ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าใช้รถยุโรปแล้วจะกลับไปใช้รถญี่ปุ่นไม่ได้อีกจริงเหรอครับ  (อ่าน 55531 ครั้ง)

ออฟไลน์ The Mechanics of Emotions

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,679
ผมได้ยินหลายๆ คนบอกว่าถ้าได้ใช้รถยุโรปแล้วจะไม่ยอมไปขับรถญี่ปุ่นอีกเลยนี่มันจริงไหมครับ หลายๆ ท่านในนี้น่าจะได้สัมผัสทั้งรถญี่ปุ่นและรถยุโรปมากกว่าผมเยอะ มันต่างกันขนาดนั้นเลยเหรอครับ ผมเองใช้ CX-5 2.0 ตัวเก่าอยู่ และพึ่งซื้อ BMW E90 325i M Sport ปี 10 เข้ามาเพิ่ม ส่วนตัวผมว่ามันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันขนาดนั้นนะ ที่ต่างกันก็พวก option ที่ BMW มีมาให้มากกว่า แต่บางอย่าง BMW ก็ไม่มีเหมือน Mazda โดยการขับขี่ผมว่าความมั่นคงแทบไม่ต่างกัน ที่ต่างกันคือความแข็งของช่วงล่าง จากที่เคยคิด CX-5 ก็ช่วงล่างแข็งพอประมาณแล้ว พอไปขับ BMW นี่คนละเรื่องเลย เจอรอยต่อถนน หรือถนนเป็นคลื่นพ่อแม่นั่งทีบ่นอุบเลยครับ มันสะเทือนมาก (ช่วงล่าง M Sport) กลายเป็นว่า CX-5 นั่งนุ่มซับแรงได้ดีกว่าเยอะ น้ำหนักพวงมาลัยกลายเป็นว่า CX-5 เบามาก คล่องตัวมากในเมือง แต่ E90 พวงมาลัยมันหนักเลยทำให้ไม่รู้สึกคล่องตัวเท่าไหร่ เรื่องเครื่องยนต์ 325i เดินเบานิ่งกว่า CX-5 แต่ตอนออกตัว BMW กลับวิ่งไม่ค่อยออกในเกียร์ 1 จะไปมีกำลังหลังเกียร์ 2 เป็นต้นไป และการเซ็ตคันเร่งไม่ฉับไวเหมือน CX-5 สามารถใช้เท้าคุมให้ลด 1 เกียร์ 2 เกียร์ได้ง่ายกว่า แต่ BMW กดไปนิดนึงยังไม่ค่อยตอบสนอง ถ้ากดลึกไปหน่อยก็รอบก็จะโดดขึ้นเยอะไป ทำให้มันแรงเกินไปหน่อย แต่อัตราเร่งต่างกันเยอะครับ BMW นี่เข็มความเร็วกวาดขึ้นง่ายๆ เลย อีกอย่างนึงที่ต่างกันชัดคือการเก็บเสียง BMW เงียบกว่าเยอะ เสียงลมวิ่ง 140 ถึงจะมีเข้ามาเบาๆ แต่ CX-5 วิ่ง 110 นี่ก็มีฟิ้วๆ ละครับ 140 นี่หูตึงเลยทีเดียว

สำหรับผมมันก็ดีกันคนละด้านนะ แต่เอาตรงๆ ความนิ่งของช่วงล่างไม่ค่อยต่างกันมาก แต่ถ้าตอนผมใช้ altis หน้าหมูแล้วเปลี่ยนมา CX-5 มันต่างกันคนละโลกเลย แต่พอ CX-5 ไป BMW ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ สำหรับผมนะ ท่านสมาชิกน่าจะเคยผ่านรถมามากกว่าผมคิดว่ายังไงกันบ้างครับ
2010 BMW 325i M Sport
2016 Mazda CX-5 2.0S

ออนไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,591
 
 แล้วแต่คน แล้วแต่สถานะทางการเงิน

 รถยุโรปดีกว่าอยู่แล้ว. แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ได้ห่างกันมากเหมือนเมื่อก่อน

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
ไม่จริงครับ ต่างคนต่างมีข้อเสียของตัวมันเอง ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกให้น้ำหนักอันไหนมากกว่า

สำหรับผมไม่เคยใช้ญี่ปุ่นเลย ผ่านมาหมดทั้ง Benz Audi VW BMW จนได้ลองญี่ปุ่น PPV Suv Dseg เอาตรงๆเลยไม่อยากกลับใช้ยุโรปแล้วครับ ติดใจในความเรียบง่าย ทนถึก ศูนย์บริการดีกว่ายุโรปเยอะ คุ้มค่าทุกบาทที่จ่าย ถ้าจะติตอนนี้เหลือแค่ภายในไม่หรู กับเก็บเสียงห่วย แค่นั้นแหละครับ ถ้าบอกว่ายุโรปดีกว่าทุกด้านไม่จริงแน่นอนครับ

ออฟไลน์ Mp4_007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 787
ทำไมถึงใช้ไม่ได้เหรอ. พอไปขับแล้วมันคันเหรอ รึยังไง 55

ออฟไลน์ diamond4me

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 194
ตอนรถชน จะเห็นความแตกต่างได้เยอะสุด

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,044
ไม่จริงครับ ก่อนหน้านี้ผมใช้แต่รถยุโรป W201 W202 Saab 9000cse E30 E36 XC70 .. ตอนใช้มันก็โอเค แต่พอได้ลองรถญี่ปุ่น มันก็มีความ"ง่าย"ในการดูแล ความ"ทนถึก" ในการใช้งานที่มากกว่า "ฟีลลิ่ง" ที่เดิมๆสู้ไม่ได้ ถ้าเลือกรถที่พื้นฐานดีๆ มันก็พอปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อยู่

ออฟไลน์ The Mechanics of Emotions

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,679
ทำไมถึงใช้ไม่ได้เหรอ. พอไปขับแล้วมันคันเหรอ รึยังไง 55

ความหมายประมาณว่ารถยุโรปดีกว่าจนไม่อยากไปใช้รถญี่ปุ่นเลย แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนะ รถญี่ปุ่นก็ดีกว่าคนละด้านครับ
2010 BMW 325i M Sport
2016 Mazda CX-5 2.0S

ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,173
ก็ไม่ขนาดนั้น ถ้าไม่นับ lexus

โดยรวมอาจจะหมายถึง ไปใช้รถ premium แล้วไม่กลับไปใช้รถตลาดมากกว่า

ผมมองว่าการเงินของเราพอจับยุโรปได้แล้ว ก็มันไม่ค่อยจะลดลง นอกจากชอตจิงๆ เลยไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกลับไปใช้รถ eco อะครับ

ผมจับยุโรปมาก่อน หลังๆมาจบที่ lexus แต่จริงๆแล้ว camry/accord ผมก็ว่าได้อยู่นะ แค่ไม่ชอบที่มันโหลๆหน่อย

แต่เทียบแบบข้าม 10ปีไม่ได้ครับ เอาเป็นว่ารถตลาดมันก็ต้องเพิ่มออปชั่น เพิ่มความสะดวกสบายตามยุคสมัย บอกจับยุโรปเมื่อ 20ปีก่อนแล้วมาจับรถ compact บ้านๆ ปัจจุบันมันก็อาจจะใกล้เคียงอะคับ เทคโนโลยีคนละยุคสมัยเลย

ถ้าจะเทียบ เทียบรถยุคเดียวกัน ส่วนใหญ่ด้วยค่าตัวมันจะใส่ของเล่นกับความสะดวกสบายมาให้เยอะกว่า มันก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

ถ้าใช้ยุโรปจะกลับไปใช้ญีปุ่่นมันเป็นวลีปลอบใจเหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก อะไรเทือกนั้น

จะเทียบ cx5 ต้องไปหารถที่มีคาแรคเตอร์คล้ายๆกันแบบ xc60 inscription 'ตัวปัจจุบัน' มาเทียบมากกว่าครับ เอารถคนละประเภท แบบเก่าเป็น 10ปีมาบอกว่ามันไม่ได้ดีกว่าผมว่าไม่ใช่

ดีแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมชอบนุ่มเงียบกว้างสบาย ผมก็บอกสิว่า lexus es ดีกว่า แต่คนชอบแบบสปอร์ตเทโค้ง ก็อาจจะบอก z4 สิดีกว่า

แต่ส่วนตัวผมชอบการขับขี่แบบรถญี่ปุ่นมากกว่านะ แต่ไม่ชอบ interface กับความสะดวกสบายเท่าไหร่ แบบ g20 เดินไปใกล้ๆก็ปลดล็อคแล้วไรงี้ ดีเทลหยุมหยิมอะคับมันทำให้ประทับใจว่าเออคิดมาดีนะ

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
แบ่งแยกทวีปรถกันอีกแล้ว ได้ยินคนโน้นว่าคนนี้ว่า ก็ไม่ใช่ว่าต้องเชื่อจนต้องเก็บมาคิดไปซะทุกอย่าง อย่างแบร์น Lexus นี่ก็รถญี่ปุ่น ประกอบดีกว่า นั่งสบายกว่ารถยุโรปในระดับเดียวกันอีก

เอาราคาเป็นตัวตั้งสิครับ อย่างใช้ซี่รี่ย์3 แล้วไม่อยากไปขับอัลติสมันก็ถูกแล้วจริงมั้ย ไม่ใช่ว่าขับ c class แล้วไม่อยากไปขับซุปปร้า มันก็ไม่ใช่

ออฟไลน์ Sakutaro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 423
ผมคิดว่าคงหมายถึงสมรรถนะ และฟิลลิ่งครับ
ซึ่งถ้าเป็น7-10ปีก่อน รถตลาดๆหรือรถญี่ปุ่นที่เราใช้
ยังไม่เทียบเท่าทุกวันนี้ บางรุ่นยังพวงมาลัยโหวง
ช่วงล่างลอยๆ ทำให้เกิดความห่างในสมรรถนะ
แต่ทุกวันนี้ช่องว่างนั้นน้อยลงมากแล้วครับ
แต่รถยุโรปก็ขยับหนีด้านอื่นแทน55555

ออฟไลน์ The Mechanics of Emotions

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,679
ก็ไม่ขนาดนั้น ถ้าไม่นับ lexus

โดยรวมอาจจะหมายถึง ไปใช้รถ premium แล้วไม่กลับไปใช้รถตลาดมากกว่า

ผมมองว่าการเงินของเราพอจับยุโรปได้แล้ว ก็มันไม่ค่อยจะลดลง นอกจากชอตจิงๆ เลยไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกลับไปใช้รถ eco อะครับ

ผมจับยุโรปมาก่อน หลังๆมาจบที่ lexus แต่จริงๆแล้ว camry/accord ผมก็ว่าได้อยู่นะ แค่ไม่ชอบที่มันโหลๆหน่อย

แต่เทียบแบบข้าม 10ปีไม่ได้ครับ เอาเป็นว่ารถตลาดมันก็ต้องเพิ่มออปชั่น เพิ่มความสะดวกสบายตามยุคสมัย บอกจับยุโรปเมื่อ 20ปีก่อนแล้วมาจับรถ compact บ้านๆ ปัจจุบันมันก็อาจจะใกล้เคียงอะคับ เทคโนโลยีคนละยุคสมัยเลย

ถ้าจะเทียบ เทียบรถยุคเดียวกัน ส่วนใหญ่ด้วยค่าตัวมันจะใส่ของเล่นกับความสะดวกสบายมาให้เยอะกว่า มันก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

ถ้าใช้ยุโรปจะกลับไปใช้ญีปุ่่นมันเป็นวลีปลอบใจเหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก อะไรเทือกนั้น

จะเทียบ cx5 ต้องไปหารถที่มีคาแรคเตอร์คล้ายๆกันแบบ xc60 inscription 'ตัวปัจจุบัน' มาเทียบมากกว่าครับ เอารถคนละประเภท แบบเก่าเป็น 10ปีมาบอกว่ามันไม่ได้ดีกว่าผมว่าไม่ใช่

ดีแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมชอบนุ่มเงียบกว้างสบาย ผมก็บอกสิว่า lexus es ดีกว่า แต่คนชอบแบบสปอร์ตเทโค้ง ก็อาจจะบอก z4 สิดีกว่า

แต่ส่วนตัวผมชอบการขับขี่แบบรถญี่ปุ่นมากกว่านะ แต่ไม่ชอบ interface กับความสะดวกสบายเท่าไหร่ แบบ g20 เดินไปใกล้ๆก็ปลดล็อคแล้วไรงี้ ดีเทลหยุมหยิมอะคับมันทำให้ประทับใจว่าเออคิดมาดีนะ

ขออภัยครับ ผมเทียบรถที่เคยผ่านมือมาน่ะครับ ผมอาจจะเทียบไม่ถูกที่ไปเอารถเก่ามาเทียบกับรถใหม่ แต่อย่างที่บอกครับว่าผมเคยผ่านรถมาไม่มาก จึงเทียบเท่าที่เคยสัมผัสมาครับ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเล่นๆ ครับ
2010 BMW 325i M Sport
2016 Mazda CX-5 2.0S

ออนไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,535
ไม่ยากหรอกที่จะกลับมาใช้รถญี่ปุ่น แต่ส่วนตัวผมมองว่า "อาจจะเลือกมากขึ้น" อาจจะไม่ใช่ญี่ปุ่นคันไหนก็ดีพอๆ กัน แต่เลือกรถที่มีสมรรถนะและคุณภาพกว่าเดิม

แต่ก็ไม่เห็นด้วยนะกับการเทียบ CX-5 vs E90 คือมันต่างยุคต่างปีกันเกินไปหน่อย เกิดเป็น CX-5 2.5L vs E90 2.0d ผลมันก็คงไม่ใช่แบบนั้น หรือจะเป็น CX-5 2.0L vs E90 3.0 V6 มันก็แตกต่างคนละเรื่อง การกำหนดเงื่อนไขของการตัดสินใจต้องอยู่ขอบเขตใกล้เคียงกันถึงจะวัดผลได้ชัดเจนกว่า
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ a.peerapong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 194
    • อีเมล์
ส่วนใหญ่ได้ยินจากปากคนแก่ๆ นะครับ .....ประมาณคนที่อายุ60ขึ้นในตอนนี้หนะครับ

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,230
ถ้าเงินเหลือจริง มีเงินซื้อรถป้ายแดงหลายคัน เปลี่ยนรถบ่อยก่อนที่จะพัง เขาก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะลดเกรดลงมา

แต่ถ้าเงินไม่ได้มากขนาดนั้น เจอค่าซ่อม เจอความจุกจิกเข้าไป เห็นถอยกลับมาใช้ญี่ปุ่นก็มีครับ

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,692
รถพรีเมี่ยมมันก็ดีกว่าในหลายๆด้านจริงๆ อัตราเร่งดี ช่วงล่างแน่น ความปลอดภัยสูงกว่า แต่ก็แลกด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า และแนวโน้มว่าจะจุกจิกกว่า ต้องการการดูแลมากกว่า
พอเป็นรถตลาดๆ อัตราเร่ง ช่วงล่าง ความปลอดภัย ก็ทำได้ดี แต่แค่ไม่ได้ดีเท่า กลุ่มรถพรีเมี่ยม แต่โดยรวมแล้วมันทนกว่า ใช้ไปเถอะไม่ค่อยพัง ถึงเสียก็ไม่ได้แพงจนน่าตกใจแบบยุโปรพรีเมี่ยม

ผมเองเห็นกลับกันนะ รู้สึกว่า คนที่เคยใช้ยุโรปพรีเมี่ยม หลายๆคน เริ่มกลับมาใช้ รถญี่ปุ่นตัวท๊อป แทน

ออฟไลน์ basterias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,793
ก็ไม่ขนาดนั้น ถ้าไม่นับ lexus

โดยรวมอาจจะหมายถึง ไปใช้รถ premium แล้วไม่กลับไปใช้รถตลาดมากกว่า

ผมมองว่าการเงินของเราพอจับยุโรปได้แล้ว ก็มันไม่ค่อยจะลดลง นอกจากชอตจิงๆ เลยไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกลับไปใช้รถ eco อะครับ

ผมจับยุโรปมาก่อน หลังๆมาจบที่ lexus แต่จริงๆแล้ว camry/accord ผมก็ว่าได้อยู่นะ แค่ไม่ชอบที่มันโหลๆหน่อย

แต่เทียบแบบข้าม 10ปีไม่ได้ครับ เอาเป็นว่ารถตลาดมันก็ต้องเพิ่มออปชั่น เพิ่มความสะดวกสบายตามยุคสมัย บอกจับยุโรปเมื่อ 20ปีก่อนแล้วมาจับรถ compact บ้านๆ ปัจจุบันมันก็อาจจะใกล้เคียงอะคับ เทคโนโลยีคนละยุคสมัยเลย

ถ้าจะเทียบ เทียบรถยุคเดียวกัน ส่วนใหญ่ด้วยค่าตัวมันจะใส่ของเล่นกับความสะดวกสบายมาให้เยอะกว่า มันก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

ถ้าใช้ยุโรปจะกลับไปใช้ญีปุ่่นมันเป็นวลีปลอบใจเหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก อะไรเทือกนั้น

จะเทียบ cx5 ต้องไปหารถที่มีคาแรคเตอร์คล้ายๆกันแบบ xc60 inscription 'ตัวปัจจุบัน' มาเทียบมากกว่าครับ เอารถคนละประเภท แบบเก่าเป็น 10ปีมาบอกว่ามันไม่ได้ดีกว่าผมว่าไม่ใช่

ดีแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมชอบนุ่มเงียบกว้างสบาย ผมก็บอกสิว่า lexus es ดีกว่า แต่คนชอบแบบสปอร์ตเทโค้ง ก็อาจจะบอก z4 สิดีกว่า

แต่ส่วนตัวผมชอบการขับขี่แบบรถญี่ปุ่นมากกว่านะ แต่ไม่ชอบ interface กับความสะดวกสบายเท่าไหร่ แบบ g20 เดินไปใกล้ๆก็ปลดล็อคแล้วไรงี้ ดีเทลหยุมหยิมอะคับมันทำให้ประทับใจว่าเออคิดมาดีนะ

ผมก็เทียบนะตัวปัจจุบันด้วยกัน 2ปีก่อนตอนก่อนตัดสินใจออกXC60 ผมไปลอง CX5 ดีเซลครั้งนึง เบนซินครั้งนึง ตอนนั้นยังไม่มีข่าวฉาวเลยกำลังจะออก CX5 แล้วมันก็โด่งดังขึ้นมาพอดี เลยได้ไปลอง XC60 ก็จองหลังลองรถเลยครับ หลังจากนั้นเลยติดใจรถ PHEV เลย (ก่อนหน้าใช้แคมรี่ Hybrid คันนึงแต่ยกให้น้องไป)

การขับขี่มันไม่ได้ต่างกันมากหรอก แต่ออพชั่นเครื่องเสียง การตกแต่งความปลอดภัยมันต่างกันมากอยู่ ยอมรับว่ามาสด้าให้ออพชั่นมาเยอะจริงๆสมัยนั้น เทียบกันตัวต่อตัวอาจกินกันไม่ลงด้วยซ้ำ แต่พอได้ขับจริงๆ ยังไงเรื่องความปลอดภัยก็ให้วอลโว่ครับ ล่าสุดโดนมอเตอร์ไซด์แซงปาดหน้าด้านซ้าย รถผมหักพวงมาลัยขวาหลบให้เอง (ผมกำลังตั้งท่าและเริ่มหักพวงมาลัยไปทางซ้าย เพื่อเปลี่ยนเข้าเลนส์ซ้าย) ระบบรถหมุนพวงมาลัยเอาชนะแรงผมครับ



ถ้าไม่ได้ระบบรถช่วย มอเตอร์ไซด์คันนั้นคงไปอยู่ใต้ล้อผมละ

ถ้าจะให้เลือก ผมเลือกตามการใช้งานดีกว่าครับ ใช้งานประจำวัน อะไรก็ได้ ญี่ปุ่น ยุโรป

หากใช้ขับเล่น ผมไปยุโรปดีกว่าครับ

ปล ผมเปิดไฟเลี้ยวซ้ายแล้วนะ มาแซงปาดแบบนี้คืออะไร  >:(
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 15, 2020, 13:16:10 โดย basterias »
Current cars:
2018 - Volvo XC60 T8 R-design (Stock)
2020 - Mercedes C43 Sedan FL (tuned)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79186.0)
2021 - BMW 530e M sport LCI (Stock)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79736.0)

ออฟไลน์ CJ.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,946
รถแพงกว่าย่อมดีกว่า แต่ถ้าดูเป็นคันๆไป เทียบกันดูแต่ละรุ่นก็จะชัดเจนขึ้นครับ
ตอนนี้ผมมีความคิดจะเปลี่ยน C220d เป็นรถรุ่นอื่น เทียบกับคันอื่นๆในบ้าน ขับไปขับมาไม่สบายนัก
กำลังเล็ง S60 หรือ XC60 หรือ ES hybrids แต่ถ้าประหยัดเงิน อาจไป Accord hybrid ก็ได้ครับ
2005 Jaguar XJ Super V8
2005 Mercedes-Benz C230 Kom. Sports Coupe
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Honda CR-V 2.4S
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Lexus IS300h Luxury
2021 Mercedes-Benz GLE 350de 4MATIC Exclusive
2021 Porsche 911 Carrera S

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,614
ผมไม่ได้มีประสบการณ์ตรงคับ แต่มีน้าที่รู้จักกันวันหนึ่งแกมาเยี่ยมที่บ้านแล้วเห็น XV จอดอยู่

แกก็เลยเล่าให้ฟังว่าหลายปีก่อนช่วงนึงขับ Benz C220 โฉมที่รูปร่างเหลี่ยมๆหน่อยอยู่พักนึง
แล้วก็ขายไปแล้วมาออก Subaru legacy B4 แทน แล้วก็ใช้มาเรื่อยๆ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปจับรถยุโรปอีก ส่วนหนึ่งก็ไม่ได้มีรายได้เยอะเหมือนเมื่อก่อน

ให้เทียบกันแกบอกว่า Legacy วิ่งดีกว่า C220 พอสมควร โดยเฉพาะช่วงฝนตกถนนลื่นๆนี่วิ่งฉิว แทบไม่มีใครตามได้

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,195
    • อีเมล์
ถ้าสมัย 20 - 30 ปีก่อน อาจจะจริง เพราะความต่างด้าน performance ของญี่ปุ่น กับ ยุโรป มันต่างกันค่อนข้างเยอะครับ

ยุคนั้น บ้านผมก็ใช้แต่รถยุโรป .. รถญี่ปุ่นเหรอ ? เอาไว้ให้เซลล์ใช้ วิ่งใกล้ๆ มันบอบบาง มันไม่เกาะถนน ..

EE90 นี่ ออกมาได้ปีเดียว ขายทิ้ง บอกรับไม่ได้ ช่วงล่างห่วยมาก

405 GR รถเยี่ยม เกาะถนนเทพ แต่จุกจิกสุด .. ตอนที่ขายมันไป ระหว่างรถรถใหม่ ตาเสียกระทันหัน ต้องไปบุรีรัมย์ พ่อยืม ST171 ของอา (ใหม่เอี่ยม ณ ตอนนั้น) มาใช้ ... จำได้แม่นว่า พ่อบ่นตลอดทางว่า รถบ้าอะไร เกาะถนนไม่ได้เรื่องร่อน รวมถึง ตัวผมเองก็จำได้ว่า เบาะมันนั่งไม่สบาย สู้ 405GR ไม่ได้เลย

................

จุดเปลี่ยนจริงๆ ของที่บ้าน จะเป็นตอนที่ใช้ 960 2.4 อยู่ แล้วเจอเรื่องเศรษฐกิจ ทำให้ต้องปล่อยยึดรถคันนั้นไป จากนั้นก็จะกลายเป็นญี่ปุ่น ซึ่งคันที่ยอมรับมันได้ ก็จะเป็น CR-V G2 2.0E นี่แหละ ที่พ่อขับแล้วบอกว่า เออ แม้มันจะไม่เท่า 960 หรือ W124 นะ แต่มันก็ดีขึ้นกว่ายุคก่อนนั้นมากมาย สามารถขับทางไกลร่วมพันกม. ได้แบบไม่ล้า เหมือนขับญี่ปุ่นคันอื่นละ แถมด้วยข้อดีคือ ทนทาน ไม่จุกจิก

อันเป็นที่มาของ ตระกูล CR-V กันทั้งบ้าน ไล่กันทุก Gen ตั้งแต่ G1 / G2 / G3 /G4 ครับ

................

สรุปว่า คำพูดนั้น น่าจะหมายถึง ยุค 30 ปีก่อน แต่มายุคปัจจุบันญี่ปุ่นดีขึ้นเยอะมาก ความต่างเรื่องการขับขี่ อาจจะไม่มากมายเท่า ยิ่งถ้ามองในแง่การดูแล การซ่อมบำรุง ยังไงญี่ปุ่นก็ได้เปรียบแหละ

แต่ถามว่า ผมอยากได้ยุโรปไหม ? คำตอบก็คือ อยาก ชีวิตนึง ขอเป็นเจ้าของสักครั้งละกัน

ออฟไลน์ The Mechanics of Emotions

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,679
ขออภัยที่เทียบรถอาจไม่เหมาะเท่าไหร่ที่จะเทียบรถเก่ากับรถใหม่และราคามือ 1 ก็ต่างกันมากอยู่ เข้าใจครับว่ารถแต่ละคันก็มีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันไป ผมเองก็ได้ยินมาจากคนรอบตัวหลายๆ คนที่บอกแบบนี้ ผมก็อยากรู้ว่าในมุมมองของท่านสมาชิกเห็นด้วยไหมกับคำพูดนี้ เพราะผมได้รถมาก็ยอมรับแล้วว่าค่าดูแลมันไม่ได้ถูกแบบรถญี่ปุ่นและระบบหลายๆ อย่างซับซ้อนกว่าญี่ปุ่นมากและไม่ทนด้วย ไม่ดราม่ากันนะครับ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเพลินๆ ครับ
2010 BMW 325i M Sport
2016 Mazda CX-5 2.0S

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
ไม่จริงหรอกครับ เรื่องนี้มีเหตุผลประกอบ แต่พี่ผมก็ไม่กลับมาซื้อรถญี่ปุ่นเลยนะครับ เหตุผลเริ่มจากภาพลักษณ์ของงาน และรายได้พอรายต่าย
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ bennieT8

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 642
    • อีเมล์
ใช้คำว่าเทียบระหว่างรถทั่วๆไปกับรถเกรดพรีเมียมน่าจะชัดกว่านะครับ  แน่นอนว่าเกรดพรีเมียมย่อมต้องเหนือกว่าชัดเจนในหลายๆด้าน  แต่แลกมาด้วยค่าตัว ค่าดูแล และความจุกจิกมากขึ้นด้วย  ถ้าสามารถ afford ได้ไม่ลำบาก  ก็เชื่อว่าแต่ละคนมีเกณฑ์พิจารณาของตัวเองอยู่แล้ว  ส่วนตัวผมเองในรอบเกือบสามสิบปีมานี้ก็ใช้รถใหญ่ขึ้นและแพงขึ้นเรื่อยๆจนนึกไม่ถึงว่าตัวเองเปลี่ยนแนวคิดไปมากขนาดนี้  ที่สำคัญคือต้องไม่เดือดร้อนการเงิน  ยอมรับว่าจะให้กลับไปใช้รถเกรดด้อยลงคงยากครับ

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
ต้องดูเป็นคันๆไปครับ

ปัจจุบันผมใช้ XC60 Inscription  ผมก้อรุ้สึกได้ได้ถึงการไม่อยากไปขับรถญี่ปุ่นครับ
ปกติครับ. รถยุโรปใหม่ๆช่วงหลังๆค่อนข้างดีกว่าตามราคา
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ khunpan33

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 737
  • ขับหน้า-ขับหลัง-ขับสี่ ไม่เท่าขับรถดีมีน้ำใจ
    • อีเมล์
แล้วแต่ความพร้อมทางการเงินและรสนิยมมากกว่าครับ คันแรกของผมก็ยุโรปมือสอง คันที่สองเป็นมือหนึ่งยุ่นรถเล็ก แรกๆก็รู้เลย สมรรถนะ ความปลอดภัย การควบคุมการทรงตัว มันผิดกันจริงๆ พอคันที่ 3 ยังเป็นมือ 1 แต่เลือกเป็น C Segment ที่ใหญ่ขึ้น เออ มันก็ดีขึ้นจริงๆแหละ แต่ถ้ามีเงินก็อยากได้ยุโรปอีกสักคันครับ หลักๆคงเรื่องความปลอดภัยมากกว่า สมรรถนะเดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นก็ดีขึ้นมากสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วครับ

แต่ถ้าเรื่องเปลี่ยนจากยี่ห้อนี้ แล้วไม่มองยี่ห้อนึงอีกเลย อันนี้ผมเป็นครับ เพราะเซลด้วยส่วนหนึ่ง คุณภาพรถก็อีกส่วนนึง  :-X

ออฟไลน์ recycleman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,569
หมดยุคแล้วครับตอนนี้รถญี่ปุ่นสมรรถนะไม่ได้ห่างชั้นรถยุโรปเหมือนเมื่อก่อนแล้วแต่เรื่องความสบายใจยังไงญี่ปุ่นก็เหนือกว่าอยู่ดี

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
ไม่จริงครับ แต่เคยได้ยินจากปากบางคนที่จริงๆไม่ได้เน้นสมรรถนะรถหรอกครับ เน้นโชว์คนรอบข้างมากกว่าขึ้น

แล้วลงไม่ได้ สังคมเอเชียยังมีเรื่องหน้าตาในสังคมเป็นสิ่งสำคัญมากๆๆๆๆๆๆ เรียกได้ว่าใช้ชีวิตเพื่อได้โชว์ ได้

อิจฉาเลยก้ว่าได้ ไม่ใช่ว่า EU & US จะไม่มีนะครับคนลักษณะนี้มีเหมือนกันแต่น้อยกว่า ผมนี่ล่ะครับคนนึงที่

ชอบ BMW ตั้งแต่เด็กถึงขั้นทำlogo ไว้ในห้องนอนพอโตมาที่บ้านก้ใช้แต่รถญี่ปุ่นมาตลอดมีแม่ใช้ volvo

สมัยผมยังอยู่มัธยมแค่นั้น ตอนสมัยเรียนมหาลัยผมก้ใช้รถญี่ปุ่น พอจบเลยลองซื้อ F10 525d มาด้วยความ

ที่ช่วงนั้นดีเซลกำลังมา ดูแรงกว่าเบนซิน ขับ 6 เดือนแรกชอบมากครับแบบรถคันอื่นในบ้านนี่ไม่ขับเลย(แต่ไม่

ชอบพวงมาลัยนะครับ นิ่งแต่อุ้ยอ้ายมาก) ขับทางไกลนิ่งดี 230km/h ก้ชิว แต่เวลาเปลี่ยนเราก้เปลี่ยน5555

ไม่นานรถเบนซินเทอร์โบมา หรือรถเครื่องna อัตราเร่งพอได้มา ผมเบื่อ F10 มากไม่ขับเลยตอนนั้นถ้าซื้อ

528i อาจจะเบื่อน้อยกว่านี้ (เพื่อนผมบอกเตือนแล้วไม่ฟัง) กลายเป็นรถน่าเบื่อเลยครับขับนิ่งๆก้ง่วง อัตราเร่ง

ดีแต่เหยียบครึ่งคันเร่งกับกดเต็มไม่ได้ให้ความรู้สึกดึงต่างกันเท่าไหร่เลย ขายไปตอน 3 ปีกว่าๆ แต่ราคาพอได้

อยู่ครับหลังจากนั้นผมกลับมาใช้รถญี่ปุ่นและทุกคันในบ้าน ในมุมมองผมรถจาก eu ที่ไม่ใช่พวกsupercar ถือ

ว่าดีครับแต่สำหรับผมมันยังไม่คุ้มค่าพอกับราคาที่ห่างกับรถญี่ปุ่น 1 เท่ากว่าๆ ที่ค้องเพิ่มเงินไปสำหรับรถขนาด

เดียวกัน ประมาณนี้ครับถามว่าอนาคตจะกลับไปใช้รถยุโรปอีกมั้ย ไม่แน่แต่ไม่ใช่5 ปีจากนี้แน่ๆ อีกอย่างค่า

บำรุงรักษาเรื่องแพงอันนั้นไม่ต้องลุ้น ที่สำคัญคือราคาอะไรหลายๆอย่างมาแบบงงๆ ผมไม่เชื่อระยะที่bsi

หรือยี่ห้อจะเรียกแบบอื่น ตามระยะที่ยี่ห้อกำหนดในไทยครับ ไทยร้อน ฝุ่น ชื้นมาก ขับตามระยะที่ศูนย์บอก

แล้วใช้รถตลอดพังก่อนแหงๆไม่ว่าจะรถชาติไหน

ออฟไลน์ bingoman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,367
ผมใช้คู่กันอยู่ครับ ทั้งเก๋งยุโรป(หลายคัน BMW รหัส F ทั้งหลาย) และ Fortuner

แต่ละอย่างก็มีข้อดีของมันทั้งนั้น

วิ่งไปจ่ายตลาด ไปธุระหรือทางที่ไม่คุ้นเคย ไปค่ายตลาดญีุ่่ปุ่น ขับไปเรื่อยๆ จอดรถไม่ต้องกังวลมาก ดูแลมันบ้างไม่ดูแลมันบ้าง มันก็ไม่เกเร  เป็นรถที่ไว้ใจได้เสมอ

แต่กับการจะไปเที่ยว ขับรถเล่น ไปอตจว. แบบไม่ต้องกลัวรถเสีย ก็ไปรถยุโรป แต่ก็จะรู้สึกหวงรถเป็นพิเศษเพราะมันซ่อมแพง ซ่อมนาน แต่ตอนอยู่บนรถอยู่บนถนน  คือขับแล้วมีแต่ความมั่นใจ ความสุข  แต่พอลงจากรถแล้ว ก็จะแอบภาวนะว่าอย่ามีอะไรรวนนะ  คันอื่นอย่ามาข่วนนะ  เพราะเจอมาหลายรอบแล้วที่จอดอยู่ดีๆ พอกลับไปสตาร์ทรถ ไฟโน่นนี่รวนเฉยเลย  ทั้งระบบเบรค  แบตเตอรี่ กระจกข้าง รวนพวกนี้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

รถทั้งสองแบบของผม ไม่มีปัญหาและไว้ใจได้ทั้งคู่คือจะขับ มันก็สตาร์ทไปได้แน่ๆ  แต่ BMW จะชอบไฟโชว์เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าที่ไม่เกี่ยวกับการขับเคลื่อน

แต่ถ้าให้ผมเลือกคันเดียว ใช้งานทุกอย่างเลย  ผมขอเลือก Toyota ครับ  มันรวนน้อยกว่า BMW ที่ซื้อมาทีหลังพอสมควรเลย   ขับ Toyota ก็ขับได้ 140 ได้แบบไม่เสียวนัก แต่มันไม่นุ่มหนึบแบบ BMW แน่ๆ  คนละโลกเลยก็ว่าได้ 

แต่ถึง BMW จะนิ่งกว่า นิ่งจนความเร็ว 190 ก็ยังไม่เสียวเท่าไร  มันดีจริงแต่มันมีข้อจุกจิก ซ่อมแพง วัสดุละลาย(เวลาจอดตากแดด) พวกนี้ เลยขอจอดที่โรงรถ ที่มีหลังคาร่มๆ ไม่พาไปจอดข้างถนนหรือตามห้างตามปั๊ม ให้กังวลกลัวมีรอยลักยิ้มครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 15, 2020, 13:25:37 โดย bingoman »

ออฟไลน์ Buffy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,494
    • อีเมล์
ขึ้นอยู่กับ ฐานะการเงิน และ ทัศนคติน่ะ

เพื่อนบ้านผม แต่ล่ะหลังอยู่กันมา 20-30 ปี
เห็นเค้าใช้แต่รถยุโรป ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปไหน
วนเวียนไปมา ไม่ว่า Benz Bmw Maserati Aston Martin Bentley Jaguar Land Rover Porsche Volvo Volkswagen

อย่างข้างบ้าน คุณตาที่ซี้กันมาก อยากได้ Peugeot 5008
ผมบอกเอา brand ญี่ปุ่น พวก CRV ศูนย์น่าจะดีกว่า รถน่าจะ Reliable กว่า
คุณตาตอบมาว่า  Brand ในดวงใจในชีวิตคือ Peugeot กับ  Citroen

Peugeot กลับมาทำตลาดในไทยทั้งที จะไม่เลือกก็กระไรอยู่

ผมก็ยิ้มในใจ
Brand ในดวงใจผม คือ Alfa Romeo กับ Saab หากมีโอกาสก้อยากจะครอบครองเหมือนตาแหละ




ออฟไลน์ CHANOM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,090
ส่วนตัวแล้ว เลือกรถตามที่ตัวเองชอบมาโดยตลอด เลยมีโอกาสใช้ทั้งค่ายรถยุโรปและญี่ปุ่นสลับๆกันไปนะคะ

ส่วนสาวๆในบ้าน ให้นั่งรถค่ายญี่ปุ่นเป็นครั้งคราว นั่งได้ แต่ถ้าให้กลับไปใช้อีก ไม่ยอมกลับไปใช้สักคน
ให้เหตุผลหลักๆมาเป็นเรื่องความแข็งแรงของตัวถังค่ะ คนที่บ้านยังไว้ใจรถค่ายยุโรปมากกว่า

ในยุคสมัยที่ Benz/BMW ป้ายแดงเต็มเมืองแบบนี้ เรื่องภาพลักษณ์ที่มากับรถนั้นเป็นเรื่องรองไปแล้วค่ะ ^^
In My Garage
2007 MB A180 CDI W169
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS

Sold
2016 Mazda 2 Skyactiv-D High Connect
2019 Honda HRV EL
2021 Subaru Forester IS-Eyesight

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
คุณภาพแปรตามราคาครับ จขกท. ยกตัวอย่างมันเทียบไม่ได้ เพราะเอารถญี่ปุ่นปีปัจจุบันมาเทียบกับรถยุโรปอายุเกือบ 10 ปี

อายุรถเป็นตัวแปรสำคัญ รถใหม่กับรถที่ใช้มาเกือบ 10 ปี อุปกรณ์หลายตัวเสื่อม แย่กับทรง ไม่มีทางดีเหมือนของใหม่หรอกครับ

ต้องเอาปีปัจจุบันไปเทียบถึงจะสรุปได้ว่าจริงอย่างที่ว่าหรือเปล่า

ปล. คหสต. ถ้าเลือกได้ แม้ว่า LEXUS จะมีคุณภาพไม่ต่างจากรถยุโรป แต่เพราะพลังแบรนด์ ที่มองว่ารถยุโรปดีกว่า

ถ้ามีงบก็อยากใช้ยุโรปมากกว่าครับ