ผู้เขียน หัวข้อ: // หลุดคันจริง Nissan KICKS e-Power ไทยที่แรกของโลก เดือน พ.ค.นี้ ไม่ข้ามล้าน //  (อ่าน 21574 ครั้ง)

ออฟไลน์ Magl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,553
    • อีเมล์
ทำไมทุกคนคิดเยอะกันจัง ไฮบริดไม่กลัว แต่กลัวระบบง่ายๆของ e power รถไฟฟ้าที่มีเครื่องปั่นไฟติดไปด้วย
เคยเห็นรถจักรดีเซลไฟฟ้าในประเทศไทยไหมครับ รถจักร alstrom อายุประมาณ 40 ปีได้แล้ว ยังวิ่งได้ การซ่อมบำรุงคือ เครื่องยนต์ติดกับ alternater ผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายไปที่ reversing drumใช้กลับกระแสไฟฟ้า เดินหน้าถอยหลัง ลงมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบโบราณมีมานานมากกว่า 60 ปีแล้ว ระบบไฟฟ้าแรงบิดมหาศาล รถหนักแค่ไหนก็ออกตัวได้  ไม่ใช่ของใหม่อะไรเลย

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,668
ทำไมทุกคนคิดเยอะกันจัง ไฮบริดไม่กลัว แต่กลัวระบบง่ายๆของ e power รถไฟฟ้าที่มีเครื่องปั่นไฟติดไปด้วย
เคยเห็นรถจักรดีเซลไฟฟ้าในประเทศไทยไหมครับ รถจักร alstrom อายุประมาณ 40 ปีได้แล้ว ยังวิ่งได้ การซ่อมบำรุงคือ เครื่องยนต์ติดกับ alternater ผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายไปที่ reversing drumใช้กลับกระแสไฟฟ้า เดินหน้าถอยหลัง ลงมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบโบราณมีมานานมากกว่า 60 ปีแล้ว ระบบไฟฟ้าแรงบิดมหาศาล รถหนักแค่ไหนก็ออกตัวได้  ไม่ใช่ของใหม่อะไรเลย

Hybrid มันออกมาหลายปี แก้จุดบอดได้เกือบหมดแล้ว แต่ E-Power เพิ่งมา สรรพคุณทั้งอัตราเร่งและความประหยัดเชื่อว่าดีแน่ แต่ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาระยะยาวนี่แหละ ที่เขากังวลกัน ว่ามันประหยัดจริงรึเปล่า หรืออนาคตต้องจ่ายค่าอะไหล่ชิ้นไหนแพงๆ หักลบค่าน้ำมันที่ประหยัดไปแล้วคุ้มไหม บลาๆ

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
    • อีเมล์
ทำไมทุกคนคิดเยอะกันจัง ไฮบริดไม่กลัว แต่กลัวระบบง่ายๆของ e power รถไฟฟ้าที่มีเครื่องปั่นไฟติดไปด้วย
เคยเห็นรถจักรดีเซลไฟฟ้าในประเทศไทยไหมครับ รถจักร alstrom อายุประมาณ 40 ปีได้แล้ว ยังวิ่งได้ การซ่อมบำรุงคือ เครื่องยนต์ติดกับ alternater ผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายไปที่ reversing drumใช้กลับกระแสไฟฟ้า เดินหน้าถอยหลัง ลงมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบโบราณมีมานานมากกว่า 60 ปีแล้ว ระบบไฟฟ้าแรงบิดมหาศาล รถหนักแค่ไหนก็ออกตัวได้  ไม่ใช่ของใหม่อะไรเลย

Hybrid มันออกมาหลายปี แก้จุดบอดได้เกือบหมดแล้ว แต่ E-Power เพิ่งมา สรรพคุณทั้งอัตราเร่งและความประหยัดเชื่อว่าดีแน่ แต่ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาระยะยาวนี่แหละ ที่เขากังวลกัน ว่ามันประหยัดจริงรึเปล่า หรืออนาคตต้องจ่ายค่าอะไหล่ชิ้นไหนแพงๆ หักลบค่าน้ำมันที่ประหยัดไปแล้วคุ้มไหม บลาๆ
แต่อะไหล่ทุกชิ้นที่มีใน E-Power ก็มีใน Hybrid อยู่แล้ว ไม่มีอะไหล่ชิ้นไหนเพิ่มมาใหม่เลยครับ มันน้อยลงนิดๆ ด้วยซ้ำ

ดังนั้นมันค่อนข้างจะไม่สมเหตุสมผลที่จะกลัว E-Power แต่ไม่กลัว Hybrid ครับ ระบบมันง่ายกว่า Hybrid

แต่ถ้ากลัว Nissan ยังสมเหตุสมผลมากกว่า

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
    • อีเมล์
Re: // หลุดคันจริง Nissan KICKS e-Power
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: เมษายน 11, 2020, 23:21:57 »
สวัสดีครับพี่ ขอบคุณครับ  ดีครับที่มาช่วยกันลองคิดวิเคราะห์แบบใช้ logic กันดู

1.ระบบการชาร็จไฟกลับ ผมคิดว่า E power ต้องมีนะครับ นี่เป็นหัวใจของระบบ hybrid เลยครับ
   เพราะมันเป็นการเอาพลังงานที่ทิ้งเปล่า ๆ เอากลับมาใช้ขับเคลื่อนอีกรอบ เป็นส่วนที่ช่วยประหยัด
   ได้เปรียบระบบสันดาปอย่างเดียวอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ  ทีนี้พอต้องมีระบบนี้แล้ว มันจะต้องมี
   อัลกอลิทึมในคอมพิวเตอร์สั่งการ ซึ่งมันก็จะเป็นลอจิกเดียวกับ hybrid ทั่วไป ไม่ต่างกันเลยครับ
   ตัวมอเตอร์ขับเคลื่อน เมื่อถึงเวลานึงก็ต้องสลับหน้าที่กลับมาเป็นเจนเนอร์เรเตอร์ปั่นไฟกลับ
   ซึ่งก็ทำงานเหมือน hybrid ทั่วไปเช่นกัน รวมไปจนถึงอินเวอร์เตอร์ด้วยน่ะครับ

2.ระบบ hybrid ทั่วไปที่มีการทำงานสลับกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์
   - ถ้าเทียบกับ hybrid I-MMD ของ Honda มันจะมีการทำงานสลับกันระหว่างมอเตอร์กับเครื่องยนต์
     ที่ความเร็วสูง เป็นการตัด - ต่อ กำลังว่าจะให้มอเตอร์ หรือ เครื่องยนต์ อย่างใดอย่างหนึ่งลงล้อ
     ระบบนี้ใช้ครัชท์เป็นตัวแยกครับ ซึ่งมีชิ้นส่วนสึกหรอสิ้นเปลืองคือครัชต์ แต่คิดว่าการตัดต่อทำโดยระบบ
     ไม่ใช่คนเหยียบครัชต์แบบรถเกียร์ธรรมดา  ดังนั้นอายุการใช้งานน่าจะเกินหลักแสน กม. ไปเยอะ
     ก็ถือว่าแลกกับสมรรถนะของรถที่ความเร็วสูงครับ (e-power กับ I-MMD มีหลักกการทำงานเหมือนกัน
     เป๊ะ ๆ ที่ความเร็วต่ำครับ)
   - ถ้าเทียบกับ hybrid Toyota ระบบส่งกำลังเป็นเฟืองเกียร์ ไม่มีครัชต์
     มองในความสึกหรอเชิงกลไก ก็มีเกียร์ที่เป็นชุดเฟือง ความทนทานก็น่าจะระดับเดียวกับรถเกียร์ธรรมดานะครับ
     แต่ถ้ามองในแง่ระบบควรคุม หรือวงจรคอมพิวเตอร์ อันนี้ก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ลักษณะเดียวกับ e-power
     แหละครับ ขึ้นอยู่กับว่ายี่ห้อไหนใช้ของที่มีคุณภาพทนทานมากกว่ากัน

3. เครื่องยนต์ทำหน้าที่แค่ปั่นไฟ ไม่ต้องใข้เครื่องใหญ่ก็ได้   
    อันนี้น่าคิด เครื่องเล็ก แต่ต้องปั่นไฟให้ได้พลังงานที่พอจะพารถวิ่งออกไปได้
    ลองเทียบกับการปั่นจักรยานออกกำลังในฟิตเนสสิครับ น่าจะพอเห็นภาพละ
   
เอาจริง ๆ คือ ผมมองว่า มันคือไฮบริด ณ วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบอะไร อุปกรณ์ส่วนควบต่าง ๆ ก็ไม่ได้ต่างกันมาก
คือ เครื่องยนต์ มอเตอร์ แบตเตอรี่ อินเวอร์เตอร์ ECU และอื่น ๆ  ความแตกต่าง ณ วันนี้คือ วิธีการจัดเรียงอุปกรณ์
เหล่านี้และกำหนดวิธีการทำงานของมันกับการเลือกขนาดเล็ก-ใหญ่ของเครื่องยนต์ มอเตอร์ และ แบตเตอรี่
เท่านั้นเองครับ

แต่ผมคิดว่า Nissan คงสร้าง e-power ขึ้นมาให้ระบบได้เปรียบในช่วงความเร็วต่ำ-กลาง
รถน่าจะกระฉับกระเฉงแบบเร่ง ๆ หยุด ๆ ได้ดีและอัตราการกินน้ำมันน่าจะดูดีเลย
แต่ช่วงความเร็วกลาง-สูง และการวิ่งแบบ cruising คาดว่าน่าจะด้อยกว่าระบบอื่น เผลอ ๆ
จะด้อยกว่าการใช้เครื่อง 1.2L ขับล้อตรง ๆ แบบรถสันดาปปกติด้วยซ้ำครับ

3 ย่อหน้าสุดท้าย ผทไม่ค่อยจะเห็นด้วยสักเท่าไรนักนะครับ

เริ่มจาก E-Power ถ้าเทียบกับ Hybrid แล้ว มันตัดการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ลงล้อไป

เพราะนั้น จากเครื่อง ไม่ต้องมีคลัทช์ที่ตัดต่อระหว่าง Generator กับ ลงล้อ ไม่ต้องมีซอฟต์แวร์คอยคำนวณ

ผมว่าอะไหล่ก็น้อยลงไปเยอะนะครับ

.

ส่วนเรื่องเครื่องเล็ก ผมเห็นด้วยกับคุณ Smith66 มากกว่านะ ว่าเครื่องมันเล็กลงได้จริงๆ

สมมติว่าคุณมีรถคันหนึ่งที่ต้องการกำลังสูงสุด 200 แรงม้า

ถ้าคุณใช้รถธรรมดา หรือ Hybrid ปกติ รถคุณต้องใส่เครื่อง 200 แรงม้านั้นลงไป

แต่ E-Power คุณใส่มอเตอร์ 200 แรงม้า แต่อาจจะใช้เครื่อง 150 แรงม้าได้ เพราะคุณมีพลังงานตุนอยู่ในแบตเตอรี่

ถ้าคำนวณแบตเตอรี่ใหญ่พอที่จะครอบคลุมการใช้งานได้ ก็ไม่มีปัญหา เพราะไม่มีใครเหยียบ 200 hp แช่ยาวๆ ถึงจุดหนึ่งต้องถอนคันเร่ง

แต่ถ้าแบตเตอรี่/เครื่อง เล็กเกินไป ก็อาจเป็นจุดบอด ที่ทำให้กำลังตกวูบกลางทางได้ ดังนั้น ถ้าแบตใหญ่ เครื่องอาจไม่ต้องใหญ่มากก็ได้ครับ

.

ข้อสุดท้าย การ Cruising ยาวๆ ผมว่ายังไงรถสันดาปล้วนก็ยังสู้ไม่ได้ครับ ถึงแม้จะเป็นเกียร์คลัทช์ขับตรง

แต่เครื่องสันดาปล้วนทำงานตามวัฏจักร Otto ในขณะที่ Hybrid/E-Power เป็นวัฏจักร Atkinson ซึ่งมีประสิทธิภาพสันดาปสูงกว่า

เราอาจได้เห็นความสิ้นเปลืองที่ "ใกล้เคียงกัน" มากกว่าครับ แต่คงยากที่ Hybrid/E-Power จะแพ้รถสันดาป ถ้าอยู่ในรุ่นเดียวกันนะ

ออฟไลน์ p.pooh

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 141
ดูในรูปไม่ค่อยสวย แต่ตัวจริงน่าจะสวยนะ
ทางเลือกหนึ่งของคนใช้รถ

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,332
รอรถเปิดตัวก่อนเถอะครับ แล้วไปทดลองขับ รถมันไม่ได้ตรงใจใครทุกคนหรอกครับ บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ บางคนเฉยๆ

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
รอรถเปิดตัวก่อนเถอะครับ แล้วไปทดลองขับ รถมันไม่ได้ตรงใจใครทุกคนหรอกครับ บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ บางคนเฉยๆ
จริง  รถสวยมันก็ไม่ตอบโจทย์ทุกคน                 ขณะเดียวกันรถเครื่องแรง 0-100  ไม่เกิน 10 วิ    ก็ไม่ได้ตอบโจทย์คนทุกคนเช่นกัน 
อยากรู้รอดูตัวจริงเข้าไปนั่งทดลองขับดูดีกว่า  ว่าชอบไหม  ตอบโจทย์ตัวเองได้ไหม         เวปนี้ชอบดูแต่ตัวเลข  ดูสเปก  แล้วมาเถียงกัน 
ความชอบเรากับการใช้งานเราไม่ตรงกันหรอก   และมันจะไปตรงกับคนอื่นได้ยังไง

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
Re: // หลุดคันจริง Nissan KICKS e-Power
« ตอบกลับ #67 เมื่อ: เมษายน 12, 2020, 09:33:17 »
สวัสดีครับพี่ ขอบคุณครับ  ดีครับที่มาช่วยกันลองคิดวิเคราะห์แบบใช้ logic กันดู

1.ระบบการชาร็จไฟกลับ ผมคิดว่า E power ต้องมีนะครับ นี่เป็นหัวใจของระบบ hybrid เลยครับ
   เพราะมันเป็นการเอาพลังงานที่ทิ้งเปล่า ๆ เอากลับมาใช้ขับเคลื่อนอีกรอบ เป็นส่วนที่ช่วยประหยัด
   ได้เปรียบระบบสันดาปอย่างเดียวอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ  ทีนี้พอต้องมีระบบนี้แล้ว มันจะต้องมี
   อัลกอลิทึมในคอมพิวเตอร์สั่งการ ซึ่งมันก็จะเป็นลอจิกเดียวกับ hybrid ทั่วไป ไม่ต่างกันเลยครับ
   ตัวมอเตอร์ขับเคลื่อน เมื่อถึงเวลานึงก็ต้องสลับหน้าที่กลับมาเป็นเจนเนอร์เรเตอร์ปั่นไฟกลับ
   ซึ่งก็ทำงานเหมือน hybrid ทั่วไปเช่นกัน รวมไปจนถึงอินเวอร์เตอร์ด้วยน่ะครับ

2.ระบบ hybrid ทั่วไปที่มีการทำงานสลับกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์
   - ถ้าเทียบกับ hybrid I-MMD ของ Honda มันจะมีการทำงานสลับกันระหว่างมอเตอร์กับเครื่องยนต์
     ที่ความเร็วสูง เป็นการตัด - ต่อ กำลังว่าจะให้มอเตอร์ หรือ เครื่องยนต์ อย่างใดอย่างหนึ่งลงล้อ
     ระบบนี้ใช้ครัชท์เป็นตัวแยกครับ ซึ่งมีชิ้นส่วนสึกหรอสิ้นเปลืองคือครัชต์ แต่คิดว่าการตัดต่อทำโดยระบบ
     ไม่ใช่คนเหยียบครัชต์แบบรถเกียร์ธรรมดา  ดังนั้นอายุการใช้งานน่าจะเกินหลักแสน กม. ไปเยอะ
     ก็ถือว่าแลกกับสมรรถนะของรถที่ความเร็วสูงครับ (e-power กับ I-MMD มีหลักกการทำงานเหมือนกัน
     เป๊ะ ๆ ที่ความเร็วต่ำครับ)
   - ถ้าเทียบกับ hybrid Toyota ระบบส่งกำลังเป็นเฟืองเกียร์ ไม่มีครัชต์
     มองในความสึกหรอเชิงกลไก ก็มีเกียร์ที่เป็นชุดเฟือง ความทนทานก็น่าจะระดับเดียวกับรถเกียร์ธรรมดานะครับ
     แต่ถ้ามองในแง่ระบบควรคุม หรือวงจรคอมพิวเตอร์ อันนี้ก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ลักษณะเดียวกับ e-power
     แหละครับ ขึ้นอยู่กับว่ายี่ห้อไหนใช้ของที่มีคุณภาพทนทานมากกว่ากัน

3. เครื่องยนต์ทำหน้าที่แค่ปั่นไฟ ไม่ต้องใข้เครื่องใหญ่ก็ได้   
    อันนี้น่าคิด เครื่องเล็ก แต่ต้องปั่นไฟให้ได้พลังงานที่พอจะพารถวิ่งออกไปได้
    ลองเทียบกับการปั่นจักรยานออกกำลังในฟิตเนสสิครับ น่าจะพอเห็นภาพละ
   
เอาจริง ๆ คือ ผมมองว่า มันคือไฮบริด ณ วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบอะไร อุปกรณ์ส่วนควบต่าง ๆ ก็ไม่ได้ต่างกันมาก
คือ เครื่องยนต์ มอเตอร์ แบตเตอรี่ อินเวอร์เตอร์ ECU และอื่น ๆ  ความแตกต่าง ณ วันนี้คือ วิธีการจัดเรียงอุปกรณ์
เหล่านี้และกำหนดวิธีการทำงานของมันกับการเลือกขนาดเล็ก-ใหญ่ของเครื่องยนต์ มอเตอร์ และ แบตเตอรี่
เท่านั้นเองครับ

แต่ผมคิดว่า Nissan คงสร้าง e-power ขึ้นมาให้ระบบได้เปรียบในช่วงความเร็วต่ำ-กลาง
รถน่าจะกระฉับกระเฉงแบบเร่ง ๆ หยุด ๆ ได้ดีและอัตราการกินน้ำมันน่าจะดูดีเลย
แต่ช่วงความเร็วกลาง-สูง และการวิ่งแบบ cruising คาดว่าน่าจะด้อยกว่าระบบอื่น เผลอ ๆ
จะด้อยกว่าการใช้เครื่อง 1.2L ขับล้อตรง ๆ แบบรถสันดาปปกติด้วยซ้ำครับ

3 ย่อหน้าสุดท้าย ผทไม่ค่อยจะเห็นด้วยสักเท่าไรนักนะครับ

เริ่มจาก E-Power ถ้าเทียบกับ Hybrid แล้ว มันตัดการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ลงล้อไป

เพราะนั้น จากเครื่อง ไม่ต้องมีคลัทช์ที่ตัดต่อระหว่าง Generator กับ ลงล้อ ไม่ต้องมีซอฟต์แวร์คอยคำนวณ

ผมว่าอะไหล่ก็น้อยลงไปเยอะนะครับ

.

ส่วนเรื่องเครื่องเล็ก ผมเห็นด้วยกับคุณ Smith66 มากกว่านะ ว่าเครื่องมันเล็กลงได้จริงๆ

สมมติว่าคุณมีรถคันหนึ่งที่ต้องการกำลังสูงสุด 200 แรงม้า

ถ้าคุณใช้รถธรรมดา หรือ Hybrid ปกติ รถคุณต้องใส่เครื่อง 200 แรงม้านั้นลงไป

แต่ E-Power คุณใส่มอเตอร์ 200 แรงม้า แต่อาจจะใช้เครื่อง 150 แรงม้าได้ เพราะคุณมีพลังงานตุนอยู่ในแบตเตอรี่

ถ้าคำนวณแบตเตอรี่ใหญ่พอที่จะครอบคลุมการใช้งานได้ ก็ไม่มีปัญหา เพราะไม่มีใครเหยียบ 200 hp แช่ยาวๆ ถึงจุดหนึ่งต้องถอนคันเร่ง

แต่ถ้าแบตเตอรี่/เครื่อง เล็กเกินไป ก็อาจเป็นจุดบอด ที่ทำให้กำลังตกวูบกลางทางได้ ดังนั้น ถ้าแบตใหญ่ เครื่องอาจไม่ต้องใหญ่มากก็ได้ครับ

.

ข้อสุดท้าย การ Cruising ยาวๆ ผมว่ายังไงรถสันดาปล้วนก็ยังสู้ไม่ได้ครับ ถึงแม้จะเป็นเกียร์คลัทช์ขับตรง

แต่เครื่องสันดาปล้วนทำงานตามวัฏจักร Otto ในขณะที่ Hybrid/E-Power เป็นวัฏจักร Atkinson ซึ่งมีประสิทธิภาพสันดาปสูงกว่า

เราอาจได้เห็นความสิ้นเปลืองที่ "ใกล้เคียงกัน" มากกว่าครับ แต่คงยากที่ Hybrid/E-Power จะแพ้รถสันดาป ถ้าอยู่ในรุ่นเดียวกันนะ

สวัสดีครับพี่
ประเด็นที่พี่พูดมา เราสามารถเทียบเคียงระบบ e-power กับ Accord hybrid I-MMD ได้เลครับ
เพราะระบบไฮบริดของฮอนด้าทำงานเหมือน e-power ครับ คือที่ความเร็วต่ำ-กลาง เครื่องยนต์ 2.0L ทำหน้าที่ปั่นไฟ
ป้อนแบต แล้วมอเตอร์ก็ดึงไฟไปใช้   แต่ช่วงความเร็วเกินร้อยขึ้นไป ระบบของฮอนด้าจะย้ายเอากำลังของเครื่องยนต์
ไปขับล้อโดยตรง ซึ่งตรงนี้ระบบ e-power ไม่มี  มันจึงน่าคิดที่ว่าการที่ทำฮอนด้าเซ็ตระบบเช่นนั้นเพราะการเอาเครื่องยนต์
ไปขับล้อโดยตรงที่ความเร็วสูงจะให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันดีกว่าการปล่อยให้เครื่องยนต์ตั้งหน้าตั้งตาปั่นไฟป้อนแบตไปเรื่อย ๆ
ในทุกช่วงความเร็วครับ ซึ่งถ้ามันไม่ดีกว่าจริง ฮอนด้าคงไม่จำเป็นต้องเพิ่มระบบเพิ่มครัชต์เพื่อย้ายให้เครื่องยนต์ส่งกำลัง
ลงล้อไป แล้วถ้าฮอนด้าไม่ได้ทำตรงนั้น ระบบไฮบริดของฮอนด้ามันก็คือ e-power 100% ครับ

ออฟไลน์ ชายโอ๊ต

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,034
ไม่ได้ตามข่าวมานาน อยากรู้ว่า e-power serena จะมีขายที่ไทยแบบราคาธรรมดาไหมครับ
ครอบครัวเริ่มจะมีตัวเล็ก เริ่มสนใจรถพวกนี้ขึ้นมาครับ ขอบคุณครับ

นิสสันคงนำร่องด้วย Kick และรอดูผลตอบรับก่อนจะตัดสินใจนำรุ่นอื่นๆ มาขายครับ
ประมาณว่า "ช้าๆ ไม่ได้พร้าซักเล่ม" เหมือนเคยๆ

โห ช้ายิ่งกว่าเต่าอีกครับ  :'(
"ศัตรูแห่งความก้าวหน้า คือเวลาที่เสียไป"

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
    • อีเมล์
Re: // หลุดคันจริง Nissan KICKS e-Power
« ตอบกลับ #69 เมื่อ: เมษายน 12, 2020, 12:02:32 »
สวัสดีครับพี่
ประเด็นที่พี่พูดมา เราสามารถเทียบเคียงระบบ e-power กับ Accord hybrid I-MMD ได้เลครับ
เพราะระบบไฮบริดของฮอนด้าทำงานเหมือน e-power ครับ คือที่ความเร็วต่ำ-กลาง เครื่องยนต์ 2.0L ทำหน้าที่ปั่นไฟ
ป้อนแบต แล้วมอเตอร์ก็ดึงไฟไปใช้   แต่ช่วงความเร็วเกินร้อยขึ้นไป ระบบของฮอนด้าจะย้ายเอากำลังของเครื่องยนต์
ไปขับล้อโดยตรง ซึ่งตรงนี้ระบบ e-power ไม่มี  มันจึงน่าคิดที่ว่าการที่ทำฮอนด้าเซ็ตระบบเช่นนั้นเพราะการเอาเครื่องยนต์
ไปขับล้อโดยตรงที่ความเร็วสูงจะให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันดีกว่าการปล่อยให้เครื่องยนต์ตั้งหน้าตั้งตาปั่นไฟป้อนแบตไปเรื่อย ๆ
ในทุกช่วงความเร็วครับ ซึ่งถ้ามันไม่ดีกว่าจริง ฮอนด้าคงไม่จำเป็นต้องเพิ่มระบบเพิ่มครัชต์เพื่อย้ายให้เครื่องยนต์ส่งกำลัง
ลงล้อไป แล้วถ้าฮอนด้าไม่ได้ทำตรงนั้น ระบบไฮบริดของฮอนด้ามันก็คือ e-power 100% ครับ
ใช่ครับ ตรงนี้เข้าใจตรงกัน ว่า E-Power น่าจะสู้ i-MMD ในการ Cruising นิ่งๆ ไม่ได้

แต่ประเด็นของผมในย่อหน้านั้นคือ ชิ้นส่วนจะน้อยกว่า และการซ่อมบำรุงควรจะถูกกว่าครับ

อาจจะสมเหตุสมผลในเรื่องเงินมากกว่า i-MMD สำหรับคนที่ใช้รถปานกลาง ไม่วิ่งต่างจังหวัดเยอะจัดๆ

ส่วนที่ผมว่า E-Power น่าจะประหยัดกว่า คือเทียบกับ 1.2 สันดาปล้วนครับ

เพราะถึงจะไม่ได้ขับตรงแบบเกียร์ธรรมดา แต่วัฏจักรของ Atkinson มันประหยัดกว่า

ยิ่งถ้าเทียบกับ 1.2 + Torque Converter ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับ คนละชั้นเลย

ออฟไลน์ Akara

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 286
    • อีเมล์
เปิดตัว วันที่19 ก็ว่ารอนานแล้ว นี่หลังจากโควิด แถมติ่งชอบออกมาบูลลี่ค่ายอื่นๆอีก ความน่าสนใจลดลงไปเยอะ ไม่นับรายได้ที่ต้องคิดให้มากจากนี้ไปอีกหลายปี

เทียบกับเปิดตัวเวลาเดิม ถึงจะติดเรื่องราคา ก็ออกโปรโควิดตามมาคนก็เข้าใจได้(คนซื้อคงคิดว่าโชคดีไปซะอีก) ส่วนตัวเคยคิดจะเอาไว้ใช้รับส่งของบริเวณใกล้ๆ ซึ่งรถไฟฟ้าน่าสนใจสุด แต่ตอนนี้ความสนใจแทบเป็น 0 เว้นแต่ตัวเริ่มต้นจะราคาไม่เกิน 6แสน ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ เห็นทีต้องรออีโคคาร์ไฟฟ้าแทน

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,935
    • อีเมล์
Re: // หลุดคันจริง Nissan KICKS e-Power //
« ตอบกลับ #71 เมื่อ: เมษายน 12, 2020, 13:06:01 »
เปิดตัว วันที่19 ก็ว่ารอนานแล้ว นี่หลังจากโควิด แถมติ่งชอบออกมาบูลลี่ค่ายอื่นๆอีก ความน่าสนใจลดลงไปเยอะ ไม่นับรายได้ที่ต้องคิดให้มากจากนี้ไปอีกหลายปี

เทียบกับเปิดตัวเวลาเดิม ถึงจะติดเรื่องราคา ก็ออกโปรโควิดตามมาคนก็เข้าใจได้(คนซื้อคงคิดว่าโชคดีไปซะอีก) ส่วนตัวเคยคิดจะเอาไว้ใช้รับส่งของบริเวณใกล้ๆ ซึ่งรถไฟฟ้าน่าสนใจสุด แต่ตอนนี้ความสนใจแทบเป็น 0 เว้นแต่ตัวเริ่มต้นจะราคาไม่เกิน 6แสน ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ เห็นทีต้องรออีโคคาร์ไฟฟ้าแทน

          ผมว่าเปิดตัวช่วงนี้คงต้องเจ็บตัวหน่อยล่ะ  แต่ก็ยังเจ็บตัวไม่มากเพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยทราบถึงผลที่จะตามมาหลังโควิด19  แต่ถ้าปล่อยให้ยืดไปสักกลางปี  ยอดขายคงต้องต่ำสุดๆเลยล่ะ  ไอเอ็มเอฟทำนายว่าโลกราจะเจอภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่สุดนับแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมา  คงต้องรอดู

          ไอเอ็มเอฟ’ เตือนโลกเจอวิกฤตศก.หนัก เลวร้ายที่สุดหลังสงครามโลกครั้งที่ 1

https://www.matichon.co.th/foreign/news_2132104
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 12, 2020, 13:09:37 โดย Smith686 »

ออฟไลน์ Tom sawyer

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 191
ไม่ได้ตามข่าวมานาน อยากรู้ว่า e-power serena จะมีขายที่ไทยแบบราคาธรรมดาไหมครับ
ครอบครัวเริ่มจะมีตัวเล็ก เริ่มสนใจรถพวกนี้ขึ้นมาครับ ขอบคุณครับ

นิสสันคงนำร่องด้วย Kick และรอดูผลตอบรับก่อนจะตัดสินใจนำรุ่นอื่นๆ มาขายครับ
ประมาณว่า "ช้าๆ ไม่ได้พร้าซักเล่ม" เหมือนเคยๆ

โห ช้ายิ่งกว่าเต่าอีกครับ  :'(

ถึงจะไม่ได้พร้าซักเล่ม แต่ได้ด้ามมันมาแล้ว ถ้ายอดแป๊กผู้บริหารจะได้เอาไว้ทุบหัวตัวเอง

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: // หลุดคันจริง Nissan KICKS e-Power //
« ตอบกลับ #73 เมื่อ: เมษายน 12, 2020, 19:24:53 »
เปิดตัว วันที่19 ก็ว่ารอนานแล้ว นี่หลังจากโควิด แถมติ่งชอบออกมาบูลลี่ค่ายอื่นๆอีก ความน่าสนใจลดลงไปเยอะ ไม่นับรายได้ที่ต้องคิดให้มากจากนี้ไปอีกหลายปี

เทียบกับเปิดตัวเวลาเดิม ถึงจะติดเรื่องราคา ก็ออกโปรโควิดตามมาคนก็เข้าใจได้(คนซื้อคงคิดว่าโชคดีไปซะอีก) ส่วนตัวเคยคิดจะเอาไว้ใช้รับส่งของบริเวณใกล้ๆ ซึ่งรถไฟฟ้าน่าสนใจสุด แต่ตอนนี้ความสนใจแทบเป็น 0 เว้นแต่ตัวเริ่มต้นจะราคาไม่เกิน 6แสน ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ เห็นทีต้องรออีโคคาร์ไฟฟ้าแทน

          ผมว่าเปิดตัวช่วงนี้คงต้องเจ็บตัวหน่อยล่ะ  แต่ก็ยังเจ็บตัวไม่มากเพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยทราบถึงผลที่จะตามมาหลังโควิด19  แต่ถ้าปล่อยให้ยืดไปสักกลางปี  ยอดขายคงต้องต่ำสุดๆเลยล่ะ  ไอเอ็มเอฟทำนายว่าโลกราจะเจอภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่สุดนับแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมา  คงต้องรอดู

          ไอเอ็มเอฟ’ เตือนโลกเจอวิกฤตศก.หนัก เลวร้ายที่สุดหลังสงครามโลกครั้งที่ 1

https://www.matichon.co.th/foreign/news_2132104

เงินตอนขาดมือ มันมีค่ากว่าตอนฟู่ฟ่า
ผมถือคติว่าเข้ากระเป๋าก่อนได้เปรียบ บางทีบริษัทก็ไม่สู้ดีอยู่แล้วยังไม่ค่อยมีอะไรขาย รอ รอ รอ เจ๊งก่อนจะได้เอาทีเด็ดที่กั๊กไว้ มาขาย

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,588
  • may the force lead your way ...
จริงๆแผนการตลาดช่วงนี้มันก็มีจุดของมันอยู่นะครับ

ขอให้มันชัดเจนสักทางบริษัทจะได้เลือกเส้นทางได้ว่าจะ survival หรือเปล่า
เพราะถ้ารอเวลาต้องมา survival ทีหลัง จะเสียเวลาเสียโอกาสอย่างมาก  ::)
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
Re: // หลุดคันจริง Nissan KICKS e-Power
« ตอบกลับ #75 เมื่อ: เมษายน 13, 2020, 09:33:33 »
สวัสดีครับพี่
ประเด็นที่พี่พูดมา เราสามารถเทียบเคียงระบบ e-power กับ Accord hybrid I-MMD ได้เลครับ
เพราะระบบไฮบริดของฮอนด้าทำงานเหมือน e-power ครับ คือที่ความเร็วต่ำ-กลาง เครื่องยนต์ 2.0L ทำหน้าที่ปั่นไฟ
ป้อนแบต แล้วมอเตอร์ก็ดึงไฟไปใช้   แต่ช่วงความเร็วเกินร้อยขึ้นไป ระบบของฮอนด้าจะย้ายเอากำลังของเครื่องยนต์
ไปขับล้อโดยตรง ซึ่งตรงนี้ระบบ e-power ไม่มี  มันจึงน่าคิดที่ว่าการที่ทำฮอนด้าเซ็ตระบบเช่นนั้นเพราะการเอาเครื่องยนต์
ไปขับล้อโดยตรงที่ความเร็วสูงจะให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันดีกว่าการปล่อยให้เครื่องยนต์ตั้งหน้าตั้งตาปั่นไฟป้อนแบตไปเรื่อย ๆ
ในทุกช่วงความเร็วครับ ซึ่งถ้ามันไม่ดีกว่าจริง ฮอนด้าคงไม่จำเป็นต้องเพิ่มระบบเพิ่มครัชต์เพื่อย้ายให้เครื่องยนต์ส่งกำลัง
ลงล้อไป แล้วถ้าฮอนด้าไม่ได้ทำตรงนั้น ระบบไฮบริดของฮอนด้ามันก็คือ e-power 100% ครับ
ใช่ครับ ตรงนี้เข้าใจตรงกัน ว่า E-Power น่าจะสู้ i-MMD ในการ Cruising นิ่งๆ ไม่ได้

แต่ประเด็นของผมในย่อหน้านั้นคือ ชิ้นส่วนจะน้อยกว่า และการซ่อมบำรุงควรจะถูกกว่าครับ

อาจจะสมเหตุสมผลในเรื่องเงินมากกว่า i-MMD สำหรับคนที่ใช้รถปานกลาง ไม่วิ่งต่างจังหวัดเยอะจัดๆ

ส่วนที่ผมว่า E-Power น่าจะประหยัดกว่า คือเทียบกับ 1.2 สันดาปล้วนครับ

เพราะถึงจะไม่ได้ขับตรงแบบเกียร์ธรรมดา แต่วัฏจักรของ Atkinson มันประหยัดกว่า

ยิ่งถ้าเทียบกับ 1.2 + Torque Converter ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับ คนละชั้นเลย
คุณลืมคิดถึงเรื่องการที่แบตต้องชาร์จตลอดเวลาเพราะเป็นแบตลูกเล็กๆ  ตัวนี้วงจรแบตย่อมต้องเสื่อมเร็วแน่นอนเพราะวิ่งไปแบตหมดไป เพราะเป็นแบตเตอรี่ลูกเล็กกาารต้องบ่อยขึ้น รวมถึงการชาร์จไปด้วยจ่ายไฟไปด้วยแบตต้องทำงานหนักแน่นอนทำให้วงจรจำนวนการชาร์จแบตเหลือน้อยลงและแบตเตอรี่น่าจะไม่ใช่ราคาถูกๆด้วย

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
ผมยังคิดว่ายังไงเอา Juke ใหม่มา ยังดูดีกว่า

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
    • อีเมล์
Re: // หลุดคันจริง Nissan KICKS e-Power
« ตอบกลับ #77 เมื่อ: เมษายน 13, 2020, 12:11:51 »
สวัสดีครับพี่
ประเด็นที่พี่พูดมา เราสามารถเทียบเคียงระบบ e-power กับ Accord hybrid I-MMD ได้เลครับ
เพราะระบบไฮบริดของฮอนด้าทำงานเหมือน e-power ครับ คือที่ความเร็วต่ำ-กลาง เครื่องยนต์ 2.0L ทำหน้าที่ปั่นไฟ
ป้อนแบต แล้วมอเตอร์ก็ดึงไฟไปใช้   แต่ช่วงความเร็วเกินร้อยขึ้นไป ระบบของฮอนด้าจะย้ายเอากำลังของเครื่องยนต์
ไปขับล้อโดยตรง ซึ่งตรงนี้ระบบ e-power ไม่มี  มันจึงน่าคิดที่ว่าการที่ทำฮอนด้าเซ็ตระบบเช่นนั้นเพราะการเอาเครื่องยนต์
ไปขับล้อโดยตรงที่ความเร็วสูงจะให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันดีกว่าการปล่อยให้เครื่องยนต์ตั้งหน้าตั้งตาปั่นไฟป้อนแบตไปเรื่อย ๆ
ในทุกช่วงความเร็วครับ ซึ่งถ้ามันไม่ดีกว่าจริง ฮอนด้าคงไม่จำเป็นต้องเพิ่มระบบเพิ่มครัชต์เพื่อย้ายให้เครื่องยนต์ส่งกำลัง
ลงล้อไป แล้วถ้าฮอนด้าไม่ได้ทำตรงนั้น ระบบไฮบริดของฮอนด้ามันก็คือ e-power 100% ครับ
ใช่ครับ ตรงนี้เข้าใจตรงกัน ว่า E-Power น่าจะสู้ i-MMD ในการ Cruising นิ่งๆ ไม่ได้

แต่ประเด็นของผมในย่อหน้านั้นคือ ชิ้นส่วนจะน้อยกว่า และการซ่อมบำรุงควรจะถูกกว่าครับ

อาจจะสมเหตุสมผลในเรื่องเงินมากกว่า i-MMD สำหรับคนที่ใช้รถปานกลาง ไม่วิ่งต่างจังหวัดเยอะจัดๆ

ส่วนที่ผมว่า E-Power น่าจะประหยัดกว่า คือเทียบกับ 1.2 สันดาปล้วนครับ

เพราะถึงจะไม่ได้ขับตรงแบบเกียร์ธรรมดา แต่วัฏจักรของ Atkinson มันประหยัดกว่า

ยิ่งถ้าเทียบกับ 1.2 + Torque Converter ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับ คนละชั้นเลย
คุณลืมคิดถึงเรื่องการที่แบตต้องชาร์จตลอดเวลาเพราะเป็นแบตลูกเล็กๆ  ตัวนี้วงจรแบตย่อมต้องเสื่อมเร็วแน่นอนเพราะวิ่งไปแบตหมดไป เพราะเป็นแบตเตอรี่ลูกเล็กกาารต้องบ่อยขึ้น รวมถึงการชาร์จไปด้วยจ่ายไฟไปด้วยแบตต้องทำงานหนักแน่นอนทำให้วงจรจำนวนการชาร์จแบตเหลือน้อยลงและแบตเตอรี่น่าจะไม่ใช่ราคาถูกๆด้วย
มีส่วนครับ ผมว่าเรื่องนี้ก็น่ากลัว แต่น่ากลัวตรงที่เป็น Nissan นี่ล่ะครับ ช่วงนี้ยิ่งผีเข้าผีออกอยู่

ถ้านิสสันทำแบต Rebuilt แบบโตโยต้าตอนนี้ ได้ก็คงจะดีครับ

ออฟไลน์ suriya24

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 203
ถ้าสมรรถนะออกมา สัก 25 กม./ลิตร อัตราเร่ง 0-100 ได้สัก 8 วินาที ราคา 8-9 แสน ผมคงซื้อให้ภรรยาขับแน่เลยครับ

เนื่องจากมอเตอร์ KICKS e-Power แรงกว่า Note e-Power ราว 29% ครับ
อ้างอิง http://www.headlightmag.com/first-impression-review-nissan-note-e-power-japan

ราคา 8-9 แสนกับ 0-100 ได้สัก 8 วินาที  (แต่ยังต้องคุมอัตราสิ้นเปลืองให้ได้ 25 กม./ลิตร)

ไม่มีทางเป็นไปได้ครับ Benz, BMW  จะได้อัตราเร่งเท่านี้ ยังต้องราคา 2 ล้านเลย  นี่ค่าย Nissan นะครับ  ถ้าราคานี้ สมรรถนะแบบนี้ ecocar เจ๊งหมดครับ  ตื่นๆ ครับ

ดูโลกแคบจังเลยนะครับ ลองดูตามที่ คห. บนบอกเกี่ยวกับรถ Tesla ดูนะครับ ถือว่าเปิดโลกใหม่ละกัน

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: // หลุดคันจริง Nissan KICKS e-Power
« ตอบกลับ #79 เมื่อ: เมษายน 14, 2020, 09:12:53 »
สวัสดีครับพี่
ประเด็นที่พี่พูดมา เราสามารถเทียบเคียงระบบ e-power กับ Accord hybrid I-MMD ได้เลครับ
เพราะระบบไฮบริดของฮอนด้าทำงานเหมือน e-power ครับ คือที่ความเร็วต่ำ-กลาง เครื่องยนต์ 2.0L ทำหน้าที่ปั่นไฟ
ป้อนแบต แล้วมอเตอร์ก็ดึงไฟไปใช้   แต่ช่วงความเร็วเกินร้อยขึ้นไป ระบบของฮอนด้าจะย้ายเอากำลังของเครื่องยนต์
ไปขับล้อโดยตรง ซึ่งตรงนี้ระบบ e-power ไม่มี  มันจึงน่าคิดที่ว่าการที่ทำฮอนด้าเซ็ตระบบเช่นนั้นเพราะการเอาเครื่องยนต์
ไปขับล้อโดยตรงที่ความเร็วสูงจะให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันดีกว่าการปล่อยให้เครื่องยนต์ตั้งหน้าตั้งตาปั่นไฟป้อนแบตไปเรื่อย ๆ
ในทุกช่วงความเร็วครับ ซึ่งถ้ามันไม่ดีกว่าจริง ฮอนด้าคงไม่จำเป็นต้องเพิ่มระบบเพิ่มครัชต์เพื่อย้ายให้เครื่องยนต์ส่งกำลัง
ลงล้อไป แล้วถ้าฮอนด้าไม่ได้ทำตรงนั้น ระบบไฮบริดของฮอนด้ามันก็คือ e-power 100% ครับ
ใช่ครับ ตรงนี้เข้าใจตรงกัน ว่า E-Power น่าจะสู้ i-MMD ในการ Cruising นิ่งๆ ไม่ได้

แต่ประเด็นของผมในย่อหน้านั้นคือ ชิ้นส่วนจะน้อยกว่า และการซ่อมบำรุงควรจะถูกกว่าครับ

อาจจะสมเหตุสมผลในเรื่องเงินมากกว่า i-MMD สำหรับคนที่ใช้รถปานกลาง ไม่วิ่งต่างจังหวัดเยอะจัดๆ

ส่วนที่ผมว่า E-Power น่าจะประหยัดกว่า คือเทียบกับ 1.2 สันดาปล้วนครับ

เพราะถึงจะไม่ได้ขับตรงแบบเกียร์ธรรมดา แต่วัฏจักรของ Atkinson มันประหยัดกว่า

ยิ่งถ้าเทียบกับ 1.2 + Torque Converter ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับ คนละชั้นเลย
คุณลืมคิดถึงเรื่องการที่แบตต้องชาร์จตลอดเวลาเพราะเป็นแบตลูกเล็กๆ  ตัวนี้วงจรแบตย่อมต้องเสื่อมเร็วแน่นอนเพราะวิ่งไปแบตหมดไป เพราะเป็นแบตเตอรี่ลูกเล็กกาารต้องบ่อยขึ้น รวมถึงการชาร์จไปด้วยจ่ายไฟไปด้วยแบตต้องทำงานหนักแน่นอนทำให้วงจรจำนวนการชาร์จแบตเหลือน้อยลงและแบตเตอรี่น่าจะไม่ใช่ราคาถูกๆด้วย
มีส่วนครับ ผมว่าเรื่องนี้ก็น่ากลัว แต่น่ากลัวตรงที่เป็น Nissan นี่ล่ะครับ ช่วงนี้ยิ่งผีเข้าผีออกอยู่

ถ้านิสสันทำแบต Rebuilt แบบโตโยต้าตอนนี้ ได้ก็คงจะดีครับ

จริง น่ากลัวตรงนิสสันนี่แหละ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
ถ้าราคาข้ามล้าน จะขายไงเนี่ย

มาเท่าราคา Juke เดิม ตอนนี้ยังไม่รู้จะออกหมู่หรือจ่าเลย

ตอน Juke มีแค่ HR-V กับ CX-3 ตอนนี้มาทั้ง CH-R และ ZS + HS ด้วย

ต้องดูราคาแล้วละ ออฟชั่นอัดมา อย่าให้น้อยกว่าเขา