ผู้เขียน หัวข้อ: ยางยี่ห้อดังๆคุณภาพดีกว่ายางแบรนทั่วไปมากขนาดน้ันหรือครับ  (อ่าน 8717 ครั้ง)

ออฟไลน์ aod

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 412
    • อีเมล์
ครับผมเห็นหลายๆท่านมักจะแนะนำแต่ยางยี่ห้อดังๆ เลยอยากสอบถามท่านที่ใช้ยางยี่ห้อทั่วไปด้วยครับว่ามันแย่มากขนาดนั้นเลยหรือครับผม ท่านสมาชิกมีความคิดเห็นยังไงครับผม

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
คุณภาพตามราคา ต่อให้ยางยี่ห้อดังแค่ไหนถ้าซื้อรุ่นถูกก็ไม่ได้ดีกว่าตัวท๊อปยี่ห้อทั่วไป เอาในเกรดการใช้งานเดียวกัน

ออฟไลน์ johnlee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,603
    • อีเมล์
เท่าที่ผมขับรถเป็นมาเกือบ 20 ปี เปลี่ยนยางมาแล้วเกิน 100 เส้น

ยางแพงยี่ห้อดัง  ให้ผลดีกว่าจริงครับ


รถคันเดิมคนขับเดิม ถนนเดิม  ฝนตกฝนแห้ง  วัดผลได้หมดว่ายางแพงดีกว่า
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t

ออฟไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,591

  แล้วแต่การคาดหวัง 

ออฟไลน์ 3ankok

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 166
    • อีเมล์
95%คุณภาพตามราคา
2008 city 1.5 (sold)
2010 civic fd 1.8 LPG (sold)
2012 almera 1.2 (sold)
2014 ninja zx10r
2018 mazda2 1.3 my18
2019 civic fc 1.8 mc
2020 pajero sport 2.4 4wd mc

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
ผมยืนยัน ถ้ายางยี่ห้อแพงต้องรุ่นดีๆด้วยนะครับ ถึงจะดีจริงๆ ถามว่าต่างจาก ยางยี่ห้อถูกรุ่นดีมากแค่ไหน ผมก็คิดว่าดีกว่าแบบรู้สึกได้ ถ้าขับเร็ว เข้าโค้งแรง

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,765
เคยเผลอไปใช้ยางจีน สาบานได้ว่าชาตินี้จะไม่ใช้อีก

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,405
ไม่มีอะไรบอกได้หรอกครับว่าแย่มากหรือดีมาก มันขึ้นอยู่กับแต่ล่ะคนมีความต้องการกับเงินที่จ่ายไม่เท่ากัน ผมไม่ทราบว่าสำหรับ จขกท. ยางยี่ห้อมีชื่อดังๆกับยางยี่ห้อทั่วไป ยี่ห้อไหนอะไรยังไง ผมไม่แน่ใจ แต่จาก ปสก. ที่ผมชอบลองรถตัวเอง ลองรถคนรู้จักและหาข้อมูลนะครับ

ยี่ห้อที่ส่วนตัวผมมองว่าอยู่ในกลุ่มแนวหน้าคือยี่ห้อพวกนี้ ซึ่งมีเงื่อนไขนะครับว่าต้องเป็นรุ่นที่ผมพูดถึงเท่านั้นและผมขอพูดถึงเฉพาะรุ่นที่ยังมีการผลิตอยู่และมีขายในไทยส่วนใหญ่เท่านั้นนะครับ (ไม่เอารถ suvและpick up นะครับอันนั้นผมยังลองไม่เยอะ)

Bridgestone : T005A, Re003, Re004, Re-71r, S001, S007A

Michelin : Pilot 3, Pilot 4, Pilot 4S, Pilot Supersport, Pilot sport cup2 (สาย comfort ตัด michelin ทิ้งก่อนเลยครับ ไม่ผ่าน)

Pirelli : Pzero รุ่นต่างๆ (ยี่ห้องนี้ผมยังไม่ค่อยมั่นใจเรื่อง lifetime ในการใช้ในประเทศเมืองร้อนเท่าไหร่ เพราะอายุเหมือนจะสั้นกว่าอีก 2 ค่ายใหญ่ถ้าเทียบกันตรงรุ่น) ส่วน Cinturato P7 RFT ผมเคยขับใน 320d f30 ก้เหมือนจะใช้ได้แต่รถใหม่มากตอนนั้น วัดอะไรไม่ได้เยอะครับ

ทั้งหมดนี้คือรุ่นที่น่าใช้ส่วนใหญ่ของบริษัทยางรถยนต์ที่ผมมองว่าอยู่แนวหน้าแต่ถ้ารุ่นที่ราคาต่ำกว่าพวกนี้ไปมันก้ไม่ได้ดีแถมจะเฉยๆเลยด้วยซ้ำ ของถูกและดีมีไม่เยอะ มีไม่กี่วงการที่มีและยางรถยนต์ไม่ใช่1 ในนั้นครับ

ยางยี่ห้ออะไรมันก้ใช้ได้ทั้งนั้นครับมันต่างกันที่สมรรถนะ อายุการใช้งาน รูปแบบในการขับขี่ของแต่ล่ะคนครับ ถ้าอยากใช้ราคาไม่แรงมากเป็นคนขับรถรูปแบบไหนครับ เร็วสุด 130km/h ขับนิ่งๆ ไม่มุด ไม่เข้าโค้งแบบแรง ใช้รุ่นไหนยี่ห้อไหนก้เอาอยู่สบายครับ ถ้าไปใช้พวกตัวที่สมรรถนะสูงราคาแพง อันนี้เท่ากับแพงไปเปล่าๆไม่ค่อยได้ใช้ก้เป็นไปได้ (แต่เวลาเกิดเหตุที่เราไม่คาดคิดขึ้นมันก้ช่วยได้อยู่ดี) แต่ถ้าเป็นคนขับรถเร็ว เข้าโค้งแรงตลอดยาง sport ราคาแพงๆมันช่วยได้เยอะครับ handling รถดีขึ้นพอสมควร ถ้าได้โช้คดีๆไปด้วยเกาะกว่าเดิมเยอะครับ ผมขอเทียบให้ฟังละกันครับ

เอาแบบประสบการณ์รถผมเอง Toyo proxes sport ราคาเส้นละ 7000 กับ Michelin pilot 4S เส้นละ 10000 Toyo ถูกกว่าถ้าซื้อ 4 เส้นถูกกว่า 12000 บาท มันมีบางอย่างที่ดีกว่าและแย่กว่าครับ ความเกาะสูสีกันมาก แก้มยาง toyo แข็งกว่าเพราะฉะนั้นเข้าโค้งมั่นใจกว่า 4s ครับ นี่เป็นข้อดีเดียวที่ proxes sport ดีกว่า 4s แต่อย่างน้อยมันก้มี ที่ 4s ดีกว่าแน่นอนครับเนื้อยางsportเหมือนกันแต่นิ่มกว่า นุ่มนวลกว่าแน่ อายุการใช้งานนานกว่าแน่ สมรรถนะยางพอกันแต่ยี่ห้อนึงใช้ได้ 25000km ดัง ตัวยางแข็ง อีกยี่ห้อใช้ 45000km ถึงแข็งพอกัน ราคามันเป็นตัวกำหนดให้พอสมควรครับ สำหรับผมดีทั้งคู่แล้วแต่จะเลือกใช้เลย

*แยกด้วยนะครับ ยาง sport ยาง comfort ยางsport เกิดมาเพื่อเกาะถนนดี ครับไม่ได้ห่วงเรื่องเสียง ยางไซส์เดียวกันซื้อcomfort บางยี่ห้อเส้นละ 5000 แล้วไปซื้อ sport เส้นละ 10000 ยังไงตัวเส้นละ 10000 ก้เสียงดังกว่าครับ แยกที่ชนิดยาง วิธีการขับของเราไม่ใช่ที่ราคาครับ

ออฟไลน์ Magl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,558
    • อีเมล์
ยางจีน ที่ว่าสเปคในกระดาษดีๆเจอมากับตัว เบรคไถลไปชนคันหน้าทั้งๆที่เบรคอยู่ ขายทิ้งเลย ยางยี่ห้อดีๆแม้ปีเก่ากว่า ยังใช้งานดีกว่าเยอะ ยิ่งรุ่นท็อปๆ ใช้จนดอกบาง ยังทรงตัวดี ใส่โค้งได้ รีดน้ำดี ไม่ซื้อยางถูกอีก ใหม่ๆมันก็ดีแหละ

ออฟไลน์ AboveGod

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,040
ใช้ ps4 อยู่รู้สึกดีกว่ายางทั่วไปเยอะ ถึงไม่ได้ขับเร็ว มั่นใจเวลาเบรค และยิ่งเวลาฝนตก วิ่งลงแอ่งน้ำรถนิ่งๆ ไม่ต้องเกร็งมือ

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,668
เงินหามาเมื่อไหร่ก็ได้ครับ

แต่ชีวิตมันหาใหม่ไม่ได้

ถ้าใส่ยางห่วย พลาดเกิดอุบัติเหตุก็จบ

ประสบการ์ณเคยเห็นแก่ยางถูกไปรอบ ราคาประมาณ 50% ของ BS ตัว Top ใช้ได้ไป 2 หมื่นดังละ หลังจากนั้นไป BS นุ่มตัว Top นี่ก็เข้าสู่ 7 หมื่นโล ยังไม่รู้สึกอยากเปลี่ยนยางเลย

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,050
คุณภาพตามราคา ยี่ห้อเดียวกัน คนละรุ่น คนละราคา ก็คุณภาพต่างกัน

ออฟไลน์ #อินเดียหน้าโจร

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,404
    • Need for slow - ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน
    • อีเมล์
จริงอยู่นะครับ
1. แบรนด์รองยี่ห้อ M.. รุ่นถูกที่ราคาของใหม่ เส้นละ 1500-1600 แต่ใช้ตอนที่มันเริ่มเก่าแล้ว เป็นยางติดรถมือสองมา แข็งมากๆ หอนมากๆ และเหินน้ำมากๆ
2. แบรนด์รองยี่ห้อ O.. รุ่นถูก ราคาเส้นละไม่ถึง 1500 ตอนใหม่ๆเลย เกาะถนนกลางๆถือว่าผ่าน แต่ขับเร็วไม่ผ่าน ความนุ่มเงียบดีเพราะยังใหม่ แต่รีดน้ำผมว่าแย่เลยสำหรับยางใหม่ๆ ใช้ได้อาทิตย์เดียว ขายทิ้งเปลี่ยนใหม่
3. แบรนด์รองยี่ห้อ M (เดียวกับด้านบน) รุ่นท้อปเส้นละ 2000-2300 คุณภาพก็ดีขึ้นมาพอสมควรครับ เกาะดีขึ้น รีดน้ำดีขึ้น ขับเร็วพอไหว นุ่มเงียบพอประมาณ ผมว่าผ่านครับ
---------------------------------
4. เคยใช้แบรนด์ดี Y.. รุ่นถูก เส้นละ 1700-1800 คุณภาพโดยรวมก็ยังดีกว่า (1) กับ (2) ครับ คือข้อดีสูสีกัน แต่ข้อเสียน้อยกว่า ซึ่งโดยรวมผมให้ด้อยกว่า (3) นิดๆ
5. ที่เหลือยี่ห้อดีๆ M.. B.. T.. ผมใช้รุ่นท้อปสายนุ่มเงียบ เส้นละ 3000+- ตอนใหม่ๆดีกว่า (3,4) ไม่มาก แต่ยืนระยะ หอนช้า เกาะดี นุ่มนาน รีดน้ำดี ได้นานกว่าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2020, 00:03:48 โดย #อินเดียหน้าโจร »
Altis 1.6 AT 2004 (Swap 2zz-ge 6MT)
Mazda 1.3 Sky

ออฟไลน์ berm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 520
ปกติใช้รถไม่เยอะ ปีละประมาณไม่ถึงหมื่นกิโล ยางขอบ 15 ชุดแรกติดรถ michelin vivacy 2 ปีกว่า 2 หมื่นกว่าโล

ลื่นโคตร เบรคไหล เหินน้ำกระจาย เปลี่ยนมายางซิ่งเลย bridgestone potenza g3 เกาะกว่าคนละเรื่อง รีดน้ำโคตรดี

ใช้สี่ปีกว่า จะเปลี่ยนรุ่นเดิมไม่มีไซด์ซะแล้ว ลองของใหม่ toyo c1s นุ่ม เงียบ เกาะพอใช้ได้ โดยรวมชอบ potenza มากกว่า

ใช้ได้ 4 ปี แต่หลังๆลื่นๆ สู้ potenza ตอนอายุเท่ากันไม่ได้ เปลี่ยนอีกชุดด้วยราคาถูกกว่า gr100 เยอะเลยเอา c1s เหมือนเดิม

แต่คราวนี้เหมือนยางมันลดสเปค ใช้เกือบสามปีก็หมดสภาพ ลื่นๆ ทนไปจน 3 ปีครึ่งได้ช็อปช่วยชาติ เลยเปลี่ยนเป็น yokohama v552

ตอนแรกจะไปเอา gr100 แต่ v552 พึ่งออก เลยลองดู ขับแล้วรู้สึกไม่ค่อยเงียบ แต่เกาะดีมาก ระยะเบรคสั้นน้องๆ potenza g3

แถมรีดน้ำใช้ได้เลย ชอบตรงถนนเปียกก็ยังเบรกดี สรุปคือถ้าเลือกได้เอาตัวท็อปยี่ห้อดังครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 20, 2020, 22:29:47 โดย berm »

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,195
ยี่ห้อแบรนด์เนมถ้าเลือกรุ่นท็อปนั้นดีจริง และทนจริงๆ ใช้หลายหมื่นกม.ประสิทธิภาพก็ไม่ตกลงเยอะ
แม้แต่ยางยี่ห้อค่อนข้างดัง ที่รถบางยี่ห้อเลือกเป็น OEM ผมว่าก็ไม่ดีเท่า เช่น Toyo แรกๆ ดี ผ่านไป 5 หมื่นโล แข็ง เสียงดัง ลื่น เปลี่ยนออกใช้ Michelin ผ่านมา 5 หมื่นโลเท่ากันแล้วยังนุ่มและเกาะดี วิ่งฝ่าฝนช่วงนี้ก็ยังมั่นใจอยู่

ผมว่าคุ้มกับราคาที่เพิ่ม ใช้ได้นานกว่าและปลอดภัยกว่า ยางเป็นเรื่องที่ไม่ควรตระหนี่
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,618
จริงๆแบรนด์รองบ่อนบางยี่ห้อก็มีรุ่นยางที่พอสู้กับแบรนด์ชั้นนำได้นะคับ เช่น Vredestein , Yokohama

แต่เนื่องด้วยไม่ใช่ยี่ห้อใหญ่โตอะไร มียางไม่หลากหลายเท่าพวกแบรนด์ใหญ่ๆ เลยเหมือนมีรุ่นดีๆแจ่มๆอยู่ไม่กี่รุ่น

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,718
ถ้างบเยอะก็เลือกของดีๆใช้ก็ดีครับ

อย่างของผม ยาง ขนาดเดียวกัน ยางชุดนึงเลือกตัว top ของยี่ห้อหนึ่งที่ใช้สำหรับวิ่งถนนมา กับ อีกชุดเลือกรุ่นรองๆของอีกยี่ห้อมาใช้ เนื่องจากราคาต่อเส้นมันก็ต่างกันเยอะอยู่

ผลใช้งาน

ยางตัว top ของค่าย เงียบ เบรคดี ตั้งแต่เริ่มใส่ยันดอกหมด เคยมาเร็วยกไม่ทันต้องปีนเนินหลังเต่าจนโช้คขาดใน ยางก็ยังไม่เป็นอะไร แต่ดอกยางหมดไว อายุใช้งานสั้น

ยางตัว รอง ของค่าย เสียงดัง ตั้งแต่ใส่ เบรค ก็ไม่รู้สึกว่า เบรคดี ทั้งๆที่เป็นยางใหม่หมดทั้ง 4 เส้น ที่เวลาใส่ยางไปใหม่ต้องเบรคแล้วรู้สึกว่าเบรคดีกว่ายางชุดเก่า โช้คหน้ารั่ว หน้ายางร้าวไปครึ่งวง ส่วนข้างหลังโช้คไม่รั่ว ก็มี หน้ายางร้าว แบบเดียวกัน แต่ดอกยางทน ใช้งานได้นานกว่า

แต่ความรู้สึกส่วนตัวผม ผมว่า ดอกที่หมดไว ดีกว่า เราเห็นก็รีบเปลี่ยนได้ ดอกทน ดูดอกเหลือเยอะเราก็ไม่ได้สนใจคิดว่าไม่เป็นอะไร ต้องมายกรถดูถึงจะเจอปัญหา แบบนี้ผมว่าอันตรายกว่า

ถ้างบถึงเลือกของดีไว้ก็จะดีกว่าครับ ส่วนถ้ารอบไหนงบไม่พอ เราก็มาเลือกยางเกรดรองลงมาทดแทนกันไป การดูแลก็อาจจะต้องมีเพิ่มเติมขึ้นมาหน่อยแทนเอาครับ

M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,418
ยี่ห้อดังๆ เค้ามีประวัติมายาวนาน สะสมชื่อเสียงมานาน ประสบการณ์ การวิจัยต่างๆ อีก ทำให้เค้าต้องทำออกมาให้ดีครับ ไม่งั้นเสียชื่อเสียงหมด

ออฟไลน์ เทียน

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 143
เขาก็มีมาตรฐานสากลทดสอบให้ดูตามยูทุปอยู่นะ ดูระยะเบรคก็ชัดเจนแล้วครับ

ออฟไลน์ aod

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 412
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกท่านครับ พอดีผมใช้แต่ยางยี่ห้อรองๆเลยไม่ทราบความแตกต่างของยางยี่ห้อดังๆครับ พอดีผมขับรถไม่เร็วด้วยครับขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

ออฟไลน์ kabokaboh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 321
เอาแค่เรื่องความกลม

ยางดีๆ ถ่วงล้อง่ายมาก

ยางราคาประหยัด บางที ถ่วงไม่ดี

มีสะท้านมือ

เอาแค่เรื่องถ่วงล้อ ผมก็ไปยางเกรดบน

ของยี่ห้อเก่าแก่ละครับ

เรื่องอื่นยังไม่นับอ่ะนะ

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,858
มีอยู่ช่วงนึงของชีวิต เรียกได้ว่ากินแกลบกันเลยทีเดียว
ขับรถก็หรู แต่ต้องใช้ยางยี่ห้อรอง

ก็มีร้านแถวบ้าน ร้านดังย่านประชาอุทิศ(ฝั่งธน)​แนะนำยางลายสปอร์ท เข้ากับรถมาให้ชุดนึงในราคาที่ถูกแสนถูก ชื่อรุ่นนั้นจำง่ายมาก nt555

ตอนเปลี่ยนคือต้นปีครับ พอกลางปี หน้าฝนเท่านั้นแหละ รู้เลย ไฮโดรเพลน คืออะไร สมกับชื่อยางจริงๆครับ 555

เอาว่าปัจจุบัน ผมใช้ยางเกรดกลางของยี่ห้อดัง ยังไม่เคยเจออาการนี้เลยครับ

ออฟไลน์ bennieT8

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 644
    • อีเมล์
เลือกยี่ห้อมาตรฐาน เลือกประเภทยางให้สอดคล้องกับการขับขี่ เลือกรุ่นดีสุดเท่าที่มีงบ  คุณภาพตามราคาครับ  แต่อย่าลืมว่ายางเป็นส่วนเดียวที่สัมผัสพื้นดิน  เงินหาใหม่ได้  แต่ชีวิตหาใหม่ไม่ได้ครับ

ออฟไลน์ Tak

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 176
คุณภาพตามราคาอย่างแท้จริงครับ

จ่ายเริ่มต้นอาจจะเหมือนแพง แต่การใช้งานตามระยะทางที่มากขึ้นเรื่อยๆแล้วยังคงประสิทธิภาพได้ยาวนานกว่ายางราคาต่ำ

ลองคำนวณดูดีๆแล้วจะรู้เลยว่ามันไม่แพงครับ


ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
มีอยู่ช่วงนึงของชีวิต เรียกได้ว่ากินแกลบกันเลยทีเดียว
ขับรถก็หรู แต่ต้องใช้ยางยี่ห้อรอง

ก็มีร้านแถวบ้าน ร้านดังย่านประชาอุทิศ(ฝั่งธน)​แนะนำยางลายสปอร์ท เข้ากับรถมาให้ชุดนึงในราคาที่ถูกแสนถูก ชื่อรุ่นนั้นจำง่ายมาก nt555

ตอนเปลี่ยนคือต้นปีครับ พอกลางปี หน้าฝนเท่านั้นแหละ รู้เลย ไฮโดรเพลน คืออะไร สมกับชื่อยางจริงๆครับ 555

เอาว่าปัจจุบัน ผมใช้ยางเกรดกลางของยี่ห้อดัง ยังไม่เคยเจออาการนี้เลยครับ

ร้าน SMB ??
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ aimer

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
ขอตอบในฐานะเคยทำงานในบริษัทผลิตยางในกลุ่ม tier1 มาเกือบ 20 ปีนะครับ
ยางแต่ละรุ่นก่อนที่จะผลิตออกสู่ตลาดจะมีการทำวิจัยและทดสอบพร้อมๆกับรถรุ่นที่เป็น target ที่จะออกสู่ตลาดเช่นกัน ซึ่งงบในการพัฒนาจะสูงมากทั้งจากในห้องแลป สนามทดสอบ และสภาพถนนจริงในแต่ละภูมิภาคที่จะไปจำหน่าย ซึ่งน่าจะเดาได้ว่ายางราคาถูกเค้าไปลดงบตรงไหน  ;D ;D
ทีนี้ในการพัฒนายางแต่ละรุ่นก็จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มตามประเภทของรถกลุ่มเป้าหมาย เช่นกลุ่ม luxury car, sport/performance car, city car เป็นต้น ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ก็จะมีข้อมูลวิจัยมาแล้วว่าลูกค้าส่วนใหญ่เค้า concern เรื่องอะไรบ้าง แล้วจึงออกแบบให้ตรงกับความต้องการให้มากที่สุด ในราคาที่ลูกค้ากลุ่มนั้นรับได้
ถ้าถามว่าทำให้ดีที่สุดทุกด้านได้ไหม เงียบ นุ่ม รีดนำ้ดี เข้าโค้งได้แรงๆ เกาะเป็นตุ๊กแก ดอกยางสึกยาก ขับได้เกิน 300 Km/h ก็ต้องบอกว่าทำได้ครับ แต่ต้นทุนไม่ใช่ถูกๆ ทำออกมาจริงก็คงมีลูกค้านับคนได้ กลายเป็นขาดทุนไปอีก เค้าเลยต้องโฟกัสเป็นกลุ่มแบบนี้แทน
ทีนี้เวลาเราเปลี่ยนยาง (แน่นอนว่าเป็น after market) ถ้าอยากได้ feeling ใกล้เคียงเดิมที่สุดก็ต้องเลือกรุ่นเดิมที่เป็น oem แต่จะไม่เหมือนกัน 100% แน่นอนเพราะมีอยู่ 2 ปัจจัยด้วยกัน
1 แต่ละ lot การผลิต โรงงานผู้ผลิตรถจะแก้ค่าบางอย่างเพื่อแก้ปัญหาจาก Lot ก่อนหน้าเช่น on center feeling, แรงสะเทือนที่สะท้อนมาที่พวงมาลัย ทำให้ผู้ผลิตยางที่ bid ได้ใน lot ใหม่ต้องแก้ค่าบางอย่างตาม ผมจึงยืนยันว่ายางที่ติดรถมาเหมาะสมที่สุดแล้ว ยาง after market จะไม่ทำค่าเฉพาะเจาะจงกับรถแต่ละรุ่น แต่จะทำมากลางๆสำหรับใช้ได้กับรถรุ่นอื่นๆด้วย
2 สภาพช่วงล่างที่สึกหรอตามการใช้งานหรือมีการ Modify ไปจากค่ามาตรฐานโรงงาน ย่อมส่งผลด้วยเช่นกัน
ทีนี้เวลาเราไปร้านยาง ส่วนมากเราตัดสินใจจากอารมณ์และความรู้สึกมากกว่าข้อมูลทางด้านเทคนิค และแน่นอนมีร้านน้อยมากที่สามารถให้ความรู้ที่แท้จริงให้กับลูกค้าได้ (ทั้งๆที่ บ.ยางก็จัดฝึกอบรมให้ไม่ใช่น้อย อาจเป็นเพราะเสียเวลาขายของ, เชียร์รุ่นที่ได้กำไรเยอะๆไว้ก่อน หรืออะไรก็แล้วแต่) ก็ขึ้นอยู่กับความรู้และประสบการณ์ของลูกค้าแล้วล่ะว่าจะเลือกยางที่ตรงกับความต้องการและลักษณะการใช้งานของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน แต่ละยี่ห้อแต่ละร่นก็จะมีจุดเด่นของมันอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับจุดด้อยของมันได้ไหม
ขอให้โชคดีในการเลือกยางที่ใช่สำหรับเราครับ

ออฟไลน์ porasit33

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,189
โรงงานที่มีการขึ้นระบบต่างๆมากมาย
มันทำให้การผลิตต้องเป็นไปตามมาตรฐานด้วย
สินค้าก็เลยไม่ปล่อยขายได้ง่ายๆ
ถ้าใครอยู่โรงงานจะพอนึกออกว่า
ถ้าทำให้เจ้านี้ ต้องเป๊ะๆ ถ้าเจ้านี้ใช้วัตถุดิบเกรดนี้ก็พอ

อีกอย่างแบรนด์ใหญ่ ยอดสูง เค้าก็ข้อให้ Raw material มีคุณสมบัติที่สูงพิเศษ
ในราคาที่ถูกที่สุดได้ด้วย

แบรนด์ดังๆเลยได้เปรียบ แต่แบรนด์เล็กก็คงมียางดีๆ แต่ก็น่าจะแพงเพราะยอดขายน้อย

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
ขอตอบในฐานะเคยทำงานในบริษัทผลิตยางในกลุ่ม tier1 มาเกือบ 20 ปีนะครับ
ยางแต่ละรุ่นก่อนที่จะผลิตออกสู่ตลาดจะมีการทำวิจัยและทดสอบพร้อมๆกับรถรุ่นที่เป็น target ที่จะออกสู่ตลาดเช่นกัน ซึ่งงบในการพัฒนาจะสูงมากทั้งจากในห้องแลป สนามทดสอบ และสภาพถนนจริงในแต่ละภูมิภาคที่จะไปจำหน่าย ซึ่งน่าจะเดาได้ว่ายางราคาถูกเค้าไปลดงบตรงไหน  ;D ;D

----ยางถูก = ลดงบในการทดสอบ เช่น การทดสอบในสนาม ??

ทีนี้ในการพัฒนายางแต่ละรุ่นก็จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มตามประเภทของรถกลุ่มเป้าหมาย เช่นกลุ่ม luxury car, sport/performance car, city car เป็นต้น ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ก็จะมีข้อมูลวิจัยมาแล้วว่าลูกค้าส่วนใหญ่เค้า concern เรื่องอะไรบ้าง แล้วจึงออกแบบให้ตรงกับความต้องการให้มากที่สุด ในราคาที่ลูกค้ากลุ่มนั้นรับได้
ถ้าถามว่าทำให้ดีที่สุดทุกด้านได้ไหม เงียบ นุ่ม รีดนำ้ดี เข้าโค้งได้แรงๆ เกาะเป็นตุ๊กแก ดอกยางสึกยาก ขับได้เกิน 300 Km/h ก็ต้องบอกว่าทำได้ครับ แต่ต้นทุนไม่ใช่ถูกๆ ทำออกมาจริงก็คงมีลูกค้านับคนได้ กลายเป็นขาดทุนไปอีก เค้าเลยต้องโฟกัสเป็นกลุ่มแบบนี้แทน
ทีนี้เวลาเราเปลี่ยนยาง (แน่นอนว่าเป็น after market) ถ้าอยากได้ feeling ใกล้เคียงเดิมที่สุดก็ต้องเลือกรุ่นเดิมที่เป็น oem แต่จะไม่เหมือนกัน 100%




แน่นอนเพราะมีอยู่ 2 ปัจจัยด้วยกัน
1 แต่ละ lot การผลิต โรงงานผู้ผลิตรถจะแก้ค่าบางอย่างเพื่อแก้ปัญหาจาก Lot ก่อนหน้าเช่น on center feeling, แรงสะเทือนที่สะท้อนมาที่พวงมาลัย ทำให้ผู้ผลิตยางที่ bid ได้ใน lot ใหม่ต้องแก้ค่าบางอย่างตาม
ผมจึงยืนยันว่ายางที่ติดรถมาเหมาะสมที่สุดแล้ว ยาง after market จะไม่ทำค่าเฉพาะเจาะจงกับรถแต่ละรุ่น แต่จะทำมากลางๆสำหรับใช้ได้กับรถรุ่นอื่นๆด้วย


---- ยังไม่ค่อยปักใจเชื่อเท่าไร รถตัวเอง City Zx ปี 07 รุ่น V (รองท้อป) ได้ล้อขนาด 14 นิ้ว ใส่ยาง BridgeStone B391 ขนาด 175/65/14 จากโรงงาน
สมมติผมอยากได้ ฟิลลิ่งแบบเดิมตอนเปลี่ยนยาง ไปเปลี่ยนยางรุ่นเดิม ก็หาซื้อไม่ได้ เพราะ BS ยกเลิกการผลิตยางรุ่นนี้ไปทำรุ่น B250 มาแทน

และถ้าบอกว่าประสิทธิภาพยาง BS รุ่น B391 ดีแล้ว = ควรประหารวิศวกรหรือฝ่ายบัญชีที่อนุมัติยางรุ่น B391 ติดกับรถมาให้ เพราะยังหาข้อดีมันไม่เจอเลย
พอเปลี่ยนไปใช้ BridgeStone RE001 ขนาด 195/55/15 = หน้ามือกับหลังเท้า คือ ความยึดเกาะถนนที่เหนียวแน่น การเข้าโค้งที่แม่นยำ แต่แลกมากับความกระด้างและเสียงดัง

เท่าที่สังเกตุ ยางรถเก๋งเกือบทุกบริษัท แบ่งสินค้ายางออกเป็น 2 กลุ่ม

1. ยางกลุ่มนุ่มเงียบ (อาจรวมยางประหยัดน้ำมันไปด้วย) = เน้นความนุ่มสบาย

2. ยางกลุ่มสปอร์ต = เน้นการเกาะถนน

อยู่ที่ผู้ใช้ ว่าจะเลือกยางกลุ่มไหน จึงจะตรงกับความต้องการ & การใช้งาน




2 สภาพช่วงล่างที่สึกหรอตามการใช้งานหรือมีการ Modify ไปจากค่ามาตรฐานโรงงาน ย่อมส่งผลด้วยเช่นกัน
ทีนี้เวลาเราไปร้านยาง ส่วนมากเราตัดสินใจจากอารมณ์และความรู้สึกมากกว่าข้อมูลทางด้านเทคนิค และแน่นอนมีร้านน้อยมากที่สามารถให้ความรู้ที่แท้จริงให้กับลูกค้าได้ (ทั้งๆที่ บ.ยางก็จัดฝึกอบรมให้ไม่ใช่น้อย อาจเป็นเพราะเสียเวลาขายของ, เชียร์รุ่นที่ได้กำไรเยอะๆไว้ก่อน หรืออะไรก็แล้วแต่) ก็ขึ้นอยู่กับความรู้และประสบการณ์ของลูกค้าแล้วล่ะว่าจะเลือกยางที่ตรงกับความต้องการและลักษณะการใช้งานของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน แต่ละยี่ห้อแต่ละร่นก็จะมีจุดเด่นของมันอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับจุดด้อยของมันได้ไหม
ขอให้โชคดีในการเลือกยางที่ใช่สำหรับเราครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,230
    • อีเมล์
มันก็ว่ากันตามราคาครับ

ของถูก แบรนด์รอง มันก็ใช้ได้ มันก็คงไม่ดีเท่าของแพง แบรนด์ดัง

แต่กลับกัน ของแพง แบรนด์ดัง มันก็ไม่ดีกว่า แบรนด์รอง ตามจำนวนเท่าของราคาที่มากกว่า

ฉะนั้น อยู่ที่คนใช้แหละว่า รับได้แค่ไหน พอใจแค่ไหนครับ ?

.....................

ยกตัวอย่าง ยาง CRV ผมเริ่มจาก Yoko Parada มาเป็น Toyo T1 Sport SUV มาเป็น BS HP Sport ปัจจุบัน ML Lattitude Sport 3

วันดีคืนดี กลับไปขับรถน้องสาว รถรุ่นเดียว แต่ใส่ Yoko G055 ยางบ้านๆเลย น้องผมใช้มา 3 ชุดละ (ผมเปลี่ยนให้เอง) ขับแล้ว บ่นตลอดทาง ยางบ้าอะไร ไม่เกาะเลย ย้วยไปย้วยมา แต่น้องผม ขับได้ ใช้ยางรุ่นนี้ 3 ชุดๆละ 5 หมื่นกม. ก็ 1.5 แสนกม.ละ

เพราะตอนใช้ Toyo กับ BS ผมเคยต้องหักหลบ กับ เข้าโค้งกระทันหันที่ความเร็วสูงมาก ระดับยางร้องลั่น ซึ่งบอกเลยว่า ถ้าไม่ใช่ยาง สปอร์ตพวกนี้ คงกลิ้งไปแล้วล่ะ ดังนั้น ถ้าตัวผม ผมเลือกแพงที่สุด เท่าที่ผมจ่ายไหวล่ะครับ

ออฟไลน์ urangutang

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
จากประสบการณ์ที่เคยทำงานโรงงานผลิตยางรถยนต์มา ทราบว่าจริงๆแล้วส่วนผสมในเนื้อยางนี่เป็นเทคโนโลยี และ know-how ของแต่ละแบรนด์เลยครับ

เพราะฉะนั้นคุณภาพที่สัมผัสได้ในการใช้งานแปรผันกับราคาแน่นอน และผมว่าอย่าประหยัดเลยเรื่องยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์ safety เลยนะครับ