ผู้เขียน หัวข้อ: ยางยี่ห้อดังๆคุณภาพดีกว่ายางแบรนทั่วไปมากขนาดน้ันหรือครับ  (อ่าน 8582 ครั้ง)

ออฟไลน์ bravo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,466
    • อีเมล์
สมมุติ ยางเกรด A เส้นละ 6,000 บาท เปลี่ยนทุกๆ 60,000 กม. ค่ายางกิโลเมตรละ  10 สต.

ยางเกรดต่ำ เส้นละ 3,000 บาท เปลี่ยนทุกๆ 60,000 กม. ค่ายางกิโลเมตรละ 5 สต.

ส่วนต่างกันแค่กิโลเมตรละ 5 สต. แต่ต้องเอาชีวิตของทุกคนบนรถไปเสี่ยง ผมไม่เสี่ยงดีกว่า

ถ้าจะประหยัดค่ายาง ผมประหยัดค่าน้ำมันดีกว่า เช่น เติมน้ำมันชนิดที่ราคาถูกๆ ที่รถเรารองรับ เติม E20 B10 อะไรแบบนี้ดีกว่า

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
จากประสบการณ์ที่เคยทำงานโรงงานผลิตยางรถยนต์มา ทราบว่าจริงๆแล้วส่วนผสมในเนื้อยางนี่เป็นเทคโนโลยี และ know-how ของแต่ละแบรนด์เลยครับ

เพราะฉะนั้นคุณภาพที่สัมผัสได้ในการใช้งานแปรผันกับราคาแน่นอน และผมว่าอย่าประหยัดเลยเรื่องยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์ safety เลยนะครับ


Silicon Compound ???
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
สมมุติ ยางเกรด A เส้นละ 6,000 บาท เปลี่ยนทุกๆ 60,000 กม. ค่ายางกิโลเมตรละ  10 สต.

ยางเกรดต่ำ เส้นละ 3,000 บาท เปลี่ยนทุกๆ 60,000 กม. ค่ายางกิโลเมตรละ 5 สต.

ส่วนต่างกันแค่กิโลเมตรละ 5 สต. แต่ต้องเอาชีวิตของทุกคนบนรถไปเสี่ยง ผมไม่เสี่ยงดีกว่า

ถ้าจะประหยัดค่ายาง ผมประหยัดค่าน้ำมันดีกว่า เช่น เติมน้ำมันชนิดที่ราคาถูกๆ ที่รถเรารองรับ เติม E20 B10 อะไรแบบนี้ดีกว่า


ถ้าใช้ยางเกรดรอง = เปลี่ยนทุกๆ 30,000 กม. แทน ก็จะได้ยางสดใหม่  ;)
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ CarameLon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,387
ก็ไม่เชิงคุณภาพดีกว่า แต่แบรนด์ดังเขาทุ่มงบไปเยอะในด้านงานโปรโมต
ออกสื่อโดยสิ่งที่เอาไปออกงานคือเอกสารทดสอบมาตรฐานต่างๆและนวัตกรรมการผลิต
สิ่งเหล่านี้ต้องจ้างบริษัทเอ้าซอสมาทำการทดสอบมาตรฐานหลายอย่างที่มากกว่าแค่ขั้นต่ำทางกฎหมาย
กว่าจะผ่านครบมันเลยใช้ค่าใช้จ่ายสูง บางเจ้าทุ่มงบเพิ่มกับการออกแบบยางในกับรถเฉพาะกลุ่มไฮเปอร์ฟอแมนส์
ราคาก็แพงขึ้นไปอีกเหมือนแบรนด์แพงๆต้องการสร้างความเชื่อมั่น ชูให้โดดเด่นกว่าเจ้าอื่น แค่นั้น
เป็นผม ผมก็เพิ่มงบอีกนิดเพื่อลงทุนกับแบรนด์ดังๆมากกว่าเอาชีวิตเราไปฝากไว้กับยางง่อยๆแบรนด์อะรัยไม่รู้ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน  8)
TOYOTA WISH SPORT 2.0>>>CRV-2.4L 4WD GEN3>>>TOYOTA Camry 2.4 2010>>>BMW 520 ตาเหยี่ยว>>>BMW X3 2011 >>>BMW 520D 2010 >>>BMW 525D ก่อน LCI >>>BMW 116i M-sport >>>BMW X1 2.0 S-drive 2016 >>>Mercedes GLA200 >>>Mercedes C Class C350e >>> BMW330e+BMWS1000R

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,839
สมมุติ ยางเกรด A เส้นละ 6,000 บาท เปลี่ยนทุกๆ 60,000 กม. ค่ายางกิโลเมตรละ  10 สต.

ยางเกรดต่ำ เส้นละ 3,000 บาท เปลี่ยนทุกๆ 60,000 กม. ค่ายางกิโลเมตรละ 5 สต.

ส่วนต่างกันแค่กิโลเมตรละ 5 สต. แต่ต้องเอาชีวิตของทุกคนบนรถไปเสี่ยง ผมไม่เสี่ยงดีกว่า

ถ้าจะประหยัดค่ายาง ผมประหยัดค่าน้ำมันดีกว่า เช่น เติมน้ำมันชนิดที่ราคาถูกๆ ที่รถเรารองรับ เติม E20 B10 อะไรแบบนี้ดีกว่า


ถ้าใช้ยางเกรดรอง = เปลี่ยนทุกๆ 30,000 กม. แทน ก็จะได้ยางสดใหม่  ;)

จริงๆผมก็เคยคิดแบบนั้นนะครับ
แต่ความคิดผมเปลี่ยนทันทีเมื่อ

รถที่ผมใช้ในชีวิตประจำวันผม ที่ผมตั้งข้อสังเกตุคือ
รถคันนี้ใช้มาเกือบ 2 แสนโลแล้วครับ ใช้ยางแค่ 2 ยี่ห้อเท่านั้น

ยี่ห้อแรกเป็น ตระกูล LM ครับ ได้เงียบ นุ่ม เกาะ แต่รีดน้ำกลางๆ พอพ้นสองหมื่นโล ความดังถามหา ความแข็งคืบคลานเข้ามา รีดน้ำแย่ลง ความลื่นมาเติมเต็ม เบรคไถล
ตระกูลนี้ใช้แค่ 1 ชุดเท่านั้นครับ ชุดละสั้นๆ คือ ที่ 30000-70000

สำหรับยี่ห้อที่สอง เป็นรุ่นรองๆ(เพราะรุ่นท๊อปไม่มีไซ้ส์ของล้อเดิมฟรีด) Triple Max ครับ ดังกว่านิดหน่อย กระด้างเพิ่มขึ้น เกาะน้อยกว่าหน่อย รีดน้ำดีมาก เป็นยางที่สามารถใช้ได้เหมือนเดิมตั้งแต่แกะฟลอยด์ จนถึง 60000 โลเลยทีเดียว หลัง 20000 โลไป สมรรถนะทุกอย่าง ชนะ LM หมดเลยครับ แถมชุดแรกของ Triple Max ผมยื้อได้จนถึง 70000 โลเลยทีเดียว สรุปชุดนี้ใช้ตอน 70000-140000 ครับ ยาวๆไปเลย

ด้วยความติดใจ ผมจึงลองใช้ยี่ห้อเดิม แต่เป็น Triple Max2(รุ่นเดิมไม่มีขายแล้ว) เสียงเงียบขึ้นกว่า รุ่นแรก เกาะกว่ารุ่นแรก นุ่มกว่ารุ่นแรก ปัจจุบัน 1.8แสนโลแล้ว เท่ากับใช้ไป 4หมื่นโล สมรรถนะเหมือนเดิมตั้งแต่แกะฟลอยด์เช่นกัน แต่...... ดอกยางใกล้หมดแล้ว ไม่น่าจะพ้นหน้าฝนนี้ไปได้

สิ่งที่ผมเล่ามาเพียงแค่จะบอกว่า ยางไม่จำเป็นต้องสดใหม่ก็ได้ครับ ถ้ามันสามารถทำหน้าที่ของมันได้ตลอดอายุการใช้งาน
ถ้ายางสดใหม่จริงๆ แต่มันไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตลอด และต้องมาคำนวนความคุ้มค่าอีกที อันนี้ก็น่าคิดนะครับ
เช่นคุณบอกว่า 3หมื่นโลก็จับเปลี่ยน แต่ตอนที่มันพ้น 2หมื่นโลไปแล้วทุกอย่างแย่ลง เราต้องทนใช้อีก 1หมื่นโลเพื่อรอเปลี่ยนหรือเปล่า

ออฟไลน์ bravo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,466
    • อีเมล์
สมมุติ ยางเกรด A เส้นละ 6,000 บาท เปลี่ยนทุกๆ 60,000 กม. ค่ายางกิโลเมตรละ  10 สต.

ยางเกรดต่ำ เส้นละ 3,000 บาท เปลี่ยนทุกๆ 60,000 กม. ค่ายางกิโลเมตรละ 5 สต.

ส่วนต่างกันแค่กิโลเมตรละ 5 สต. แต่ต้องเอาชีวิตของทุกคนบนรถไปเสี่ยง ผมไม่เสี่ยงดีกว่า

ถ้าจะประหยัดค่ายาง ผมประหยัดค่าน้ำมันดีกว่า เช่น เติมน้ำมันชนิดที่ราคาถูกๆ ที่รถเรารองรับ เติม E20 B10 อะไรแบบนี้ดีกว่า


ถ้าใช้ยางเกรดรอง = เปลี่ยนทุกๆ 30,000 กม. แทน ก็จะได้ยางสดใหม่  ;)

ยังไงๆ ผมก็เน้นคุณภาพไว้ก่อนครับ

เรื่องความกลมของยางเกรดต่ำอีก บางเส้นถ่วงไม่จบ ต้องเอาไว้ล้อหลัง สลับยางก็ไม่ได้ เพราะเมื่อมาอยู่ล้อหน้าก็เจอปัญหาพวงมาลัยสั่นอีกครับ

ออฟไลน์ Slow But Sure

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 780
จากยางที่เคยลองใช้มาทั้งหหมด มีอยู่ 2 รุ่น ที่ไม่คิดกลับไปใช้
1. ยางจีน จำยี่ห้อไม่ได้
2. Dunlop LM704 (ทำให้ไม่ชอบ Dunlop ไปเลย)

ยางที่ประทับใจ
1. Hankook v12 evo2
2. Kumho PS91
3. PS4

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
ต้องถามว่า ใช้งานแบบไหนก่อนเลย

เปรียบเทียบ ยางชุดละ 30,000 กับ ยางชุดละ 10,000 ละกัน

ถ้าใช้งานเต็มที่ เต็มประสิทธิภาพ เต็มสมรรถณะ ผมก็แนะนำชุดละ 30,000 เลย จ่ายแพงกว่าเพื่อเอาคุณภาพดี เอาชื่อชั้น นะครับ เพราะหลายคน ค่ายรถ และ ผลการทดสอบจากหลายๆ ที่มันบอกมาอยู่แล้ว เปลี่ยนทุก 3 ปี ก็ยังไหว

แต่ถ้าใช้งานทั่วไป ใช้รถน้อย ขับธรรมดา รถไปตลาด รถไปทำงาน(ไปเช้า-เย็นกลับ) ใช้ไปสักระยะไม่นานก็เปลี่ยน ผมก็แนะนำเอาชุด 10,000 เลยครับ เปลี่ยนปีละชุดก็ยังได้

สุดท้าย คำว่า "ดี" มันต้องดีให้ได้ยาวๆ ดีให้ได้ตลอด ไม่ว่าจะเรื่องของเสียง การยึดเกาะถนน การรีดน้ำ และ ความนุ่มนวล ไม่ใช่ดีแค่ 4,000-5,000 โลแรก พอเลยนั้นคำว่า "ดี" หายไปอย่างรวดเร็ว อันนี้ผมว่าไม่คุ้มเลย ถ้าจจะใช้ได้ต่อไปนะ แต่คนใช้อาจจะรำคาญและเปลี่ยนทิ้งซะก่อน ดอกเหลือบาน ขายยาง % กัน

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,332
 8) 8) 8)......ถูกต้องครับ แม้แต่ซื้อแบรนด์ดีๆ แต่ซื้อยางขนาดเดียวกันรุ่นราคาถูกที่สุด คุณก็ได้ยางคุณภาพต่ำลงไป เช่น ดอกหัวโล้นแค่ 1-2 หมื่นกิโลฯ ขณะรุ่นมาตรฐานสูง ใช้เกิน 5 หมื่นกิโลฯ ดอกยังไม่หมดเลย แต่อาจเริ่มแข็งไม่นุ่มนวล !  :-X

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,041
บาทต่อบาทอาจจะไม่ แต่คิดว่าคุ้มค่าที่จะซื้อยี่ห้อที่ดีกว่า

ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ท่านประเมินว่าคุ้มค่าหรือไม่ ครับ

ออฟไลน์ bingoman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,367
ผมก็ใช้มาเยอะครับ  แต่ก่อนที่บ้านใช้แต่ Michelin, Bridgestone,  แต่พอเดี๋ยวนี้ลองอันอื่นบ้างทั้ง Hankook, Maxxis, Nexen, Deestone, Thunderer  พวกนี้

ยังไงก็กลุ่มแรกก็ดีกว่าทุกด้านครับ เช่น การควบคุม, การวิ่งทางเปียก, ระยะเบรค, ความทนทาน, การลากใช้งานยาวๆ 5 ปี++

แต่อยู่ในกรอบ segment เดียวกันเทียบกันนะครับ  ไม่ใช่เอายางถูกๆ ของ Michelin ไปเทียบกับตัวท็อปของ Hankook งี้

เราจะเห็นความแตกต่าง เมื่อยามฉุกเฉินจริงๆ ครับ  เช่น เบรคกระทันหันจาก 150 เหลือ 0, เบรคหัวทิ่มในเมืองขณะที่จี้ตูดกันอยู่, เข้าโค้งหนักๆ ไม่ยก   พวกนี้ ถ้ารถสภาพเดียวกันเป๊ะๆ   ยางเจ้าแพงๆ ลิมิตสูงกว่าแน่นอนครับ

ส่วนการใช้ยางถูกๆ และเปลี่ยนบ่อยๆ ก็ทำได้  แต่จากประสบการณ์ผม ยางแพง ปีที่ 4,5,6 วิ่งมาเกิน 6 หมื่นโล (เรียกได้ว่าแทบหมดอายุแล้วก็ได้สำหรับบางท่าน)   ระยะเบรคมันยังสั้นกว่ายางเกรดกลางหรือล่างตอนซื้อใหม่ๆ เลยครับ (ฺBridgestone Potenza vs Hankook V12, Maxxis I-Pro)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 22, 2020, 01:01:40 โดย bingoman »

ออฟไลน์ PabU

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 120
จริงอยู่นะครับ
1. แบรนด์รองยี่ห้อ M.. รุ่นถูกที่ราคาของใหม่ เส้นละ 1500-1600 แต่ใช้ตอนที่มันเริ่มเก่าแล้ว เป็นยางติดรถมือสองมา แข็งมากๆ หอนมากๆ และเหินน้ำมากๆ
2. แบรนด์รองยี่ห้อ O.. รุ่นถูก ราคาเส้นละไม่ถึง 1500 ตอนใหม่ๆเลย เกาะถนนกลางๆถือว่าผ่าน แต่ขับเร็วไม่ผ่าน ความนุ่มเงียบดีเพราะยังใหม่ แต่รีดน้ำผมว่าแย่เลยสำหรับยางใหม่ๆ ใช้ได้อาทิตย์เดียว ขายทิ้งเปลี่ยนใหม่
3. แบรนด์รองยี่ห้อ M (เดียวกับด้านบน) รุ่นท้อปเส้นละ 2000-2300 คุณภาพก็ดีขึ้นมาพอสมควรครับ เกาะดีขึ้น รีดน้ำดีขึ้น ขับเร็วพอไหว นุ่มเงียบพอประมาณ ผมว่าผ่านครับ
---------------------------------
4. เคยใช้แบรนด์ดี Y.. รุ่นถูก เส้นละ 1700-1800 คุณภาพโดยรวมก็ยังดีกว่า (1) กับ (2) ครับ คือข้อดีสูสีกัน แต่ข้อเสียน้อยกว่า ซึ่งโดยรวมผมให้ด้อยกว่า (3) นิดๆ
5. ที่เหลือยี่ห้อดีๆ M.. B.. T.. ผมใช้รุ่นท้อปสายนุ่มเงียบ เส้นละ 3000+- ตอนใหม่ๆดีกว่า (3,4) ไม่มาก แต่ยืนระยะ หอนช้า เกาะดี นุ่มนาน รีดน้ำดี ได้นานกว่าครับ
สอบถามหน่อยครับ O นี่คือ Otani รึเปล่าครับ? กำลังเล็งยางยี่ห้อนี้อยู่รุ่น KC-2000 ประมาณเกือบๆ 7,000 4 เส้น น่าจะช่วยประหยัดงบได้เยอะ ใช้วิ่งงานเยอะพอสมควร ขับไม่เร็วมาก 100-130 km/hr ครับ เผื่อจะได้เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยไปยี่ห้ออื่น ขอบคุณครับ
1992 Toyota Corrola EE90( 4A-FE) -Passed
2004 Honda City Vtec -Passed
2005 Subaru Impreza WRX GDA -Present
2007 Toyota Fortuner 3.0 MT -Passed
2009 Nissan Teana 250XV -Present
2011 Toyota Altis 1.8G -Passed
2017 Ford Ranger Cab 2.2 MT -Passed