จากคนที่เคยใช้ CX-5 Diesel ครับ การไปตัด DPF ออกผมไม่คิดว่ามันจะช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย ผมเคยได้ยินว่ามี CX-5 Diesel ใน H Club บางคันไปทำมาแล้วและก็น้ำดันมาแล้วนะครับแล้วถ้ามันแก้ปัญหาได้จริงทำไมมาสด้าไม่เรียกรถเก่าเข้าไปตัด DPF ออกบ้างละครับบริษัททำเองพังดองจะได้ไม่ต้องแก้ตัวลูกค้าไปทำเองหมดประกันเลยนะครับถือว่าไปดัดแปลงเครื่องยนต์ มันมีปัญหาอื่นๆอีกหลายประเด็นนะครับ เช่น ระดับน้ำมันเครื่องที่สูงขึ้น เนื่องจากน้ำมันดีเซลที่ลงไปผสม (น่าจะเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เครื่องยนสึกหรอเร็วมาก) ปั๊มคอมมอนเรียล ที่พังง่ายมาก 100,000 กิโล ก็พังแล้วครับ ราคา 60,000 บาทครับ อะหลัยแพงมากนะครับถ้าคิดว่ารถยุโรปแพงแล้ว บางอย่างมาสด้าแพงกว่ามากครับ (เช่น ลูกปืนล้อหน้า ข้างละหมื่นกว่าบาทครับกับระยะทางประมาณ 100,000 กิโล Battery เมื่อก่อนขายลูกละ 10,000 กว่าบาทนะครับไปเปลี่ยนข้างนอกไม่รับประกัน และชอบรวนเนื่องจากระบบ I Stop ปิดเลยก็ไม่ได้นะครับ) ฯลฯ บางอย่างผมไม่อยากจะโทษศุนย์บริการหลอกครับอยากจะบอกว่ามันเป็นนโยบายจากยริษัทแม่เลยครับ
ทั้งหมดที่กล่าวมาคือเรื่องจริงที่เกิดกับตังเองจนสุดท้ายต้องยอมจำนน ขายทิ้งได้ 400,000 บาท กับรถที่ใช้ได้ 5 ปี 200,000 กิโลเมตร หลังๆไม่เคยได้เข้าศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนดเวลาเลยเพราะมีเรื่องให้ต้องวิ่งเข้าศูนย์ก่อนครบกำหนดทุกครั้งไปอาศัยศูนย์เป็นที่ล้างรถครับเพราะซ่อมเสร็จล้างรถสะอาดทุกครั้งเลย (แต่ค่าล้างรถแพงมากครับ)
มีคนมาคุยว่ามาสด้าจะออกหนังสือรับรองให้สำหรับรถใหม่ว่าจะไม่มีปัญหาอีก รับหนังสือได้วันออกรถเลย ท่านที่อยากลองๆถามดูครับว่ามาสด้าจะออกหนังสือให้จริงเปล่า หรือเป็นแค่ราคาคุยจของเซลบางคนเท่านั้นครับ
สุดท้ายการตัดสินใจซื้อเป็นเรื่องของท่านเงินของท่าน ไม่ลองไม่รู้ ไม่เจ็บไม่จำครับ