แต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
ผมซื้อรถเอง 3 คัน (ไม่รวมของที่บ้าน) คันแรกผมซื้อตั้งแต่ช่วงอยู่ปี 4 ก่อนเรียนจบ จนทุกวันนี้ คันที่ 3 ละ ทุกคันซื้อผ่อน และ ดาวน์ 25% แล้วก็ผ่อน 60-72 งวด
ถามว่า มีทรัพย์สินเท่าไหร่ ผมบอกเลยว่าเงินสด "ติดลบ" ครับ (ไม่รวมรถ 2 คัน ที่ผ่อนหมดไปแล้วนะ) เพราะเอาเงินในอนาคตมาผ่อนครับ(เหมือนรูดบัตรเครดิต)
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือน ซื้อเอง ผ่อนเอง ตอนนี้ 2 คันแรกผ่อนหมดไปแล้ว ตอนนี้เหลือคันที่ 3 เพิ่งผ่อนมาได้เกือบจะ 2 ปีละ
ผมคิดแค่ว่า ณ วันนี้มีแรงทำงาน มีเงินเดือน จะซื้อะไรก็รีบซื้อ แก่ตัวไป ไม่มีกำลังในการหา จะได้ไม่เดือดร้อนตอนแก่ ครับ
เหมือนผมเลยครับ ผมซื้อเองแค่สองคัน แต่ว่าตั้งแต่มีวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตอนนี้ไม่มีเงินผ่อนแล้วครับ
โจทย์พวกนี้อย่างที่บอกว่าไม่เหมือนกันครับ ใครไหว ใครอยากได้ก็ซื้อ
เพราะเอาจริงๆ มันเหมือนของฟุ่มเฟือยสำหรับบางคน แต่สำหรับบางคนมันเหมือนแขนขาทำมาหากินเลยก็ว่าได้
บางคนมีทุนเดิมชีวิตติดลบ กว่าจะหาเงิน หาทรัพย์สินเป็น 100% ของราคารถที่จะซื้อ บางทีเก็บเงิน 5-10 ปี ยังไม่ได้เลย แล้วเมื่อไหร่จะซื้อรถได้ละ ทางออกก็คือต้องผ่อนไฟแนนซ์เอาครับ
บางคนมีทุนเดิมชีวิตมาพอสมควร จะซื้อก็ซื้อเงินสดยังได้ แต่ก็คิดแล้วคิดอีก บางคนมีเงินก็จริง แต่บอกว่าการมีรถไม่ได้สร้างเงินให้(เพื่อนร่วมงานผม คนนึงคิดแบบนี้) แต่รถคือภาระ เติมน้ำมัน ซ่อมบำรุง เลยไม่ซื้อ แนะนำให้ซื้อ ชักแม่น้ำทั้ง 5 หาเหตุผลมาแนะนำให้ซื้อก็ไม่ซื้อ ทุกวันนี้ก็ต้องนั่งเรือ นั่งรถเมล์ นั่งรถตู้ นั่งวินมาทำงาน แล้วมาบ่นเหนื่อยยังโน้น เหนื่อยยังงี้ ผมละขี้เกียจฟังบอกเลย 555555