ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไม น้ำมันเกียร์รถยุโรป/รถพรีเมียม ถึงแพงกว่ารถปกติมาก  (อ่าน 9560 ครั้ง)

ออฟไลน์ InBkk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,112
สงสัยครับ ว่าทำไม น้ำมันเกียร์รถยุโรป/รถพรีเมียม ถึงแพงกว่ารถปกติมาก ไม่รู้ว่าเป็นทุกยี่ห้อรึป่าว แต่จาก ปสก ตรง Benz, BMW, Audi, Land Rover ก็เป็นแบบนั้น คือจะอยู่ประมาณ 7,000-9,000 บาท ในขณะที่รถทั่วไป เหลือแค่ 1-2 พันบาท บางคันหลักร้อย

ถ้าจะบอกว่าเกียร์รถยุโรปซับซ้อนกว่า ก็คงจริง แต่ไม่ทั้งหมด เพราะรถธรรมดาหลายรุ่น เกียร์ก็ซับซ้อนใช่ย่อยเช่นกัน เช่น Ford ที่ใช้เกียร์ถึง 10 speed แถมเคยได้ยินว่า ใช้เกียร์เดียวกับ Land Rover อีกด้วย

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
ศูนย์​โขกครับ สเปคน้ำมันหายี่ห้อดีๆเทียบเบอร์​เดียว​ศูนย์​เผลอๆเปลี่ยน​ได้หลายครั้งหลายรอบ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,614
ถ้าเป็นน้ำมันเกียร์ที่ตีแบรนด์ของค่ายรถเองมันก็คงแพงหน่อยครับ ทั้งนี้ก็อยู่ที่ปริมาณด้วยว่าเปลี่ยนถ่ายครั้งนึงใช้กี่ลิตร

อย่างถ้าไปเทียบกับรถบ้านค่ายญี่ปุ่นเช่นของ Subaru เจ้านั้นก็ใช่ว่าจะถูกครับ ถ้าเปลี่ยนถ่ายแบบฟลัชชิ่งหรือเปิดอ่างเกียร์ ก็ใช้น้ำมันเกียร์ประมาณ 8-10 ลิตร (เปลี่ยนแบบปกติ 6 ลิตร)
ของศูนย์ตกลิตรละ 6 ร้อยกว่าบาท รวมๆค่าบิลถ่ายน้ำมันเกียร์อย่างเดียวก็มี 5 พันขึ้นไป

หรือไปฟลัชชิ่งร้านข้างนอกใช้ของดีหน่อยอย่างพวก amsoil ก็มีสิทธิ์ถึงหมื่นเหมือนกันคับ

ออฟไลน์ turbo lover

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 438
น้ำมันเครื่องก็แพงกว่าครับ ซึ่งน้ำมันเครื่องที่ศูนย์ พวกรถยุโรป ราคาพอๆกับVoltronicเลย ซึ่งผมว่าเกรดน้ำมันเครื่องของศูนย์สู้ไม่ได้ครับ
ถ้าพ้นประกันแล้วซื้อไปเปลี่ยนอู่นอกดีกว่าครับ

ออฟไลน์ mochalatte

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 356
ส่วนใหญ่ต่องเปลี่ยนอ่างเกียร์และอื่นๆ เลยดึงยาว
แค่นํ้ามันเกียร์ราคาคงไม่ต่างมาก ค่าแรงบวก อะรั่ยอีกหลายฯตัวเลยทําให้มันต่าง
แต่มันก้ออยู่ได้ยาวกว่าเพราะมันเป็นระบบปิด
จะเปลี่ยนแต่ละทีแพงมากครับ

ออฟไลน์ DriveOnly

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,450
    • อีเมล์
นั่นสิครับ ผมเห็นหลายๆ ท่านเชียร์เปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆ พอไปศึกษาของ benz/bm เห็นว่าเปลี่ยนทีเกือบ 2 หมื่น (ใช้ประมาณ 10 ลิตร)  ผมว่ารอหมดประกันถ้ายังไม่ขายทิ้ง คงไปหาอู่นอกเปลี่ยน

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
นั่นสิครับ ผมเห็นหลายๆ ท่านเชียร์เปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆ พอไปศึกษาของ benz/bm เห็นว่าเปลี่ยนทีเกือบ 2 หมื่น (ใช้ประมาณ 10 ลิตร)  ผมว่ารอหมดประกันถ้ายังไม่ขายทิ้ง คงไปหาอู่นอกเปลี่ยน
รถคันละเป็นล้านแค่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40,000-50,000 กม. มันไม่ถือว่าสิ้นเปลืองหรอกนะครับ ถูกกว่าของแต่งรถบางรายการเสียอีก ดีกว่าไปเสี่ยงเกียร์พังตอนไหนไม่รู้ และเกียร์ราคาแพงกว่าน้ำมันเกียร์มากๆ  เพราะประเทศไทยทั้งร้อนและชื้น แถมรถยังติด น้ำมันเกียร์มันย่อมหมดสภาพได้ง่ายกว่าประเทศที่มีอากาศเย็นและรถไม่ติดแน่นอน
ส่วนใหญ่ต่องเปลี่ยนอ่างเกียร์และอื่นๆ เลยดึงยาว
แค่นํ้ามันเกียร์ราคาคงไม่ต่างมาก ค่าแรงบวก อะรั่ยอีกหลายฯตัวเลยทําให้มันต่าง
แต่มันก้ออยู่ได้ยาวกว่าเพราะมันเป็นระบบปิด
จะเปลี่ยนแต่ละทีแพงมากครับ

ระบบปิดกับอยู่ได้ยาวใช้ไม่ได้กับประเทศไทยนะครับ อันเนื่องด้วยอากาศร้อนและรถติด  ดูได้จากเกียร์หลายๆรุ่นเวลาถ่ายน้ำมันเกียร์ออกมาเป็นโคลนแม้ว่าจะไม่ถึง 50,000 กม. ก็ตาม

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยครับ ว่าทำไม น้ำมันเกียร์รถยุโรป/รถพรีเมียม ถึงแพงกว่ารถปกติมาก ไม่รู้ว่าเป็นทุกยี่ห้อรึป่าว แต่จาก ปสก ตรง Benz, BMW, Audi, Land Rover ก็เป็นแบบนั้น คือจะอยู่ประมาณ 7,000-9,000 บาท ในขณะที่รถทั่วไป เหลือแค่ 1-2 พันบาท บางคันหลักร้อย

ถ้าจะบอกว่าเกียร์รถยุโรปซับซ้อนกว่า ก็คงจริง แต่ไม่ทั้งหมด เพราะรถธรรมดาหลายรุ่น เกียร์ก็ซับซ้อนใช่ย่อยเช่นกัน เช่น Ford ที่ใช้เกียร์ถึง 10 speed แถมเคยได้ยินว่า ใช้เกียร์เดียวกับ Land Rover อีกด้วย

การตลาดล้วนๆ ครับ

ถ้ารู้แล้วว่าน้ำมันเกียร์คืออะไร ทำจากอะไร ทำหน้าที่อะไร จะไม่ต้องใช้น้ำมันศูนย์อีกเลย

ผมใช้Benz BMW MINI VW Volvo ไม่เคยใช้น้ำมันเกียร์ศูนย์มานานกว่า10ปี ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเกียร์ พวกที่ใช้พังก่อนผมก็มีนะ

เอาง่ายๆ  เกียร์ AISIN ในMINI บริษัท Aisin ผลิตน้ำมันเกียร์มาตัวเดียว ใช้ร่วมกับโตโยต้า เบิกศูนย์มินิลิตระล600บาท เบิกโตโยต้า4ลิตร 1300บาทครับ

หรือเกียร์ GM ที่BMW ใช้ ลิตรละ900บาท บริษัท  GM กำหนดมาตรฐาน Dexron  มีขายแทบทุกปั๊ม ลิตรละ200-500บาท แล้วแต่ยี่ห้อน้ำมัน

หรือเกียร์ Mercedes Benz เขาก็มีกำหนดให้ใช้ได้หลายยี่ห้อรับรองโดย MB เองด้วย https://bevo.mercedes-benz.com/bevolistenmain.php?&navigation_path=oilfinder&language_id=1

น้ำมันเกียร์เมืองหนาว มันต้องทนการเปลี่ยนรูปเมื่อเครื่องเย็นจัด เป็นน้ำแข็ง ฝั่งไทยเราง่ายกว่าเยอะ หาแค่ตัวทนร้อนสูงๆทความหนืดไม่หายหมด ล้างสะอาด ไม่ทำลายซีล มีเยอะแยะไปครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 11, 2019, 08:23:51 โดย Jæ »

ออฟไลน์ DeSatan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 79
สงสัยครับ ว่าทำไม น้ำมันเกียร์รถยุโรป/รถพรีเมียม ถึงแพงกว่ารถปกติมาก ไม่รู้ว่าเป็นทุกยี่ห้อรึป่าว แต่จาก ปสก ตรง Benz, BMW, Audi, Land Rover ก็เป็นแบบนั้น คือจะอยู่ประมาณ 7,000-9,000 บาท ในขณะที่รถทั่วไป เหลือแค่ 1-2 พันบาท บางคันหลักร้อย

ถ้าจะบอกว่าเกียร์รถยุโรปซับซ้อนกว่า ก็คงจริง แต่ไม่ทั้งหมด เพราะรถธรรมดาหลายรุ่น เกียร์ก็ซับซ้อนใช่ย่อยเช่นกัน เช่น Ford ที่ใช้เกียร์ถึง 10 speed แถมเคยได้ยินว่า ใช้เกียร์เดียวกับ Land Rover อีกด้วย

ของบีเอ็มมีตัวไหนแนะนำมั้ยครับ สำหรับน้ำมันเกียร์

การตลาดล้วนๆ ครับ

ถ้ารู้แล้วว่าน้ำมันเกียร์คืออะไร ทำจากอะไร ทำหน้าที่อะไร จะไม่ต้องใช้น้ำมันศูนย์อีกเลย

ผมใช้Benz BMW MINI VW Volvo ไม่เคยใช้น้ำมันเกียร์ศูนย์มานานกว่า10ปี ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเกียร์ พวกที่ใช้พังก่อนผมก็มีนะ

เอาง่ายๆ  เกียร์ AISIN ในMINI บริษัท Aisin ผลิตน้ำมันเกียร์มาตัวเดียว ใช้ร่วมกับโตโยต้า เบิกศูนย์มินิลิตระล600บาท เบิกโตโยต้า4ลิตร 1300บาทครับ

หรือเกียร์ GM ที่BMW ใช้ ลิตรละ900บาท บริษัท  GM กำหนดมาตรฐาน Dexron  มีขายแทบทุกปั๊ม ลิตรละ200-500บาท แล้วแต่ยี่ห้อน้ำมัน

หรือเกียร์ Mercedes Benz เขาก็มีกำหนดให้ใช้ได้หลายยี่ห้อรับรองโดย MB เองด้วย https://bevo.mercedes-benz.com/bevolistenmain.php?&navigation_path=oilfinder&language_id=1

น้ำมันเกียร์เมืองหนาว มันต้องทนการเปลี่ยนรูปเมื่อเครื่องเย็นจัด เป็นน้ำแข็ง ฝั่งไทยเราง่ายกว่าเยอะ หาแค่ตัวทนร้อนสูงๆทความหนืดไม่หายหมด ล้างสะอาด ไม่ทำลายซีล มีเยอะแยะไปครับ

ออฟไลน์ DriveOnly

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,450
    • อีเมล์
นั่นสิครับ ผมเห็นหลายๆ ท่านเชียร์เปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆ พอไปศึกษาของ benz/bm เห็นว่าเปลี่ยนทีเกือบ 2 หมื่น (ใช้ประมาณ 10 ลิตร)  ผมว่ารอหมดประกันถ้ายังไม่ขายทิ้ง คงไปหาอู่นอกเปลี่ยน
รถคันละเป็นล้านแค่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40,000-50,000 กม. มันไม่ถือว่าสิ้นเปลืองหรอกนะครับ ถูกกว่าของแต่งรถบางรายการเสียอีก ดีกว่าไปเสี่ยงเกียร์พังตอนไหนไม่รู้ และเกียร์ราคาแพงกว่าน้ำมันเกียร์มากๆ  เพราะประเทศไทยทั้งร้อนและชื้น แถมรถยังติด น้ำมันเกียร์มันย่อมหมดสภาพได้ง่ายกว่าประเทศที่มีอากาศเย็นและรถไม่ติดแน่นอน
ส่วนใหญ่ต่องเปลี่ยนอ่างเกียร์และอื่นๆ เลยดึงยาว
แค่นํ้ามันเกียร์ราคาคงไม่ต่างมาก ค่าแรงบวก อะรั่ยอีกหลายฯตัวเลยทําให้มันต่าง
แต่มันก้ออยู่ได้ยาวกว่าเพราะมันเป็นระบบปิด
จะเปลี่ยนแต่ละทีแพงมากครับ

ระบบปิดกับอยู่ได้ยาวใช้ไม่ได้กับประเทศไทยนะครับ อันเนื่องด้วยอากาศร้อนและรถติด  ดูได้จากเกียร์หลายๆรุ่นเวลาถ่ายน้ำมันเกียร์ออกมาเป็นโคลนแม้ว่าจะไม่ถึง 50,000 กม. ก็ตาม

ผมก็มีแผนจะเปลี่ยนแหละครับ รถบ้านผมวิ่งประมาณนั้นแหละครับ ปีละ 10,000 โล+- ครบ 5 ปี ไม่น่าเกิน 60,000 โล ถ้ายังไม่ขาย ยังใช้อยู่ คงไปเปลี่ยนข้างนอกไม่เปลี่ยนศูนย์  เพราะรู้สึกศูนย์แพงเกินมากไป

ออฟไลน์ PeterC

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126
    • อีเมล์
ฟ้องศคบ.เลยครับ ผมคิดว่า เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ถ้าเปลี่ยนข้างนอก ประกันก็ขาด เปลี่ยนศูนย์ก็ถูกโขก ผมว่ามีโอกาสชนะสูง แต่ว่าใครจะเป็นนักร้องล่ะ

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
ไม่แพงหรอก เขาเปลี่ยนทีเกือบ 10 ลิตร และมันต้องเปลี่ยนกรอง กับ ซีลข้างในด้วย ทำทีนึงก็อยู่ได้ หกหมื่นโล คุ้มอยู่ละ

ออฟไลน์ chaithawat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,538
มีค่าแรงแฝงครับ อย่างทำไป 5 หน่วยรวมๆแวตก็สี่พันเข้าไปแล้วครับ ยังไม่รวมกรองก้นอ่าง ประเก็น ที่เคยเปลี่ยนบางเบอร์ก็ไม่แพงนะ dexron 6 ลิตรละแปดร้อยกว่าบาทตวงจากถัง แต่ถ้าแกลลอนเจอลิตรละพันกว่าหลายๆลิตรก็แพงเอาเรื่องนะครับ ก็เขาเล่นกำหนดเบอร์เฉพาะมาที่เพลทเกียร์คนก็คงกลัวที่จะข้ามเบอร์ไป เบอร์ที่กำหนดมาก็จ้างบริษัทผลิตเฉพาะมาเองไงมันถึงแพง ถ้ารู้เบอร์เทียบก็คงดีไปครับ

ออฟไลน์ AnglE

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 28
    • อีเมล์
จริงครับ การตลาด + ความศรัทธาล้วนๆ
ผมเลิกใช้น้ำมันเกียร์ของศูนย์นานละ
BMW ของ ZF6 ลิตรละ 450-600
ผมก็เปลี่ยนมาใช้ Aisin AFW VI แทน รวมเปลี่ยนอ่างไ่มเกิน 5000 บาท ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร


ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตรงรุ่น เวลาเกียร์มีปัญหา
อู่ก็จะแจ้งว่าเป็นที่อายุอะไหล่นั้นๆ ว่าไป

แต่ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ยี่ห้ออื่นๆ ที่ใช้ทดแทนได้ พวก Dexron6 เวลาเกียร์มีปัญหา
อู่ก็จะโทษที่น้ำมันเกียร์เป็นอย่างแรกเลย ว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ไม่ตรงรุ่นบ้าง
ถ้าใช้น้ำมันอื่นๆที่ไม่ใช่ ZF ในระยะยาวววว เกียร์จะพังบ้าง เห้ออออออ
ผมอยากรู้เหมือนกันว่าเอาอะไรมาพิสูจว่า เกียร์พังเพราะน้ำมัน

เห็นหลายๆคนโดนอู่พูดนั่นนี่ก็กลัวกัน จนไม่ได้ศึกษาหาข้อเท็จจริง

แค่เราเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ให้ตรงเบอร์ จะยี่ห้อไรก็ช่าง เปลี่ยนไปเหอะ
ขอแค่เปลี่ยนถ่ายตามระยะ เปลี่ยนอ่างเกียร์ก็พอแล้ว



ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,332
 8) 8) 8).....ใช้ของดี คงต้องยอมจ่ายแพงครับ คนยุโรปตัวสูง คนญี่ปุ่นเกาหลีตัวเตี้ย เอ๊ะไม่รู้มันเกี่ยวกันไหมหว่า :-X

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
เหมือน ราคายา รพ. รัฐ กับ เอกชน หรือเปล่านะ สรรพคุณพอๆ กัน แต่ราคาต่างกัน

พารา รพ.รัฐ เม็ด ไม่ถึงบาท เอกชน บางแห่ง 20 กว่าบาท........

ออฟไลน์ mochalatte

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 356
8) 8) 8).....ใช้ของดี คงต้องยอมจ่ายแพงครับ คนยุโรปตัวสูง คนญี่ปุ่นเกาหลีตัวเตี้ย เอ๊ะไม่รู้มันเกี่ยวกันไหมหว่า :-X
ของเค้าน่าจะดีจริงแต่ไม่ถูกจริตกับคนไทย เพราะอากาศร้อนอบอ้าว และรถตืด ความสูงของคนขับอาจแปลว่ายิ่งสูง นําหนักอาจจะมากขึ้น😉 มีผลครับ
รถยุโรปสมัยใหม่ส่วนใหญ่กำหนดชีวิตเค้าไว้ที่ 180,000km ทั้งเครื่องยนตร์และเกียร์
มีข้อแม้ว่าไม่ได้ขับในเมืองไทยโดยเฉพาะกรุงเทพ
อายุการใช้งานของเกียร์จะน้อยลงไปเยอะถ้าขับแบบไม่ปกติ
เช่นขึ้นเขาลงห้วยตลอด
บรรทุกนํ้าหนักมากตลอดเวลา
ขับแข่งด้วยความเร็วสูง
ส่งพัสดุ อาหาร
หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องจอดและออกตัวตลอดเวลา(ต่างประเทศเท่านั้น เพราะ thailand จอดตลอดเวลา)
บางค่ายเลยแนะนำให้เปลี่ยน ATF ที่ 72,000km

ระบบปิดเปลี่ยนยากกว่าเยอะครับ มันถึงแพงมาก
เพื่อป้องกัน oxygen เข้าไปในระบบเลยไม่มีก้านวัดน้ำมันเกียร์
จะเปลี่ยนทีต้องฉีดขึ้นไปจากใต้ทองรถ ต้องใช้ technic และอุปกรณ์เสริม
ไม่เหมือนระบบเปิด เติมจากห้องเครื่องได้เลยครับ

ออฟไลน์ mochalatte

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 356
สงสัยครับ ว่าทำไม น้ำมันเกียร์รถยุโรป/รถพรีเมียม ถึงแพงกว่ารถปกติมาก ไม่รู้ว่าเป็นทุกยี่ห้อรึป่าว แต่จาก ปสก ตรง Benz, BMW, Audi, Land Rover ก็เป็นแบบนั้น คือจะอยู่ประมาณ 7,000-9,000 บาท ในขณะที่รถทั่วไป เหลือแค่ 1-2 พันบาท บางคันหลักร้อย

ถ้าจะบอกว่าเกียร์รถยุโรปซับซ้อนกว่า ก็คงจริง แต่ไม่ทั้งหมด เพราะรถธรรมดาหลายรุ่น เกียร์ก็ซับซ้อนใช่ย่อยเช่นกัน เช่น Ford ที่ใช้เกียร์ถึง 10 speed แถมเคยได้ยินว่า ใช้เกียร์เดียวกับ Land Rover อีกด้วย

การตลาดล้วนๆ ครับ

ถ้ารู้แล้วว่าน้ำมันเกียร์คืออะไร ทำจากอะไร ทำหน้าที่อะไร จะไม่ต้องใช้น้ำมันศูนย์อีกเลย

ผมใช้Benz BMW MINI VW Volvo ไม่เคยใช้น้ำมันเกียร์ศูนย์มานานกว่า10ปี ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเกียร์ พวกที่ใช้พังก่อนผมก็มีนะ

เอาง่ายๆ  เกียร์ AISIN ในMINI บริษัท Aisin ผลิตน้ำมันเกียร์มาตัวเดียว ใช้ร่วมกับโตโยต้า เบิกศูนย์มินิลิตระล600บาท เบิกโตโยต้า4ลิตร 1300บาทครับ

หรือเกียร์ GM ที่BMW ใช้ ลิตรละ900บาท บริษัท  GM กำหนดมาตรฐาน Dexron  มีขายแทบทุกปั๊ม ลิตรละ200-500บาท แล้วแต่ยี่ห้อน้ำมัน

หรือเกียร์ Mercedes Benz เขาก็มีกำหนดให้ใช้ได้หลายยี่ห้อรับรองโดย MB เองด้วย https://bevo.mercedes-benz.com/bevolistenmain.php?&navigation_path=oilfinder&language_id=1

น้ำมันเกียร์เมืองหนาว มันต้องทนการเปลี่ยนรูปเมื่อเครื่องเย็นจัด เป็นน้ำแข็ง ฝั่งไทยเราง่ายกว่าเยอะ หาแค่ตัวทนร้อนสูงๆทความหนืดไม่หายหมด ล้างสะอาด ไม่ทำลายซีล มีเยอะแยะไปครับ
มันมีผู้ผลิต ATF ไม่กี่เจ้า เค้า OEM ให้ไปเติม additives แล้วแต่ผู้ผลิตรถยนต์
ตัวนี้คือสิ่งสำคัญว่าจะมีความแตกต่างแค่ไหน
ระบบเปิด vs ระบบปิด
agents ที่มีผลกับ อากาศ
frictions ของเกียร์
car performance
internal combustion temperature
additives คือผลของ R&D
มาด้วยต้นทุนครับ

ออฟไลน์ +@ Krishna @+

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,295
  • *_* รถที่ดี คือ รถที่ใช้แล้วมีความสุข ^_^
ศูนย์​โขกครับ สเปคน้ำมันหายี่ห้อดีๆเทียบเบอร์​เดียว​ศูนย์​เผลอๆเปลี่ยน​ได้หลายครั้งหลายรอบ
+1
ตามนี้เลยครับ
เข้าศูนย์ก็ประมาณนี้ เพื่อนออก a class พอหมดประกัน เข้าศูนย์ทีจุกเลย
สุดท้ายขายทิ้ง ขับ civic  ;D

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
อะไรที่พรีเมี่ยม ส่วนควบก็มักจะแพงด้วยเช่นกัน 555

ทั้งๆ ส่วนควบ อะไหล่ และ ของเหลว เกรดบางอย่างพอๆ กับรถที่ถูกกว่า แต่ดันขายแพงกว่า

จะขายทิ้งแล้ว  :'( :'(

ออฟไลน์ zuneo

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 89
ฟ้องศคบ.เลยครับ ผมคิดว่า เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ถ้าเปลี่ยนข้างนอก ประกันก็ขาด เปลี่ยนศูนย์ก็ถูกโขก ผมว่ามีโอกาสชนะสูง แต่ว่าใครจะเป็นนักร้องล่ะ
เกรงว่าจะไม่ง่ายอย่างที่พี่คิดนะครับ ใช้แค่ความรู้สึกของเราไม่ได้ ต้นทุนต่างกันจะให้ขายราคาใกล้กันคงไม่ถูกต้อง

ออฟไลน์ Fun_Hadyai

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 206
    • อีเมล์
ผมว่าเค้าก็คงอยากขายให้แพงที่สุดเท่าที่กลุ่มลูกค้าเค้าจะรับได้แหละครับ อย่างรถญี่ปุ่นราคาไม่ถึงล้าน ผมว่าเค้าก็อยากขายลิตรละหลายพันเหมือนกันแต่กลุ่มลูกค้าคงจ่ายไม่ไหวพาลจะไม่ซื้อรถไปใช้ด้วย ต้นทุนมันก็คงจะมีส่วนบ้าง แต่ผมเชื่อว่าหลักๆ เค้าอยากขายให้ได้ราคาแพงที่สุดเท่าที่จะทำได้แหละครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
ผมว่าเค้าก็คงอยากขายให้แพงที่สุดเท่าที่กลุ่มลูกค้าเค้าจะรับได้แหละครับ อย่างรถญี่ปุ่นราคาไม่ถึงล้าน ผมว่าเค้าก็อยากขายลิตรละหลายพันเหมือนกันแต่กลุ่มลูกค้าคงจ่ายไม่ไหวพาลจะไม่ซื้อรถไปใช้ด้วย ต้นทุนมันก็คงจะมีส่วนบ้าง แต่ผมเชื่อว่าหลักๆ เค้าอยากขายให้ได้ราคาแพงที่สุดเท่าที่จะทำได้แหละครับ

คำว่าสูงที่สุด แล้วเท่าไหร่ครับ โดยส่วนตัวผมรับไม่ได้ แต่ก็ต้องเข้าศูนย์บริการแบบจำใจเข้า เพราะมีผลกับ Warranty ครับ

ถ้าผมหิ้วน้ำมันเครื่องเข้าไปศูนย์เปลี่ยนได้เหมือนอีกคัน ผมทำไปนานละ