อีกอย่าง นโยบายมันผิดตั้งแต่แรกแล้วครับ
กระบะ ตอนแรก ตั้งใจให้เป็นเพื่อการขนส่ง ทำการค้า การเกษตร เข้าออกสวน ไร้นา จึงมีแต่แบบ ธรรมดาและแคป(4 ประตูก็มีแต่แพง และสงวน PPV ไว้กับบริษัทดัดแปลง)
ต่อมามีค่ายไหนไม่รู้ไปเพิ่มเรื่อง PPV จากเดิมที่ให้เป็นบริษัทร่วมทุนทำ เลยกลายเป็นรถ SUV ไส้กระบะ
และอีกค่าย(น่าจะฝรั่ง) ไปดันกระบะ 4 ประตูมาอีก บูม ดัง คนใช้กันเยอะขึ้น
ที่นี่เลยมีการใช้ดีเซลไปในการส่วนตัว ผิดวัตถุประสงค์
แตก line ไปทั่ว และยังมีรถเก๋งหรูมาใช้อีก
ผมว่าถ้าจะทำกันจริงๆ ก็ต้องคุมไม่ให้มันเกิดแล้วครับตั้งแต่แรกแล้วครับ
เห็นด้วยที่ให้ทำแบบญี่ปุ่นนะครับ ดีเซลก็สำหรับขนส่งไป
แต่ไทยเราจะทำได้ไหม ไม่แน่ใจครับ แต่ไปแก้ตอนนี้ ยากแล้วแหละครับ คนใช้กันหมดแล้ว
แต่อันนี้ผมไม่เห็นด้วยนะครับ เป็นที่ทราบกันดีว่าเครื่องยนต์ดีเซล
-ประสิทธิภาพการเผาไหม้สูงมาก ประหยัดน้ำมันกว่า
-ไอเสียอันตรายน้อยกว่า (CO CO2 น้อยกว่ามากๆ จะไปเยอะตรงเขม่ากับ NOx ซึ่งความเป็นพิษไม่เท่า CO)
-อยู่ในบริเวณที่มีไอระเหยไวไฟได้อย่างปลอดภัยกว่า (พ่อผมเคยไปคลังน้ำมัน พ่อบอกเขาแปะป้ายชัดเจน "เบนซินทุกชนิด ห้ามเข้า")
-Loss ในเครื่องยนต์น้อยกว่าค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการไม่มีลิ้นปีกผีเสื้อ เสริมประสิทธิภาพเครื่องขึ้นไปอีก
-ฯลฯ
ตอนนี้รถที่บ้านผมเป็นเบนซินหมดครับ แต่ที่ผมคิดคือทุกคนควรมีสิทธิ์จะใช้เครื่องดีเซล ไม่ใช่จำกัดเฉพาะงานเกษตรและขนสินค้า
เพราะถ้าไม่นับการที่เราต้องจ่ายเงินอุดหนุนดีเซลไปเป็นจำนวนมหาศาลแล้ว ในแง่อื่นเครื่องดีเซลส่งผลดีต่อชาติบ้านเมืองมากกว่าเบนซินทุกประการ
ช่วยชาติประหยัดพลังงาน ทั้งแง่ของประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่ต้นทาง และการสูญเสียที่ปลายทาง
ในแง่ผู้ใช้ ต่อให้ราคาต่อลิตรเท่าเบนซิน ดีเซลก็ยังมีค่าน้ำมันบาทต่อกิโลเมตรถูกกว่าเบนซินอยู่ดี (ในภาระการใช้งานแบบเดียวกัน)
แล้วยังมีไอเสียที่มีแค่เขม่าแต่ไม่มีแก๊สพิษร้ายแรงแบบเบนซิน เป็นเรื่องคุณภาพอากาศและสุขภาพของประชาชน
เพราะนั้นผมคิดว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ภาคเอกชนใช้ดีเซลผิดวัตถุประสงค์ มันอยู่ที่ผู้กำหนดนโยบายพลังงานที่ไปผิดทิศมากกว่าครับ
แต่ผมว่ายังไงอีก 2 ปีก็คงต้องขึ้นล่ะครับ เปิด AEC เมื่อไหร่ถ้ายังเป็นแบบนี้ การชดเชยจะไม่ใช่แค่ชดเชยคนรวยในเมืองไทยอีกต่อไป
กองทัพมดตามชายแดนขยายตัวเป็นธุรกิจถูกกฎหมาย ถึงเวลานั้นยังไงก็ต้องปล่อยนะผมว่า หรืออุดหนุนเฉพาะกลุ่ม อันนี้ผมเห็นด้วยครับ
ภาษีสรรพสามิต ลิตรละ 5 บาท เลิกเก็บมากี่ปีแล้ว ยังงงๆ อยู่ว่ากะไม่เก็บกันแล้วใช่ไหม?