ผู้เขียน หัวข้อ: // Nissan KICKS e-POWER เตรียมเปิดตัวในไทย 19 มีนาคม นี้ โฉม Minorchange //  (อ่าน 20791 ครั้ง)

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
Re: // Nissan KICKS e-POWER เตรียมเปิดตัวในไทย 19 มีนาคม นี้ โฉม Minorchange //
« ตอบกลับ #60 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2020, 15:32:43 »
อีกไม่ถึงเดือนก็ได้ทำความรู้จักตัวจริงกันแล้ว   อดใจรอกันหน่อยครับ

แต่..

ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องยนต์ 1.2L จะหมุนที่รอบเดินเบาปั่นไฟกันชิลด์ๆ
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องติดแป๊บ ๆ ก็ดับละ เพราะปั่นไฟเข้าแบตจนเต็ม

รถที่มันวิ่งปรู๊ด... มอเตอร์ก็ดูดไฟจากแบตซวบบบบบ...
การปั่นไฟเติม ก็เหมือนการปั่นจักรยานออกกำลังกาย จะปั่นให้ได้ kw
เยอะ ๆ ก็ต้องปรับตัวปั่นให้หนึด ๆ และปั่นให้เร็วจี๋.... 

มันคือสิ่งเดียวกันครับ

เท่าที่ดู Note epower ถ้าขับไม่เกิน 80 จะใช้น้ำมันเฉลี่ย 27+ km/l แต่ถ้าขับเกิน 110 จะเริ่มมีเลข 1X มาให้เห็นครับ

Kicks ก็คงไม่ต่างกันมาก คือในเมืองประหยัด แต่ High way ดูดน้ำมันซวบๆ เลย เพราะปั่นไฟไม่ทัน

ดังนั้นถ้าไม่ได้ขับเร็วมาก มันก็จะปั่นรอบต่ำๆ นั่นแหละครับ ทำให้มันประหยัดน้ำมันมาก

และแบตมันก็ลูกใหญ่กว่า Note epower เล็กน้อยครับ ทำให้มีเวลาชาร์จเยอะกว่า

ไปส่อง note-e-power ในเว็บญี่ปุ่นมา มาตรฐาน jco8 ได้ 35 กิโลลิตร เท่าๆกับ อัลติส ไฮบริด
ดังนั้น ถ้ามาไทย น่าจะทำอัตราสิ้นเปลืองใน eco sticker ได้พอๆกับอัลติส ไฮบริด
มาตรฐานการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองของญี่ปุ่นนี้ใช้ไม่ได้จริงเลยครับ ทำให้นึกถึงมารฐานการทดสอบ NCAP ในบางภูมิภาคที่รถรุ่นไหนๆก็ได้5ดาวแทบทุกรุ่นทั้งที่หุ่นทดสอบมีอาการบาดเจ็บจากการชนเยอะอยู่
ผมไม่ได้บอกว่าจะให้ยึดตามมาตรฐานญี่ปุ่นนะครับ อ่านดีๆ
หมายถึงว่า อัลติสไฮบริด ทำอัตราสิ้นเปลืองมาตรฐานญี่ปุ่นได้ 35 โลลิตร  ทำมาตรฐานไทยได้ x
note e-power มาตรฐานญี่ปุ่นก็ได้ 35 เท่ากัน ดังนั้น ทำมาตรฐานไทย ก็คงจะได้เท่าๆกันกับอัลติสไฮบริด

ออฟไลน์ sailorx

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
Re: // Nissan KICKS e-POWER เตรียมเปิดตัวในไทย 19 มีนาคม นี้ โฉม Minorchange //
« ตอบกลับ #61 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2020, 17:02:52 »
กำลังมองตัวนี้อยู่เหมือนกัน ติดแค่รอราคาเท่านั้น
ส่วนที่ e power ไม่เหมือน hybrid  ก็คือ

ระบบส่งกำลัง ชิ้นส่วนจะน้อยลงไปมาก
ถ้าเครื่องยนต์มีคลัทซ์ ก็จะใช้กับ ไดนาโมปั่นไฟ
ชุดเกียร์แบบรถปกติจะไม่มี  เหลือแค่เฟืองทดสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าลงไปที่ล้อเท่านั้น น่าจะทนทานเทียบเท่ารถเกียร์ธรรมดา
ถ้าเทียบกับ city ที่ 130 แรงเท่ากัน ก็จะไม่มีระบบอัดอากาศ ระบบท่ออินเตอร์

อีกอย่างที่น่าสนใจคือ
ถ้ายกเครื่องออกเปลี่ยนเป็นแบต ในอนาคตได้ ก็แปลงเป็น ev ได้สมบูรณ์กว่ารถ hybrid หรือรถน้ำมันทั่วไป

ออฟไลน์ +@ Krishna @+

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,295
  • *_* รถที่ดี คือ รถที่ใช้แล้วมีความสุข ^_^
Re: // Nissan KICKS e-POWER เตรียมเปิดตัวในไทย 19 มีนาคม นี้ โฉม Minorchange //
« ตอบกลับ #62 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2020, 17:55:53 »
รอชม
ปีนี้มี MG ZS mc   Cx30 ออกมาด้วย จะฝ่าตลาดไทยได้มั้ยนะ  8)

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,265
Re: // Nissan KICKS e-POWER เตรียมเปิดตัวในไทย 19 มีนาคม นี้ โฉม Minorchange //
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2020, 00:18:17 »
ขอราคาตัวล่างสุด8แสน

ออฟไลน์ Mr. RO

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 183
    • อีเมล์
Re: // Nissan KICKS e-POWER เตรียมเปิดตัวในไทย 19 มีนาคม นี้ โฉม Minorchange //
« ตอบกลับ #64 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2020, 08:11:38 »
รอ E-Power แบบที่มี module แบตเตอรี่ขนาด 1.5 kWh สัก 2-3 Modules คลับ ด้วย 2 เหตุผลนะ
1. ประสิทธิภาพดีขึ้นนะ เพราะเครื่องยนต์ไม่ต้องมา restart บ่อยๆ และยิ่งในเมืองนะจะได้ดลมลพิษนะด้วยนะ
2. ถ้ามีหลาย modules ปกติถ้าออกแบบดีมันจะทยอยเสียหรือเสื่อมไม่พร้อมกัน หมายถึงถ้าเสียไปหนึ่ง module รถยังวิ่งต่อไปได้นะ
และผู้ใช้มีเวลาอีกหลายเดือนจะไปเปลี่ยน module ที่เสียก่อนมันจะเสียไปทั้งหมดนะ 
ราคาแบตเเตอรี่แบตรถไฟฟ้าตอนนี้ราวๆ 140$/ kWh หรือราคาต่อ mudule 1.5 kWh คิดแล้วก็แค่ราวๆ 5000 บาทเท่านั้นสมมติเพิ่มอีก 2 modules และเพิ่มอีก 10,000 ผมยอมจ่ายนะ ก็หวังว่าในอนาคตจะ mc แล้วจะปรับตรงนี้นะ ผมถึงคิดจะใช้ e-power นะ
แต่ถ้าภาครัฐบอกถัาใครใช้เครื่องยนต์ที่รองรองรับ E85-E100 หรือ B100 แล้วก็ลดภาษีลงไปอีกครึ่งก็จะดีนะ
เพราะจะได้ช่วยเกษตรกรนะ และซื้อรถไปใช้ กลุ่มเกษตรกรกันรวมกลุ่มกันผลิตพลังงงานใช้กันเองได้จะเป็นอิสระด้านพลังงานเลยได้นะ
คือผลิตพืขพลังงานและ ก็แปรรูปเป็นแอลกฮอล หรือ ไบโอดีเซล กันเองแล้วก็ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศได้นะ
อยากให้รัฐคิดแบบนี้ด้วยบ้างนะ
ืคือ e-power ใข้ แอลกฮอล หรือ ไบโอดีเซล ก็ได้ลดภาษีเพิ่มกับผู้ผลิตเพิ่มไปอีก
และสิ่งแวดล้อมดีขึ้น และ เกษตรกรก็สามารถเป็นอิสระด้านการใช้พลังงานจากภาคการขนส่งได้ด้วย

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
Re: // Nissan KICKS e-POWER เตรียมเปิดตัวในไทย 19 มีนาคม นี้ โฉม Minorchange //
« ตอบกลับ #65 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2020, 15:28:08 »
รอ E-Power แบบที่มี module แบตเตอรี่ขนาด 1.5 kWh สัก 2-3 Modules คลับ ด้วย 2 เหตุผลนะ
1. ประสิทธิภาพดีขึ้นนะ เพราะเครื่องยนต์ไม่ต้องมา restart บ่อยๆ และยิ่งในเมืองนะจะได้ดลมลพิษนะด้วยนะ
2. ถ้ามีหลาย modules ปกติถ้าออกแบบดีมันจะทยอยเสียหรือเสื่อมไม่พร้อมกัน หมายถึงถ้าเสียไปหนึ่ง module รถยังวิ่งต่อไปได้นะ
และผู้ใช้มีเวลาอีกหลายเดือนจะไปเปลี่ยน module ที่เสียก่อนมันจะเสียไปทั้งหมดนะ 
ราคาแบตเเตอรี่แบตรถไฟฟ้าตอนนี้ราวๆ 140$/ kWh หรือราคาต่อ mudule 1.5 kWh คิดแล้วก็แค่ราวๆ 5000 บาทเท่านั้นสมมติเพิ่มอีก 2 modules และเพิ่มอีก 10,000 ผมยอมจ่ายนะ ก็หวังว่าในอนาคตจะ mc แล้วจะปรับตรงนี้นะ ผมถึงคิดจะใช้ e-power นะ
แต่ถ้าภาครัฐบอกถัาใครใช้เครื่องยนต์ที่รองรองรับ E85-E100 หรือ B100 แล้วก็ลดภาษีลงไปอีกครึ่งก็จะดีนะ
เพราะจะได้ช่วยเกษตรกรนะ และซื้อรถไปใช้ กลุ่มเกษตรกรกันรวมกลุ่มกันผลิตพลังงงานใช้กันเองได้จะเป็นอิสระด้านพลังงานเลยได้นะ
คือผลิตพืขพลังงานและ ก็แปรรูปเป็นแอลกฮอล หรือ ไบโอดีเซล กันเองแล้วก็ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศได้นะ
อยากให้รัฐคิดแบบนี้ด้วยบ้างนะ
ืคือ e-power ใข้ แอลกฮอล หรือ ไบโอดีเซล ก็ได้ลดภาษีเพิ่มกับผู้ผลิตเพิ่มไปอีก
และสิ่งแวดล้อมดีขึ้น และ เกษตรกรก็สามารถเป็นอิสระด้านการใช้พลังงานจากภาคการขนส่งได้ด้วย

ทำธุระกิจ ต้องคิดต้นทุน กำไร ขาดทุน ราคาแบตที่ว่ามันราคาส่ง พอมาอยู่ในรถ ราคามันทบกันเป็นหลักหมื่น แต่ใช้แค่สำรองกัน ไม่มีใครทำหรอกครับ เสื่อมก็เปลี่ยนง่ายๆ แค่นั้น

ไม่ว่าธุรกิจอะไร ไม่มีใครอยากเพิ่มราคาขาย มีแต่พยายามลดต้นทุน เพื่อให้ได้ผลกำไรเพิ่มขึ้น การปรับราคาขึ้นกระทบขายแน่นอน ไม่มีใครอยากทำหรอกครับ ถ้าไม่จำเป็น

ปล. ซื้อรถ ต้องรู้คุณสมบัติรถ เครื่องปั่นไฟที่มีมากำลังผลิตมันนิดเดียว ไม่มีทางที่จะให้กำลังงานมากกว่าที่ใช้หรอกครับ ดังนั้น e power ไม่สามารถวิ่งความเร็วสูงได้ เพราะใช้กำลังไฟมากกว่าที่ผลิตได้

มันจุงเป้นรถที่เหมาะวิ่งในเมือง ใช้ความเร็วสูงพอประมาณ เท่านั้น ใครต้องการแรงมากกว่านี้ เบนซินเทอร์โบ ตอบโจทย์กว่าเยอะ