ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยเลือกทีค่า ระหว่าง Tiida 5d ระหว่าง 1.6 กับ 1.8 คิดไม่ตกเลยค่ะ  (อ่าน 15713 ครั้ง)

ออฟไลน์ mackitty

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
    • อีเมล์
ระหว่าง 1.6 กับ 1.8 วิ่งทางไกลอัตราการการกินน้ำมันต่างกันมากมั้ยคะ ถ้าต่างกันไม่มากคิดว่าอาจจะเลือก 1.8 น่ะค่ะ

ลักษณะการใช้นะคะ
วิ่งจากกรุงเทพ - สระบุรี อาทิตย์ละหนไปกลับประมาณ 350 โล
ใช้ในกรุงเทพ  แค่เสาร์กับอาทิตย์ (เข้ากทม.ทุกวันเสาร์) กลับบ้านที่กทม. พอเช้าวันจันทร์ก้อกลับสระบุรี
บางอาทิตย์ไปพัทยากลับบ้านที่นั่น ประมาณเดือนล่ะครั้ง
แบบนี้ใช้ 1.6 หรือ 1.8 ดีคะ กำลังจะจองรถเดือนหน้าแล้วค่า ยังเลือกไม่ได้สักทีค่า
 
ขอบคุณค่า^^
 

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
ส่วนตัวผมว่า รุ่น 1.6 ของ Tiida คุ้มค่าน่าสนใจมากมายครับ

ออฟไลน์ keng.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,551
  • ฅ.ฅนรักรถ
ส่วนตัวผมว่า รุ่น 1.6 ของ Tiida คุ้มค่าน่าสนใจมากมายครับ

เห็นด้วยเลยครับ

ออฟไลน์ liveshow

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,751
  • รถไม่แรงแต่แซงยาก
1.6 เพียงพอแล้วครับ แต่ถ้าอยากได้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มก็เอา 1.8 ไป
ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้

ออฟไลน์ yod artstu

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,158
เคยดูสองตัวนี้ไว้เหมือนกันครับ แต่ต
เท่าที่จำได้ หลักๆ ก็ต่างกันตรง เบาะหนัง กับ เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับผ่อนแรง
และเครื่องยนต์ 1.8 ก็กินน้ำมันมากกว่าครับ  ;D
: )

ออฟไลน์ mackitty

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
    • อีเมล์
ขอบคุณที่เข้ามาช่วยตอบนะคะ^^

งั้นสรุปว่าถึงแม้จะวิ่งทางไกลนอกเมืองแต่เครื่อง 1.8 ก้อกินน้ำมันมากกว่าใช่มั้ยคะ
ตอนแรกคิดว่า ถ้าวิ่งทางไกลยาวๆๆ 1.8 จะประหยัดกว่าซะอีก

อ้อ แล้วเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัตินี่สำคัญมากมั้ยคะ

ออฟไลน์ NineKlao

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,907
  • ชีวิตไม่ได้เป็นดังที่คิด ก็มันคือชีวิตนี่
1.8 Top แพงกว่า 1.6 Top แค่ สามหมื่นบาท

ซื้อ 1.8 Top  ขับสบายกว่าครับ กินน้ำมัน มากน้อย

ขึ้นอยู่กับการขับของเราครับ ขับเนียล ก็ประหยัดครับ

ออฟไลน์ maggie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 724
    • อีเมล์

อ้อ แล้วเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัตินี่สำคัญมากมั้ยคะ


เท่าที่ผมเคยมีอุบัติเหตุมาหนักมากๆ เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ มันจะรัด ดึงตัวเราให้ติดอยู่กับเบาะอะครับ แทนที่เราจะพุ่งไปข้างหน้ามันจะยิ่งรัดตัวเราเข้ามาชิดกับเบาะ หากถามว่าสำคัญมั้ย ผมเชื่อว่าระบบความปลอดถัยต่างๆที่ใส่มามันต้องดีเสมอ ตัวผมเองจึงให้ความสำคัญกับอุปกรณ์พวกนี้มาก่อนอย่างอื่นครับ งานนี้จะบอกได้ว่าสำคัญหรือไม่ขอไม่ฟันธงนะ แต่ขอเล่าว่าตอนที่ผมเกิดอุบัติเหตุ ผมชนตอนความเร็วเป็นร้อย โดนเข็มขัดนิรภัยรัดจนตัวช้ำและถุงลมอัดกับหน้าเจ็บมากเลย สภาพรถเละ แต่ผมเดินเปิดประดูออกมาสบายๆ

ปล.มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี

ออฟไลน์ plus

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 571
เครื่องใหญ่ได้เปรียบ ครับ  เดินทางไกล  นิ่งมีการนั่งเต็มรถ   อีกจะเห็นผล ไม่ต้องเค้นเครื่อง ครับ

ออฟไลน์ boykung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,174
  • ตอนเด็กๆ โคตรอยากเป็นจีบันเลย
1.8 นั่งคนเดียวทางไกล เปลืองกว่า1.6

1.8 นั่งเต็มคัน ทางไกลประหยัดกว่า1.6

เสียดาย tiida ว่าทำไม 1.8top ถึงไม่ยอมติด cruise มาให้ ที navara ดันติดมา ถ้า1.8ติด cruise มาคงจะตัดสินใจง่ายขึ้นเยอะ
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016

ออฟไลน์ GivesZa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 276
    • อีเมล์
1.6 ก็พอครับ แต่ถ้าเงินเหลือ 1.8 ก็ได้ครับ ได้ออฟชั่นเล็กๆน้อยๆแถมมาด้วย

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ถ้าใน condition เดียวกันแล้วรุ่น 1.6 เดินทางไกลได้ 15.9 ก.ม./ลิตร
รุ่น 1.8 จะทำได้ราว 13.7-14.2 ก.ม./ลิตร

ถ้าสมมติยึดว่ากินน้ำมันต่างกันตามนี้ แล้วขับรถปีละ 10,000 ก.ม.
รุ่น 1.6 จะใช้น้ำมัน 629 ลิตร
รุ่น 1.8 จะใช้น้ำมัน 704 ลิตร
ต่างกัน 75 ลิตร..น้ำมันลิตรล่ะเท่าไหร่.? น่าจะราว 35 บาท
ลองเอามาคูณกันดู จะเห็นได้ว่าค่าน้ำมันต่างกันปีละราว 2,600 บาท/10,000 โล

นี่คือถ้าวิ่งต่างจังหวัด บรรทุกน้ำหนักสำหรับ 2 คน
ถ้าวิ่งในเมือง ส่วนต่างก็ใกล้เคียงกัน ตัว 1.8 พูดกัน 8-9 โลลิตร ส่วน 1.6 ก็ 9-10 โลลิตร
ฉะนั้นถ้ายอมเสียค่าน้ำมันเพิ่มปีละแค่นี้แล้วรับได้ ก็ไม่มีปัญหาที่จะเล่น 1.8

เมื่อก่อนนี้ 1.6 กับ 1.8 ราคาห่างกันราวครึ่งแสน แต่ ณ ปัจจุบันต่างกัน 30,000 กว่าๆ
ทำให้รุ่น 1.8 มีความน่าเล่นมากขึ้น

เรื่องแรง ผมมองว่าเฉยๆ รุ่น 1.8 มีแรงบิดให้รู้สึกดีกว่านิดหน่อย แต่คาแร็คเตอร์
ของเครื่องทั้งสองเหมือนกันคือแตะนิดเดียวพุ่ง แรงบิดมาเป็นช่วงกว้าง แต่ไม่ได้เร็วกว่ากันมากนัก
ถ้าขุดเอาไดโน่มาว่ากัน รุ่น 1.6 ที่แปะกล่องจูนพิสูจน์แล้วว่าได้ม้าเกือบเท่า 1.8 เดิมๆ
ในขณะที่แรงบิดมีมากกว่าและมาให้ใช้เร็วกว่า

ดังนั้นความแรงไม่ใช่ประเด็น แต่สิ่งที่ 1.8 น่าสนคือระบบเข็มขัดนิรภัยที่ดีกว่า
มีเบาะหนังสเป็คโรงงานมาให้ มีไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ และ Smartkey entry
ถ้าถอย 1.6 มาแล้วพยายามยัดออพชั่นให้ได้เท่ากัน 30,000 เอาไม่อยู่แน่ถ้ารวม
ค่าเบิกอะไหล่ ค่าแรงเข้าไปด้วย
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ SORry..sorry

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
ใช้ tiida 1.6 ธรรมดา  กินน้ำมันเยอะเหมือนกัน วิ่ง 100โล /วันนะ


ออฟไลน์ 380Z

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 482
    • อีเมล์
เข้ามาดู

ออฟไลน์ NineKlao

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,907
  • ชีวิตไม่ได้เป็นดังที่คิด ก็มันคือชีวิตนี่
อีกเสียง เมื่อก่อนราคามันต่างกันมากแต่

ตอนนี้ 1.8 แพงกว่าแค่ สามหมื่นบาท

แรงบิดที่ได้มา อัตราเร่งที่เพิ่มขึ้น บางที่ในบางเหตุการ

ทำให้เราปลอดภัยเพิ่มขึ้นน่ะครับ และจ่ายค่าน้ำมันเพิ่มนิดหน่อย

ภาษีประจำปีแพงกว่าหน่อย แต่คุณน่าจะได้ส่วนลดเยอะกว่า 1.6 น่ะ

ผมว่ามันก็ น่าสนใจมากเลยน่ะครับ  ;D

ออฟไลน์ mackitty

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกๆๆท่านที่เข้าตอบช่วยตอบนะคะ
ส่วนตัวก้คิดว่า 1.8 น่าจะดีกว่า เพราะมีเข็มขัดนิรภัยดึงกลับอัตโนมัติ
แต่การกินน้ำมันของ 1.6 ก้อช่างดึงดูดเหลือเกิน ><

ปกติรถคันนี้จะขับคนเดียวน่ะค่ะ มีคนนั่งเพิ่มมาแค่วันหยุดก้ออีก 1 คน แล้วก้อไม่ได้บรรทุกของมากมายเลย
ถ้าจะมีคนนั่งเต็มรถก้อคงเป้นแค่ช่วงเทศกาลน่ะค่ะ^^

ออฟไลน์ roomno9

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 151
แนะนำให้เอาอัตราการกินน้ำมันมาตัดสินใจเลยครับ

ถ้ารับได้ แนะนำเอา 1.8 เพราะมันแพงกว่าแค่สามหมื่น แล้วก็ได้ของครบ

ปล. ส่วนตัวใช้ตัว 1.8 อยู่ครับ