ผู้เขียน หัวข้อ: ขับรถ 2 สไตล์แบบนี้ กรณีไปเที่ยว เมื่อถึงที่หมาย สไตล์ไหนร่างกายจะสดชื่นกว่าครับ  (อ่าน 6442 ครั้ง)

ออฟไลน์ adiPureII

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 245
    • อีเมล์
ผมสงสัยว่า กรณีขับแบบดุดันกึ่งซิ่ง(แบบวัยรุ่นๆ) กับแบบเนียบๆ(แบบผู้ใหญ่หน่อย)
เพื่อนๆสมาชิกคิดว่า แบบไหน ร่างกายจะสดไหม พร้อมเที่ยวกว่ากันครับ

เหตุการณ์จำลอง
ระยะทาง ประมาณ 180-250 km
ต้นทาง กทม. มีรถติดบ้าง รถเยอะบ้างช่วงในเมือง/ชานเมือง
ปลายทาง สถานที่ท้องเที่ยว ตจว ชายทะเล หรือภูเขา

1. ขับรถแบบ Alert ความเร็วสูง ควบคุมด้วยตัวเอง หูไวตาไวปาดเข้าช่องที่เร็วกว่า
มีเบรคหนัก ควบคุม Paddle shift ช่วยเบรค ให้อะดรีนาลีนหลั่งบางจังหวะ ร่างการตื่นตัวตลอดเวลา

2. ขับแบบเนิบๆ ใช้ Adaptive cruise control ไปตลอดทาง มือจับพวงมาลัยหลวมๆ
ความเร็วแทบจะคงที่ตลอดการเดินทาง ขับต่อๆแถวขบวนไป ร่างกายจะเนือยๆ ชวนง่วงตลอดเวลา
ไม่ต้องเพ่งดูสภาพแวดล้อมมาก เพราะมีระบบช่วยเบรค ช่วยประคองเลน

ออฟไลน์ johnlee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,603
    • อีเมล์
ผมว่าเพื่อนร่วมทางก็มีผลนะ   บางทีเส้นทางเดียวกัน  เจอพวกขับกากๆ ก็ผมเอาผมหัวร้อนได้เหมือนกนั
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t

Turbocharger

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าไม่ใช่ทางแบบ Motorway ขับแบบ 1 อันตรายนะครับ ถึงคุณจะระวังแต่ชาวบ้านตามต่างจังหวัดอาจจะไม่ได้ระวังกับคุณก็ได้นะครับ

ออฟไลน์ basterias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,793
ผมก็เคยขับแบบวัยรุ่นมาก่อนนะ (ตอนนั้นยังไม่มีรถที่มีระบบ ACC) สมัยนั้นก็โอเคดีครับเหนื่อยหน่อยแต่ไม่ถึงกับเที่ยวไม่ได้

ปัจจุบันไป ตจว ผมใช้ ACC 80% ครับ ถึงปลายทางเที่ยวสบาย ไม่ล้า แต่หากตอนนี้จะให้ขับแบบวัยรุ่น 200 กิโล ผมไม่ไหวครับ  :(
Current cars:
2018 - Volvo XC60 T8 R-design (Stock)
2020 - Mercedes C43 Sedan FL (tuned)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79186.0)
2021 - BMW 530e M sport LCI (Stock)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79736.0)

ออฟไลน์ DriveOnly

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,450
    • อีเมล์
ของผมสดชื่นทั้ง 2 แบบ ขอแค่รถไม่ติดครับ ผมเคยขับ 7 ชม ระยะทาง 600 กว่าโล กับ 7 ชม ระยะทาง 200 โล อย่างหลังนี่ร่างกายแทบแหลก รถเยอะ รู้สึกใช้พลังงานเยอะ ทั้งเหยียบเบรค ทั้งต้องระวังรอบตัว คิดแล้วเครียด

มาแก้ไขว่าไม่ได้ขับแบบที่ 1 ตามที่เจ้าของกระทู้บอก 100%  แค่โล่งก็เหยียบ คันหน้าหลบซ้ายให้ก็เหยียบต่อ รถเยอะก็เบาตามสภาพการจราจร จะไม่มุด และจี้เด็ดขาด อันตรายไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 15, 2019, 19:40:00 โดย DriveOnly »

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,535
เลือก 2 ครับ ปกติผมก็ขับออกต่างจังหวัด 100-120 km/h อยู่แล้ว ไปแบบช้าหน่อยแต่ถึงที่หมายดีกว่า มี ACC ก็ช่วยเยอะอยู่แล้ว เบรคให้อัตโนมัติด้วย
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ GOBBS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,031
ขับมาทั้ง 2แบบ ขับ กทม.-เชียงราย 800โลรวดเดียวแวะพัก 2หน อย่างข้างบนบอก อย่าเจอรถติดละกัน
2แน่นอนครับ แบบที่ 1 จะต้องหูไวตาไวอีกอย่างคือ ต้องจำได้ว่ากล้องอยู่ไหนด้วย เครียดไปนะ....
2ไปเรื่อยๆ 90-110 ไม่มีง่วง ไม่มีหลับอยู่แล้วครับ ถ้าคุณง่วงหรือหลับแปลว่าร่างกายไม่พร้อมแล้วละครับ
.....2006 honda jazz idsi
.....2015 mazda2 skyD
..ใช้รถเท่าที่จำเป็นกันเถอะครับ...รถมันติด

ออฟไลน์ ToRToNGPaT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
    • Wongnai : ติดตามต้อง
ส่วนใหญ่ผมจะขับแบบ 1 นะ แต่ไม่ได้เร็วมาก ประมาณ 110-120 บางช่วงนี้ขยับไปถึง 140 บ้าง เจอรถช้าก็จะแซง แต่ไม่ได้ปาดหรือมุด ถ้ารถเยอะ ค่อยๆหาช่องทางแซงไปได้ครับ

แต่บางช่วง ก็มีใช้ Cruise Control บ้าง เวลาที่เมื่อยๆ แล้วถนนว่างๆ เพราะกลัวจะเผลอขับเร็วเกินไปครับ ใช่สักพักก็กลับมาขับเองต่อ เดี๋ยวง่วงนอนครับ
My Car = My Friend

2023 Honda HR-V 1.5 e:HEV RS E-CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องหมูแดง)
2023 Honda WR-V 1.5 RS CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องถุงแดง)


Review ของกินอร่อยๆ เรียนเชิญที่ Wongnai : ติดตามต้อง

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,195
    • อีเมล์
สมัยวัยรุ่น ขับแบบ 1 เช่นกันครับ ... ขึ้นรถปุ๊บ มีต่ำๆ 140 ถ้าเริ่มง่วง ก็จะเพิ่มเป็น 160 .. แน่นอน สติก็ต้องจดจ่อ ถึงที่หมายแล้ว เหนื่อย เพลีย ครับ

ปัจจุบัน ขับแบบ 2 ไปเรื่อยๆ 100 - 110 เปิดเพลงเพราะๆ นั่งร้องเพลงไป ถ้าได้รถช่วงล่างดีๆ นุ่มๆ เกาะๆ กับ เบาะนั่งสบายนะ ถึงที่หมายสบายๆเลยล่ะ เที่ยวต่อได้

หลังๆมานี้ ผมเลิกงานเสร็จ ผมก็เดินทางเลย จะเชียงใหม่ หรือ นครศรี อาจมีจอดนอนตามปั๊มสักชั่วโมง ตื่นแล้วไปต่อ ถึงที่หมายสัก 10 - 11 โมง ก็เที่ยวต่อได้เลยครับ

............

อีกอย่าง ที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ก็คือ เบาะ recaro นี่แหละ

รถ Pulsar ที่ผมบ่นนัก บ่นหนา ว่า เบาะนั่งไม่สบาย ขับแค่เข้ากทม. ก็ปวดหลังแล้ว พอใส่ Recaro แล้ว ผมขับไปกลับ ปราจีน - นครศรี (ถึงนครแล้วพัก 30 นาที ตีรถกลับเลย) ออกทุ่มวันศุกร์ ถึง ตี 2 วันอาทิตย์ ถึงแล้วไม่มีเมื่อยเลยสักนิด นั่งเก็บของ เล่นเนตต่อ เช้ามา 8 โมง ตื่นมาล้างรถสบายๆ

กลับกัน

พอเทียบกับ CRV ที่เคยบอกว่า มันสบาย เมื่อวาน กลับจาก เมืองคอง เชียงดาว มา ปราจีน ราวๆ 900 กม. เช้ามายังเพลียๆเมื่อยๆอยู่เลย

.........

Recaro เบาะมันนั่งไม่สบายนะ บีบๆ แน่นๆ แต่นั่งแล้วตัวไม่เลื่อน ไม่หลุด มันล็อคตัวอยู่อย่างนั้น

เบาะ CRV นั่งแล้วเหมือนนั่งโซฟาดีๆที่บ้าน นุ่มๆ สบายๆ แต่มันก็ไหลบ้าง เลื่อนบ้าง ตามประสา

ออฟไลน์ jkdragon07

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 40
    • อีเมล์
แบบ 1. ประสาทตื่นตัวตลอดเวลา เกิดความเครียดสะสม และมีอัตตราเสี่ยงที่จะไปไม่ถึงปลายทาง อันนี้ผมไม่สนับสนุนนอกจากจะมีเหตุให้ต้องเร่งรีบจริงๆ
แบบ 2. ผมทำอยู่ (cruise control ไม่มีระบบ รักษาระยะ) แต่ความเร็วต้องไม่เกิน 110 เกินกว่านี้เหมือนประสาทต้องตื่นตัวมาก ถึงที่หมายแล้วล้าครับ แต่ถ้าต่ำกว่า 110 ลงมา ผมขับได้ทั้งวันโดยที่ไม่ล้ามากนัก
ปล. แต่ระยะแค่ไม่เกิน 250 กม. ถ้ายังหนุ่มยังแน่น จะแบบ 1 หรือ 2 ไม่น่าจะมีผลกับร่างกายมากจนถึงขั้นเที่ยวต่อไม่ไหว แต่ไม่สนับสนุนแบบ 1 ต้องเห็นใจเพื่อนร่วมทางด้วยเพราะเขาอาจจะเครียดจากการขับรถปาดไปปาดมาของเรา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 15, 2019, 15:48:37 โดย jkdragon07 »

ออนไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,692
ผมชอบแบบสองมากกว่า เผื่อเวลาไว้เยอะๆ ค่อยๆไป 100-110 ยาวๆ เจอแช่ขวา แซงได้แซง ไม่ว่างก็รอจังหวะ รู้สึกผ่อนคลายกว่า ปลอดภัยกว่า คนที่ได้ก็รู้สึกดีกว่า ขับแบบ 1   

ออฟไลน์ Barracuda

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,395
ขับระยะ 512 กม. (ไปกลับ) ทุกอาทิตย์ขับทั้งสองแบบมีแค่ล้ามากหรือล้าน้อยกว่า บอกเลยแบบที่ 1 ล้าน้อยกว่ากลับถึงบ้านพาเมียไปกินข้าวด้วยไม่เหนื่ยเท่าแบบที่ 2 เพราะใช้เวลานานกว่าล้ากว่ามากๆถึงบ้านต้องพักเลย

ออฟไลน์ ๑ ๒ ๓

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,021
    • ร้าน เอที คอมสำโรง
    • อีเมล์
ขับต่างจังหวัด รถเล็กนะครับ มาสด้า2

1. ขับไว 100-120 เจอด่าน เกือบทุกด่าน  ใช้เวลา 8.30 ชม.  พอถึง มีอาการเพลียๆ

2. ขับแบบตั้ง ครูยซ์ 90 กม./ชม.  ใช้เวลา 10 ชม.  ผ่านทุกด่าน พอถึง ไม่มีอาการเพลีย สบายๆ

สรุป ขับช้า ปลอดภัย ไร้ใบสั่ง ไม่เหนื่อยครับ  อิอิ
รับซื้อ ขาย ซ่อม แลกเปลี่ยนคอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์

ออฟไลน์ D Water Law

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
ผมเคยขับรถบน Highway ของทั้งอเมริกา และแคนนาดา

เค้าจำกัดความเร็วไว้คำนวณเป็น กม./ชม. น่าจะ 110-130 กม.ต่อชม.
และรถ 99% ขับตามๆ กันด้วยความเร็วคงที่แบบนี้ ไม่มีพวกขับช้าแช่เลนกลางหรือแช่เลนขวาเลย (จริงๆ พวงมาลัยซ้ายนะ) จะแซงก็ออกซ้าย กลับเข้าเลนเดิม
เอาจริงๆ คือแทบจะไม่ได้เปลี่ยนเลนเลย ขับไปเรื่อยๆ สบายๆ เนือยมากๆ เพราะอยู่เลนกลางก็วิ่งเต็มสปีดลิมิตแล้วล่ะ ไม่รู้จะแซงทำไม

ผมขับทั้งวัน วันละหลายร้อยกม.  บางวันขับ 8 ชม.   บอกตามตรงแทบไม่เหนื่อยเลย 
แถมทำเวลาได้ดีกว่ามาขับแบบซิ่งๆ 140-150  ปาดซ้าย ปาดขวาในเมืองไทยเสียอีก เพราะในเมืองไทยขับเร็วได้มากก็จริง แต่สักระยะเดี๋ยวต้องเบรค เสียจังหวะตลอด

ขับ 8 ชม. ในอเมริกา แคนนาดา เทียบกับขับ กทม.-พัทยา // กทม.-หัวหิน บ้านเรา ขับแค่ 2-3 ชม. ยังเหนื่อยกว่าเยอะ

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,332
 8) 8) 8).....using cruise control 95 km/hr ครับ ไม่ต้องดุดัน สบายๆ on/off paddle ไม่เหนื่อย กับ 300 kms. ทุกๆ 2 อาทิตย์  ::)

ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,101
ส่วนมากชอบขับเลนกลางไปเรื่อยๆ ความเร็วร้อยกว่าๆ
แต่ถ้าคันหน้าขับช้าเกินไป ผมก็เล็งข้างหน้าคันนี้มีว่างช่วงไหนบ้าง เล็งจังหวะดีๆ แล้วแซงเนียนๆ
ไม่ตัดหน้าใคร ไม่จี้ใคร ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆตลอดเส้นทาง ไม่มีช้า ขับเนียนๆถึงเร็วและไม่เหนื่อยครับ


ออฟไลน์ shikimaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
    • อีเมล์
2 ครับ จากคนขับแบบ 1 มาตลอด มีเหตุต้องทำเวลาก็ขับ 1 ตลอด

ถ้าไม่รีบไปไหนขับ 2 สบายกว่ากันเยอะ ทั้งไม่ล้า สมาธิไม่ตก โฟกัสยังดีแม้จะลงจากรถแล้ว แต่ แบบ 1 ลงรถนี่ยังตึงๆ ตลอด ตอนนี้พยายามขับ แบบ 2 แล้วครับ ปรับเวลาให้มันไม่ต้องใช้หนักๆ

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
ระยะทางประมาณนี้อะไรก้ได้ครับ ไม่เหนื่อย แต่ถ้าเกิน 300 ผมไม่ขับครับ ง่วง

ส่วนขับแบบ1 ละกัน แบบ2 ตอนแรกก้ดีๆพักนึงง่วง ขับแบบ1 ก้ง่วงได้ครับ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
สลับกันตามจราจรครับ รถเยอะเครียดๆขับตามๆกันไปเร็วกว่าได้แต่อย่ามาก แต่ขับแบบนี้จะเครียดเพราะเดี๋ยวเบรกเดี๋ยวเร่ง กลัวโดนชนท้ายเจอที่กินก็แวะให้จบๆ พักกายไปด้วย
พอหลุดมาโล่งๆก็แล้วแต่คนเลยครับ ส่วนตัวผมจะทำเวลาชดเชยที่เสียไปช่วงรถติด และจะมีรถที่คิดแบบเดียวกันให้ตามๆกันไป เพราะเค้าเร็วแน่นอน แต่อย่าจี้ ตามห่างๆไปขับสบายมาก
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
ขับธรรมดา ร่างกายรีเล็กซ์ ผ่อนคลาย ขับสบายๆ (จะได้ ACC หรือไม่ก็ได้) สมองไม่เคลียด ร่างกายไม่เกร็ง เพราะมันเป็นเหตุให้ร่ายกายเมื่อยล้า และทำให้ง่วงด้วย เดี๋ยวเที่ยวไม่สนุกอีก เสี่ยงหลับในอีก

โดยส่วนตัวนะ รีบไปแล้วได้ไรเอ่ย ถึงเร็วขึ้น แต่ทำผิดกฏหมายจราจร ก็ไม่ได้มีความสุขด้วย เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุด้วย บางทีคนโดยสารเขาก็ไม่ได้สนุกไปกับเราด้วยซิ

ผมขับรถระยะ 550 กิโลเมตร (ไปกลับ 1100 +/-) ทุกๆ 2 อาทิตย์(อาทิตย์เว้นอาทิตย์) เย็นวันศุกร์กลับมานอนแล้วตื่นแล้วก็ออกเที่ยงคืนของวันศุกร์ถึงปลายทางเช้าวันเสาร์(ขับกลางคืนดึกๆ) ใช้รถแต่ละคัน 1 ปี วิ่ง 5 หมื่นกิโลเมตรโดยประมาณ ร่ายกายพร้อม สติอยู่กับตัว คิดถึงคนรอบตัวเข้าไว้ ขับสบายๆ ไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็พอแล้วครับ ใครรีบๆ มารยาทบนท้องถนนไม่ดีๆ ก็ปล่อยไปเขาไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 16, 2019, 09:17:13 โดย DiKiBoyZ »

ออฟไลน์ bingoman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,367
ผมว่าขับแบบ 2 ถึงที่หมายแล้ว ยังสดใสกว่า

เพราะขับแบบ 1 ไปถึงแล้วนะจะเครียดและตื่นตัวได้แป็ปเดียว เพราะตอนขับต้องตั้งสมาธิมากๆ ครับ ดีไม่ดีถึงที่หมาย จะเครียด โมโหอยู่ด้วย เพราะขับแบบนั้นในบ้านเรา อาจจะมีคนมาท้า มาวัดได้ ทำให้เครียดๆ อยู่

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่มีความเสี่ยงกับผลที่อาจจะเกิดขึ้นกับครอบครัวคนอื่น
หากจะเกิดขึ้น ความสนุกไม่ได้ช่วยอะไร

จากคนเคยได้รับผลกระทบจากอะดรีนาลีนหลั่งพรั่งพรูจากคนกลุม่นั้น
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
อันนี้ส่วนตัวนะ
ปกติผมขับรถเร็ว ออกตจว.ก็160ยืนพื้น แซงเป็นว่าเล่น นานๆจะลงมาแช่140
แต่หลังๆก็เบาลงและขับช้าบ้างเวลาไปตจว.(90ตลอดทาง มีแซงบ้าง)

ผมไม่รู้สึกว่ามันต่างกันเลย แต่ที่รู้สึกได้คืออายุเริ่มมากขึ้นทำให้ง่วงขึ้น อดนอนได้น้อยลงเวลาขับรถ

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
แบบ 2 ครับ ขอแค่ไม่เจอรถติด ไปเรื่อยๆพอถึงแล้วยังตกใจเองว่าถึงแล้วหรือนี่ เหมือนเวลามันผ่านไปเร็ว :D

ออฟไลน์ rega

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 388
แบบสอง ลงรถไปปาร์ตี้ต่อได้ ขับข้ามจังหวัด ไปอย่างเดียว สี่ร้อยกิโลเมตร ขับแบบไม่จำกัดเวลาผ่อนคลายกว่า เดือนที่แล้วเลี่ยงน้ำท่วมถนน เวลาเพิ่มร่วมสิบชั่วโมง สบายเมื่อถึงบ้านครับ
มีเงาไม่มีตน

ออฟไลน์ Odd_yim

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 439
    • อีเมล์
อยู่ที่สภาพร่างกายครับ พักผ่อนพอ ขับแบบ 2 ก็ไม่ง่วงครับ แต่ถ้าพักผ่อนไม่พอแล้วขับแบบ 1 นี่โอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงครับ  ของผมนี่ขับแบบ 2 เป็นส่วนใหญ่ 100-120 เมื่อถนนว่าง ที่จะล้าเป็นเพราะรถติดมากกว่าครับ ช่วงเทศกาลระยะทาง 800 โล ขับเกือบ 16 ชม.

ออฟไลน์ mrpich

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,197
  • เฮ้อ...อยากจะเหมาทั้งวง
ขับแบบ 1.5 ครับ ปลอดภัยและสดชื่นสุด
ถูกใจฮโยยอน-ปลื้มซูยอง-ชื่นชมเจสสิก้า-คิดถึงยูริ-แอบปิ๊งยูนอา-ชอบซอฮยอน-ใฝ่ฝันซันนี่-หลงไหลแทยอน-สุดรักทิฟฟานี่

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
ผมขับแบบ 1 แค่ไม่กี่ปี ตอนยังวัยรุ่น ตอนนั้นเฉยๆครับ คิดว่าคงเป็นเพราะร่างกายยังดีอยู่

แต่พอทำงาน ด้วยความที่น้ำมันแพง แถมรถเก่ากินน้ำมัน เลยต้องเปลี่ยนสไตล์ขับมาเป็นแบบที่ 2 ก็โอเคดีครับ ถึงที่หมายเหมือนกัน อาจจะช้ากว่าแบบแรกนิดหน่อย แต่ความเหนื่อยน้อยกว่าแบบที่ 1 แน่นอนครับ

ปัจจุบันมีลูก ยิ่งขับช้าลงอีกครับ 5555

ออฟไลน์ JeansZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,239
    • อีเมล์
จากประสบการณ์ ขับแบบ 2 โอกาสหลับในสูงมาก แม้จะนอนเต็มที่มาแล้วและออกเดินทางตอนเช้า ถ้าแวะงีบตามปั๊มนี่มีหลับ 2-3 ชม. แน่ๆ (ผมเป็นคนที่นอนยังไงก็ยังง่วง ถ้าไม่มีอะไรทำ)

เลยต้องขับแบบ 1 กับ 2 สลับกัน เพราะแบบ 1 จะทำให้ตื่นเต้น กระปรี้กระเปร่าอยู่ตลอดเวลา แต่อย่าให้เจอรถติดจนหยุดนิ่งแบบช่วงเทศกาล

หรือถ้าไปกับแฟน หรือไปกับเพื่อนหลายคน ก็สลับให้แฟนหรือเพื่อนเป็นคนขับแทน ซึ่งผมหลับทุกครั้งที่ให้คนอื่นขับให้
Ford Fiesta 1.0 Ecoboost
Toyota Yaris 1.2

ออฟไลน์ ^Yimm@^

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,132
ระยะทางไม่เกิน250โลนี่ ขับแบบปกติได้เลยนะครับ ไม่ต้องใช้paddle shiftไม่ต้องใช้cruise ไม่ได้เหนื่อยล้าอะไรขนาดนั้น