ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนๆ ซื้อรถแต่ละคันตั้งงบไว้ที่กี่เปอร์เซนต์ของสินทรัพย์ทั้งหมดที่มี  (อ่าน 51448 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rr58

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
ในปัจจุบันนี้คงเถียงไม่ได้ว่ารถยนต์นั้นถือเป็นปัจจัยที่5ของเราไปแล้วก็ว่าได้
จึงอยากทราบว่า ในการซื้อรถแต่ละคันของเพื่อนๆชาว headlightmag ตั้งงบประมาณเป็นจำนวนเงินไว้ที่ กี่เปอร์เซนต์ของจำนวนสินทรัพย์ทั้งหมดที่มี
เพื่อเอาไว้ประกอบการตัดสินใจและจัดการงบประมาณในการซื้อรถยนต์คันต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 06, 2020, 13:42:01 โดย Rr58 »

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,195
    • อีเมล์
ไม่เคยเอาทรัพย์สินตัวเองมาตัดสินว่าจะต้องใช้รถราคาเท่าไหร่นะ

สำหรับผมนะ

1. เงินดาวน์ .. ต่ำๆคือ 25% ต้องมี
2. เงินผ่อน .. ต้องอยู่สัก 20% ของรายได้เท่านั้น

ที่เหลือ ค่อยไปเลือกว่า จะเอารุ่นไหน สเปคแบบใดครับ

ไม่งั้น เรียนจบมา ทำงานได้สักพัก ถ้ามานั่งดูมูลค่าทรัพย์สิน คงไม่ได้ซื้อรถหรอกครับ จบมาใหม่ๆยังไม่มีทรัพย์สินเลย

ออฟไลน์ bluelawn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 664
เห็นด้วยกับกระทู้บนครับ  สำหรับผม เงินดาวน์ไม่ต่ำกว่าสัก 20% เงินผ่อนไม่เกิน 25% ของรายได้ ผมโอเคแล้วครับ.

รวมถึง ค่าประกัน + ซ่อมบำรุงตามระยะ ควรไม่เกินเ 1.5 เท่า ของเงินเดือน ครับ เพื่อความไม่ตึงจนเกินไป.

ออฟไลน์ basterias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,793
ตอนจบมาใหม่ๆผมยังไม่รีบใช้รถครับ ผมก็เก็บเงินไปเรื่อยๆจนมีเงิน = 75% ของราคารถ ถึงเริ่มไปดาวน์มา (คันแรกผมดาวน์ น่าจะประมาณ 40% ถ้าจำไม่ผิด) หลังจากคันแรกมาก็ไม่ผ่อนแล้วครับ เก็บตังจนซื้อสดได้ก็ซื้อสดเรื่อยๆมาทุกคัน ผมคิดว่าถ้ามีเงินพอซื้อสดได้นั่นแปลว่าเราสามารถมีรถคันนั้นได้ครับ
Current cars:
2018 - Volvo XC60 T8 R-design (Stock)
2020 - Mercedes C43 Sedan FL (tuned)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79186.0)
2021 - BMW 530e M sport LCI (Stock)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79736.0)

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
แล้วแต่คนครับ

ผม+แฟน  สินทรัพย์ รวม ๆ แปดหลักกลาง ๆ  ผมใช้รถมือสอง ปัจจุบันราคาสองแสนกว่าบาทครับ  คันนี้ใช้มา 8 ปี  กับคันสำรอง เอ็กซ์เทรล ปี 10  ใช้สองคันครับ

ออฟไลน์ TJA

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 642
5%ของมูลค่าassetที่มี ณ ช่วงเวลานั้นๆครับ
ฟังดูConservativeสักหน่อย แต่ผมยอมขับรถcompactญี่ปุ่น
แล้วชีวิตปลอดหนี้ มีเงินสดใช้จ่ายสบายๆดีกว่า

ออฟไลน์ pratuang

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 224
    • อีเมล์
ผม เปลี่ยนรถทุก 5 ปี เงินดาว์นต้อง 50% ซื้อรถญี่ปุ่นเท่านั้น มีเงินเก็บไว้สำหรับดาว์นลดปีละ 2 แสน ส่วนเรื่องสินทรัพย์ไม่เอามายุ่ง ไว้ขายตอนแก่ครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
แต่ละคนไม่เหมือนกันครับ

ผมซื้อรถเอง 3 คัน (ไม่รวมของที่บ้าน) คันแรกผมซื้อตั้งแต่ช่วงอยู่ปี 4 ก่อนเรียนจบ จนทุกวันนี้ คันที่ 3 ละ ทุกคันซื้อผ่อน และ ดาวน์ 25% แล้วก็ผ่อน 60-72 งวด

ถามว่า มีทรัพย์สินเท่าไหร่ ผมบอกเลยว่าเงินสด "ติดลบ" ครับ (ไม่รวมรถ 2 คัน ที่ผ่อนหมดไปแล้วนะ) เพราะเอาเงินในอนาคตมาผ่อนครับ(เหมือนรูดบัตรเครดิต)

ผมเป็นมนุษย์เงินเดือน ซื้อเอง ผ่อนเอง ตอนนี้ 2 คันแรกผ่อนหมดไปแล้ว ตอนนี้เหลือคันที่ 3 เพิ่งผ่อนมาได้เกือบจะ 2 ปีละ

ผมคิดแค่ว่า ณ วันนี้มีแรงทำงาน มีเงินเดือน จะซื้อะไรก็รีบซื้อ แก่ตัวไป ไม่มีกำลังในการหา จะได้ไม่เดือดร้อนตอนแก่ ครับ


ออฟไลน์ YZA

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 669
ตอนยังไม่มีรถก็เคยตั้งโจทย์แบบนี้เหมือนกันครับ
แต่พอจะซื้อจริงๆ ก็ซื้อตามเงื่อนไข บริบทของชืวิตในช่วงนั้นแทน

ที่ผมซื้อมีแค่ 2 คันครับ
- คันแรก ตอนเพิ่งทำงานมา 7 ปี ราคารถ 33% เลย ซื้อสดแล้วใจหายแวบเหมือนกัน
- คันที่สอง ตอนทำงานต่อมาอีกเกือบ 10 ปี ประมาณ 10% ครับ

ออฟไลน์ ACE

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
    • อีเมล์
แต่ละคนไม่เหมือนกันครับ

ผมซื้อรถเอง 3 คัน (ไม่รวมของที่บ้าน) คันแรกผมซื้อตั้งแต่ช่วงอยู่ปี 4 ก่อนเรียนจบ จนทุกวันนี้ คันที่ 3 ละ ทุกคันซื้อผ่อน และ ดาวน์ 25% แล้วก็ผ่อน 60-72 งวด

ถามว่า มีทรัพย์สินเท่าไหร่ ผมบอกเลยว่าเงินสด "ติดลบ" ครับ (ไม่รวมรถ 2 คัน ที่ผ่อนหมดไปแล้วนะ) เพราะเอาเงินในอนาคตมาผ่อนครับ(เหมือนรูดบัตรเครดิต)

ผมเป็นมนุษย์เงินเดือน ซื้อเอง ผ่อนเอง ตอนนี้ 2 คันแรกผ่อนหมดไปแล้ว ตอนนี้เหลือคันที่ 3 เพิ่งผ่อนมาได้เกือบจะ 2 ปีละ

ผมคิดแค่ว่า ณ วันนี้มีแรงทำงาน มีเงินเดือน จะซื้อะไรก็รีบซื้อ แก่ตัวไป ไม่มีกำลังในการหา จะได้ไม่เดือดร้อนตอนแก่ ครับ



เหมือนผมเลยครับ ผมซื้อเองแค่สองคัน แต่ว่าตั้งแต่มีวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตอนนี้ไม่มีเงินผ่อนแล้วครับ  ::)
2015 Porsche Cayman (Flat-6 2.7 NA)
2006 Mercedes-benz SLK200 (I4 1.8 Supercharge)
2014 Mercedes-benz E250CDI (I4 2.1 Turbo Diesel)
2015 BMW Activehybrid 3 (L6 3.0 Turbo Hybrid)
2013 Audi Q7 (V6 3.0 Turbo Diesel)
2022 Mercedes-benz C43 (V6 3.0 Turbo)

ออฟไลน์ Xyclop

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 621
    • อีเมล์
ไม่ได้กวนนะ  แต่อยากให้ลอง serch กระทู้เก่า  แนวๆๆ นี้  ทั้งในเวปและนอกเวปนี้ คุณจะได้เพิ่มอีกเป็ร้อยๆๆทคำตอบเลย

สรุปหลักๆ   ไม่เดือดร้อนก้อจัด อย่ามัวมานั่งคำนวนไรมากเลย ปวดหัวปล่าว

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
แต่ละคนไม่เหมือนกันครับ

ผมซื้อรถเอง 3 คัน (ไม่รวมของที่บ้าน) คันแรกผมซื้อตั้งแต่ช่วงอยู่ปี 4 ก่อนเรียนจบ จนทุกวันนี้ คันที่ 3 ละ ทุกคันซื้อผ่อน และ ดาวน์ 25% แล้วก็ผ่อน 60-72 งวด

ถามว่า มีทรัพย์สินเท่าไหร่ ผมบอกเลยว่าเงินสด "ติดลบ" ครับ (ไม่รวมรถ 2 คัน ที่ผ่อนหมดไปแล้วนะ) เพราะเอาเงินในอนาคตมาผ่อนครับ(เหมือนรูดบัตรเครดิต)

ผมเป็นมนุษย์เงินเดือน ซื้อเอง ผ่อนเอง ตอนนี้ 2 คันแรกผ่อนหมดไปแล้ว ตอนนี้เหลือคันที่ 3 เพิ่งผ่อนมาได้เกือบจะ 2 ปีละ

ผมคิดแค่ว่า ณ วันนี้มีแรงทำงาน มีเงินเดือน จะซื้อะไรก็รีบซื้อ แก่ตัวไป ไม่มีกำลังในการหา จะได้ไม่เดือดร้อนตอนแก่ ครับ



เหมือนผมเลยครับ ผมซื้อเองแค่สองคัน แต่ว่าตั้งแต่มีวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตอนนี้ไม่มีเงินผ่อนแล้วครับ  ::)

โจทย์พวกนี้อย่างที่บอกว่าไม่เหมือนกันครับ ใครไหว ใครอยากได้ก็ซื้อ

เพราะเอาจริงๆ มันเหมือนของฟุ่มเฟือยสำหรับบางคน แต่สำหรับบางคนมันเหมือนแขนขาทำมาหากินเลยก็ว่าได้

บางคนมีทุนเดิมชีวิตติดลบ กว่าจะหาเงิน หาทรัพย์สินเป็น 100% ของราคารถที่จะซื้อ บางทีเก็บเงิน 5-10 ปี ยังไม่ได้เลย แล้วเมื่อไหร่จะซื้อรถได้ละ ทางออกก็คือต้องผ่อนไฟแนนซ์เอาครับ

บางคนมีทุนเดิมชีวิตมาพอสมควร จะซื้อก็ซื้อเงินสดยังได้ แต่ก็คิดแล้วคิดอีก บางคนมีเงินก็จริง แต่บอกว่าการมีรถไม่ได้สร้างเงินให้(เพื่อนร่วมงานผม คนนึงคิดแบบนี้) แต่รถคือภาระ เติมน้ำมัน ซ่อมบำรุง เลยไม่ซื้อ แนะนำให้ซื้อ ชักแม่น้ำทั้ง 5 หาเหตุผลมาแนะนำให้ซื้อก็ไม่ซื้อ ทุกวันนี้ก็ต้องนั่งเรือ นั่งรถเมล์ นั่งรถตู้ นั่งวินมาทำงาน แล้วมาบ่นเหนื่อยยังโน้น เหนื่อยยังงี้ ผมละขี้เกียจฟังบอกเลย 555555

ออฟไลน์ paulmerc

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 154
ต่างคนต่างมีความจำเป็นในการใช้เงินไม่เหมือนกันนะครับผมว่า

ถ้าสมมติไม่มีหนี้สินอื่น สำหรับผม รถมือ 1 ส่วนใหญ่จะผ่อนไม่ต่ำกว่า 20% ดอกเบี้ยไม่ควรเกิน 2% ครับ เพื่อให้ดอกเบี้ยรวมตลอดสัญญาไม่เยอะเกินไป ตัวผมเองเลือกแบบนี้ครับ เพราะแทนที่จะเอาเงิน 1 ล้านซื้อสดเพื่อลงกับรถใหม่ ผมยอมดาวน์ 20 ผ่อน 4 ปี แล้วนำเงินอีก 6 แสนไปลงทุนทำธุรกิจอื่นๆ ซื้อหุ้น ซื้อทอง ซื้อกองทุน ซื้อชาแนล ซื้อ ออยสเตอร์ ฮัลค์ หรือ เก็งกำไรอะไรก็ได้ครับ ผลตอบแทนเนาะๆ 10-30 % อย่างต่ำ คุ้มกว่าเอาเงินมาลงกับรถทั้งหมด

แต่ถ้าเป็นรถเก็บคันอื่นๆของผม ซื้อสดทุกคันครับ เพราะรถเก็บส่วนใหญ่เป็นรถมือ 2 ยุโรป ที่ Service A กับ B มีค่าใช้จ่ายเยอะครับ แทนที่จะผ่อนรถมือสองที่ดอกเบี้ย 4-7 % ยอมซื้อสดแล้วเก็บเงินไว้บำรุงรักษารถคุ้มกว่าครับ

ถ้ามองราคารถเทียบกับทรัพย์สินผมว่ามันไม่ค่อยเป็นปัจจัยสอดคล้องกันเท่าไหร่ เพราะคนรู้จักผมหลายคนรวยมากๆ แต่ก็ใช้แคมรี่ธรรมดา  หลายคนระดับ SME มูลค่าสินทรัพย์หลัก 10ๆล้าน แต่ก็ใช้ CLS เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการติดต่อด้านการค้า  ดังนั้นลองเทียบมูลค่ารถ กับกระแสเงินสด หรือเงินเย็นของคนๆนั้นก็ได้ครับ  สมมติผมจะซื้อรถเก็บ  ตัวอย่าง Mini coupe ถ้าซื้อสดราคารถต้องไม่เกิน 50 % ของเงินเก็บแบบพร้อมจ่ายของผมเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 06, 2020, 15:17:35 โดย paulmerc »
ชอบซื้อรถ แต่งรถ เปลี่ยนรถไปเรื่อยๆ ครับ

2020  -  Toyota Sienta
2017  -  Mini Cooper Coupe
2011  -  Benz Ecoupe C207
2006  -  BMW 320ise E90
2005  -  Mini Cooper S R53 MT
2012  -  Honda Jazz GE
2010  -  Honda Civic FD
2003  -  BMW 330I E46

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,691
ผมว่ามันเป็นเรื่องส่วนบุคคลนะ แต่ละคนก็จัดสรรรายได้ไม่เหมือนกัน ความชอบก็ไม่เหมือนกัน ภาระก็ไม่เท่ากัน

การที่จะบอกว่า รถต้องเป็นเท่านี้ของทรัพย์สิน หรือจะบอกว่าต้องซื้อบ้านก่อนซื้อรถ มันก็ไม่สมควรเท่าไร่ เรื่องแบบนี้มันไม่มีสูตรตายตัวหรอกครับ

หนังสือบางเล่มที่แปลมาจากต่างประเทศ เค้าแบ่งให้รถยนต์แค่ 10% ของทรัพย์สินเองนะครับ แต่อย่าลืมว่าต่างประเทศ รถรุ่นถูกๆ ราคาเท่าไทยเรา แต่ รายได้ขั้นต่ำเขามากกว่าเราหลายเท่า รายได้ทั้งปีเด็กจบใหม่ ซื้อรถได้เลย(อันนี้ไม่พูดถึงเรื่อง คชจ อื่นๆของเขานะ) ถ้ามองว่า รถต้องเป็น 10% ของทรัพย์สินเกินครึ้งของคนในประเทศบอกลารถป้ายแดงได้เลย

ส่วนตัวผมคิดว่า รายได้หักค่าใช้จ่าย หักลงทุน หักเงินออม ถ้าเหลือแล้วเอามาผ่อนรถ ก็น่าจะพอแล้วครับ

ออฟไลน์ Aleister TJ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,004
  • มีเงินเป็นล้านก็ซื้อเมื่อวานไม่ได้ แต่ถ้าร้อยล้านก็ช่างเมื่อวานมันเถอะ
    • อีเมล์
ตอนวัยรุ่นชอบคันไหนก็จะเอาให้ได้​ อารมณ์มากกว่าเหตุผล​ ผ่อนแพงไม่สน​ ไม่คิดหน้าคิดหลัง​ มั่นหน้ามาก​

พอ​เข้าเลข​ 3​ ผ่านประสบการณ์, เจอวิกฤตชีวิตต่างๆเริ่มหายห้าว​ เลือกรถไม่เกินกำลังตัวเอง​ ผ่อนไม่เครียด​ มีตังกินเที่ยว​ ใช้ชีวิตด้านอื่นได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 06, 2020, 15:44:39 โดย Champ_PunPunIT »
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
อยากมาเสริมจากท่านอื่นๆว่า ราคารถ ส่วนมากจะลดลงนะครับ สำหรับผม เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ ใช้รถราคากลางๆ ไม่หนัก ไม่เครียดเกินไป ในการซื้อ และดูแลมัน

ออฟไลน์ XyteBlaster

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,289
    • อีเมล์
ถ้าเอาแบบตอนที่มีตังแล้ว ผมซื้ออย่างน้อยต้องดาวน์ 25% ขึ้นไป ผ่อนไม่เกิน 48 งวดครับ เพราะเป็นเงื่อนไขไฟแนนซ์ที่ดอกเบี้ยถูกที่สุดแล้ว
ยกเว้นจะมีพวก 3 ปี ดอก 0% หรืออะไรพิเศษ ค่อยว่าเป็นกรณีไปครับ

แต่ตอนเรียนจบใหม่ๆ  พึ่งทำงานได้ปีแรก ผมโชคดีได้ civic ตาโต รถเก่าของที่บ้านมา (ที่บ้านออกรถใหม่ ยกคันเก่า 9 ปีให้) ก็ขับไปซ่อมไปจริง ๆ ครับ
เดี๋ยวโช๊ครั่ว คอมแอร์ตัน พัดลมหม้อน้ำหยุด จนเครื่องร้อน ฝาโก่ง สารพัดครับ

อีก 2 ปี มาทำงานที่ได้เงินเดือนเยอะขึ้นซื้อรถใหม่ตอนนั้น ผ่อนก็ราว20% ของรายได้ครับ ตอนหลัง ๆ ตั้งตัวได้แล้วเหลือแค่ 10%  5% ของรายได้ครับ
ซื้อรถเกรดดีขึ้นนะครับ แต่ว่ารายได้มันขึ้นเร็วกว่ารสนิยม  จะว่าไปตอนเด็ก ๆ ไม่มีตังทุกอย่างก็ตึง ๆ หมดแหละครับ

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
ไม่ได้คิดเ็นเปอร์เซ็นต์    สมัยหนุ่ม ๆ  ซื้อรถเท่าที่ตัวเองผ่อนได้   แต่ซื้อ SUV  นะ อยากได้รถที่ต้องการมากกว่า
  ปัจจุบันซื้อแต่รถมือ 2  และซื้อเงินสดทุกคัน    ซื้อเท่าที่ไหวไม่เดือดร้อน      อายุมากขึ้นไม่อยากผ่อน

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
เงินดาวน์ กับผ่อนแล้วไม่หนัก แค่นี้ครับ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Isomars

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 127
มีน้องคนหนึ่งที่รู้จักจากคลับ EcoSport มีเงินเก็บประมาณ 20 กว่าล้าน ได้มาจากการขายหุ้นของกิจการที่บ้าน (คนที่อยู่ในแวดวงศิลปะ เครื่องเขียน วัสดุสำนักงาน ถ้าบอกชื่อแบรนด์ไปน่าจะรู้เลย) แต่ตัวน้องเองเป็นแค่มนุษย์เงินเดือนพนักงานรัฐวิสาหกิจ เคยถามน้องว่าไม่สนใจรถยุโรปบ้างเหรอ น้องบอกเมื่อก่อนก็เคยคิด ๆ ไว้ แต่คิดไปคิดมาไม่ดีกว่า น้องรู้สึกเสียดายเงิน และบอกว่าสำหรับเขาถ้าจะซื้อรถ ราคาไม่ควรเกิน 2 ล้าน พ่อน้องมีทรัพย์สินเยอะกว่าน้องมากแต่ซื้อรถราคาไม่เคยเกินล้านเลย ซื้อสดทุกคัน ทุกวันนี้น้องก็ใช้ EcoSport ที่พ่อซื้อสดให้ขับไปทำงาน ดูเหมือนที่บ้านน้องจะใช้รถแค่ 2 ยี่ห้อ คือ Ford กับ Mazda
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 06, 2020, 19:11:04 โดย Isomars »

ออฟไลน์ CookiE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 872
ถ้าคิดตามสัดส่วนของสินทรัพย์คงไม่ได้ซื้อรถครับ 5555+

ออฟไลน์ CHANOM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,090
เรามองว่าการซื้อรถคันนึง ควรต้องมีเงินดาว์นอย่างต่ำ 25% และผ่อนไม่เกิน 25% ของรายได้นะคะ
แต่ถ้าให้ดูสินทรัพย์ทั้งหมด อันนี้คงพูดยากค่ะ

อย่างตัวเราเอง ที่บ้านมีอสังหาริมทรัพย์หลายที่แล้ว เราคงไม่มีที่อยู่อาศัยของตัวเองค่ะ ^^"
In My Garage
2007 MB A180 CDI W169
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS

Sold
2016 Mazda 2 Skyactiv-D High Connect
2019 Honda HRV EL
2021 Subaru Forester IS-Eyesight

ออฟไลน์ tatum0022

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 760
    • อีเมล์
โห ตอบยากครับ มันอยู่ที่ตัวเราเองมากกกว่าว่ามีวินัยในการใช้เงินแค่ไหนมากกว่าครับ
E220d AMG 17' BBS RI-D
C200 AMG Carlsson add on 12'
Fortuner 2.8 E4 16'
Camry Hybrid 10'
Jazz JP 12'
vios 13'
Preruner 08'
Austin Mini Mark1 1962

ออฟไลน์ 0%

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,581
ส่วนใหญ่จัดไฟแนนซ์กันทั้งนั้น เงินดาวน์แทบจะไม่มี

พวกรถแพงๆหน่อย อัตราส่วนซื้อสด มีมากขึ้น แต่ก็มียังคงมีจัดไฟแนนซ์ไม่ผ่านบ้าง

คนที่ซื้อสดได้ก็มี แต่น้อยผมว่า 20%

บางคนใช้เครดิต ชีวิตเงินหมุน ตอนขายดีๆ เงินอุ้ฟู้เครดิตดีๆ ก็ไปดาวน์รถแพงๆมาขับเล่น พอมีปัญหา สองสามล๊อต ต้องมาขายดาวน์รถป้ายแดง หลักเดือน วิ่งหลักพัน เยอะแยะไปสมัยนี้

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
ผมไม่เอาสินทรัพย์มาคำนวณครับ
แต่เอาเงินเดือนและเงินเก็บมาคำนวณครับ

รถคันแรกของผม ซื้อหลังจากทำงานได้ 1 ปี เพราะต้องขับรถไปกลับที่ทำงาน (อยู่บ้าน) ตอนนั้นคุณแม่ดาวน์ให้ น่าจะราวๆ 65% เงินผ่อนราวๆ 40% ของเงินเดือน ก็หืดขึ้นคอกว่าจะหมดครับ

คันถัดมาของภรรยา ซื้ตอนนโยบายรถคันแรกครับ คันนี้คุณแม่ซื้อสดให้ครับ โดยผ่อนคืนให้คุณแม่เอา

คันถัดมา ของผม ซื้อหลังจากคันเก่าใช้ไป 11 ปี เริ่มซ่อมบ่อย เลยตัดสินใจออกรถใหม่ คันนี้ดาวน์ไปประมาณ 60% ผ่อน 5 ปี ราวๆ 15% ของเงินเดือนครับ

คันสุดท้าย รถภรรยา ออกเพราะอยากให้เธอมีรถที่ปลอดภัยขึ้น สบายขึ้น ดาวน์ไปประมาณ 60%ครับ ผ่อน 4 ปี ประมาณ 20% ของเงินเดือนภรรยาครับ

ส่วนตัวมีเงินเก็บพอที่จะซื้อสดได้ ในคันที่ 3 และ4 แต่เอาไว้ลงทุนอย่างอื่น + สำรองไว้เผื่อลูกครับ

3 ปีที่แล้วเงินไปซื้อที่ดินเอาไว้เป็นสินทรัพย์ให้ลูก หลังจากนั้นเลยบอกแฟนว่า ขอให้รางวัลชีวิตบ้างครับ
ตอนนี้ก็มีความสุขดีกับรถทั้งสองคัน คิดว่าคันหน้าคงได่ไป ev ล่ะมั๊งครับ

ปล. ทั้ง4 คัน เป็นรถญี่ปุ่นหมดครับ

ออฟไลน์ pim_cute

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 273
คำถามนี้ผมว่าบอกอายุ(คนส่วนใหญ่)มากกว่านะครับ ถ้าเพิ่งเริ่มทำงาน(เริ่มจาก 0) ตัวเลขนี้ยังไงก็ติดลบ คนส่วนใหญ่ยังไงก็ใช้ประโยชน์จากสินเชื่อเป็นกันหมดแล้วทั้งนั้น คนอายุมากแล้ว ผ่อนบ้าน ผ่อนรถหมดแล้ว จะซื้ออีกตัวเลขนี้ก็จะน้อย
อีกอย่างก็คือ คนรายได้มากตัวเลขนี้ก็จะน้อย คนรายได้น้อยตัวเลขนี้ก็จะมาก

ออฟไลน์ bodin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 997
ผมไม่นับรถเป็นทรัพย์สินครับเพราะไม่ต้องการคำนวนค่าเสื่อมทุกปีซึ่งมันเป็นการลดลงเลยไม่ชอบ ตีเป็นของใช้งานไป

ที่มีตอนนี้ มี T6 4ประตูซื้อมาขนจักรยานขนหมาแมว L33รถหลัก 

ผมมีหลักที่เจ้านายเก่าสอนไว้ อยากรวยอย่าไปหมดกับ"ลด" มาก เก็บเงิน10บาท ให้"ลด" บาทเดียวพอ ซึ่งผมทำได้ครับ

ออฟไลน์ Nott1959

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 480
300%ครับ เพราะรายได้หนัก Eco-car แต่รสนิยมระดับ Hypercars
V8 V10 V12 ONLY!!!!

ออฟไลน์ Mr.Joe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 441
เมื่อหักจากการเตรียมการใช้เงินต่างๆแล้ว
เช่นค่าประกันชีวิต บ้าน เงินเก็บเผื่อสำหรับสุขภาพ ค่าเทอมลูกอย่างน้อย 3 ปี รวมถึงค่าจิปาถะ เช่นการเดินทางเปิดโลกให้ลูก
ต้องมีเงินสดเหลือเท่าราคารถคันนั้น ถึงจะซื้อครับ แล้วค่อยเอาเงินนั้นไปดาวน์ซัก 25-30% เพื่อลดความเสี่ยงอนาคต โดยที่การผ่อนต่อเดือน ต้องไม่เกิน 5% ของรายได้รวมต่อเดือนของผม และภรรยา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 06, 2020, 23:48:55 โดย Mr.Joe »

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,143
  • SNK vs Playmore
ไม่เกี่ยวกับสินทรัพย์ทั้งหมดที่มีครับ

คนบ้านนอกมีสวนเป็นสิบ ๆ ไร่

แต่รายได้ต่อเดือนน้อย เค้าก็ต้องซื้อรถถูก ๆ ขับครับ

คนในเมืองเช่าทาวเฮ้าส์อยู่ แต่ดันมีรถ 3 คัน ราคารวมกัน 4 ล้าน

ที่จอดยังไม่มีเลย

พอเห็นภาพไหมครับ 555