นายรามอน เอ็ม โลเปซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม กล่าวว่าผู้แทนของฟิลิปปินส์ประจำองค์การการค้าโลกในกรุงเจนีวาได้รับแจ้งเกี่ยวกับแผนการของฟิลิปปินส์ที่จะกำหนดมาตรการปกป้องการค้ากับประเทศไทยแล้ว แต่เราจะยังไม่ส่งเรื่องไปให้ WTO ทราบจนกว่าจะถึงไตรมาสแรกของปีหน้า
เราจะออกมาตรการภายในปีหน้าหรือในเดือนมกราคม หรือช่วงต้นปีหน้า พอถึง นี่จะเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะกระตุ้นให้ประเทศไทยปฏิบัติตามคำตัดสินของ WTO" นายโลเปซ กล่าว
ทั้งนี้ นายโลเปซหวังที่จะพูดคุยในเรื่องนี้โดยตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าไทยในการประชุมสุดยอดอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษในปูซานที่จัดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประเทศไทยปฏิบัติตามคำวินิจฉัยขององค์การการค้าโลกที่ได้มีคำสั่งออกมาก่อนหน้านี้
แต่ฟิลิปปินส์ก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติในประเด็นข้อพิพาทดังกล่าวกับประเทศไทยได้ โดยนายโลเปซ ระบุว่าความล้มเหลวครั้งนี้เกิดจากการที่ฝ่ายไทยไม่ได้เข้าร่วมในการประชุมสุดยอด 25-26 พฤศจิกายน ที่จัดขึ้นที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้
ทั้งนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ กำลังศึกษาวิธีการตอบโต้ทางการค้าที่เป็นไปได้อย่างจริงจัง ซึ่งคาดว่าน่าจะออกมาในรูปแบบการจำกัดการส่งออกรถยนต์ของไทยไปยังฟิลิปปินส์เพื่อตอบโต้ที่ประเทศไทยยังคงปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำตัดสินของ WTO เกี่ยวกับกรณีภาษีบุหรี่นำเข้า
ก่อนหน้านี้นายเซเฟอร์ริโน เอส. โรดอลโฟ ปลัดกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมกล่าวว่า DTI ได้มีคำสั่งให้ผู้แทนฟิลิปปินส์ประจำองค์การการค้าโลกในกรุงเจนีวาร้องขอสำนักเลขาธิการการระงับข้อพิพาทให้มีการประชุมหารือกับประเทศไทยเพื่อชี้แจงท่าทีของฟิลิปปินส์ พร้อมย้ำว่า จำเป็นต้องศึกษาให้ดี โดยระบุว่าจะมีการเจรจาต่อรองและหวังว่าประเทศไทยจะชดเชยความเสียหายที่เกิดจากการส่งออกบุหรี่นายโรดอลโฟ กล่าวเพิ่มเติมว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ทำตามข้อตกลงตามลำดับทั้งหมดกับประเทศไทยที่ลงนามร่วมกันใน พ.ศ. 2555 เกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทภาษีบุหรี่ หรือ DS 371 ต่อหน้า WTO ฟิลิปปินส์ชนะคดีที่มีกับไทยทุกคดีจากการตัดสินของ WTO แต่ประเทศไทยก็ยังไม่ยอมปฏิบัติตามคำตัดสินดังกล่าว
