ผู้เขียน หัวข้อ: ความรู้สึกผมนะเกียร์ MT เหมาะกับเครื่องเบนซิน ส่วนดีเซลชอบออโต้  (อ่าน 4418 ครั้ง)

ออฟไลน์ johnlee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,603
    • อีเมล์
คือเบนวินรอบมันกว้างอ่ะ  เราสนุกได้ตั้งแต่ 2000  ยาวๆๆๆๆ ไปจน 7000รอบ

เสียงแผดหวานของระบบวาล์ว และความดุดันของแรงบิดช่วงปลาย  ผมว่ามันสนุกนะ

ส่วนดีเซล  เกิน3000 รอบไปก็ไม่มีอะไรนอกจากควันท่วมทุ่ง  จึงไม่สนุก ไม่มัน  เหมาะกับเกียร์ออโต้  ที่ไม่สนว่าอยู่ที่รอบเท่าไร ก้เร่งส่งได้  แรงบิดที่ตั้งแต่ 1500 รอบขึ้นไป 

ไม่รู้ทำไมเด็กสมัยนี้ไปชอบกระบะควันดำๆ  ถ้าได้เจอยุค 90 ที่สนุกกับ SR JZ RB 3S VTEC

กระบะ 2019 ผมขับแล้วไม่เห็นว่าจะสนุกตรงไหน
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,618
สำหรับผม เกียร์อะไรก็ได้ครับที่ไม่ต้องเหยียบคลัช
จะเป็น Sequential หรือ Dual clutch ก็ได้ หรือเกียร์อื่นๆได้หมด

ที่เคยอ่านเจอแล้วฮา....  คือนักวิจัยรถ sport และ supercar จ้าวหนึ่งออกมาบอกว่ารถของตัวเองจะไม่ทำเกียร์ MT แล้ว
เพราะการเหยียบคลัชเข้าเกียร์เองมันช้าและเสียเวลามาก สู้ให้ระบบเกียร์มันเปลี่ยนเองดีกว่าแถมยังได้การส่งกำลังที่ดีและรวดเร็วกว่ามากด้วย

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
ผมว่าเกียร์ธรรมดาต้องดีเซล เพราะแค่ปล่อยครัทช์ไม่ต้องเหยียบคันเร่งก็ไปแล้ว
ส่วนการลากรอบ ผมว่าออโต้มันก็ลากได้ ไม่เกี่ยวกับเกียร์

เดี๋ยวนี้รถทำอัตราทดแปลก ขับไม่สนุก อัตราทดไม่ต่อเนื่อง

แต่เอาจริงๆ ออโต้ ดีๆจบกว่า

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,967
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
ผมว่าที่ยกมามันเกี่ยวข้องกับ NA และ Turbo รึเปล่าครับ

แล้วเป็น Turbo stock ด้วย   ลองอ่านรีวิว มินิ  เบนซินลากเกินรอบเทอร์โบไปก็ไม่มีประโยชน์เหมือนกัน

หรือพวกดีเซลที่เล่นกันโบคู่  มาตั้งแต่ 1500 เล่นกันได้ถึง 4500 รอบนะครับบางคัน  (วิ่งเกือบ 250 Km/h) 

เลยมองว่าเกียร์ไม่ค่อยเกี่ยวครับ   
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ Koong

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 993
ถ้าเน้นขับสนุก เบนซิล มันก็จะสนุกกว่าดีเซลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเกียร์ MT หรือ AT

  แต่ถ้าโจทย์บังคับว่าให้ขับเกียร์ MT ในการใช้งานจริง ผมจะเลือกเกียร์ MT ที่อยู่กับเครื่องดีเซล. เพราะแรงบิดดี ออกตัวง่าย
ขับในเมือง ถ้าการจราจรไปแบบไหลๆ บางทีคาเกียร์ 2 ไว้ตลอดแทบไม่ต้องเปลียนเกียร์เลยยังได้
ตรงข้ามกับเบนซิล ต้องเลี้ยงรอบเลี้ยงคลัทช์เปลี่ยนเกียร์เป็นว่าเล่น ไม่งั้นเครื่องดับ ยิ่งเครื่องความจุน้อยๆ ไปAT โลด (ในแง่การใช้งานนะ. ถ้าเน้นซิ่งก็ MT ทั้งดีเซลและเบนซิน

ออฟไลน์ recycleman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,570
ผมนี่ตรงข้ามกันเลย mt ต้องดีเซล ออกตัวง่ายแค่ปล่อยคลัชท์ก็แทบจะพุ่งไปเอง

ส่วนเบนซินนี่ถ้าเป็น mt ออกตัวถ้าเติมคันเร่งผิดจังหวะไปนิดก็ดับแล้ว

แต่ชอบเบนซินตรงที่ไต่รอบสูงๆแรงบิดยังไหลมาเรื่อยๆไม่เหมือนดีเซลที่มาไวไปไว

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,765
เคยขับเบนซิล mt เหนื่อยมาก ยิ่งรถติดๆนี่น่าเบื่อไปเลย แต่พอออกต่างจังหวัดทางโล่งๆ นี่สวรรค์ชัดๆ

ออฟไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
ถ้าคนขับชำนาญเกียร์ MT จริงแบบจริงจัง มีฝีมือ ขับอะไรก็ได้หมดครับ ไม่สำคัญว่าเครื่องแบบไหน
ไม่ได้รู้สึกว่ายาก-ง่ายต่างกัน ไม่มีคำว่าเหมาะหรือไม่เหมาะกับเครื่องอะไรครับ

คนที่ชอบขับเกียร์ MT ในรถซิ่งสมัยนี้ ที่ใช้งานในท้องถนนทั่วไป ที่ไม่ได้ไปแข่งจับเวลาเอาถ้วยกับใคร
เค้าไม่ได้มาหวังเรื่องความเร็วครับ ถูกต้อง ทุกวันนี้ MT ไม่ใช่เกียร์ที่เร็วที่สุดเหมือนสมัยก่อนแล้ว
แต่คนที่ชอบขับ MT เค้าชอบในเสน่ห์ในการขับของมันมากกว่า อารมณ์ที่ได้ตัดต่อกำลังเอง เข้าเกียร์เอง
เบิ้ลเครื่องทำ Rev matching เองตอนลดเกียร์ จังหวะคลัตช์และคันเร่งต้องแม่น ใช้เกียร์ให้ถูกกับสถานะการณ์
ถ้าคนที่ทำชำนาญ ทำได้อย่างสมบรูณ์ รถจะไปได้อย่างสมูทมากๆ และเมื่อเราทำมันทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ ไม่กระตุกกระชากเลย มันจะเป็นความรู้สึกที่ภูมิใจมากๆ เราจะรู้สึกว่าตัวเองเทพขึ้นมาทันที มีความสุขได้โดยที่ไม่ต้องไปซิ่งแข่งกะใคร มันเป็นความภูมิใจที่เห็นรถคันที่ขับ
มันวิ่งไปด้วยความสมูท แบบถูกต้อง "ด้วยฝีมือของเราเองทั้งหมด" ไม่มี ECU ยื่นมือเข้ามาเกี่ยว
ประดุจว่าเราเก่งพอๆกะสมองกล ECU เลย เป็นความรู้สึกที่สุดยอดครับ แล้วเหมือนเราได้สื่อสารกับรถเวลาขับมากกว่า
ในการใช้งานบนท้องถนนทั่วไป ความต่างของความเร็ว ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น ลองเอาสุดยอดเกียร์คลัตช์คู่
ขับออกไปด้วยกันกับอีกคันที่เป็นรถรุ่นเดียวกัน แต่เป็นเกียร์ MT (ให้คนชำนาญเกียร์ MT ขับ) คันที่เป็นเกียร์ MT
ก็ไม่ได้ถึงที่หมายช้ากว่าเท่าไหร่หรอกครับ ช้ากว่าก็คงไม่กี่ช่วงคัน แล้วคันที่ถึงเร็วกว่าก็ไม่ได้ถ้วยอะไรด้วย
แต่ถ้าโจทย์บังคับว่าต้องทำเวลาให้เร็วที่สุดในสนาม อย่างนี้คลัตช์คู่เทพๆดีกว่า เร็วกว่า แน่นอนกว่า แน่นอน

"ทั้งหมดเป็นเสน่ห์และความสนุกของเกียร์ MT ที่ไม่มีเกียร์ระบบอื่นจะมาทดแทนได้ ต่อให้อีกล้านปีก็ตาม"

คนที่ขับเกียร์ MT ไม่เป็น หรือไม่ชำนาญหรือพูดง่ายๆว่าไม่ชอบ มาอ่านที่ผมพูด ก็คงเกาหัวแกรกๆ ว่าความรู้สึกตามที่ผมอธิบาย
มันดียังไงหว่า ก็ไม่แปลกครับ ต้องรู้สึกอย่างนั้นแล้วแหละ ;) แต่ถ้าคนชอบขับ MT นี่จะเข้าใจทันทีเลยครับ  8)

ส่วนเรื่องเมื่อยไม่เมื่อยนี่ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของขาแต่ละคนเลยครับ คนแข็งแรงออกกำลังตลอดก็เหยียบสบาย เพราะขาแข็งแรง
แต่ถ้าใครไม่ออกกำลังกาย แค่เดินข้ามสะพานลอยก็บ่น อย่างนี้ขับ MT ในเมืองรถติดสัก 10นาทีก็แย่ละครับ

ปล. ที่พูดมาไม่ได้มาอวยว่า MT ดีหรืออะไรน่ะครับ ตัวผมเองก็ใช้ทั้งออโต้ทั้ง MT ครับ และชอบในความเร็วของเกียร์ยุคหลังๆเหมือนกัน
เพียงแต่มาอธิบายให้ท่านที่ไม่ทราบว่าเสน่ห์ของการขับ MT ว่ามันคืออะไร ทำไมคนบางกลุ่มถึงชอบ ทั้งๆที่มันมีเกียร์ระบบอื่นที่เร็วกว่าในปัจจุบัน
ให้ได้ทราบกัน ก็ตามนั้นครับ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 06, 2019, 23:13:08 โดย Peet Sayumpoo »

ออฟไลน์ samaklen

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,919
mt เป็นเรื่องของการควบคุมกำลัง
คนขับที่ชำนาญ ยังใช้ mt และ เบรค
ควบคุม handling รถได้อีกด้วย

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,144
  • SNK vs Playmore
คนชอบเกียร์ธรรมดา น่าจะชอบเบนซิน NA ที่ลากได้ยาว ๆ

ลดเกียร์ก็ทำ Rev Matching

หรืออาจจะแค่เบิ้ลเครื่องสนุก ๆ ไปงั้นเองก็ยังได้ครับ

บริหารรอบ สนุกกับรถ ฟังเสียงท่อ

แต่ถ้าพวกรถดึงแรง ๆ ออโต้ กระทืบคันเร่งอย่างเดียวไม่ต้องคิดอะไรบางคนก็ชอบนะครับ

สนุกตรงที่ดึงวืด ๆ เวลาถนนโล่ง แต่เสียงท่อหนวกหู ไม่อยากมองกระจกหลัง เพราะมองไม่เห็นอะไรเลย


ส่วนตัวแล้วผมเป็นแฟนเกียร์ธรรมดาครับ


ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,144
  • SNK vs Playmore
ถ้าคนขับชำนาญเกียร์ MT จริงแบบจริงจัง มีฝีมือ ขับอะไรก็ได้หมดครับ ไม่สำคัญว่าเครื่องแบบไหน
ไม่ได้รู้สึกว่ายาก-ง่ายต่างกัน ไม่มีคำว่าเหมาะหรือไม่เหมาะกับเครื่องอะไรครับ

คนที่ชอบขับเกียร์ MT ในรถซิ่งสมัยนี้ ที่ใช้งานในท้องถนนทั่วไป ที่ไม่ได้ไปแข่งจับเวลาเอาถ้วยกับใคร
เค้าไม่ได้มาหวังเรื่องความเร็วครับ ถูกต้อง ทุกวันนี้ MT ไม่ใช่เกียร์ที่เร็วที่สุดเหมือนสมัยก่อนแล้ว
แต่คนที่ชอบขับ MT เค้าชอบในเสน่ห์ในการขับของมันมากกว่า อารมณ์ที่ได้ตัดต่อกำลังเอง เข้าเกียร์เอง
เบิ้ลเครื่องทำ Rev matching เองตอนลดเกียร์ จังหวะคลัตช์และคันเร่งต้องแม่น ใช้เกียร์ให้ถูกกับสถานะการณ์
ถ้าคนที่ทำชำนาญ ทำได้อย่างสมบรูณ์ รถจะไปได้อย่างสมูทมากๆ และเมื่อเราทำมันทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ ไม่กระตุกกระชากเลย มันจะเป็นความรู้สึกที่ภูมิใจมากๆ เราจะรู้สึกว่าตัวเองเทพขึ้นมาทันที มีความสุขได้โดยที่ไม่ต้องไปซิ่งแข่งกะใคร มันเป็นความภูมิใจที่เห็นรถคันที่ขับ
มันวิ่งไปด้วยความสมูท แบบถูกต้อง "ด้วยฝีมือของเราเองทั้งหมด" ไม่มี ECU ยื่นมือเข้ามาเกี่ยว
ประดุจว่าเราเก่งพอๆกะสมองกล ECU เลย เป็นความรู้สึกที่สุดยอดครับ แล้วเหมือนเราได้สื่อสารกับรถเวลาขับมากกว่า
ในการใช้งานบนท้องถนนทั่วไป ความต่างของความเร็ว ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น ลองเอาสุดยอดเกียร์คลัตช์คู่
ขับออกไปด้วยกันกับอีกคันที่เป็นรถรุ่นเดียวกัน แต่เป็นเกียร์ MT (ให้คนชำนาญเกียร์ MT ขับ) คันที่เป็นเกียร์ MT
ก็ไม่ได้ถึงที่หมายช้ากว่าเท่าไหร่หรอกครับ ช้ากว่าก็คงไม่กี่ช่วงคัน แล้วคันที่ถึงเร็วกว่าก็ไม่ได้ถ้วยอะไรด้วย
แต่ถ้าโจทย์บังคับว่าต้องทำเวลาให้เร็วที่สุดในสนาม อย่างนี้คลัตช์คู่เทพๆดีกว่า เร็วกว่า แน่นอนกว่า แน่นอน

"ทั้งหมดเป็นเสน่ห์และความสนุกของเกียร์ MT ที่ไม่มีเกียร์ระบบอื่นจะมาทดแทนได้ ต่อให้อีกล้านปีก็ตาม"

คนที่ขับเกียร์ MT ไม่เป็น หรือไม่ชำนาญหรือพูดง่ายๆว่าไม่ชอบ มาอ่านที่ผมพูด ก็คงเกาหัวแกรกๆ ว่าความรู้สึกตามที่ผมอธิบาย
มันดียังไงหว่า ก็ไม่แปลกครับ ต้องรู้สึกอย่างนั้นแล้วแหละ ;) แต่ถ้าคนชอบขับ MT นี่จะเข้าใจทันทีเลยครับ  8)

ส่วนเรื่องเมื่อยไม่เมื่อยนี่ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของขาแต่ละคนเลยครับ คนแข็งแรงออกกำลังตลอดก็เหยียบสบาย เพราะขาแข็งแรง
แต่ถ้าใครไม่ออกกำลังกาย แค่เดินข้ามสะพานลอยก็บ่น อย่างนี้ขับ MT ในเมืองรถติดสัก 10นาทีก็แย่ละครับ

ปล. ที่พูดมาไม่ได้มาอวยว่า MT ดีหรืออะไรน่ะครับ ตัวผมเองก็ใช้ทั้งออโต้ทั้ง MT ครับ และชอบในความเร็วของเกียร์ยุคหลังๆเหมือนกัน
เพียงแต่มาอธิบายให้ท่านที่ไม่ทราบว่าเสน่ห์ของการขับ MT ว่ามันคืออะไร ทำไมคนบางกลุ่มถึงชอบ ทั้งๆที่มันมีเกียร์ระบบอื่นที่เร็วกว่าในปัจจุบัน
ให้ได้ทราบกัน ก็ตามนั้นครับ.

อ่านจบแล้วผมเข้าใจครับ อยากชนแก้วด้วยเลย 5555

น่าเสียดาย ถ้ามันต้องหายไปจากโลกนี้

ในรถบ้านจะหายไปก็ได้เพราะเน้นใช้งาน มีครูซคอนโทรล ระบบช่วยเหลือต่าง ๆ

แต่ในรถสปอร์ตผมขอเถอะครับ 55555

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,593
    • อีเมล์
ถ้าคนขับชำนาญเกียร์ MT จริงแบบจริงจัง มีฝีมือ ขับอะไรก็ได้หมดครับ ไม่สำคัญว่าเครื่องแบบไหน
ไม่ได้รู้สึกว่ายาก-ง่ายต่างกัน ไม่มีคำว่าเหมาะหรือไม่เหมาะกับเครื่องอะไรครับ

คนที่ชอบขับเกียร์ MT ในรถซิ่งสมัยนี้ ที่ใช้งานในท้องถนนทั่วไป ที่ไม่ได้ไปแข่งจับเวลาเอาถ้วยกับใคร
เค้าไม่ได้มาหวังเรื่องความเร็วครับ ถูกต้อง ทุกวันนี้ MT ไม่ใช่เกียร์ที่เร็วที่สุดเหมือนสมัยก่อนแล้ว
แต่คนที่ชอบขับ MT เค้าชอบในเสน่ห์ในการขับของมันมากกว่า อารมณ์ที่ได้ตัดต่อกำลังเอง เข้าเกียร์เอง
เบิ้ลเครื่องทำ Rev matching เองตอนลดเกียร์ จังหวะคลัตช์และคันเร่งต้องแม่น ใช้เกียร์ให้ถูกกับสถานะการณ์
ถ้าคนที่ทำชำนาญ ทำได้อย่างสมบรูณ์ รถจะไปได้อย่างสมูทมากๆ และเมื่อเราทำมันทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ ไม่กระตุกกระชากเลย มันจะเป็นความรู้สึกที่ภูมิใจมากๆ เราจะรู้สึกว่าตัวเองเทพขึ้นมาทันที มีความสุขได้โดยที่ไม่ต้องไปซิ่งแข่งกะใคร มันเป็นความภูมิใจที่เห็นรถคันที่ขับ
มันวิ่งไปด้วยความสมูท แบบถูกต้อง "ด้วยฝีมือของเราเองทั้งหมด" ไม่มี ECU ยื่นมือเข้ามาเกี่ยว
ประดุจว่าเราเก่งพอๆกะสมองกล ECU เลย เป็นความรู้สึกที่สุดยอดครับ แล้วเหมือนเราได้สื่อสารกับรถเวลาขับมากกว่า
ในการใช้งานบนท้องถนนทั่วไป ความต่างของความเร็ว ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น ลองเอาสุดยอดเกียร์คลัตช์คู่
ขับออกไปด้วยกันกับอีกคันที่เป็นรถรุ่นเดียวกัน แต่เป็นเกียร์ MT (ให้คนชำนาญเกียร์ MT ขับ) คันที่เป็นเกียร์ MT
ก็ไม่ได้ถึงที่หมายช้ากว่าเท่าไหร่หรอกครับ ช้ากว่าก็คงไม่กี่ช่วงคัน แล้วคันที่ถึงเร็วกว่าก็ไม่ได้ถ้วยอะไรด้วย
แต่ถ้าโจทย์บังคับว่าต้องทำเวลาให้เร็วที่สุดในสนาม อย่างนี้คลัตช์คู่เทพๆดีกว่า เร็วกว่า แน่นอนกว่า แน่นอน

"ทั้งหมดเป็นเสน่ห์และความสนุกของเกียร์ MT ที่ไม่มีเกียร์ระบบอื่นจะมาทดแทนได้ ต่อให้อีกล้านปีก็ตาม"

คนที่ขับเกียร์ MT ไม่เป็น หรือไม่ชำนาญหรือพูดง่ายๆว่าไม่ชอบ มาอ่านที่ผมพูด ก็คงเกาหัวแกรกๆ ว่าความรู้สึกตามที่ผมอธิบาย
มันดียังไงหว่า ก็ไม่แปลกครับ ต้องรู้สึกอย่างนั้นแล้วแหละ ;) แต่ถ้าคนชอบขับ MT นี่จะเข้าใจทันทีเลยครับ  8)

ส่วนเรื่องเมื่อยไม่เมื่อยนี่ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของขาแต่ละคนเลยครับ คนแข็งแรงออกกำลังตลอดก็เหยียบสบาย เพราะขาแข็งแรง
แต่ถ้าใครไม่ออกกำลังกาย แค่เดินข้ามสะพานลอยก็บ่น อย่างนี้ขับ MT ในเมืองรถติดสัก 10นาทีก็แย่ละครับ

ปล. ที่พูดมาไม่ได้มาอวยว่า MT ดีหรืออะไรน่ะครับ ตัวผมเองก็ใช้ทั้งออโต้ทั้ง MT ครับ และชอบในความเร็วของเกียร์ยุคหลังๆเหมือนกัน
เพียงแต่มาอธิบายให้ท่านที่ไม่ทราบว่าเสน่ห์ของการขับ MT ว่ามันคืออะไร ทำไมคนบางกลุ่มถึงชอบ ทั้งๆที่มันมีเกียร์ระบบอื่นที่เร็วกว่าในปัจจุบัน
ให้ได้ทราบกัน ก็ตามนั้นครับ.

ผมก็รู้สึกตามนั้นครับ มันไม่ได้สำคัญว่าเร็วไม่เร็ว มันสำคัญที่ความสนุกกับการมีส่วนร่วมในการขับขี่มากกว่า

ผมเคยขับfiesta ที่ยุโรปก็เห็นด้วยกะ จขกท นะ ว่าmt มันสนุกน้อยกว่าหน่อยในดีเซล เบนซินรอบกำลังกว้าง มีอะไรให้คิดเยอะกว่าเวลาเปลี่ยนเกียร์ลง ว่าจะเอาเกียร์ไหนดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2019, 16:15:29 โดย koko86 »

ออฟไลน์ I_AM_IM

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 296
ใช้เกียร์ธรรมดาเบนซินเพราะขึ้นเขาลงเขาบ่อยครับ ละก็ทนกว่าcvt ยอมรถติดปวดขาหน่อยครับ

ออฟไลน์ toffyearn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 628
นอกจากเหมาะกับรถ ผมว่าเหมาะกับคนไหนด้วย เกียร์ออโตเหมือนมีคนคิด ทำให้แทนเรา
แต่เกียร์ออโตก็มีหลายแบบ ถ้าแบบ ทอร์ค คอนเวอเตอร์ ก็น่าจะเหมาะกับดีเซล หรือเบนซินเครื่องใหญ่มากกว่า
ถ้าแบบ cvt ก็เหมาะกับเบนซินเครื่องเล็ก ส่วน Dual Clutch เน้นสมรรถนะ
ส่วน MT มันคือศิลปะการตัดต่อ และเลือกการใช้เกียร์  สำหรับคนที่ชอบออกแบบการขับเอง
แต่เบนซินลากรอบได้ยาว โอกาสที่ใช้ MT ให้สนุกจะมีมากกว่าคับ
ส่วนตัวผม ชอบใช้เกียร์ว่างให้เป็นประโยชน์บ่อยๆ เลยชอบใช้ MT น่ะคับ เคยใช้ AT แบบ+-แล้วก็ยังไม่ถูกใจ

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,953
    • อีเมล์
       ตอนนี้เกียร์ออโต้ก็มีชิฟสำหรับเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยได้นี่ครับ  ความรู้สึกคงไม่ต่างจากเกียร์แมนวลสักเท่าไร

ออฟไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
       ตอนนี้เกียร์ออโต้ก็มีชิฟสำหรับเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยได้นี่ครับ  ความรู้สึกคงไม่ต่างจากเกียร์แมนวลสักเท่าไร

คนละโลกกับการขับ MT แท้ๆครับ การชิพเกียร์เองของเกียร์ออโต้เราก็แค่สั่งงานให้ขึ้น-ลดเกียร์เท่านั้น แต่การ Rev matching
หรือตัดต่อกำลัง ECU จัดการให้หมด การจะตัด-ต่อกำลัง (คลัตช์) ก็ทำเองไม่ได้อย่างที่เกียร์ MT ทำได้ครับ
ถ้าลองอ่านเม้นผมด้านบนจะเข้าใจครับว่าการขับ MT ที่แท้จริงคืออะไร ไม่ใช่แค่การได้สั่งลดเกียร์หรือขึ้นเกียร์เอง
ถ้าเอาแค่เรื่องการสั่งให้ลดเกียร์หรือขึ้นเกียร์เองได้ ออโต้ก็มีมานานมากแล้วครับ 30-40ปีก่อน ไม่ใช่เพิ่งมี แต่สมัยนั้นไม่มีก้านเปลี่ยนที่พวงมาลัย
แต่ใช้โยกคันเกียร์เอา จะมีตำแหน่ง L (1) > 2 > 3 เลื่อนเอาได้ครับ ว่าจะเอาเกียร์ไหน ก็ไม่ต่างจากการใช้ก้านเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยของสมัยนี้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2019, 21:30:38 โดย Peet Sayumpoo »

ออฟไลน์ vashali

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
    • อีเมล์
AT ทำให้เราเข้าไปควบคุมพลังอีกด้านหนึ่งของเครื่องยนต์ไม่ได้ครับ  และเป็นสิ่งที่ ถ้าขับเกียร์ AT มาก่อน แล้วมาขับเกียร์ MT เลยไม่ได้ ต้องฝึก เพราะเกียร์ AT มีกล่องคิดให้หมดแล้ว

พลังนั้นคือ “engine brake”

ผมคิดว่าการใช้ engine brake สนุกกว่าการลากรอบอีก 

ออฟไลน์ cadherin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 585
ผมชอบ รถเกียร์ธรรมดาครับ ใช้แต่เกียร์ธรรมดา

รถกระบะ เกียร์ธรรมดา ขับสนุก เสียงเครื่องดังดี แต่ตบไปเกียร์ 5 แล้วจบ มันอืด เร่งไม่ขึ้น ท้ายปัด ถ้าไม่บรรทุกของ
ขึ้นเขา ทางชัน มั่นใจได้ว่ารอด ไม่ต้องลุ้นแบบรถเก๋ง 1500CC

Vigo ขับสนุกดีครับ เครื่องแรง เร่งแซงมั่นใจ แต่ท้ายปัด

รถเก๋ง เกียร์ธรรมดา เครื่องเบนซิน มันเงียบกว่ารถกระบะเครื่องดีเซล คลัชไม่แข็งเท่ารถกระบะ เข้าเกียร์ง่าย ขับสนุกดี

ขอแค่เป็นเกียร์ธรรมดาพอแล้ว จะรถกระบะ หรือ รถเก๋ง ก็ขับได้ครับ แต่รถเก๋งตอบโจทย์มากกว่า เพราะใช้ในเมือง

ขับเกียร์ออโต้ มันไม่ใช่รถของเรา อยากเล่นเกียร์ ใช้ engine break ไม่ชอบเหยียบเบรคยาวๆ
คันต่อไปลังเล อยากได้ เกียร์ธรรมดา แต่บริษัทรถไทย ใส่ออปชั่น เหี้ยน เหลือเกิน


ออฟไลน์ rerk.com

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
อยากให้รถรุ่นท๊อปๆ ลองทำเกียร์เมน่วลดูบ้างครับ เคยขับวิโก้เกียร์เมน่วล...โครตสนุก แต่ไม่ขอขับเข้า กทม นะครับ