ผู้เขียน หัวข้อ: มาดูความหินของสิทธิโควต้าการนำเข้าอีวีของ BOI ไม่แปลกที่ทำไมไม่มีใครจะมาลงทุน  (อ่าน 15623 ครั้ง)

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
มาดูสิทธิโควต้าการนำเข้าอีวีของ BOI

ลองไปอ่านดู criteria การนำเข้าตามนี้เองนะคับ จะได้รู้ว่ามันขูดรีดบีบบังคับ ยังหลอกตัวเองว่าเป็นฮับผลิตรถ (เทคโนเก่าๆ) แค่ไหน   ;D ;D ;D

https://www.boi.go.th/upload/content/por1_2563_5e2a5a364c87e.pdf

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,839
ฟังคุณทอมเมื่อเช้านี้
มีส่วนแฮะ

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
แชร์มานี่แล้วอ่านหรือเปล่าครับเนี่ย ...

หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจ ...

ผู้นำเข้า CBU ได้ ต้องอยู่ในเงื่อนไขข้อ 2 นะครับ คือต้องนำเข้าภายใน 2 ปี และต้องติดตั้งสายการผลิตแล้ว ... ไม่ใช่ใครจะเอาเข้ามาก็ได้ .. พูดง่ายๆคือลงทุนตามกรอบเงื่อนไข BOI ไปแล้วเท่านั้น ..

ส่วนล่างๆเค้าแสดงวิธีคำนวนโควต้าการนำเข้าแบบ CBU ให้เข้าใจ ...

แล้วคืออะไรที่ไม่มีใครมาลงทุน .. คือ งง ครับ ...

 

ออฟไลน์ TCP

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 703
ผมยังไม่ได้ไปอ่านรายละเอียดอะไรเลยนะ ... แค่คิดง่ายๆ อิงตามความจริง

ประเทศไทย ยังเป็นประเทศ " กำลังพัฒนา " (ภาษาดูดี แต่ความหมายจริงๆ ก็คือ ด้อยพัฒนา)

ขนาดประเทศพัฒนาแล้ว อย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ยุโรปตะวันตก USA

รถเก๋งไฟฟ้า ยังขายได้น้อยนิด ทำส่วนแบ่งตลาดได้ไม่กี่ % เลยครับ


กว่ารถเก๋งไฟฟ้า จะมามีขายในไทย ให้เลือกซื้อกันเยอะแยะ แบบตลาดมือถือในไทยตอนนี้ ...

คงต้องรออีก 10-15 ปีล่ะครับ

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
แชร์มานี่แล้วอ่านหรือเปล่าครับเนี่ย ...

หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจ ...

ผู้นำเข้า CBU ได้ ต้องอยู่ในเงื่อนไขข้อ 2 นะครับ คือต้องนำเข้าภายใน 2 ปี และต้องติดตั้งสายการผลิตแล้ว ... ไม่ใช่ใครจะเอาเข้ามาก็ได้ .. พูดง่ายๆคือลงทุนตามกรอบเงื่อนไข BOI ไปแล้วเท่านั้น ..

ส่วนล่างๆเค้าแสดงวิธีคำนวนโควต้าการนำเข้าแบบ CBU ให้เข้าใจ ...

แล้วคืออะไรที่ไม่มีใครมาลงทุน .. คือ งง ครับ ...

เห็นด้วยครับว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับกฎเกณฑืที่ว่ามานั่นหรอก
ปัญหาคือ ไทย ไม่ได้มีความน่าดึงดูด หรือน่าสนใจ เพียงพอที่จะดึงผู้ประกอบการรายเก่าหรือรายใหม่ ให้เข้ามาลงทุนทำโรงงาน BEV ภายใน2-3 หรือ 5ปีนี้ ต่างหาก

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
แชร์มานี่แล้วอ่านหรือเปล่าครับเนี่ย ...

หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจ ...

ผู้นำเข้า CBU ได้ ต้องอยู่ในเงื่อนไขข้อ 2 นะครับ คือต้องนำเข้าภายใน 2 ปี และต้องติดตั้งสายการผลิตแล้ว ... ไม่ใช่ใครจะเอาเข้ามาก็ได้ .. พูดง่ายๆคือลงทุนตามกรอบเงื่อนไข BOI ไปแล้วเท่านั้น ..

ส่วนล่างๆเค้าแสดงวิธีคำนวนโควต้าการนำเข้าแบบ CBU ให้เข้าใจ ...

แล้วคืออะไรที่ไม่มีใครมาลงทุน .. คือ งง ครับ ...

เห็นด้วยครับว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับกฎเกณฑืที่ว่ามานั่นหรอก
ปัญหาคือ ไทย ไม่ได้มีความน่าดึงดูด หรือน่าสนใจ เพียงพอที่จะดึงผู้ประกอบการรายเก่าหรือรายใหม่ ให้เข้ามาลงทุนทำโรงงาน BEV ภายใน2-3 หรือ 5ปีนี้ ต่างหาก

ก็ไม่แปลกครับ ที่ใครจะไม่ลงทุน EV ... ตรงนี้เข้าใจไม่ยากเลย ..
1.รถ EV ที่ขายในไทยตอนนี้ ขายได้กี่คันต่อเดือนต่อปีครับ
2.คนไทยจริงๆแล้วนิยม EV แค่ไหน .. หรือแค่กระแส อยากได้อยากมี แต่พอมีให้ซื้อจริงๆเงียบกริ๊บ
3.ราคาแพงที่อ้างกัน  MG ขาย 1 ล้าน นิสสันก็ลดราคามาให้แล้ว ...มีคนคิดจะซื้อขับกันสักกี่คนกัน .... และที่บอกว่า EV แพง ราคาต้อง5-6แสนถึงจะซื้อ ... แต่ลืมดูไปว่ารถยนต์ขนาด B-segment ก็ราคา 5-7 แสน แล้ว EV ต้องถูกกว่านี้มันเป็นไปได้หรอ .... นั่นมันข้ออ้างที่ขาดความเข้าใจมากๆ

ความน่าสนใจลงทุนของทุกธุกิจคือ ทำออกมาขายสร้างร้านสร้างโรงงานแล้วต้องมีคนซื้อ ถ้าทำออกมาแล้วไม่มีคนซื้อ ใครจะมาลงทุน ..

ที่จะให้เค้ามาลงทุน และว่าประเทศไทยไม่ดึงดูด ..ถามตัวเองก่อนครับว่าคิดจะซื้อรถ EV ใช้จริงๆหรือเปล่า และตอนนี้มีครอบครองสักคันหรือยัง ... ถ้ายัง ทีไม่ดึงดูดคือ แม้แต่คุณเองยังไม่คิดจะซื้อใช้เลย ... แล้วใครจะลงมาทุนผลิตสินค้าที่ไม่มีคนซื้อครับ ....

อีกอย่างจะมาอ้างที่ชาน์จไม่มี มีน้อย รัฐฯไม่สนับสนุน ... ลองไปดูตามห้างที่เค้ามีที่ชาจน์ไว้ให้ก็ว่าง ไม่เห็นรถ EV ไปจอดชาจ์นกันเลยนะครับ ... สถานีชาจ์นต่างๆเช่น ครัวบ้านขวัญ วังมะนาว เส้นไปหัวหิน ผมยังไม่เคยเห็นรถ EV ไปจอดชาจ์นเลย ...

อยากให้เค้าลงทุนขาย ก้ซื้อมาใช้กันเยอะๆครับ เค้าเห็นคนนิยม เค้าก็มาลงทุนผลิตเองแหละ เหมือนหน้ากากอนามัยไง ตอนนี้มีแต่คนลงทุนสร้างหน้ากากเพราะความต้องการสูงไง ....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2020, 11:34:20 โดย apinui »

ออฟไลน์ Sakutaro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 423
  จขกท. ต้องการจะสื่อความยากของเกณฑ์ที่จะนำเข้ารถไฟฟ้ามาขายรึเปล่า ผมเข้าใจตามนี้นะ
เหมือนผมต้องการขายพริก จะไปขายอีกอำเภอ แทนที่ผมจะขนพริกหรือซื้อพริกเข้าไปขายแล้วเสียแค่ภาษีบำรุงท้องที่
แต่อำเภอนั้นต้องการให้ผมซื้อที่เพื่อปลูกพริกที่นั่นและขาย
  ปัญหาคือ...ถ้าผมเงินหนาคงไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ ถ้าผมเงินน้อยล่ะก็ไม่ได้ขายเพราะไม่มีเงินซื้อที่และลงทุนปลูกพริก
  รัฐส่งเสริมรถไฟ จริงหรือไม่ ???...ทีนี้กลับมาที่เกณฑ์ เกณฑ์นี้มองได้หลายมุม มุมนึงเหมือนการกีดกัน เพราะหากลดเกณฑ์ลงนิดหน่อย
อาจมีหลายเจ้านำเข้ามาขายแข่งกัน คนใช้เยอะ??? อีกมุมก็สนับสนุนการลงทุนในระยาวในประเทศ??? เชิญทุกท่านทัศนา... :)

ออฟไลน์ manu2000

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
คิดว่า ซักพักจะไม่ทันอินโดนีเซียแล้วครับเรื่องรถไฟฟ้า แถมวัตถุดิบก็ไม่ค่อยมีเหมือนอินโด

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
ไม่แปลกหรอกถ้าในอนาคต​หลายๆค่ายจะไปลงทุนที่เวียดนาม​ แล้วค่อยส่งมาขายในไทยกัน ดูแววแล้วคงมีแหละ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ SRY

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 713

[/quote]

เห็นด้วยครับว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับกฎเกณฑืที่ว่ามานั่นหรอก
ปัญหาคือ ไทย ไม่ได้มีความน่าดึงดูด หรือน่าสนใจ เพียงพอที่จะดึงผู้ประกอบการรายเก่าหรือรายใหม่ ให้เข้ามาลงทุนทำโรงงาน BEV ภายใน2-3 หรือ 5ปีนี้ ต่างหาก
[/quote]

ก็ไม่แปลกครับ ที่ใครจะไม่ลงทุน EV ... ตรงนี้เข้าใจไม่ยากเลย ..
1.รถ EV ที่ขายในไทยตอนนี้ ขายได้กี่คันต่อเดือนต่อปีครับ
2.คนไทยจริงๆแล้วนิยม EV แค่ไหน .. หรือแค่กระแส อยากได้อยากมี แต่พอมีให้ซื้อจริงๆเงียบกริ๊บ
3.ราคาแพงที่อ้างกัน  MG ขาย 1 ล้าน นิสสันก็ลดราคามาให้แล้ว ...มีคนคิดจะซื้อขับกันสักกี่คนกัน .... และที่บอกว่า EV แพง ราคาต้อง5-6แสนถึงจะซื้อ ... แต่ลืมดูไปว่ารถยนต์ขนาด B-segment ก็ราคา 5-7 แสน แล้ว EV ต้องถูกกว่านี้มันเป็นไปได้หรอ .... นั่นมันข้ออ้างที่ขาดความเข้าใจมากๆ

ความน่าสนใจลงทุนของทุกธุกิจคือ ทำออกมาขายสร้างร้านสร้างโรงงานแล้วต้องมีคนซื้อ ถ้าทำออกมาแล้วไม่มีคนซื้อ ใครจะมาลงทุน ..

ที่จะให้เค้ามาลงทุน และว่าประเทศไทยไม่ดึงดูด ..ถามตัวเองก่อนครับว่าคิดจะซื้อรถ EV ใช้จริงๆหรือเปล่า และตอนนี้มีครอบครองสักคันหรือยัง ... ถ้ายัง ทีไม่ดึงดูดคือ แม้แต่คุณเองยังไม่คิดจะซื้อใช้เลย ... แล้วใครจะลงมาทุนผลิตสินค้าที่ไม่มีคนซื้อครับ ....

อีกอย่างจะมาอ้างที่ชาน์จไม่มี มีน้อย รัฐฯไม่สนับสนุน ... ลองไปดูตามห้างที่เค้ามีที่ชาจน์ไว้ให้ก็ว่าง ไม่เห็นรถ EV ไปจอดชาจ์นกันเลยนะครับ ... สถานีชาจ์นต่างๆเช่น ครัวบ้านขวัญ วังมะนาว เส้นไปหัวหิน ผมยังไม่เคยเห็นรถ EV ไปจอดชาจ์นเลย ...

อยากให้เค้าลงทุนขาย ก้ซื้อมาใช้กันเยอะๆครับ เค้าเห็นคนนิยม เค้าก็มาลงทุนผลิตเองแหละ เหมือนหน้ากากอนามัยไง ตอนนี้มีแต่คนลงทุนสร้างหน้ากากเพราะความต้องการสูงไง ....
[/quote]เห็นด้วย ขนาดรถธรรมดา ยังขายยาก สู้เจ้าตลาดไม่ได้อยู่ดี ใครจะกล้ามาลงทุนตลาดแบบนี้ ลงแล้วไปลงแล้วไปหายหมด
มีแต่คนบอกทำไมยี่ห้อนี้ไม่เอารุ่นนั้นนี่มาขาย แต่พอเอามาขายก็ไม่ซื้อ ใครมันจะลงทุนตลาดแบบนี้

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
แชร์มานี่แล้วอ่านหรือเปล่าครับเนี่ย ...

หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจ ...

ผู้นำเข้า CBU ได้ ต้องอยู่ในเงื่อนไขข้อ 2 นะครับ คือต้องนำเข้าภายใน 2 ปี และต้องติดตั้งสายการผลิตแล้ว ... ไม่ใช่ใครจะเอาเข้ามาก็ได้ .. พูดง่ายๆคือลงทุนตามกรอบเงื่อนไข BOI ไปแล้วเท่านั้น ..

ส่วนล่างๆเค้าแสดงวิธีคำนวนโควต้าการนำเข้าแบบ CBU ให้เข้าใจ ...

แล้วคืออะไรที่ไม่มีใครมาลงทุน .. คือ งง ครับ ...

เห็นด้วยครับว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับกฎเกณฑืที่ว่ามานั่นหรอก
ปัญหาคือ ไทย ไม่ได้มีความน่าดึงดูด หรือน่าสนใจ เพียงพอที่จะดึงผู้ประกอบการรายเก่าหรือรายใหม่ ให้เข้ามาลงทุนทำโรงงาน BEV ภายใน2-3 หรือ 5ปีนี้ ต่างหาก

ก็ไม่แปลกครับ ที่ใครจะไม่ลงทุน EV ... ตรงนี้เข้าใจไม่ยากเลย ..
1.รถ EV ที่สสันก็ลขายในไทยตอนนี้ ขายได้กี่คันต่อเดือนต่อปีครับ
2.คนไทยจริงๆแล้วนิยม EV แค่ไหน .. หรือแค่กระแส อยากได้อยากมี แต่พอมีให้ซื้อจริงๆเงียบกริ๊บ
3.ราคาแพงที่อ้างกัน  MG ขาย 1 ล้าน นิดราคามาให้แล้ว ...มีคนคิดจะซื้อขับกันสักกี่คนกัน .... และที่บอกว่า EV แพง ราคาต้อง5-6แสนถึงจะซื้อ ... แต่ลืมดูไปว่ารถยนต์ขนาด B-segment ก็ราคา 5-7 แสน แล้ว EV ต้องถูกกว่านี้มันเป็นไปได้หรอ .... นั่นมันข้ออ้างที่ขาดความเข้าใจมากๆ

ความน่าสนใจลงทุนของทุกธุกิจคือ ทำออกมาขายสร้างร้านสร้างโรงงานแล้วต้องมีคนซื้อ ถ้าทำออกมาแล้วไม่มีคนซื้อ ใครจะมาลงทุน ..

ที่จะให้เค้ามาลงทุน และว่าประเทศไทยไม่ดึงดูด ..ถามตัวเองก่อนครับว่าคิดจะซื้อรถ EV ใช้จริงๆหรือเปล่า และตอนนี้มีครอบครองสักคันหรือยัง ... ถ้ายัง ทีไม่ดึงดูดคือ แม้แต่คุณเองยังไม่คิดจะซื้อใช้เลย ... แล้วใครจะลงมาทุนผลิตสินค้าที่ไม่มีคนซื้อครับ ....

อีกอย่างจะมาอ้างที่ชาน์จไม่มี มีน้อย รัฐฯไม่สนับสนุน ... ลองไปดูตามห้างที่เค้ามีที่ชาจน์ไว้ให้ก็ว่าง ไม่เห็นรถ EV ไปจอดชาจ์นกันเลยนะครับ ... สถานีชาจ์นต่างๆเช่น ครัวบ้านขวัญ วังมะนาว เส้นไปหัวหิน ผมยังไม่เคยเห็นรถ EV ไปจอดชาจ์นเลย ...

อยากให้เค้าลงทุนขาย ก้ซื้อมาใช้กันเยอะๆครับ เค้าเห็นคนนิยม เค้าก็มาลงทุนผลิตเองแหละ เหมือนหน้ากากอนามัยไง ตอนนี้มีแต่คนลงทุนสร้างหน้ากากเพราะความต้องการสูงไง ....

แน่ใจรึว่าราคาปัจจุบัน เป็นราคาของ BEV ที่แท้จริง ทำไมประเทศอื่นขายเทสล่าคันละ1.3 ล้านได้ ทำไมไม่ขายราคานี้
zs ev ขายที่จีน 7-8แสน ขายอังกฤษ ออสเตรเลีย 9 แสน ทำไมขายไทย 1.2 ล้าน

บอกให้คนไทยซื้อใช้ ถามจริงคนไทยมีกำลังซื้อกี่คน กี่คัน ปีนึงโรงงานรถยนต์ในบ้านเราผลิตกี่คัน ขายไทยกี่คัน ส่งออกกี่คัน (ผลิต 2ล้าน ขายไทย9แสน ที่เหลือส่งออก) ถ้าโรงงานจะมาทำbev จริง ต้องผลิกี่คันถึงจะถึงจุดคุ้มทุน ต้องส่งออกไปที่ไหนถึงจะได้ขาย แล้วมีประเทศไหนที่มีข้อเสนอให้ลงทุนได้น่าสนใจกว่า
แล้วพอมองมุมนี้ไทยมีอะไรที่น่าลงทุน กำลังซื้อมีหรือ ก็แค่60ล้าน อินโดมี300ล้าน แร่สำคัญมีไหม ก็ไม่มี มีความมั่นคงทางพลังงานไหม อาจจะมี แต่ความมั่นคงทางการเมืองมีไหม ก็พร้อมจะทะเลาะกันได้ทุกเมื่อ
 
จุดชาร์จเยอะ  แน่ใจหรือว่าใช่ เทียบกับประเทศที่ใช้ EV เยอะๆ ดูหน่อยไหมว่าเยอะหรือไม่เยอะ
ที่ชาร์จที่มีมันเป็นแแบไหน ชาร์จช้า ชาร์จเร็ว มันก็มีคนมารีวิวอยู่เรื่อยๆนะว่าการเดินทางไปตจว.มันลำบากแค่ไหน ในการหาจุดชาร์จ
ชาร์จเร็วได้แค่ไหน มีแค่ไหน ก็ยังไม่แพร่หลาย ยังไม่ครอบคลุม
จุดชาร์จตามบ้าน มีครบทุกบ้านไหม คนที่ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองจะชาร์จตรงไหน คนที่อยู่คอนโดจะชาร์จยังไง ถ้ามีBEV ล้านคัน ต้องมีที่ชาร์จกี่จุด มีใครคิดถึงรึยัง 
ราคาค่าชาร์จเหมาะสมเป็นธรรมไหม ต้นทุนเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่

ปัญหา อุปสรรค มันมีอีกเยอะ อย่าโยนภาระให้ผู้ใช้รถอย่างเดียว

ออฟไลน์ Pattiphong

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 114
ไม่แปลกหรอกถ้าในอนาคต​หลายๆค่ายจะไปลงทุนที่เวียดนาม​ แล้วค่อยส่งมาขายในไทยกัน ดูแววแล้วคงมีแหละ

เห็นด้วยครับ
2012 - Mercedes Benz C Coupe W204
2015 - Toyota Vellfire 2.5 ZG EDITION
2019 - Toyota Camry 2.5 G
2019 - BMW 530e M Sport (Bluestone)
2020 - BMW M340i

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
ผมว่ายังไม่ต้องพูดถึง BOI ครับ

คนไทยจนลงมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

รถราคา 1.2 ล้าน เทียบราคาซัก 20 ปีที่แล้ว เหมือนรถคันละ 7-8 แสน

สมัยนั้นคันละ 7-8 แสนขายกระจุย

สมัยนี้ยอดไปกองอยู่ที่รถต่ำ 8 แสนซะเยอะ เพราะกำลังซื้อลด

ถ้าคนยังไม่มีเงินเหลือๆ รถอะไรที่ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก มวลชน ก็จะยังเกิดได้ยากครับ

ถ้าอยากให้รถไฟฟ้าเกิด เปลี่ยนรัฐบาล น่าจะตอบโจทย์ที่สุดครับ ตอนนี้

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
ไม่แปลกหรอกถ้าในอนาคต​หลายๆค่ายจะไปลงทุนที่เวียดนาม​ แล้วค่อยส่งมาขายในไทยกัน ดูแววแล้วคงมีแหละ

เห็นด้วยครับ

ไม่ต้องรอเวียดนามคนับ ปีหน้าประเดิมอินโดก่อนเลย จากฮุนได

ออฟไลน์ polwath

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 886
ปัญหาความมันคงทางไฟฟ้าและพลังงานในบ้านเราก็ยังไม่พร้อมเลย ยังต้องนำเข้าไฟฟ้าอยู่ ซึ่งศักยภาพในบ้านเรา มันไม่ควรจะนำเข้า แต่ควรเป็นผู้ส่งออกไฟฟ้าด้วยซ้ำ บวกกับระบบชาร์จที่ยังไม่แพร่หลายนัก ทั้ง AC และ DC วัตถุดิบในการผลิตแบตรถยนต์ก็ไม่ค่อยมี

รวมทั้งคนใช้รถบางส่วนอยู่คอนโดหรือบ้านที่ไม่มีที่จอดรถส่วนตัว แค่หาที่จอดยังยากแล้ว ที่จอดชาร์จยิ่งหายากเข้าไปอีก ต่อให้มีมอไซค์ไฟฟ้าแบบมาตรฐานเหมือนมอไซค์ทั่วไป ก็ยังเจอปัญหาเรื่องพื้นที่ชาร์จและบางที่ก็ไม่ให้เอาเข้าห้อง ต้องจอดข้างอาคารอีก เสี่ยงหายอีก

รวมทั้ง Wall Charge ระบบ AC ปกติและระบบ AC แรงสูง ก็ต้องติดตั้งภายในบ้าน และอาจต้องเพิ่มขนาดสายไฟ เปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้า หรือทำระบบไฟบ้านใหม่ทั้งหมดอีกนะ

ภาพรวมตอนนี้ Hybrid ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอยู่ และคุ้มกับการลงทุนมากกว่า Full EV แต่ก็อย่างที่เห็น คนซื้อ Hybrid ก็ยังน้อยและจำกัดเฉพาะผู้มีรายได้สูง เทียบกับรถในท้องตลาดทั่วไป

ทำได้อย่างเดียว คือ รอเปลี่ยนผ่านครับ และทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ต้องร่วมมือกันในการสนับสนุน เปลี่ยนผ่าน และกระตุ้นการใช้รถ EV ตลาดถึงจะเกิด และต้องปลูกฝังสามัญสำนึกและทำตามกฎหมายจราจรให้มากกว่านี้ เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนบ้านเราสูงอันดับต้น ๆ ของโลกเลย ยิ่งรถ EV ถ้าโดนชนแรง ๆ แบตไฟไหม้แรงนะครับ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
ผมว่ายังไม่ต้องพูดถึง BOI ครับ

คนไทยจนลงมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

รถราคา 1.2 ล้าน เทียบราคาซัก 20 ปีที่แล้ว เหมือนรถคันละ 7-8 แสน

สมัยนั้นคันละ 7-8 แสนขายกระจุย

สมัยนี้ยอดไปกองอยู่ที่รถต่ำ 8 แสนซะเยอะ เพราะกำลังซื้อลด

ถ้าคนยังไม่มีเงินเหลือๆ รถอะไรที่ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก มวลชน ก็จะยังเกิดได้ยากครับ

ถ้าอยากให้รถไฟฟ้าเกิด เปลี่ยนรัฐบาล น่าจะตอบโจทย์ที่สุดครับ ตอนนี้

จะเปลี่ยนอีกกี่รัฐบาลก็ไม่ช่วยอะไรครับ
ถ้าคุณภาพและความสามารถโดยองค์รวมของคนไทย
ยังเป็นแบบนี้และมีแนวโน้มที่แย่ลง

ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ไม่ได้มีแค่รัฐบาลที่เก่งเท่านั้น
แต่ประชาชนของเขาต่างก็เป็นมดงานที่ดีและช่วยกัน
สร้างประเทศด้วยครับ

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,636
    • อีเมล์

จะเปลี่ยนอีกกี่รัฐบาลก็ไม่ช่วยอะไรครับ
ถ้าคุณภาพและความสามารถโดยองค์รวมของคนไทย
ยังเป็นแบบนี้และมีแนวโน้มที่แย่ลง

ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ไม่ได้มีแค่รัฐบาลที่เก่งเท่านั้น
แต่ประชาชนของเขาต่างก็เป็นมดงานที่ดีและช่วยกัน
สร้างประเทศด้วยครับ

ผมเห็นด้วยกับประเด็นนี้ ประเทศที่เข้มแข็งภาครัฐต้องแข็งแกร่ง และฉลาดพอๆกันกับภาคเอกชน ระดับบริษัทข้ามชาติ ถึงจะไปกันได้

เมืองไทยที่ผ่านมาตอนนี้ เอกชนขับเคลื่อนประเทศ แต่....ภาครัฐที่โดนครอบด้วยนักการเมืองไม่ดี ถ่วงความเจริญด้วยซ้ำ น่าเศร้ามาก

ผู้บริหารระดับประเทศไร้วิสัยทัศน์ และความรู้ความสามารถไม่ตรงตำแหน่งรับผิดชอบแทบทุกกระทรวงแบบนี้

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
ผมว่ายังไม่ต้องพูดถึง BOI ครับ

คนไทยจนลงมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

รถราคา 1.2 ล้าน เทียบราคาซัก 20 ปีที่แล้ว เหมือนรถคันละ 7-8 แสน

สมัยนั้นคันละ 7-8 แสนขายกระจุย

สมัยนี้ยอดไปกองอยู่ที่รถต่ำ 8 แสนซะเยอะ เพราะกำลังซื้อลด

ถ้าคนยังไม่มีเงินเหลือๆ รถอะไรที่ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก มวลชน ก็จะยังเกิดได้ยากครับ

ถ้าอยากให้รถไฟฟ้าเกิด เปลี่ยนรัฐบาล น่าจะตอบโจทย์ที่สุดครับ ตอนนี้

จะเปลี่ยนอีกกี่รัฐบาลก็ไม่ช่วยอะไรครับ
ถ้าคุณภาพและความสามารถโดยองค์รวมของคนไทย
ยังเป็นแบบนี้และมีแนวโน้มที่แย่ลง

ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ไม่ได้มีแค่รัฐบาลที่เก่งเท่านั้น
แต่ประชาชนของเขาต่างก็เป็นมดงานที่ดีและช่วยกัน
สร้างประเทศด้วยครับ

มดงานของคุณคืออะไรครับ ถ้าหมายถึงชนชั้นล่าง กับชนชั้นกลาง เขาก็ทำงาน เสียภาษีกันทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่แล้ว

ถ้ารัฐบาลบริหารดี ให้ความรู้ถึงภาคประชาชน ช่วยเหลือตั้งแต่ชั้นแรงงาน เกษตกร ให้มีกำลังซื้อ

ภาคธุรกิจ SME ก็จะเติบโตได้ง่าย มีการแข่งขัน มีไอเดียใหม่ๆ และมีเงินภาษีกลับมาที่ภาครัฐ มีการกระจายรายได้ไปที่ท้องถิ่น กระจายความเจริญ ดึงดูดภาคธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศได้

อันนี้คือในกรณีที่รัฐบาลมีประสิทธิภาพนะครับ

ตอนนี้ชนชั้นแรงงานเป็นหนี้ เกษตรกร เป็นหนี้ คนไม่จับจ่ายใช้สอย SME พากันเจ๊ง เหลือแต่ผู้แข็งแกร่งจริงๆ ถึงจะรอด

คือถ้าเรายังอยู่ในสภาวะแกร่งถึงรอดแบบนี้ อะไรใหม่ๆ มันจะเกิดได้ยังไงครับ

ถ้าคุณบอกว่ารัฐบาลไหนก็เหมือนกัน ทุกประเทศในโลกมันต้องเจริญเท่ากันสิครับ

ถ้าคุณบอกว่าประชาชนไทยไม่มีคุณภาพ อยู่ๆ ประชาชนเกิดมามันจะมีคุณภาพได้ยังไงครับ

 รัฐต้องส่งเสริมภาคการศึกษา ซึ่งก็ขึ้นกับกระทรวงศึกษา คนดูแลก็คือรัฐบาลไงครับ

แน่นอนว่าสำนึกส่วนบุคคลมีผล แต่ถ้าประชากรมหภาคไม่มีคุณภาพ รัฐบาลก็ต้องไตร่ตรองครับ

ออฟไลน์ basterias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,793
ส่วนตัวผมยังหาโมเดลที่ถูกใจไม่ได้ ถูกใจของผมคือวิ่งได้ตามทฤษฏี 600 กิโลต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งดูราคารถที่มีสเปคสูงแบบนั้น คิดยังไงก็ยังแพงกว่า phev หรือ hybrid อยู่มาก

ถ้าวันนึงแบรนด์ตลาดทำรถวิ่งได้ซัก 600 กิโล ผมก็พร้อมจะใช้ครับ ตอนนี้ก็รอไปก่อน
Current cars:
2018 - Volvo XC60 T8 R-design (Stock)
2020 - Mercedes C43 Sedan FL (tuned)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79186.0)
2021 - BMW 530e M sport LCI (Stock)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79736.0)

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
ไม่แปลกหรอกถ้าในอนาคต​หลายๆค่ายจะไปลงทุนที่เวียดนาม​ แล้วค่อยส่งมาขายในไทยกัน ดูแววแล้วคงมีแหละ

เห็นด้วยครับ



ไม่ต้องรอเวียดนามคนับ ปีหน้าประเดิมอินโดก่อนเลย จากฮุนได

ตามนัั้นครับ ดูๆแล้วมีแววอีกยี่ห้อคือ ฟอร์ดครับ ไปลงทุนเวียดนามใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อนาคตคงปิดโรงงานในไทยแล้วส่งรถมาขายสบายเลย
อยู่ไทยโดนค่าแรงสารพัด ภาษี
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ masuoka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,156
ง่ายๆนะครับ คนไทยไม่นิยมรถไฟฟ้าพอที่จะคุ้มค่าลงทุน แต่ก็มีข้อดีนิดนึงคือขยะอิเล็กทรอนิกส์จะไม่เพิ่มมากกว่านี้ ให้เพื่อนบ้านรับไปก็ดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2020, 01:27:36 โดย masuoka »

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
ผมว่ายังไม่ต้องพูดถึง BOI ครับ

คนไทยจนลงมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

รถราคา 1.2 ล้าน เทียบราคาซัก 20 ปีที่แล้ว เหมือนรถคันละ 7-8 แสน

สมัยนั้นคันละ 7-8 แสนขายกระจุย

สมัยนี้ยอดไปกองอยู่ที่รถต่ำ 8 แสนซะเยอะ เพราะกำลังซื้อลด

ถ้าคนยังไม่มีเงินเหลือๆ รถอะไรที่ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก มวลชน ก็จะยังเกิดได้ยากครับ

ถ้าอยากให้รถไฟฟ้าเกิด เปลี่ยนรัฐบาล น่าจะตอบโจทย์ที่สุดครับ ตอนนี้

จะเปลี่ยนอีกกี่รัฐบาลก็ไม่ช่วยอะไรครับ
ถ้าคุณภาพและความสามารถโดยองค์รวมของคนไทย
ยังเป็นแบบนี้และมีแนวโน้มที่แย่ลง

ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ไม่ได้มีแค่รัฐบาลที่เก่งเท่านั้น
แต่ประชาชนของเขาต่างก็เป็นมดงานที่ดีและช่วยกัน
สร้างประเทศด้วยครับ

มดงานของคุณคืออะไรครับ ถ้าหมายถึงชนชั้นล่าง กับชนชั้นกลาง เขาก็ทำงาน เสียภาษีกันทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่แล้ว

ถ้ารัฐบาลบริหารดี ให้ความรู้ถึงภาคประชาชน ช่วยเหลือตั้งแต่ชั้นแรงงาน เกษตกร ให้มีกำลังซื้อ

ภาคธุรกิจ SME ก็จะเติบโตได้ง่าย มีการแข่งขัน มีไอเดียใหม่ๆ และมีเงินภาษีกลับมาที่ภาครัฐ มีการกระจายรายได้ไปที่ท้องถิ่น กระจายความเจริญ ดึงดูดภาคธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศได้

อันนี้คือในกรณีที่รัฐบาลมีประสิทธิภาพนะครับ

ตอนนี้ชนชั้นแรงงานเป็นหนี้ เกษตรกร เป็นหนี้ คนไม่จับจ่ายใช้สอย SME พากันเจ๊ง เหลือแต่ผู้แข็งแกร่งจริงๆ ถึงจะรอด

คือถ้าเรายังอยู่ในสภาวะแกร่งถึงรอดแบบนี้ อะไรใหม่ๆ มันจะเกิดได้ยังไงครับ

ถ้าคุณบอกว่ารัฐบาลไหนก็เหมือนกัน ทุกประเทศในโลกมันต้องเจริญเท่ากันสิครับ

ถ้าคุณบอกว่าประชาชนไทยไม่มีคุณภาพ อยู่ๆ ประชาชนเกิดมามันจะมีคุณภาพได้ยังไงครับ

 รัฐต้องส่งเสริมภาคการศึกษา ซึ่งก็ขึ้นกับกระทรวงศึกษา คนดูแลก็คือรัฐบาลไงครับ

แน่นอนว่าสำนึกส่วนบุคคลมีผล แต่ถ้าประชากรมหภาคไม่มีคุณภาพ รัฐบาลก็ต้องไตร่ตรองครับ

เราเปลี่ยนกันมากี่รัฐบาลแล้วครับ   เปลี่ยนมาครบทุกขั้ว ทุกแบบแล้วนะครับ
และทุกยุคทุกสมัย ผมก็ได้ยินคนบ่นกันแบบเดิม ๆ  นั่นแปลว่า ปัญหาไม่ใช่แค่ปัจจัยจากฝ่ายบริหารอย่างเดียวแน่

ไม่อยากพูดยาว แต่อยากบอกว่า สิ่งแรกที่เราควรทำคือ ทุกคนควรทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ก่อน
ถ้าทำกันมาเต็มที่แล้ว ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น  แต่ถ้าทุกวันนี้ยังไม่ได้ตั้งใจทำให้เต็มที่ (นึกตรงนี้ให้ดี ๆ นะครับ)
แต่อาศัยอ้างว่าภาคนั้น ส่วนนี้ไม่สนับสนุน เลยทำงานแค่นี้ ตั้งใจแค่นี้
อย่างนี้เหมือนกับชี้นิ้วโทษกันไปมา แต่ไม่มีใครสักคนที่จะทำอะไรให้ดีขึ้นเลย 

และก็ใช่ครับ ว่าภาครัฐยังคงห่วยแตกเสมอมา จนทุกวันนี้

แต่.... รัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ มันคือประชาชนอย่างเรานี่ไม่ใช่หรือ
ทั้งคนที่ตำแหน่งสูง ๆ มีอำนาจสั่งการ ลงมาจนถึง จนท ปฏิบัติการระดับ front line
มันก็คนในสังคมเดียวกันกับเราไม่ใช่หรือ  บางคน หลาย ๆ คน
ก็เคยเป็นเพื่อนเรียนหนังสือในห้องเดียวกัน เตะบอลสนามเดียวกัน
เล่นเกมส์กันมาด้วยกันไม่ใช่หรือ
ก็แค่จะบอกว่า คนเหล่านั้นก็มาจากประชากรกลุ่มเดียวกันกับเรา
ประชากรกลุ่มนี้มีคุณภาพอย่างไร  เขาเดินออกมาจากกลุ่มนั้นนั่นแหละครับ

ออฟไลน์ InBkk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,112
อยากให้รถไฟฟ้าเกิด ยังไงก็ต้องพึ่งรัฐบาลครับ

1. จังหวัดใหญ่ๆ โดยเฉพาะที่เป็นทางผ่าน ต้องมีที่ชาร์จ DC Fast Charger ตลอด 24 ชม (ปัจจุบันมีตั้งไว้ แต่ยังให้บริการไม่ได้)
2. ลด/ยกเว้นภาษี ในลักษณะเดียวกับโครงการรถคันแรกเมื่อปี 2555 เพื่อกระตุ้นให้คนอยากใช้
3. เมื่อคนใช้เยอะขึ้นมาบ้าง ก็ส่งเสริมการลงทุนฐานผลิตในประเทศ พอหมดโครงการรถไฟฟ้าคันแรก ก็มีโรงงานประกอบรถไฟฟ้าเกิดพอดี

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ผมว่ายังไม่ต้องพูดถึง BOI ครับ

คนไทยจนลงมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

รถราคา 1.2 ล้าน เทียบราคาซัก 20 ปีที่แล้ว เหมือนรถคันละ 7-8 แสน

สมัยนั้นคันละ 7-8 แสนขายกระจุย

สมัยนี้ยอดไปกองอยู่ที่รถต่ำ 8 แสนซะเยอะ เพราะกำลังซื้อลด

ถ้าคนยังไม่มีเงินเหลือๆ รถอะไรที่ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก มวลชน ก็จะยังเกิดได้ยากครับ

ถ้าอยากให้รถไฟฟ้าเกิด เปลี่ยนรัฐบาล น่าจะตอบโจทย์ที่สุดครับ ตอนนี้

สัก  20 ปีที่แล้ว หรือปี 2000

ช่วงนั้นถ้ายังจำกันได้ รถที่ขายจะเป็น Soluna กับ City ตัวแรก

ผมไม่แปลกใจหรอกครับ ที่คนจะยอมกัดฟันซื้อรถราคา 7-8 แสนขึ้นไป

ยุคนี้ ไม่สิ สักสิบปีเป็นต้นมา ตั้งแต่ปี 2010 ผมว่ารถเก๋ง B-seg มันดีขึ้นมาก คันก็ใหญ่ แถมเป็น Eco car อีก
คนที่ซื้อรถในยุคเก่าแบบผม เอาจริงๆ option Eco car ยุคนี้มันพอเพียงสำหรับวัยกลางคนขึ้นไปแบบผมแล้วครับ

ไม่ค่อยเห็นประโยชน์กับการที่จะต้องไปซื้อ Civic Turbo Mazda 3 หรืออะไรพวกที่เกินล้านเลย

ยุคนี้แม้แต่ Civic 1.8 option อลังการกว่ายุค D-seg สมัย 20 ปีที่แล้วอย่าง Accord งูเห่าอีกครับ

ออฟไลน์ spn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,707
ส่วนตัวผมยังหาโมเดลที่ถูกใจไม่ได้ ถูกใจของผมคือวิ่งได้ตามทฤษฏี 600 กิโลต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งดูราคารถที่มีสเปคสูงแบบนั้น คิดยังไงก็ยังแพงกว่า phev หรือ hybrid อยู่มาก

ถ้าวันนึงแบรนด์ตลาดทำรถวิ่งได้ซัก 600 กิโล ผมก็พร้อมจะใช้ครับ ตอนนี้ก็รอไปก่อน
เห็นด้วยครับ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศเล็กๆ
ปัจจุบัน รถ EV วิ่งไปกลับ กทม-พัทยา ยังต้องลุ้นๆ บางคันก็วิ่งไม่ถึง

อีกอย่าง ประไทยตลาดปราบเซียนครับ ไม่ใช่ว่าเอารถอะไรมาขายก็ได้ หน้าตารถก็สำคัญ ศูนย์บริการก็สำคัญครับ
E220d W213
Camry 2.5 HV Premium
BT50 Free Style Cab Hi racer
Revo 2.8J B cab 4x4
March 1.2 CVT
KIA Jumbo 1JZ-GE AT

ออฟไลน์ PaPaMan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,179
ผมว่ายังไม่ต้องพูดถึง BOI ครับ

คนไทยจนลงมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

รถราคา 1.2 ล้าน เทียบราคาซัก 20 ปีที่แล้ว เหมือนรถคันละ 7-8 แสน

สมัยนั้นคันละ 7-8 แสนขายกระจุย

สมัยนี้ยอดไปกองอยู่ที่รถต่ำ 8 แสนซะเยอะ เพราะกำลังซื้อลด

ถ้าคนยังไม่มีเงินเหลือๆ รถอะไรที่ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก มวลชน ก็จะยังเกิดได้ยากครับ

ถ้าอยากให้รถไฟฟ้าเกิด เปลี่ยนรัฐบาล น่าจะตอบโจทย์ที่สุดครับ ตอนนี้


ตรงนี้ผมเห็นต่างนะครับ
สมัยเมื่อ 20+ ปีก่อนผมซื้อโคโรลล่าตูดเป็ด AE111 รุ่นท็อป 668,000 คันเล็กกระจึ๋งนึง เบาะผ้า เกียร์ 4AT ล้อแม็คขอบแค่ 14 นิ้ว ระบบความปลอดภัยมีแค่ถุงลมสองใบ กับเบรค ABS ถ้าเทียบกับตอนนี้ก็จะได้ city SV หรือ Almera VL ซึ่งราคาพอๆเดิม แน่นอนว่านี่ยังไม่นับเงินเฟ้อว่าอีกเท่าไหร่ แต่รถปัจจุบันนี้แค่ตัวถังก็ใหญ่กว่าเดิมมากแล้ว อีกทั้งเทคโนโลยี่ที่ทันสมัยกว่ามาก optionเพียบ เครื่องแรงขึ้น ประหยัดขึ้น ปลอดภัยขึ้น มันเทียบกันไม่ได้เลยครับ ผมว่ารถสมัยนี้มันถูกลงมากเลยครับ หรือไม่ก็รถสมัยก่อนมันแพงมากกกกกกก

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
ผมว่ายังไม่ต้องพูดถึง BOI ครับ

คนไทยจนลงมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

รถราคา 1.2 ล้าน เทียบราคาซัก 20 ปีที่แล้ว เหมือนรถคันละ 7-8 แสน

สมัยนั้นคันละ 7-8 แสนขายกระจุย

สมัยนี้ยอดไปกองอยู่ที่รถต่ำ 8 แสนซะเยอะ เพราะกำลังซื้อลด

ถ้าคนยังไม่มีเงินเหลือๆ รถอะไรที่ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก มวลชน ก็จะยังเกิดได้ยากครับ

ถ้าอยากให้รถไฟฟ้าเกิด เปลี่ยนรัฐบาล น่าจะตอบโจทย์ที่สุดครับ ตอนนี้


ตรงนี้ผมเห็นต่างนะครับ
สมัยเมื่อ 20+ ปีก่อนผมซื้อโคโรลล่าตูดเป็ด AE111 รุ่นท็อป 668,000 คันเล็กกระจึ๋งนึง เบาะผ้า เกียร์ 4AT ล้อแม็คขอบแค่ 14 นิ้ว ระบบความปลอดภัยมีแค่ถุงลมสองใบ กับเบรค ABS ถ้าเทียบกับตอนนี้ก็จะได้ city SV หรือ Almera VL ซึ่งราคาพอๆเดิม แน่นอนว่านี่ยังไม่นับเงินเฟ้อว่าอีกเท่าไหร่ แต่รถปัจจุบันนี้แค่ตัวถังก็ใหญ่กว่าเดิมมากแล้ว อีกทั้งเทคโนโลยี่ที่ทันสมัยกว่ามาก optionเพียบ เครื่องแรงขึ้น ประหยัดขึ้น ปลอดภัยขึ้น มันเทียบกันไม่ได้เลยครับ ผมว่ารถสมัยนี้มันถูกลงมากเลยครับ หรือไม่ก็รถสมัยก่อนมันแพงมากกกกกกก
ที่บ้านผมก็มีตูดเป็ดรุ่นล่างเกียร์ธรรมดา  ตอนนั้นจำได้ว่าพ่ออกรถรุ่นนี้ในราคา499,000บาท  ส่วนลดอะไรก็ไม่มีของแถมก็ไม่มี กระจกมือหมุน วิทยุมีแค่คู่หน้า ไล่ฝ้าก็ไม่มี เข็มขัดนิรภัยก็มีแค่คู่หน้า ส่วนถุงลมอย่าฝันที่จะได้ครับ ยิ่งคานกันชนด้านหน้ายิ่งไม่ต้องคิดต่อนะครับ ซึ่งตอนนั้นโตโยต้าดูถูกคนไทยกันมากๆ มีดีแค่ทนถึกเท่านั้น มาดูรถสมัยนี้ราคา 499,000-5xx,xxx เช่น สวิฟและอัลเมร่า มาสด้า2 ก็ได้อุปกรณ์ความปลอดภัยและความสะดวกสบายมาแบบพอเพียงแล้วนะครับ แต่ความทนอาจจะลดลงบ้าง