ผมสงสัยอยู่ 2 อย่าง
1.เป็นการประกาศจาก Tata เอง ?
2.นำเข้าทั้งคัน ?
ถ้าใช่ทั้ง 2 ผมว่า Tata พลาดล่ะ...
รถแบบนี้ก็รู้อยู่ว่ามันเด่นแค่ ราคา
ถ้าจะนำเข้ามาทั้งคัน เสียภาษีเป็นเท่าตัว ไม่ฉลาดเท่าไหร่....
ทำไมไม่หาช่องทางประกอบใน หรือ อะไรก็แล้วแต่ให้ราคามัน โดนจริง ๆ แล้วค่อยเปิดตัว
แต่ถ้าภาษีไม่ได้โดนแบบนำเข้าทั้งคันแล้วล่ะก็..
บอกได้คำเดียวว่า โคต ร.ร........ แพง
ผมยืนยันให้เลยครับว่า Tata จะทำทั้ง 2 ข้อ แน่นอน คือทั้งเอารถเข้ามาเอง และไม่ประกอบในไทย
เพราะเขาดีดลูกคิดกันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว และมันมีความเสี่ยงทางธุรกิสูงมาก
มันจะไม่คุ้มต่อการลงทุน เพราะโอกาสที่จะขายรถรุ่นนี้ในเมืองไทยได้นั้น มันไม่น่าจะเยอะ
อย่างที่เขามองไว้ตั้งแต่แรก ถ้ามาตั้งไลน์ผลิต ต้องลงทุนไม่ต่างจากการทำรถ B-segment สักรุ่น
เผลอๆ จะมากกว่าด้วยซ้ำ อย่าลืมว่า ต้องสั่งอะไหล่ จากผู้ผลิต ต้องมีการขึ้นโมลด์ แม่พิมพ์ชิ้นส่วนใหม่
ในแทบทุกชิ้น ที่ตั้งใจจะผลิตในประเทศ มูลค่าการลงทุน ก็มากเข้าไปอีก
ปัญหาก็คือ ยิ่งตั้งราคาให้ต่ำ กำไรต่อคันมันจะยิ่งน้อย ต่อให้ขายได้เป็นหมื่นๆคัน กำไรก็จะไม่คุ้มค่าโมลด์อยู่ดีครับ
นั่นละคือสาเหตุที่ทำให้ Tata ถอนตัวจากโครงการ ECO Car ของบ้านเราออกไปด้วยเช่นกัน
เพราะยังหารถเก๋ง ที่ประหยัดในระดับผ่านข้อกำหนด ECO Car บ้านเราไม่ได้...
และสังเกตไหมว่า ตั้งแต่ Nano ออกมา มันยังอยู่แต่ในอินเดีย และยังไม่ไปยุโรปซะที
เพราะว่า ในอินเดียเอง จะผลิตขาย ก็ยังไม่ทัน แล้วตอนนี้ ยอดขายมันก็เริ่มลดลงไปพอสมควรด้วยซ้ำ
มันสะท้อนให้เห็นแนวโน้มอะไรบางอย่างหนะครับว่า
สำหรับรถยนตืแล้ว ถ้าคิดแต่จะ Low Cost กันอย่างเดียว แต่ Make your car look "low safety" ไปด้วย
ก็ใช่ว่าจะขายได้เสมอไปนะครับ
รถจีน ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นกันอยู่แล้ว