ๆ มันเงียบ วิ่งไว ก็เกิน กม.กำหนดอีก เที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 รถก็แทบไม่มี จะให้วิ่ง 90 มันคงไม่ใช่ น่าจะแก้ได้แล้ว กฏหมายความเร็ว

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
Re: อุทาหรณ์ของคนที่ชอบขับรถเร็ว
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2019, 13:08:24 »
จะขับความเร็วเท่าไหร่ให้ปลอดภัยขึ้นอยู่กับตัวผู้ขับว่าไม่ประมาทและตื่นตัวต่อการจราจรรอบตัวอยู่ตลอดเวลาดีที่สุดครับ
ส่นตัวขับทางไกลแล้วใช้ความเร็ว 80-100 นี่ไม่ไหวครับ รู้สึกง่วงน่าเบื่อแล้วทำให้ความระมัดระวังลดลงเยอะเลย เกือบเๆกิดอุบัตเหตุในช่วงความเร็วนี้บ่อยครั้งมากๆ เลยขยับมาใช้ช่วงความเร็ว 100-120 ก็จะรู้สึกทะมัดทะแมงตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
 
เห็นด้วยเลยครับ ขับต่ำกว่า 100 ง่วงมาก ยิ่งรถใหม่ ๆ มันเงียบ วิ่งไว ก็เกิน กม.กำหนดอีก เที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 รถก็แทบไม่มี จะให้วิ่ง 90 มันคงไม่ใช่ น่าจะแก้ได้แล้ว กฏหมายความเร็ว

ขับช้าแล้วง่วง เลยต้องขับเร็ว เพื่อจะได้ไม่ง่วง

ผมว่าความคิดแบบนี้ น่าจะไม่ใช่มั้งครับ เห็นบางคนพูดแบบนี้บ่อย

การง่วง เกิดจากร่างกายอ่อนเพลีย อยากพักผ่อน ถ้าง่วงจอดนอนครับ แค่นี้ก็จบ น่าจะถูกกว่าไหมครับ

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,859
Re: อุทาหรณ์ของคนที่ชอบขับรถเร็ว
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2019, 13:50:38 »
จะขับความเร็วเท่าไหร่ให้ปลอดภัยขึ้นอยู่กับตัวผู้ขับว่าไม่ประมาทและตื่นตัวต่อการจราจรรอบตัวอยู่ตลอดเวลาดีที่สุดครับ
ส่นตัวขับทางไกลแล้วใช้ความเร็ว 80-100 นี่ไม่ไหวครับ รู้สึกง่วงน่าเบื่อแล้วทำให้ความระมัดระวังลดลงเยอะเลย เกือบเๆกิดอุบัตเหตุในช่วงความเร็วนี้บ่อยครั้งมากๆ เลยขยับมาใช้ช่วงความเร็ว 100-120 ก็จะรู้สึกทะมัดทะแมงตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
 
เห็นด้วยเลยครับ ขับต่ำกว่า 100 ง่วงมาก ยิ่งรถใหม่ ๆ มันเงียบ วิ่งไว ก็เกิน กม.กำหนดอีก เที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 รถก็แทบไม่มี จะให้วิ่ง 90 มันคงไม่ใช่ น่าจะแก้ได้แล้ว กฏหมายความเร็ว

ขับช้าแล้วง่วง เลยต้องขับเร็ว เพื่อจะได้ไม่ง่วง

ผมว่าความคิดแบบนี้ น่าจะไม่ใช่มั้งครับ เห็นบางคนพูดแบบนี้บ่อย

การง่วง เกิดจากร่างกายอ่อนเพลีย อยากพักผ่อน ถ้าง่วงจอดนอนครับ แค่นี้ก็จบ น่าจะถูกกว่าไหมครับ

การตัดสินคนอื่นด้วยการเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่บรรทัดฐาน​ที่ดีนะครับ

ผมเล่นเกมส์ยิงปืนสู้คนอื่นไม่ได้ ผมก็ไม่เคยบอกว่า เค้าเล่นแบบบู๊ล้างผลาญเกินไปนะครับ

ประสาทเค้าอาจจะไวกว่าเรา ประสาทเราอาจจะรับรู้ช้ากว่าเค้า เผลอๆถ้าให้เค้าเล่นรอเรา เค้าอาจจะโดนศัตรูยิงตายก็ได้นะครับ

ฉันใดก็ฉันนั้น​การขับรถก็เช่นกัน ผมขับ 100-120 มาตั้งแต่เด็ก เกิดให้ผมต้องมาขับ 80 ผมก็ทำไม่ได้เช่นกัน สมองผมตื่นตัวที่ตรงนั้น เมื่อขับ 80 สมองผมก็จะตื่นตัวน้อยลง แต่เมื่อทุกครั้งที่ผมต้องขับรถอะไรที่ไม่ใช่รถตัวเอง ผมก็ขับช้าลงโดยอัตโนมัติ​เช่นกันครับ เพราะผมต่องเอาสมองไปเรียนรู้กับรถคันนั้นๆ

ผมว่าคนที่ขับรถเป็น ย่อมรู้ถึงจุดสูงสุดและต่ำสุดอยู่แล้วล่ะครับ

การขับเร็วไม่ใช่คำตอบทั้งหมด แต่ขับประมาทต่างหากคือคำตอบ

ผมยกตัวอย่างอีกอันแล้วกัน เช่น ถ้าขับยาริสเดิมๆที่ 160-170 สำหรับผม นั่นคือโฆตรประมาทเลยล่ะครับ
เกิดอะไรตัดหน้า เอาไม่อยู่ นั่นคือหายนะชัดๆ แต่ถ้ารถสมรรถนะดีๆ ส่วนควบพร้อมๆ การขับด้วยความเร็วขนาดนั้น ผมก็คิดว่าปกตินะ แต่อย่างที่บอกครับ ทุกอย่างขึ้นกับตัวคนขับครับ


ออฟไลน์ bravo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,469
    • อีเมล์
Re: อุทาหรณ์ของคนที่ชอบขับรถเร็ว
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2019, 14:28:42 »
ถามจริงๆ วิ่งไม่เกิน 90 กม./ชม.
ระยะทาง 700-1,000 กม. วิ่งไม่เกิน 90 ได้ตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นตอนแซงหรือตอนขับปกติ
มีใครในนี้ทำได้จริงๆ บ้างครับ

ถ้ามี ผมขอคารวะครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
Re: อุทาหรณ์ของคนที่ชอบขับรถเร็ว
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2019, 16:26:16 »
จะขับความเร็วเท่าไหร่ให้ปลอดภัยขึ้นอยู่กับตัวผู้ขับว่าไม่ประมาทและตื่นตัวต่อการจราจรรอบตัวอยู่ตลอดเวลาดีที่สุดครับ
ส่นตัวขับทางไกลแล้วใช้ความเร็ว 80-100 นี่ไม่ไหวครับ รู้สึกง่วงน่าเบื่อแล้วทำให้ความระมัดระวังลดลงเยอะเลย เกือบเๆกิดอุบัตเหตุในช่วงความเร็วนี้บ่อยครั้งมากๆ เลยขยับมาใช้ช่วงความเร็ว 100-120 ก็จะรู้สึกทะมัดทะแมงตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
 
เห็นด้วยเลยครับ ขับต่ำกว่า 100 ง่วงมาก ยิ่งรถใหม่ ๆ มันเงียบ วิ่งไว ก็เกิน กม.กำหนดอีก เที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 รถก็แทบไม่มี จะให้วิ่ง 90 มันคงไม่ใช่ น่าจะแก้ได้แล้ว กฏหมายความเร็ว

ขับช้าแล้วง่วง เลยต้องขับเร็ว เพื่อจะได้ไม่ง่วง

ผมว่าความคิดแบบนี้ น่าจะไม่ใช่มั้งครับ เห็นบางคนพูดแบบนี้บ่อย

การง่วง เกิดจากร่างกายอ่อนเพลีย อยากพักผ่อน ถ้าง่วงจอดนอนครับ แค่นี้ก็จบ น่าจะถูกกว่าไหมครับ

การตัดสินคนอื่นด้วยการเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่บรรทัดฐาน​ที่ดีนะครับ

ผมเล่นเกมส์ยิงปืนสู้คนอื่นไม่ได้ ผมก็ไม่เคยบอกว่า เค้าเล่นแบบบู๊ล้างผลาญเกินไปนะครับ

ประสาทเค้าอาจจะไวกว่าเรา ประสาทเราอาจจะรับรู้ช้ากว่าเค้า เผลอๆถ้าให้เค้าเล่นรอเรา เค้าอาจจะโดนศัตรูยิงตายก็ได้นะครับ

ฉันใดก็ฉันนั้น​การขับรถก็เช่นกัน ผมขับ 100-120 มาตั้งแต่เด็ก เกิดให้ผมต้องมาขับ 80 ผมก็ทำไม่ได้เช่นกัน สมองผมตื่นตัวที่ตรงนั้น เมื่อขับ 80 สมองผมก็จะตื่นตัวน้อยลง แต่เมื่อทุกครั้งที่ผมต้องขับรถอะไรที่ไม่ใช่รถตัวเอง ผมก็ขับช้าลงโดยอัตโนมัติ​เช่นกันครับ เพราะผมต่องเอาสมองไปเรียนรู้กับรถคันนั้นๆ

ผมว่าคนที่ขับรถเป็น ย่อมรู้ถึงจุดสูงสุดและต่ำสุดอยู่แล้วล่ะครับ

การขับเร็วไม่ใช่คำตอบทั้งหมด แต่ขับประมาทต่างหากคือคำตอบ

ผมยกตัวอย่างอีกอันแล้วกัน เช่น ถ้าขับยาริสเดิมๆที่ 160-170 สำหรับผม นั่นคือโฆตรประมาทเลยล่ะครับ
เกิดอะไรตัดหน้า เอาไม่อยู่ นั่นคือหายนะชัดๆ แต่ถ้ารถสมรรถนะดีๆ ส่วนควบพร้อมๆ การขับด้วยความเร็วขนาดนั้น ผมก็คิดว่าปกตินะ แต่อย่างที่บอกครับ ทุกอย่างขึ้นกับตัวคนขับครับ

ที่ผมบอกว่า การง่วง เกิดจากร่างกายอ่อนเพลีย อยากพักผ่อน ผมไม่ได้คิดไปเอง หรือ เอาตัวเองเป็นตัวตั้งครับ ลองไปหาข้อมูลดูละกัน มันเป็นวิทยาศาสตร์ครับ ไม่ใช่ความคิดผม

และเรื่องขับได้ ประมาทหรือไม่ประมาท รถแรงสมรรถณะดี หรือ รถกำลังน้อยสมรรถณะด้อย ผมเชื่อว่าหลายคนขับได้ครับ ผมเชื่อ ผมก็เคยขับเกินไม่ใช่ไม่เคย แต่บางจังหวะจริงๆ ไม่ใช่การขับแบบนั้นเป็นอาจิน

แต่ต้องแยกเรื่องกฏหมาย กับ พฤติกรรม ครับ

คุณขับรถตั้งแต่เด็กเกินกฏหมายกำหนด ก็คือ คุณทำผิดกฏหมายครับ

แล้วกฏหมายจำเป็นต้องปรับเพิ่มการจำกัดความเร็ว ปีละ +1 ไปเรื่อยๆ ตามสมรรถณะรถหรือเทคโนโลยีไหมครับ คุณคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอครับครับ ประเทศที่เขามีวินัย มีความพร้อม ถนนดีกว่าบ้านเรา เขายังไม่ทำเลย ความเร็วที่จำกัดก็พอๆ กับเราเลย บางประเทศต่ำกว่าประเทศไทยด้วยซ้ำ

กฏหมายบังคับใช้กับทุกคน ไม่ใช่แค่ตัวคุณครับ คุณบอกคุณมีศักยภาพเพียงพอในการขับรถที่ความเร็ว 120, 140, 160, 180 แล้วคุณคิดว่า คนที่ขับรถตามหลังคุณ ด้วยความเร็วพอๆ กับคุณเนี่ยะ เขามีความศักยภาพหรือความสามารถเพียงพอไหมครับ? ใครตอบได้? ถ้าเขาไปเกิดอุบัตเหตุขึ้นมา เขาเจ็บหรือตายเดียวอาจจะเสียแค่ครอบครัวเขา แต่ถ้าไปโดนรถคันอื่น หรือ คนเดินข้างถนน หรือใครก็แล้วแต่ บาดเจ็บ ล้มตาย ด้วยเนี่ยะ คิดว่าไงดี?

นักขับรถแข่ง เขาใช้รถบนถนนหลวง เขายังขับที่ความเร็วปกติ ตามกฏหมายกำหนด ได้เลยครับ คิดดูละกัน

ออฟไลน์ คนขับรถ

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 136
Re: อุทาหรณ์ของคนที่ชอบขับรถเร็ว
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2019, 16:34:46 »
จะขับความเร็วเท่าไหร่ให้ปลอดภัยขึ้นอยู่กับตัวผู้ขับว่าไม่ประมาทและตื่นตัวต่อการจราจรรอบตัวอยู่ตลอดเวลาดีที่สุดครับ
ส่นตัวขับทางไกลแล้วใช้ความเร็ว 80-100 นี่ไม่ไหวครับ รู้สึกง่วงน่าเบื่อแล้วทำให้ความระมัดระวังลดลงเยอะเลย เกือบเๆกิดอุบัตเหตุในช่วงความเร็วนี้บ่อยครั้งมากๆ เลยขยับมาใช้ช่วงความเร็ว 100-120 ก็จะรู้สึกทะมัดทะแมงตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
 
เห็นด้วยเลยครับ ขับต่ำกว่า 100 ง่วงมาก ยิ่งรถใหม่ ๆ มันเงียบ วิ่งไว ก็เกิน กม.กำหนดอีก เที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 รถก็แทบไม่มี จะให้วิ่ง 90 มันคงไม่ใช่ น่าจะแก้ได้แล้ว กฏหมายความเร็ว

ขับช้าแล้วง่วง เลยต้องขับเร็ว เพื่อจะได้ไม่ง่วง

ผมว่าความคิดแบบนี้ น่าจะไม่ใช่มั้งครับ เห็นบางคนพูดแบบนี้บ่อย

การง่วง เกิดจากร่างกายอ่อนเพลีย อยากพักผ่อน ถ้าง่วงจอดนอนครับ แค่นี้ก็จบ น่าจะถูกกว่าไหมครับ
อาจจะตกคำว่าความเร็วตามกฏหมายกำหนด และท่านก็เน้นตรงขับช้าแล้วง่วงอย่างเดียวมาชี้ประเด็น ลองอ่านให้ครบทั้งหมดอีกทีนะครับ