Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ กันยายน 13, 2015, 15:11:57
-
:) ดูยอดจำหน่ายของรถ D segment ที่คุณหมูรายงานมา แยกรุ่นย่อย
สังเกตุว่า ยอด Camry รุ่นเครื่อง 2.0 จึงมียอดจำหน่ายมากกว่ารุ่น 2.5
มากๆเลยครับ ประมาณ 10-12 เท่า เป็นเหตุผลเรื่อง ประหยัดน้ำมันมากกว่า กับ สภาพรถติดในเมืองหรือเปล่าครับ
:) เป็นเพราะยอดของรถ fleet หรือเปล่า
;) หรือจุดหลักมันจะเป็นเรื่องที่คุ้มค่าสมเหตุผลมากกว่า
:) และ ในรุ่นเครื่องใหญ่คนก็ขยับไปใช้ รุ่นเครื่อง Hybrid มากกว่าเครื่อง 2.5
ประมาณ 5-6เท่า ทั้งๆที่มีข้อมูลที่ทำให้วิตกกับการดูแล และ ราคาขายต่อที่
ตกมากๆ ของรถ hybrid เหตุผลเพราะอะไรครับ ที่คนเลือกใช้ hybrid มากกว่า
-
เปรียบเทียบ Pajero Sport กับ Fortuner หน่อยครับ
-
มันก็ไม่เชิงนะ เรียกว่านิยมคันใหญ่หรือดูดีแล้วราคาถูกดีกว่า
ถ้าอย่างนั่น accord hybrid คงขายดีกว่าเครื่อง 2.4 แล้วสิ เครื่องเล็กกว่า
เปรียบเทียบ Pajero Sport กับ Fortuner หน่อยครับ
ปาเจโร่ไม่มีทางเลือกครับ ถ้าเกิดใส่เครื่องแรงม้าต่ำกว่าแต่ออปชั่นเท่ากันแล้วถูกกว่าเป็นแสน คนก็เลือกตัวนั้นมากกว่า
-
:) ดูยอดจำหน่ายของรถ D segment ที่คุณหมูรายงานมา แยกรุ่นย่อย
สงสัยว่าทำไม ยอด Camry รุ่นเครื่อง 2.0 จึงมียอดจำหน่ายมากกว่ารุ่น 2.5
มากๆเลยครับ ประมาณ 10-12 เท่า เพราะอะไรครับ
ในต่างประเทศเขานิยมรถ body ใหญ่แต่เครื่องเล็กเหมือนบ้านเราไหมครับ
:) และ ในรุ่นเครื่องใหญ่คนก็ขยับไปใช้ รุ่นเครื่อง Hybrid มากกว่าเครื่อง 2.5
ประมาณ 5-6เท่า ทั้งๆที่มีข้อมูลที่ทำให้วิตกกับการดูแล และ ราคาขายต่อที่
ตกมากๆ ของรถ hybrid เหตุผลเพราะอะไรครับ ที่คนเลือกใช้ hybrid มากกว่า
แคมรี่ 2.0 กับรุ่นไฮบริดขายฟลีทเยอะนะครับ พวกบริษัทใหญ่ๆ อย่างปูนฯ ก็ใช้สองรุ่นนี้เป็นหลัก ให้ผู้บริหารระดับจ.2 ขึ้นไป รุ่น 2.5 แทบไม่มีครับ ต้องออเดอร์พิเศษเท่านั้น
ส่วนคนทั่วไป ก็ออก 2.0 เป็นหลัก เพราะราคาถูกกว่า แต่ภาพลักษณ์ทัดเทียมไงครับ ตัวก่อน mc ก็เอาไปติดแก็สได้ ทนถึก ประหยัด แอคคอร์ด เทียน่าก็ทำนองเดียวกัน พวกจะเล่นตัวบน ต้องพวกเท้าหนัก ไม่เน้นไปโมเพิ่ม แรงจบจากโรงงาน ซึ่งมันเป็นส่วนน้อยของตลาดครับ
-
คนส่วนใหญ่จะชอบรถ Body ใหญ่ๆก็คงไม่แปลกครับ เพราะมันน่าจะนั่งโดยสารได้สะดวกกว่ารถ body เล็ก
และคนส่วนใหญ่ก็ย่อมจะชอบรถที่เครื่องยนต์ใหญ่ๆ เพราะเชื่อว่าจะให้กำลังเครื่องที่มากกว่าและเครื่องเดินนิ่งเรียบกว่า
แต่ราคามันแพงกว่า (รถบางรุ่นเครื่อง 2.0--->2.4-2.5 ราคากระโดดไปเกือบสองแสน) สำหรับคนที่รายได้ไม่สูงบางทีซื้อแค่เครื่องเล็กก็พอแล้ว
แต่ถ้าสมมุติว่ามีรถบางรุ่นที่มีขนาดเครื่องเท่ากันแต่แยกเป็นเบนซินกับดีเซลขายคู่กันเลยในราคาที่พอๆกัน ก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าเครื่องแบบไหนจะขายดีมากกว่ากัน
-
ตลาดบ้านเรา ต้องใหญ่ ต้องหรู ต้องแรง ต้องหนึบ แต่...ต้องประหยัดน้ำมัน ต้องราคาถูก
-
ไม่ได้นิยมครับ แค่มันคุ้มค่ามากกว่าครับ ไม่ได้เอาไปแข่งซักหน่อย :-\
-
รถติดในเมือง
รถเครื่องใหญ่กินน้ำมันกว่ารถเครื่องเล็ก
-
ราคามันต่างกันเยอะครับ
ถ้าเครื่องเล็ก เครื่องใหญ่ ราคาต่างกันแค่หลักหมื่น
ยอดขายอาจใกล้เคียงกันแหละครับ
-
ราคาเป็นปัจจัยหลักเลยครับ ราคาตัวท็อปกับตัวล่างนี่ซื้อeco carได้อีกคัน
-
ความเห็นส่วนตัวในเรื่องของราคามีผลมาก อยากได้รถตัวถังใหญ่ ใจจริงก็อยากได้เครื่องใหญ่แต่งบจำกัด
-
จะสรุปแบบนั้นก็ไม่ถูกครับ
คนบางคนเค้าซื้อเพราะเค้าไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องใหญ่ ไม่ใช่เพราะชอบเครื่องเล็ก
มองสลับมุมกันนะ ไม่ใช่ซื้อเพราะตังไม่พอซื้อเครื่องใหญ่
ส่วนมากคนเล่น D-Segment มีตังกันทั้งนั้นครับ เพียงแค่มันไม่จำเป็นเท่านั้นเอง
1. อยากได้ D-Segment แต่ตังไม่พอ เลยซื้อแค่ตัวล่าง >> 2.0
2. ตังพอ แต่ไม่รู้จะซื้อเครื่องใหญ่ทำไม >> 2.0
3. ตังพอและต้องตัวท๊อปเท่านั้น >> Hybrid
4. ตังพอ ไม่ชอบไฮบริด และ 2.0 ไม่พอ >> 2.4 2.5
5. รถฟลีท รถสนามบิน รถโรงแรม รถบริษัท >> 2.0
ผมเชื่อว่าประเภท 2 มีเยอะครับ
ส่วนมากเป็นสาวๆ สาวใหญ่ สาววัยกลางคน เชื่อว่า 90% ไม่ต้องการเครื่องใหญ่
จะเครื่องเล็กเครื่องใหญ่ มันก็คือแคมรี่แอคคอร์ดเหมือนกัน
-
1. ขนาดตัวถัง
2. ภาพบักษณ์
3. งบประมาณ
3 ปัจจัยนี้แหละครับ คือหัวใจหลักของคำตอบกระทู้นี้
ตัวถังใหญ่เครื่องเล็ก แรงน้อย อ๊อปขั่นความปลอดภัยโดนตัด อ๊อปชั่นอื่นๆก็ได้มาน้อยๆ มันไม่เห็นจะคุ้มค่าเลย แต่คนเลือกเพราะจ่ายน้อยกว่า แต่ได้รถที่ภาพลักษณ์ ดูราคาแพง
-
ผมว่าส่วนหนึ่งที่รถ อีโค่คาร์ ซีดาน มันขายดี ก้เพราะมันดูยาวใหญ่อ้วนป่องนี่แหละครับ
-
คนไทยชอบรถที่ประหยัดน้ำมันครับ
-
จะสรุปแบบนั้นก็ไม่ถูกครับ
คนบางคนเค้าซื้อเพราะเค้าไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องใหญ่ ไม่ใช่เพราะชอบเครื่องเล็ก
มองสลับมุมกันนะ ไม่ใช่ซื้อเพราะตังไม่พอซื้อเครื่องใหญ่
ส่วนมากคนเล่น D-Segment มีตังกันทั้งนั้นครับ เพียงแค่มันไม่จำเป็นเท่านั้นเอง
1. อยากได้ D-Segment แต่ตังไม่พอ เลยซื้อแค่ตัวล่าง >> 2.0
2. ตังพอ แต่ไม่รู้จะซื้อเครื่องใหญ่ทำไม >> 2.0
3. ตังพอและต้องตัวท๊อปเท่านั้น >> Hybrid
4. ตังพอ ไม่ชอบไฮบริด และ 2.0 ไม่พอ >> 2.4 2.5
5. รถฟลีท รถสนามบิน รถโรงแรม รถบริษัท >> 2.0
ผมเชื่อว่าประเภท 2 มีเยอะครับ
ส่วนมากเป็นสาวๆ สาวใหญ่ สาววัยกลางคน เชื่อว่า 90% ไม่ต้องการเครื่องใหญ่
จะเครื่องเล็กเครื่องใหญ่ มันก็คือแคมรี่แอคคอร์ดเหมือนกัน
:) แยกแยะได้ชัดเจนมากเลยครับ ผมว่าน่าจะเป็นตามนี้ซะส่วนมาก ???
;) อยากทราบว่าสาวใหญ่ เริ่มจากอายุประมาณไหนครับ อิอิ
-
ผมว่าไม่ใช่หรอกครับ
Dseg2.0 มันได้ความกว้างขวาง นั่งสบาย ภาพลักษณ์น้องๆยุโรป ในราคาล้านสามโดยประมาณ
คนไทยส่วนใหญ่ก็เลยแฮปปี้กันไป
-
เทียบใน Segment เดียวกัน ทุกอย่างอยู่ที่ราคาและออฟชั่นที่ได้ครับ มีเรื่อง Brand, กำลังผลิต, การบริการหลังการขาย และการบำรุงรักษามาเป็นปัจจัยด้วย
-
ถ้าไม่ซีเรียสอัตราเร่ง คนส่วนใหญ่ก็เห็นว่าไม่จำเป็นครับ
หลายๆคนก็บอกผมจะใช้ 2.4 ไปทำไม รถก็ติด วิ่งก็แต่ในเมือง ยังไงก็ Camry Accord เหมือนกัน ;D
-
ผมมองว่าอยู่ที่การใช้งานมากว่าครับ
กลุ่มลูกค้าหลักๆของD-Segment ส่วนใหญ่จะใช้งานอยู่ในเมืองย่านธุรกิจ
เพราะฉะนั้นปัจจัยหลักของลูกค้ากลุ่มนี้คือ
ต้องการภาพลักษณ์ ความกว้างขวาง งบประมาณ เป็นหลัก
ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะไม่สนขนาดcc.
-
ใช้ d segment เครื่องเล็ก ครับ คือว่า ก่อนซื้อ ได้ลองขับทั้งเครื่องใหญ่ เล็กแล้ว และดูสไตล์ การใช้รถของตัวเอง คิดว่า เครื่องเล็ก เหมาะกับตัวเรา มากที่สุด เราไม่ใช่คนเท้าหนักตลอดเวลา อีกอย่าง เอาจริง ๆผมว่า 2.0 นี่ ขับจริงๆ มันก็ไม่อืดเลยนะ คิดว่า power มันกำลังดี เหมาะกับการใช้ในเมือง 90% ขับ ตจว. ก็ ไม่ต้องลุ้นอะไรเลย ว่ากัน จี๊ดๆ ยาวๆ แซงปรื๊ดๆ ไม่ถึงกับเหนื่อย ตั้งแต่ใช้มา ปีกว่า เพิ่งเคยอัดถึง 190 แค่ ครั้งสองครั้ง เอง ส่วนมาก ก็ืขับ ชิลๆ ไม่เกิน 120 เร่งแซงก็ว่ากันไปตามปกติ แล้วผมจะซื้อเครื่องใหญ่ เพื่อ....?
ถ้าพูดถึงความคุ้มค่า ผมว่า d เครื่องเล็ก + full option คุ้มสุด
-
ตลาดบน 2.5จะแรงก็ไม่สุด เพิ่มอีกนิดได้Hybrid
กับตลาดล่างที่อยากได้รถคันใหญ่คุ้มค่า ก็โดนจำกัดงบอยู่แล้ว
-
เหตุผลหลักคือ
ราคา บวก ค่าน้ำมันครับ
รถบ้านเรามันแพงก็ต้องเอาใหญ่ๆไว้ก่อน
แล้วก็ ไม่ได้เอามาแข่ง กัน จึงไม่ต้องเครื่องใหญ่ก็ได้
คิดง่ายๆๆๆ เหมือนคนทัวไปครับ
-
ผมอยากได้ รถเล็กเครื่องใหญ่บ้างแบบ สวิฟ/แจสเครื่อง 2.0 ไรงี้ ขายสัก 900k น่าจะขับมุดๆมันส์ๆน่าดู
รถพ่อผม L33 ตอนแรกจะเอารุ่น top แต่สุดท้าย 200xl พอ เพราะขับในเมืองไม่เกิน 80km/h. ขับเปิดโหมด eco ตลอกเวลา เครื่องเล็กประหยัดไปหลายแสน ออฟชั่นก็ใกล้กันมาก
-
ผมกลับชอบ รถเล็ก เครื่องใหญ่ 555555
-
ผมว่าฝรั่งชอบรถเล็กเครื่องใหญ่เองซะมากกว่าครับ
-
1. ราคาถูกกว่า
2. ได้ภาพลักษณ์เท่ากัน
3. ประหยัดน้ำมันกว่า
-
ผมสรุปให้ละกัน
คนไทยที่ขับ D-segment ส่วนใหญ่ เป็นครอบครัวแล้ว ไม่ใช่วัยรุ่น ขาแรง
2.0 คงเพียงพอ กับ พฤติกรรมการขับขี่แล้ว
ดังนั้น 2.4-3.0 ไม่ใช่คำตอบ
เว้นเสียแต่ ราคา รถมันเท่ากัน หรือ ประหยัดมากกว่าชัดเจน ???
สรุปคนไทยใช้ D-segment ไม่นิยม เครื่องแรงเกินไป
ที่พูดแบบนี้เพราะคน รอบตัวผม ก็ขับ D-segment 2.0 กันหมด
รวมถึงพวกรถ วิ่งงาน ตาม บริัท รถรับสั่ง taxi ก็ 2.0 กันหมด
ถาม ต่อว่า 2.0 พอไหม กับ การใช้ชีวิต ?????
-
ราคาล้วนๆครับ ต่างกัน 2แสน+ ไม่ใช่น้อย ภาพลักษณ์ก็ไม่ได้ต่างกัน
แถม D-Seg ตัวล่างสมัยนี้ ออพชั่นก็เยอะเพียงพอต่อการใช้งาน
ไม่ได้เหมือนสมัยพ่อผมซื้อ Camry ACV30 เมื่อ 12 ปีที่แล้ว
รุ่นล่าง 2.0E ออพชั่นน้อยมากยิ่งกว่าต้นกระบองเพชรในทะเลทราย
การตกแต่งก็ไม่สมราคาล้านกว่าบาท เลยจำเป็นว่าไหนๆ จะซื้อรถล้านกว่าทั้งทีต้องขยับไปเอา 2.4 Q
และสุดท้ายเห็นด้วยกับ คห. ข้างบน ถ้าราคาต่างกันไม่กี่หมื่น ยอดขายพวก 2.4,2.5 คงดีกว่านี้
-
ดูเหมือนว่าคนที่ซื้อตัวเครื่องใหญ่ จะเน้นสมรรถนะครับ ต้องขับสนุก หรือชอบความแรง ซึ่งมีน้อยกว่าคนที่คิดว่า แค่มีขับ ได้ภาพลักษณ์เท่าเทียมกัน ใช้งานได้เหมือนกัน สมรรถนะใช้ได้ แต่ไม่ต้องแรงเกินไป(ในความคิดของคนกลุ่มนี้) ซึ่งรุ่นเครื่องเล็กก็ตอบโจทย์ ในราคาที่ถูกกว่า
รถกระบะ เครื่อง 2.5 ยอดขายดีกว่า 3.0 แบบขาดลอย ขนาดคนที่ซื้อไปเพื่อโมดิฟายเป็นรถซิ่งยังซื้อรุ่น 2.5 เลยครับ แล้วก็ รุ่นตอนเดียว ที่เน้นบรรทุกหนัก ในหลายๆ ค่าย เครื่องยนต์ที่ใส่ในรถกระบะตอนเดียวมักจะเป็นเครื่องรุ่นต่ำสุด น้อยนักที่จะได้เห็นเครื่องตัวท็อปในกระบะตอนเดียว เช่นรุ่นพิเศษ
-
คนไทยชอบรถใหญ่ นี่ค่อนข้างถูกครับ ขับ Camry Accord ยังไงก็ดูป๋ากว่า Civic Altis เยอะครับ แม้ราคาจะห่างกันไม่เยอะมากก็ตาม
แต่ถ้า Camry 2.0 กับ Camry 2.4 ราคามันต่างกันไม่ใช่น้อยๆนะครับ แน่นอน 2.0 มันพอสำหรับใครหลายๆคนครับ ส่วนต่างไม่ใช่น้อยๆ สามถึงห้าแสนบาท ที่ต่างกัน
อยากป๋า ราคาพอไหว ก็ต้อง D Seg 2.0 แหละครับ
แต่ถ้าอนาคตมี 2.4 ที่ราคาต่างกันสัก ห้าหมื่น แสนนึง ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็เลือก 2.4 ครับ (เหมือนสมัยก่อน ช่วง ACV40 , หรือ แอคคอร์ตตัวเก่าๆ)
สมัยนี้ ราคารุ่น2.0 กับ 2.4 มันต่างกันเยอะมากไปครับ พอคนจะเล่น 2.4 อาจจะเกิดคำถามใหม่อีก .... เพิ่มอีกนิด ไป Premium C Seg เลยไหม :)
-
.
.
.
งั้นผมคงไม่ใช่คนไทย ผมโคตรเกลียดรถใหญ่ๆเครื่องเล็กเลย
อืดเป็นเรือเกลือ คือปกติก็ไม่ชอบรถคันใหญ่อยู่แล้ว ขับแล้วอึดอัด
จอดก็ลำบาก มุดก็ยาก แล้วยิ่งเครื่องเล็กอีก ไปไกลๆเลย
และตรงข้ามผมชอบรถเล็กๆเครื่องแรงๆมากกว่า ขับมันส์กว่าครับ
-
.
.
.
งั้นผมคงไม่ใช่คนไทย ผมโคตรเกลียดรถใหญ่ๆเครื่องเล็กเลย
อืดเป็นเรือเกลือ คือปกติก็ไม่ชอบรถคันใหญ่อยู่แล้ว ขับแล้วอึดอัด
จอดก็ลำบาก มุดก็ยาก แล้วยิ่งเครื่องเล็กอีก ไปไกลๆเลย
และตรงข้ามผมชอบรถเล็กๆเครื่องแรงๆมากกว่า ขับมันส์กว่าครับ
เรียกว่าคนไทยส่วนน้อยดีกว่านะครับ แต่ถ้าจะให้ว่ากันจริงๆ
ทุกคนที่ชอบรถเล็กเกือบทุกคนก็อยากได้รถเครื่องแรงๆ แต่ราคามันแพงเลยไม่มีใครซื้อครับ
-
ต้องการ ประหยัดราคา
ประหยัดน้ำมัน
แม้ราคาจะต่างกันนิดเดียว จนค่ายรถฟันกำไรบานเบอะ
-
ผมคนนึง เคยดูถูกรถระดับแคมรี่ แอคคอร์ด ว่าเครื่อง 2.0 มันจะไปไหวอะไร
แต่พอมาใช้งานจริง แคมรี่ 2.0 เกียร์ 4 สปีดโบราณ ๆ กับไซส์รถขนาดนี้ บอกเลยว่าคิดผิด
ช่วงความเร็วต้น กลาง ปลาย ผมว่ามันพอดีแล้ว ไหลลื่น ขับเร็วได้ ไม่อืด (ถ้าไม่ใช่สายบู๊จริง ๆ)
การขึ้นเขา ไปได้สบายมาก ทั้งที่บรรทุก 5 คน + ของอีกร่วมร้อยกิโล
-
ผมกล้าพูดเลยครับ ปัจจัยหลัก 99.99% คือ ราคา... (งบประมาณ)
คิดง่ายๆครับ ลองให้ 2.0 ราคาเท่า 2.4 , 2.5 โดยที่ออฟชั่นเหมือนกัน 100% (ให้ตัวแปรคือ กำลังของเครื่องยนต์อย่างเดียว)
จะมีกี่คนที่บอกว่า ฉันเลือก 2.0 พอ เพราะต้องการประหยัด.... ไม่มี๊! ฟันธง!
-
ผมกล้าพูดเลยครับ ปัจจัยหลัก 99.99% คือ ราคา... (งบประมาณ)
คิดง่ายๆครับ ลองให้ 2.0 ราคาเท่า 2.4 , 2.5 โดยที่ออฟชั่นเหมือนกัน 100% (ให้ตัวแปรคือ กำลังของเครื่องยนต์อย่างเดียว)
จะมีกี่คนที่บอกว่า ฉันเลือก 2.0 พอ เพราะต้องการประหยัด.... ไม่มี๊! ฟันธง!
ไม่มีวันเป็นไปได้ ฟันธง !!!!!!!
เหมือน Altis 1.8 กับ 2.0 ไม่มีวันราคาเท่ากัน ฟันธง !!!!!!!
-
ผมกล้าพูดเลยครับ ปัจจัยหลัก 99.99% คือ ราคา... (งบประมาณ)
คิดง่ายๆครับ ลองให้ 2.0 ราคาเท่า 2.4 , 2.5 โดยที่ออฟชั่นเหมือนกัน 100% (ให้ตัวแปรคือ กำลังของเครื่องยนต์อย่างเดียว)
จะมีกี่คนที่บอกว่า ฉันเลือก 2.0 พอ เพราะต้องการประหยัด.... ไม่มี๊! ฟันธง!
ผมเคยเสนอแนวนี้ให้ที่บ้าน ถามพ่อแม่ดู พ่อแม่บอกแค่นี้พอแล้วไม่ได้ขับเร็วอะไรจะเอารถแรงไปทำไม เอาประหยัดก็พอ